ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 46
ตอนที่ 46 น่าสนใจดีนี่!
ผู้ชายหล่อเหลามีอยู่หลายประเภท..
บางคนหล่อประหนึ่งแสงอาทิตย์เจิดจ้า บางคนหน้าตาสวยงามประหนึ่งสาวสวย และบางคนก็หล่อแบบชายชาตรีสง่างาม
และผู้ชายที่ปรากฏตัวขึ้นเวลานี้ก็เป็นหนุ่มหล่อในแบบที่สาม..
เพียงแต่มีข้อเสียอย่างเดียวเท่านั้นคือ ใบหน้าของชายผู้นี้ไร้ซึ่งรอยยิ้ม และใบหน้าที่นิ่งเรียบนั้นก็ทำให้คะแนนความหล่อของเขาลดลงเล็กน้อย
แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรค์ หรือข้อเสียที่จะทำให้หญิงสาวมากมายตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ได้เลย..
แต่จากที่หลินหนานสังเกตเห็นนั้น เขารู้สึกว่าท่าทางการเดินของชายหนุ่มผู้นี้ดูประหลาดอยู่เล็กน้อย เพราะแต่ละก้าวนั้นค่อนข้างสั้น และร่างกายจะโน้มเอนไปทางด้านหน้าเล็กน้อย
“ก็งั้นๆ” หลินหนานเบ้ปากเล็กน้อยพร้อมกับรำพึงรำพันออกมา
สำหรับหลินหนานแล้ว ชายหนุ่มคนใดที่มีใบหน้าหล่อเหลากว่าเขา ล้วนแล้วแต่น่ารังเกียจทั้งสิ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกที่นอกจากจะหน้าตาหล่อเหลาแล้ว ยังฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยนั้น ก็จะยิ่งกว่าน่ารังเกียจมากขึ้นในสายตาของเขา
ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาประหนึ่งเทพบุตรนั้น ได้เดินมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าหลินหนาน พร้อมกับจ้องมองเขาแน่นิ่ง
หญิงสาวในชุดบิกีนี่หูกระต่ายและกรรมการตัดสินการแข่งขัน ต่างก็หันไปโค้งใช้ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลา พร้อมกับทักทายด้วยความเคารพนบนอบ
“พี่ไห่..”
แต่ชายหนุ่มกลับไม่ได้สนใจทั้งสองคน เขาเป็นฝ่ายแนะนำตัวเองกับหลินหนาน “สวัสดีครับ ผมชื่อว่าเหยาไห่ คุณเรียกผมว่าอาไห่ก็ได้!”
“ผมชื่อหลินหนาน คุณเรียกผมว่า ‘หล่อหนาน’ ก็ได้!” หลินหนานแนะนำตัวเองเช่นกัน
ในเรื่องของความหลงตัวเองนั้น หลินหนานไม่เคยเป็นรองให้กับใคร เหยาไห่ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเขาถึงกับกระตุกเล็กน้อย
ส่วนหญิงสาวในชุดบิกินี่หูกระต่ายและกรรมการ ถึงกับหันไปมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง ประหนึ่งว่าตนเองได้ค้นพบโลกใบใหม่
มีใครบ้างในที่นี้ที่ไม่รู้ว่า.. พี่ไห่ของพวกเขานั้นเสมือนว่ามีใบหน้าที่เป็นอัมพาต ฉะนั้น การที่คำพูดของหลินหนานทำให้เหยาไห่ถึงกับใบหน้ากระตุกได้นั้น ย่อมเสมือนว่ากำลังเกิดปาฏิหารย์ขึ้น..
“คุณหลิน.. อภัยที่ผมต้องรบกวนเวลาของคุณ!” เหยาไห่พูดกับหลินหนานด้วยถ้อยคำสุภาพ และให้เกียรติ
“รบกวนเวลาของผม.. ถ้าคุณกล้าก็ลองดูได้!” หลินหนานกรอกตาไปมาในขณะตอบกลับ
ใบหน้าของเหยาไห่ถึงกับกระตุกอีกเป็นครั้งที่สอง..
“ผมเพียงแค่รู้สึกชื่นชมคุณหลินมาก จึงอยากจะขอปรึกษาหารือด้วยสักหน่อย..” เหยาไห่เอ่ยตอบด้วยความสุภาพเช่นเคย
“คุณเป็นใคร? พวกเราสองคนรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า?” คิ้วของหลินหนานขมวดเข้าหากันในขณะเอ่ยถาม
เหยาไห่คลายหมัดที่กำแน่นก่อนจะตอบกลับไปว่า “ผมเป็นผู้ดูแลโกลเดนพาเลซแห่งนี้ หรือพูดง่ายๆก็คือว่า ผมมีสิทธิ์ในการตัดสินใจว่าจะให้บัตรสมาชิกระดับแพลตตินั่มใบนี้เป็นของใครก็ได้..”
“อ่อ.. นี่หมายความว่าโกลเดนพาเลซกำลังจะโยกโย้กับผมสินะ? ในเมื่อกฏระเบียบก็ประกาศไว้แล้วว่า ผู้ที่แข่งขันชนะเลิศเป็นอันดับหนึ่ง จะได้บัตรแพลตตินั่มใบนี้เป็นรางวัล แล้วทำไมคุณยังพูดจาแบบนี้อีก?” หลินหนานร้องถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนัก
เหยาไห่เริ่มรู้สึกว่า เวลานี้เขาแทบอดใจไว้ไม่ได้ที่จะเป่าหัวเจ้าสุนัขตัวนี้!
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ต้องอดทนอดกลั้นไว้..
“คุณหลิน.. คุณอย่าได้กังวลใจเรื่องนั้นไป บัตรสมาชิกระดับแพลตตินั่มใบนั้นย่อมสมควรเป็นของคุณ เพียงแต่.. ผมอยากจะท้าทายคุณเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย!” เหยาไห่ตอบกลับด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง
“งั้นเหรอ?! ไม่ทราบคุณต้องการท้าทายอะไรผมเพิ่มเติม?!” หลินหนานเอ่ยถามขึ้นด้วยความสนใจ
“พวกเรามาแข่งกันอีกหนึ่งเกม หากครั้งนี้คุณหลินเป็นฝ่ายชนะ ผมจะให้คุณมาเที่ยวที่โกลเดนพาเลซได้ฟรีอีกหนึ่งครั้ง!” เหยาไห่ยื่นข้อเสนอให้กับหลินหนานด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกเช่นเคย
“ได้.. แต่ต้องแข่งกับนายเท่านั้นนะ!” หลินหนานตอบตกลง พร้อมกับยื่นข้อเสนอโดยแทบไม่ต้องไตร่ตรอง
ครั้งนี้อาไห่แทบสงบสติอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เขาอยู่ในตำแหน่งที่สูงส่งเพียงใดในโกลเดนพาเลซแห่งนี้ แต่ไอ้หนุ่มคนนี้ไม่เพียงพูดจากับเขาอย่างไร้มารยาท มิหนำซ้ำยังดึงเขาลงมาอยู่ระดับเดียวกับตนเองด้วย
และเวลานี้ เหยาไห่ก็เริ่มรู้สึกว่า ความประทับใจที่เขามีต่อหลินหนานนั้น ได้เริ่มลดระดับลงอย่างมาก
เหยาไห่ไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงได้แต่เงยหน้าขึ้นมองไปยังชั้นสาม และพบว่าเรือนร่างสีแดงซึ่งกำลังยืนถือแก้วไวน์ยืนพิงระเบียงอยู่นั้น กำลังจ้องมองลงมาสนามด้านล่างนี้
หลังจากพยักหน้าเล็กน้อย เหยาไห่จึงได้ถอดเสื้อสูทของตนเองออก เหลือเพียงแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวด้านใน แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้หญิงสาวมากมายถึงกับกรีดร้องออกมาได้แล้ว
เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เหยาไห่สวมใส่นั้น มีเนื้อผ้าเบาบาง และแนบกับเรือนร่างจนเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่อยู่ภายใน
หลินหนานเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่เบ้ปาก พร้อมกับพึมพำออกมาว่า “โธ่เอ๊ย!! ฉันไม่ควรต้องมาเห็นอะไรแบบนี้เลยจริงๆ ซวยลูกตาชะมัด!”
เหยาไห่ได้ยินเช่นนั้นก็โมโหจนแทบกระอักเลือด และได้แต่คิดในใจว่า หมอนี่นับว่าปากดีไม่น้อยทีเดียว!
หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกอยู่หลายครั้ง ในที่สุดเหยาไห่ก็สามารถสงบสติอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของตนเองลงได้
เจ้านายเคยบอกว่า.. เมื่อใดที่อารมณ์ของเราถูกฝ่ายตรงข้ามควบคุมได้ เมื่อนั้นเราก็จะถูกฝ่ายตรงข้ามจูงจมูก!
และเจ้านายของเหยาไห่ก็หาใช่ใครอื่น แต่เป็นเสิ่นวู๋เตาผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งเมืองเจียงไฮวนี่เอง!
หลังจากที่เสิ่นวู๋เตาเสียชีวิต เหยาไห่ก็ไม่ยอมไปไหน และเลือกที่จะอยู่กับหลิวหยิงหยิงต่อไป หญิงสาวที่มีเสน่ห์ และดูมีพลังอำนาจเร้นลับผู้นี้ นับว่าน่าสนใจกว่าเสิ่นวู๋เตามาก
ด้วยเหตุนี้ เหยาไห่จึงยินดีที่จะอยู่รับใช้หลิวหยิงหยิงโดยไม่นึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย..
เหยาไห่ก้าวลงบนสนาม พร้อมกับวางมือข้างขวาไว้กลางโต๊ะ เขาจ้องมองหลิงหนานด้วยสีหน้าสงบนิ่ง แล้วจึงพูดขึ้นว่า
“คุณหลิน.. ได้โปรดชี้แนะด้วย!”
“ได้ๆๆ เห็นแก่ใบหน้าบึ้งตึงของนาย ฉันจะออมมือให้ก็แล้วกัน!!” หลินหนานพยักหน้างหงึกๆพร้อมกับตะโกนตอบเสียงดัง
ใบหน้าของเหยาไห่ถึงกับกระตุกขึ้นอีกครั้ง!
เมื่อฝ่ามือและข้อมือของทั้งคู่สัมผัสกัน หลินหนานก็ถึงกับแอบประหลาดใจ นั่นเพราะฝ่ามือของชายหนุ่มผู้นี้แข็งแกร่งอย่างมาก เขาสัมผัสได้ถึงพลังที่แฝงอยู่ภายใน ประหนึ่งพยัคฆ์กำลังรอคอยโอกาสที่จะตะปบเหยื่อของมันอย่างเหี้ยมโหด
ระหว่างที่ยืนประจันหน้ากันอยู่นั้น เหยาไห่เองก็รู้สึกสับสนอยู่ในใจไม่น้อยเช่นกัน!
นั่นเพราะเขารู้สึกราวกับว่า กำลังสัมผัสฝ่ามือของคนธรรมดาปกติทั่วไปเท่านั้นเอง..
ฝ่ามือนี้ไม่มีแม้แต่พลังที่ถ่ายเทออกมา เหยาไห่ไม่รู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่แผ่ซ่านออกมาเลยแม้แต่น้อย และรู้สึกราวกับว่าเป็นเพียงแค่มือตุ๊กตาตัวหนึ่งที่เขาจะบดขยี้เมื่อใดก็ได้
‘ฉันก็อยากจะรู้นักว่าแกจะปกปิดพลังที่แท้จริงของตนเองไว้ได้นานแค่ไหน?’ เหยาไห่ได้แต่นึกหยันอยู่ในใจ
เขาไม่โง่ให้หลินหนานหลอกได้ง่ายๆ เพียงแค่ความเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อยๆเป็นแน่!
ไม่ว่าศัตรูตรงหน้าจะเป็นใคร จงปฏิบัติต่อศัตรูทุกคนประหนึ่งว่าเขาคือคนที่เก่งที่สุด และจงอย่าได้ประเมินศัตรูของตนเองต่ำจนเกินไป
ระหว่างนั้น คำสอนของเจ้านายเก่าก็ได้ดังอยู่ข้างหูของเหยาไห่..
เวลานี้ หลายๆคนที่อยู่ภายในห้องต่างก็เฝ้าดูการแข่งขันครั้งนี้อย่างใจจดใจจ่อ แม้กระทั่งกลุ่มของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโกลเดนพาเลซ ก็ยังพากันมามุงดูเช่นกัน
“เฮ้อ.. หมอนี่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำจริงๆ บังอาจมาท้าพี่ไห่งัดข้อ!”
“ฉันว่ามันบ้าระห่ำมากเกินไป คงจะสะกดคำว่าตายไม่เป็นมั๊ง?”
“ฉันว่าไม่กี่วินนาที พี่ไห่ก็คงล้มมันได้แล้วล่ะ!”
“มาพนันกันดีกว่าว่าพี่ไห่จะชนะหมอนั่นได้ภายในกี่วินาที?”
“ฉันว่าห้าวินาที!”
“แต่ฉันว่าสามก็จอดแล้ว!”
หลิ่วต้าตูที่ใบหน้ายังคงบวมเป็นหัวหมูร้องตะโกนแทรกขึ้นมาในกลุ่ม และริมฝีปากของมันก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้น เพราะนี่เสมือนว่ามันจะได้แก้แค้นหลินหนานคืนนั่นเอง
นั่นเพราะคนที่หลินหนานกำลังเผชิญหน้าอยู่ด้วยนั้น นับว่าเป็นหัวหน้ารองของโกลเดนพาเลซแห่งนี้เลยทีเดียว..
หลิ่วต้าตูยังจำได้ว่า.. ก่อนหน้านี้มีลูกพี่คนหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่า เวลาเมาชอบทำป่าเถื่อนกับเด็กเสริฟสาวๆในโกลเดนพาเลซแห่งนี้อยู่เสมอ
หลังจากที่เหยาไห่ได้ทราบเรื่องราว เขาก็เรียกพนักงานเสริฟหญิง พร้อมกับลูกพี่คนนั้นเข้าไปสอบถามกันต่อหน้า
แต่ไม่เพียงลูกพี่คนนั้นไม่เห็นเหยาไห่อยู่ในสายตา มิหนำซ้ำยังกล้าข่มขู่ว่าจะถล่มโกลเดนพาเลซให้ราบเป็นหน้ากอง และจะจัดการกับหลิวหยิงหยิงอีกด้วย
ครั้งนั้นเหยาไห่ระเบิดอารมณ์โกรธออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และเขาได้จัดการซ้อมลูกพี่คนนั้น กับลูกน้องของมันอีกสิบคนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะจับทั้งหมดโยนออกไปนอกโกลเดนพาเลซราวกับหมูกับหมา
แต่หลังจากนั้นไม่ถึงเดือน ไม่รู้ว่าบังเอิญหรืออย่างไร ลูกพี่คนนั้นก็ได้สิ้นใจตายในระหว่างที่ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นกลับไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อกิจการของโกลเดนพาเลซเลยแม้แต่น้อย และไม่รู้ว่าหลิวหยิงหยิงใช้อำนาจในทางใดบ้าง ธุรกิจอื่นๆของเธอก็ไม่ได้รับผลกระทบเลยแม้แต่น้อยเช่นกัน
และเหตุการณ์ทั้งหมดในครั้งนั้น หลิ่วต้าตูก็ได้รู้ได้เห็นมากับตาของตัวเอง หากนึกย้อนกลับไป ความโหดเหี้ยมน่าสะพรึงกลัวของพี่ไห่นั้น ยังคงตราตรึงอยู่ในจิตใจของเขาจนถึงทุกวันนี้
หากหลินหนานคิดจะปีนเกลียวกับพี่ไห่แล้วล่ะก็ ยังนับว่าห่างไกลกันมากนัก!
แกบังอาจกระตุกหนวดพี่ไห่แบบนี้ ต่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปก็คงต้องเหนื่อยมากหน่อย!
“สาม..”
“สอง..”
“หนึ่ง.”
“เริ่มได้!”
หลังจากที่กรรมการประกาศให้เริ่มการแข่งขันได้ ต่างฝ่ายต่างก็กางขาออกอยู่ในท่าเตรียมพร้อมทันที
ในระหว่างนั้น เสียงกระดูกทั่วร่างของเหยาไห่ก็ลั่นดังกร๊อบ และพลังแปลกประหลาดก็ได้พวยพุ่งจากท้องน้อย ก่อนจะไหลเข้าสู่ฝ่ามือของเขาอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่สัมผัสได้ถึงพลังที่พวยพุ่งขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์นั้น หลินหนานก็ถึงกับหรี่ตาจ้องมองอีกฝ่าย..
น่าสนใจดีนี่!