ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 41
ตอนที่ 41 ห้องนวด
หลินหนานสังเกตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโกลเดนพาเลซอย่างละเอียด และพบว่าทุกคนล้วนแตกต่างจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของที่อื่น
จากท่าทางเตรียมพร้อมของพวกเขาเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว ไหล่ที่ค้อมไปข้างหน้า และเข่าที่ย่อลงเล็กน้อย หลินหนานคาดว่าทุกคนน่าจะเป็นทหารเก่าทั้งสิ้น
แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่รักษความปลอดภัยของที่นี่ ล้วนแล้วแต่เป็นทหารเก่าที่เกษียณบ้าง หรือลาออกบ้าง แต่ทุกคนล้วนมีประสบการณ์ในการต่อสู้เป็นอย่างดี และดูเหมือนเจ้าของโกลเดนพาเลซก็ยินดีที่จะลงทุนในเรื่องเหล่านี้มาก
แต่นั่นกลับยิ่งทำให้หลินหนานสนอกสนใจมากยิ่งขึ้น!
“เอาล่ะ.. ผมยอมไปกับพวกคุณแล้ว!” หลินหนานยกมือขึ้นทั้งสองข้าง บ่งบอกว่าตนเองนั้นยอมจำนนแต่โดยดี
“พูดง่ายๆแบบนี้จะได้ไม่ต้องออกแรง..”
หลิ่วต้าตูทำเสียงเย็นชา และได้แต่คิดในใจว่า ชายหนุ่มผู้นี้ไม่เห็นจะเก่งกาจอย่างที่จ้าวผิงเล่าให้ฟังเลยแม้แต่น้อย
ภายใต้วงล้อมของกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หลินหนานเดินตามทุกคนกลับไปที่โกลเดนพาเลซอย่างว่าง่าย ไม่มีท่าทีต่อต้าน หรือขัดขืนเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่เข้าไปด้านในโกลเดนพาเลซอีกครั้ง หลินหนานก็ได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึก เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นเงินที่หอมหวนภายในสถานที่แห่งนี้
ในระหว่างนั้น จางผิงและคนอื่นๆต่างก็กำลังเดินออกมาจากห้อง 1022 พอดี
“พวกนายดูสิว่า ฉันพาตัวใครกลับมาด้วย?” หลิ่วต้าเตาร้องบอกทุกคนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
จางผิงไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองหลินหนาน แต่หมาป่าและลูกน้องคนสนิททั้งสอง ได้แต่หันไปมองหน้ากันด้วยความงุนงง
“หัวโต.. หมอนี่ไม่ได้ธรรมดาเหมือนท่าทางที่มันแสดงออกมาเลยนะ นายต้องระวังตัวให้มาก อย่าได้ประมาทเด็ดขาด!” หมาป่าเดินเข้าไปกระซิบข้างหูหลิ่วต้าเตา ผู้มีศรีษะใหญ่และใบหน้าเหลี่ยม
“อะไรกัน?! ฉันว่านายกลัวจนหัวหดมากกว่า หมอนี่ไม่ได้มีพิษสงอะไรอย่างที่นายว่าเลย!” หลิ่วต้าตูตอบกลับด้วยสีหน้าของผู้กุมชัยชนะ
เมื่อได้เห็นท่าทาง และได้ยินคำพูดเช่นนั้นของหลิ่วต้าเตา หมาป่าก็รู้สึกเดือดดาลขึ้นมาทันที เพราะคำพูดของหลิ่วต้าตูนั้นเท่ากับฉีกหน้าของมันชัดๆ แต่หมาปากก็ไม่อาจทำอะไรได้มาก จึงได้แต่กัดฟันบอกลูกน้องว่า
“พวกเราไปกันได้แล้ว!”
“พี่หมาป่า.. พี่จะไปไหนเหรอ?” จางผิงเอ่ยถามด้วยสีหน้าท่าทางระมัดระวังตัวอย่างมาก
“ไปพาคนกลับมาจัดการกับไอ้หมอนี่น่ะสิ! ฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่!” หมาป่าตอบกลับด้วยน้ำเสียงดุดัน
จากนั้น.. หมาป่าและพรรคพวกก็เดินออกไปทันที
“พี่หมาป่า.. รอฉันด้วย!”
จางผิงร้องตะโกนบอก หลังจากหันไปมองหน้าหลินหนานด้วยความหวาดกลัวแล้ว มันก็รีบวิ่งตามออกไปทันที
“ไม่เอาไหนสักตัว!!” หลิ่วต้าตูเบ้ปากพร้อมกับทำสีหน้าเย้ยหยัน ในใจได้แต่นึกดูถูกหมาป่ากับพวก
สำหรับหลิ่วต้าตูแล้ว อาชีพการเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่โกลเดนพาเลซแห่งนี้ นับเป็นอาชีพการงานที่มั่นคง และยิ่งใหญ่สำหรับเขาอย่างมาก
แก๊งอันธพาลกระจอกๆอย่างหมาป่า จะสามารถเทียบอะไรได้กับอำนาจบารมีของหลิวหยิงหยิง ผู้เป็นเจ้าของที่อยู่เบื้องหลังโกลเดนพาเลซแห่งนี้ ไม่มีค่าพอที่จะพูดถึงด้วยซ้ำไป
จากนั้น หลิ่วต้าตูก็หันไปมองหลินหนานด้วยสายตาดุดัน พร้อมกับตวาดเสียงดัง “ตามฉันมาเร็วเข้า!”
“จะพาผมไปไหนเหรอครับ?” หลินหนานเอ่ยถาม
“ไปห้องนวดสำหรับลูกค้าระดับวีไอพีไงล่ะ! ที่นั่นมีบริการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และกระดูก เพื่อให้ลูกค้าคนสำคัญได้รู้สึกผ่อนคลาย..” หลิ่วต้าตูตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ห้องนวดเหรอครับ? ได้ๆ พาผมไปเดี๋ยวนี้เลย” หลินหนานร้องบอกด้วยน้ำเสียงดีอกดีใจ
หลิ่วต้าตูสั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่วนหนึ่ง ให้ไปรอหลินหนานอยู่ที่ห้องห้องหนึ่งภายในโกลเดนพาเลซ
……
ชั้นสามของโกลเดนพาเลซ มีหญิงสาวสองคนมาใช้บริการ และหนึ่งในนั้นก็คือเย่เข่อเอ๋อ เวลานี้เธอกำลังคุยกับหญิงสาวในชุดเดรสสีม่วงด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย
หญิงสาวคนนี้รูปร่างไม่สูงนัก และค่อนข้างเจ้าเนื้อ ริมฝีปากหนา ดวงตาหรี่เล็ก แม้ว่าหญิงสาวคนนี้จะมีรูปร่างที่ไม่น่าดึงดูดนัก แต่ตั้งแต่ศรีษะจรดเท้าของเธอนั้น ก็มีแต่แบรนด์เนมที่กำลังโด่งดังแทบทั้งสิ้น
ลำคอของเธอนั้นมีสร้อยเพชรเส้นใหญ่ ในมือถือกระเป๋า Hermes ที่เพิ่งออกใหม่มูลค่ามากกว่าหนึ่งแสนหยวน และกระเป๋ารุ่นนี้ก็ยังไม่มีขายในประเทศจีนด้วย
หญิงสาวคนนี้ชื่อว่าหวังอันฉี และเป็นบุตรสาวของตระกูลหวังแห่งเมืองเจียงไฮว..
ความร่ำรวยและอำนาจบารมีของตระกูลหวังในเมืองเจียงไฮวนั้น จัดว่าอยู่ในอันดับสี่และห้ามาโดยตลอด นั่นเพราะตระกูลหวังมีธุริจอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่โต และรุ่งเรืองอย่างรวดเร็วเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่า เพราะเหตุใดจู่ๆ ตระกูลหวังจึงได้สามารถร่ำรวยขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้
“นี่เข่อเอ๋อ.. พ่อของฉันเพิ่งกลับมาจาก Business Trip ที่ยุโรป ก็เลยซื้อสร้อยเพชรเส้นนี้มาฝากฉันด้วย แต่ไม่ได้มีแค่นี้นะ ที่บ้านฉันยังมีสร้อยเพชรอีกมากมายเลยล่ะ ความจริงฉันเองก็ไม่อยากใส่มาเลย แต่พ่อน่ะสิ.. คะยั้นคะยอให้ฉันใส่อยู่นั่นล่ะ!” หวังอันฉีแกล้งทำเป็นบ่น
หวังอันฉีแกล้งยกมือขึ้นขยับสร้อยเพชรที่ลำคอ แสงจากเพชรเม็ดใหญ่ระยิบระยับเจิดจ้านั้น น่าจะสามารถทำให้คนตาบอดได้..
เย่เข่อเอ๋อถึงกับพูดไม่ออก..
ลูกสาวเศรษฐีใหม่อย่างหวังอันฉี มักจะประโคมแบรนด์เนมและของมีค่าเต็มตัวแบบนั้น เพื่ออวดความร่ำรวยอยู่เสมอๆ
ตรงข้ามกลับเย่เข่อเอ๋อซึ่งเป็นลูกสาวตระกูลเย่ที่ยิ่งใหญ่ กลับสวมเสื้อผ้าธรรมดาๆ อย่างเสื้อสเวตเตอร์สีเนื้อกับกางเกงยีนส์เท่านั้น
แต่ความงดงามของเธอนั้น กลับเป็นสมบัติที่ล้ำค่า..
การแต่งตัวที่เรียบง่าย และเป็นธรรมดาของเย่เข่อเอ๋อนั้น ยิ่งทำให้เธอดูเป็นหญิงสาวที่สดใส และมีชีวิตชีวาอย่างมาก
“โอ้โห! พ่อของเธอนี่ใจดีกับเธอมากเลยนะ!” เย่เข่อเอ๋อเอ่ยชมทันที
“แน่นอน! พ่อของฉันเป็นพ่อที่ใจดีที่สุดในโลกเลยล่ะ!” หวังอันฉีโอ้อวดพร้อมกับทำปากจู๋เพื่อให้ดูน่ารักน่าเอ็นดู
แต่ริมฝีปากที่หนาและใหญ่ของเธอนั้น กลับไม่ได้ทำให้เธอดูน่ารักเลยแม้แต่น้อย แต่มันดูคล้ายกับปากหมูเวลาที่มันร้องหาอาหารเสียมากกว่า ดูน่าเกลียดมากกว่าน่ามอง..
เย่เข่อเอ๋อเองก็ถึงกับทนมองไม่ได้เช่นกัน เธอรีบหันหน้าหนีมองไปทางบันได แต่แล้วเธอก็ถึงกับนิ่งไปด้วยความตกตะลึง เมื่อสายตาไปปะทะกับบางสิ่งบางอย่างเข้า
เธอเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินลงบันไดไป โดยมีกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรายล้อมไว้ และเธอก็ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นกำลังจะไปไหน
ชายหนุ่มคนนี้รูปร่างไม่สูงนัก ร่างกายก็ผอมแห้ง สวมใส่เสื้อผ้าซอมซ่อราคาถูก ไม่เข้ากับสถานที่อย่างโกลเดนพาเลซเลยแม้แต่น้อย
และเธอเองก็จำได้แม่นยำว่า ชายหนุ่มคนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากหลินหนาน?
“หืมม.. หลินหนานมาที่นี่ทำไมกัน?” เย่เข่อเอ๋อตาโต พร้อมกับพึมพำออกมาด้วยความสงสัย
ที่โกลเดนพาเลซแห่งนี้ใช้ระบบสมาชิกเท่านั้น คนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางที่จะเข้ามาที่นี่ได้..
หมอนี่แอบเข้ามาแล้วถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจับได้งั้นเหรอ?
“เข่อเอ๋อ.. นี่เธอกำลังมองอะไรอยู่?”
หวังอันฉีมองตามสายตาของเย่เข่อเอ๋อไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น “นี่เธอรู้จักผู้ชายคนนั้นด้วยเหรอ?”
“ไม่รู้จัก!” เย่เข่อเอ๋อรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที
“แปลกจัง.. ผู้ชายคนนั้นแต่งตัวซอมซ่อ แล้วก็ดูยากจนมาก โกลเดนพาเลซปล่อยให้คนแบบนั้นเข้ามาได้ยังไงกัน?” หวังอันฉีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนัก
แหมแม่คุณ.. ใครจะสูงส่งเหมือนเธอกันล่ะ?
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เย่เข่อเอ๋อตอบกลับไปทันที และแน่นอนว่าเธอไม่สามารถให้คนอื่นรู้ได้ว่า ไอ้หัวขโมยที่กำลังเดินลงบันไดไปนั้น เป็นพี่เขยที่ถูกต้องตามกฏหมายของเธอเอง!
“ถ้าเธอไม่รู้จักเขา ฉันก็จะได้ไปบอกพี่หยิงหยิงให้ไล่หมอนั่นออกไปซะ!” หวังอี้ฉิงบอกกับเย่เข่อเอ๋อ และจ้องตาเธอเพื่อหาพิรุธ
“ฉันไม่รู้จักจริงๆ ฉันไปรู้จักเขาได้ยังไงกันล่ะ?” เย่เข่อเอ๋อรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ
“นั่นสินะ.. คุณหนูเย่อย่างเธอคงจะไม่ลดตัวไปรู้จักกับคนแบบนั้นแน่! นี่ถึงกับกล้าแอบเข้ามาที่นี่ แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของจับได้แบบนี้ รับรองว่าหมอนั่นถูกถลกหนังแน่!”
หวังอันฉีเบ้ปากหนาๆของตนเอง ไม่มีแม้แต่ความเมตตาสงสารปรากฏขึ้นในแววตาของเธอ แต่ถึงอย่างนั้น คนแบบนี้ก็จำกัดตัวเองเป็นชนชั้นสูง ที่มาจากครอบครัวร่ำรวย และคอยดูถูกเหยียดหยามคนที่ยากจนกว่า
หวังอันฉีพูดต่อว่า “นี่เข่อเอ๋อ.. รีบไปกันดีกว่า วันนี้จะมีโชว์ดีๆที่ไม่ได้มีทุกวันด้วยนะ!”
“อืมม..” เย่เข่อเอ๋อพยักหน้า แต่ก่อนที่จะตามหวังอันฉีไปนั้น เธอก็อดที่จะเหลือบมองไปทางบันอีกครั้งไม่ได้
หลินหนาน.. อยู่ดีไม่ว่าดี แทนที่จะไปหาความสุขที่อื่น!
……
หลินหนานเดินตามหลิ่วต้าตูไป หลังจากเดินลงบันไดไปแล้ว ทั้งหมดก็เลี้ยวไปทางมุมหนึ่ง และไปตามทางเรื่อยๆ
ทางที่เดินไปนี้แตกต่างจากทางเดินหรูหราที่เดินผ่านมาเมื่อครู่ เพราะไม่ว่าใครที่เดินเข้าไป ก็คงต้องรู้สึกขนลุกขนชัน และตัวสั่นอย่างไม่รู้ตัว
หลิ่วต้าตูและคนอื่นๆที่เดินคุมหลินหนานไปนั้น ต่างก็หันไปมองตากันพร้อมกับอมยิ้ม แต่แล้วจู่ๆหลินหนานก็หยุดชะงัก พร้อมกับหันไปถามทุกคนด้วยสีหน้างุนงง
“ที่นี่มันที่ไหนกันแน่? ทำไมถึงได้เย็นจนรู้สึกขนลุกขนชันไปหมด!”
“เดินไปอีกหน่อยก็จะถึงห้องนวดแล้วล่ะ!” หลิ่วต้าตูตอบเสียงห้วน
“จริงเหรอ?” หลินหนานเอ่ยถามทันที
“จริงสิ!”
หลิ่วต้าตูตอบกลับ และหลอกล่อหลินหนานราวกับหลอกล่อเด็กน้อย “ที่ห้องนวดมีคนนวดอยู่หลายคน ทุกคนจะช่วยกันนวดอย่างเต็มที่เลยล่ะ!”
“งั้นเหรอ.. ดีๆๆ” หลินหนานแกล้งทำเป็นดีอกดีใจ
แต่ภายในใจกลับนึกเย้ยหยันคนพวกนี้ และได้แต่คิดในใจว่า ใครกันแน่จะถูกนวด?