ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 52
ตอนที่ 52 ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุก
เพียงแค่การสร้างเวที และระบบแสง สี เสียงต่างๆนั้น ก็นับว่าต้องใช้เงินลงทุนไปจำนวนมากมาย
ระบบแสง และเสียงรอบด้านครอบคลุมพื้นที่ในระดับ 360 องศาเช่นนี้ ทำให้ผู้ชมภายในสนามต่างก็รู้สึกคล้ายกับอยู่ในสนามรบโบราณ ซึ่งเต็มไปด้วยพื้นที่รกร้างว่างเปล่า
ส่วนห้องนั่งชมแต่ละห้องนั้น ล้วนติดตั้งเครื่องเสียงชั้นนำอย่าง Bose ไว้ ฉะนั้น เสียงต่างๆบนเวทีต่อสู้จึงถูกถ่ายทอดเข้าสู่หูของผู้ชม ทำให้รู้สึกราวกับกำลังยืนอยู่บนเวทีต่อสู้ด้วยตัวเองเลยทีเดียว
หลังจากที่เสียงกลองกระหึ่มค่อยๆดับลง ความเงียบก็เข้าปกคลุมแทน..
แต่แล้วจู่ๆ แสงไฟกลางเวทีก็สว่างขึ้น และกรงเหล็กขนาดใหญ่ก็ค่อยๆ ถูกหย่อนลงมาจากด้านบน กรงเหล็กนี้มีขนาดใหญ่ถึงหนึ่งร้อยตารางเมตร และทำจากเหล็กเนื้อดี และถูกตกแต่งให้ดูราวกับว่าเป็นกรงเหล็กเก่าแก่โบราณ ซึ่งให้ความรู้สึกของความดุดัน ป่าเถื่อน และน่าสะพรึงกลัว
ตรงกลางเวทีด้านข้างของกรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่นั้น มีหญิงสาวผมยาวในชุดบิกินี่ลายเสือดาวยืนอยู่
‘ทำไมในโกลเดนพาเลซถึงได้มีแต่ผู้หญิงสาวมชุดบิกินี่นักนะ?’ หลินหนานได้แต่บ่นพำพำอยู่ในใจ
หญิงสาวเรือนร่างงดงามผู้นี้มีร่างกายที่แข็งแกร่ง ผิวสีคล้ำของเธอนั้นบ่งบอกถึงสุขภาพที่ดี และน้ำมันมะกอกที่เคลือบไปทั่วทั้งร่างนั้น ก็ยิ่งขับให้เรือนร่างของหญิงสาวดูน่ามองมากยิ่งขึ้น
“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่โลกของการต่อสู้ในกรง และจากนี้ไปจะเป็นการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความป่าเถื่อน และดุเดือดเลือดพล่าน!” หญิงสาวในชุดบิกินี่ลายเสือดาว ประกาศผ่านไมโครโฟนในมือเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชมในสนาม
หลังจากได้ยินพิธีกรสาวประกาศออกมา ผู้ชมที่อยู่ในห้องต่างก็พากันโบกไม้โบกมือของตนด้วยความตื่นเต้น สำหรับคนร่ำรวยเหล่านี้ เพียงแค่เงินทอง ยังไม่อาจบำรุงบำเรอจิตใจที่ป่าเถื่อนของพวกเขาให้พึงพอใจได้
ฉะนั้น การต่อสู้กันจนเลือดสาดภายในกรง และโยนเงินเดิมพันผลแพ้ชนะนั้น จึงเป็นสิ่งเดียวที่จะสามารถสนองความดิบเถื่อนในใจของคนประเภทนี้ได้
อีกทั้งในการทำธุรกิจ.. ล้วนแล้วแต่ต้องเกี่ยวพันกับการตัดสินใจ และการเดิมพันทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้การเดิมพันและการต่อสู้ที่ดุเดือดเลือดพล่านนี้ จึงนับเป็นความลงตัวที่สมบูรณ์แบบยิ่ง
และจากภาพที่เห็นตรงหน้านี้ ทำให้หลินหนานอดที่จะนึกถึงเถ้าแก่หลิวไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้นับว่าเป็นคนที่มีพรสวรรค์ และเก่งมากคนหนึ่ง เธอสามารถเข้าใจจิตใจของมนุษย์ปุถุชนได้เป็นอย่างดี จึงทำให้กิจการของเธอรุ่งเรืองอย่างที่สุดถึงเพียงนี้ได้!
หลังจากที่ทำการกระตุ้นเลือดในกายของผู้ชมในสนามแล้ว พิธีกรสาวในชุดบิกินี่ลายเสือดาวจึงได้ประกาศต่อว่า
“การต่อสู้ในคืนนี้จะแบ่งเป็นทั้งหมดสี่ยก นักสู้ทั้งหมดของเราในคืนนี้ ล้วนแล้วแต่คัดเลือกนักสู้ระดับเทพมาทั้งนั้น ทุกท่านกรุณาจับตาดูที่หน้าจอของท่านให้ดี..”
และเมื่อสิ้นเสียงประกาศของพิธีกรสาว หน้าจอทีวีในแต่ละห้องก็สว่างขึ้นทันที จากนั้นข้อมูลการแข่งขันของนักสู้แต่ละคนในแต่ละแมทช์ก็ปรากฏขึ้น
หลินหนานกวาดตามองข้อมูลเหล่านั้นคร่าวๆ ก็สามารถทำความเข้าใจได้ในทันที..
ผ่านไปราวสองสามนาที ในที่สุดพิธีกรสาวก็ประกาศขึ้นอีกครั้ง “ดิฉันคิดว่าทุกท่านในที่นี้คงจะคุ้นเคย และรู้กฏระเบียบต่างๆดีแล้ว จึงขอเข้าสู่การต่อสู้อย่างเป็นทางการ ณ บัดนี้..”
“ยกแรก.. เป็นการต่อสู้ระหว่างจางหลินเจ้าของฉายาศิลาทักษิณผู้โด่งดัง กับหลิวยู่เฟิงเจ้าของฉายาแส้เทวะ”
แสงไฟกลางเวทีสว่างขึ้นยิ่งกว่าเดิม ประตูเล็กๆ ของกรงทั้งสองฝั่งได้เปิดออก แล้วนักสู้ทั้งสองต่างก็ก้าวเดินเข้าไปภายในกรง!
ชายหนุ่มที่เดินเข้าทางด้านประตูซ้ายมือนั้น รูปร่างค่อนข้างผอมบาง แต่ดวงตาทั้งคู่ของเขานั้นกลับสงบนิ่งไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก
ส่วนชายทางด้านขวามือนั้นดูเหมือนจะสูงกว่าเล็กน้อย ด้านบนเปลือย และด้านล่างสวมเพียงแค่กางเกงกีฬาขาสั้น เผยให้เห็นกล้ามเนื้อกายที่แข็งแกร่งเป็นมัดๆ และทันทีที่ก้าวเข้ามาในกรง ก็ตีลังกาโชว์ผู้ชมอยู่หลายตลบ
และสามารถเรียกเสียงปรบมือ และเสียงฮือฮาจากผู้ชนในสนามได้อย่างมากมาย..
เหวินลี่ทำการเปิดคอมพิวเตอร์ด้วยความชำนิชำนาญ และได้สอนให้หลินหนานใช้อุปรกรณ์ตรงหน้า
หลินหนานจัดการนำบัตรเงินสดที่ขึ้นมารูดทันที และจัดการกดจำนวนเงินไป 100,000 หยวน และเลือกเดิมพันอย่างไม่ลังเล
เหวินลี่เห็นเช่นนั้นจึงได้เอ่ยถามย้ำเสียงเบา “คุณชายคะ.. ไม่ทราบว่าจะลองไตร่ตรองดูอีกครั้งมั๊ยคะ?”
“ดูผิวเผินแล้ว.. คุณคงมั่นใจว่าชายหนุ่มร่างสูงนั่นจะมีโอกาสชนะมากกว่าสินะ? และเดิมพันว่าเขาจะเป็นฝ่ายชนะก็สูงลิบลิ่ว..” หลินหนานพูดขึ้นอย่างไม่ใส่นัก
และเมื่อเห็นหลินหนานมั่นอกมั่นใจเช่นนี้ อีกทั้งเหวินลี่ยังคิดว่าหลินหนานร่ำรวย จนไม่สนใจว่าจะเสียเงินเดิมพันไปง่ายๆ เธอจึงเลือกที่จะเงียบ
และเวลานี้.. ก็เหลือเวลาในการเดิมพันอีกเพียงแค่สามนาทีเท่านั้น เพราะเมื่อใดที่การต่อสู้เริ่มขึ้น ก็จะหมดโอกาสเดิมพันทันที!
……
ทุกคนในห้องหมายเลขแปดเวลานี้ ดูเหมือนจะตื่นเต้นอย่างมาก!
ถังจินซ่งและหวังชางหยางที่นั่งอยู่บนโซฟา ต่างก็มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ส่วนข้างๆชายหนุ่มร่างอ้วนก็คือหวังอันฉี และสาวสวยเย่เข่อเอ๋อ กับชายหนุ่มรูปร่างผอมบางอีกคน
ชายหนุ่มรูปร่างผอมบางคนนี้ก็คือคนที่ไปรับเย่เข่อเอ๋อ ชื่อว่าหลินหวังยู่ มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยเช่นกัน พ่อของเขาทำธุรกิจโรงแรมซึ่งมีมูลค่านับพันล้าน
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่อาจเทียบได้กับตระกูลหวัง และตระกูลถัง ซึ่งนับว่ามีฐานะที่ร่ำรวยกว่ามาก ธุรกิจของทั้งสองตระกูลนั้นมีมูลค่านับหมื่นล้านเลยทีเดียว และด้วยเหตุนี้ หลินหวังยู่จึงพยายามที่จะพาตัวเองเข้ามาอยู่ในแวดวงสังคมของถังจินซ่ง..
แต่น่าเสียดาย.. ที่คนร่ำรวยมักจะเลือกคบกับคนร่ำรวยที่มีฐานะใกล้เคียงกัน!
ยกตัวอย่างถังจินซ่งกับหวังชางหยาง.. ทั้งคู่ต่างก็มาจากตระกูลที่ร่ำรวยมีธุรกิจนับหมื่นล้าน ทั้งสองคนจึงเลือกที่จะคบเศรษฐีในระดับเดียวกันนั่นเอง
และสำหรับหลินหวังยู่ซึ่งมาจากครอบครัวร่ำรวยน้อยกว่านั้น ทั้งคู่ไม่เคยแยแสที่จะคบหาด้วย มีแต่หลินหวังยู่เท่านั้นที่พยายามพาตัวเองเข้าไปอยู่ในแวดวงพวกเขาทั้งสองคน..
และบังเอิญว่าหลินหวังยู่ได้ยินมาว่าถังจินซ่งสนอกสนใจในตัวเย่เข่อเอ๋อ ซึ่งเป็นลูกสาวคนที่สองของตระกูลเย่ แล้วก็ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่เย่เข่อเอ๋อก็เป็นเพื่อนของเขาเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ หลินหวังยู่จึงอาศัยโอกาสนี้เสนอกับถังจินซ่งว่า จะชวนเย่เข่อเอ๋อมาที่โกลเดนพาเลซในคืนนี้ด้วย และนับว่าโชคดีที่เย่เข่อเอ๋อก็อยากมาดูอะไรที่ตื่นเต้นเร้าใจ จึงได้ตกปากรับคำมากับเขาด้วย
‘ถ้าคุณชายถังกับเข่อเอ๋อคบกันขึ้นมาจริงๆ ฉันก็จะได้เข้ามาอยู่ในกลุ่มด้วยสินะ..’ หลินหวังยู่แอบวาดหวังไว้ในใจ
หวังชางหยางปล่อยมือที่โอบร่างหญิงสาวชุดแดงอย่างไม่เต็มใจนัก จากนั้นจึงหันไปหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาชูให้กับถังจินซ่ง
“คุณชายถัง.. หมดแก้ว! นี่คุณยังโกรธเรื่องเมื่อครู่อยู่งั้นสินะ?”
ถังจินซ่งกระดกเหล้าเข้าปากพร้อมกับตอบเสียงห้วน “ไม่เลย! เหยาไห่ก็แค่สุนัขตัวหนึ่งเท่านั้น ฉันไม่เห็นมันอยู่ในสายตาแน่..”
“คิดไม่ถึงว่าหลินหวังยู่จะทำสำเร็จ..”
หวังชางหยางกระซิบข้างหูถังจินซ่ง ก่อนจะทำเสียงล้อเลียน “ไม่คิดที่จะทักทายหญิงในฝันหน่อยเหรอครับคุณชายถัง?”
ถังจินซ่งเหลือบมองเย่เข่อเอ๋อที่กำลังพูดคุยอยู่กับหวังอันฉี..
สวย.. สวยเหลือเกิน.. ยามที่เธอแย้มยิ้มแต่ละครั้ง ช่างสดใสอะไรเช่นนี้!
สองพี่น้องตระกูลเย่.. นับว่าสวยไม่แพ้กันเลยทีเดียว!
เย่ชิงเฉิงนั้นเป็นหญิงสาวที่คุณชายหลี่หมายปองอยู่ เขาจึงไม่กล้าที่จะคิดอาจเอื้อม แต่สำหรับเย่เข่อเอ๋อนั้น เขาไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปแน่
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ถังจินซ่งจึงได้กระแอมเบาๆ พร้อมกับชูแก้วไวน์ในมือให้กับเย่เข่อเอ๋อ ก่อนจะพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่คิดว่านุ่มนวลที่สุด
“คุณเย่ครับ.. นี่เป็นการพบกันครั้งแรกของเราสองคน ให้เกียรติดื่มกับผมบ้างจะได้มั๊ยครับ?”
เย่เข่อเอ๋อยกแก้วน้ำผลไม้ขึ้นมาจิบเล็กน้อย แต่สายตานั้นกลับเมินมองไปทางอื่น บ่งบอกว่าไม่ได้เห็นถังจินซ่งอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย และเธอเองก็เคยได้ยินมาบ้างว่า ถังจินซ่งเป็นชายหนุ่มที่ร่ำรวย แต่ยะโสโอหังและชอบโอ้อวดมาก..
ด้วยเหตุนี้.. เย่เข่อเอ๋อจึงไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีกับถังจินซ่งนัก!
แต่ด้วยสถานการณ์ที่บีบบังคับ เธอไม่สามารถเดินหนีไปได้ จึงได้แต่ตอบโต้กลับไปด้วยสีหน้าเย็นชา
ถังจินซ่งเก็บความรู้สึกไม่พอใจไว้ในใจ และไม่แสดงออกมา แต่กลับหันไปกระซิบถามหวังชางหยางเสียงเบา
“นี่.. ของที่ฉันสั่งให้นายเอามา นายเอามาด้วยรึเปล่า?”
“ฉันไม่ลืมอยู่แล้วน่า..”
หวังชางหยางตอบกลับไปทันที พร้อมกับเอามือตบกระเป๋ากางเกง “เพื่อนของฉันบอกว่ายานี่เป็นยานำเข้าจากต่างประเทศ แค่เม็ดเดียว รับรองว่าผู้หญิงเรียบร้อยจะกลายเป็นอีตัวทันทีเลยล่ะ..”
“เยี่ยมมาก!” ถังจินซ่งแสยะยิ้ม
ไม่ว่าจะด้วยกรรมวิธีใดก็ตาม ขอเพียงข้าวสารกลายเป็นข้าวสวยก็พอแล้ว!
******
ฝากนิยายของทีมงานด้วยนะคะ
เรื่อง : เทพปีศาจผงาดฟ้า
เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและผืนพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า
หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในผืนพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทาน พร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล
หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จำต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับ สังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้า จนกลายเป็นที่รู้จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย
แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!
—————–
เรื่อง : จักรพรรดิ์เทพมังกร
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด
จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..
******