ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 85
ตอนที่ 85 บีบคั้น
ก่อนหน้านี้ หลินหนานเคยรู้สึกว่าห้องรับประทานอาหารของตระกูลเย่นั้นใหญ่มากแล้ว แต่เมื่อได้มาเห็นห้องรับประทานอาหารของตระกูลถังเวลานี้ ทำให้เขานึกถึงคำว่า ‘ใหญ่โตมโหฬาร’ ขึ้นมาทันที!
และเพียงแค่ห้องรับประทานอาหารแค่ห้องเดียว ก็มีพื้นที่กว้างขวางใหญ่โตถึงห้าร้อยตารางเมตรแล้ว ทำให้หลินหนานรับรู้ และเข้าใจได้ถึงช่องว่างระหว่างสองตระกูลได้มากขึ้น
ภายในห้องรับประทานอาหารนี้ ได้รับการตกแต่งที่แตกต่างจากห้องหนังสือของถังหยวนซานโดยสิ้นเชิง เพราะภายในห้องนี้ถูกตกแต่งไว้ในแบบที่ทันสมัย
ห้องครัวสำหรับทำอาหารกว้างใหญ่โอ่โถงนั้น ถูกเปิดโล่งไว้เผยให้เห็นพ่อครัวมากมายหลายคนที่กำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมอาหาร
ไม่นานนัก สาวใช้ที่สวมผ้ากันเปื้อนสีขาวสะอาดสะอ้าน ก็ได้ยกอาหารที่พ่อครัวเตรียมเสร็จแล้วขึ้นมาเสริฟที่โต๊ะ
โต๊ะอาหารสไตล์ยุโรปที่สั่งทำเป็นพิเศษนั้น มีความยาวถึงหกหรือเจ็ดเมตร บนโต๊ะมีชุดเครื่องชามในแบบอังกฤษ ช้อน ส้อม และตะเกียบที่ทำจากเงิน พร้อมด้วยแก้วน้ำวาววับวางเรียงรายอยู่ เครื่องใช้ทั้งหมดบนโต๊ะอาหาร ล้วนแล้วแต่สั่งทำมาเป็นพิเศษอีกเช่นกัน และสามารถบ่งบอกถึงฐานะชนชั้นทางสังคมของผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี
ทางด้านข้างของห้องรับประทานอาหารอันใหญ่โตกว้างขวางนี้ มีตู้ตั้งเรียงรายอยู่ และภายในตู้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องดื่มราคาแพงระดับไฮเอนด์ทั้งสิ้น
ผู้เฒ่าตระกูลถังนั่งหัวโต๊ะซึ่งเป็นที่ประจำตำแหน่ง หันหน้าออกไปทางสวนด้านทิศใต้ ในขณะที่ถังชวนกับหลินหนานนั่งกันอยู่คนละข้าง
“ท่านหมอหลิน คุณไม่จำเป็นต้องยุ่งยากกับข้าวของเครื่องใช้บนโต๊ะ ถนัดทานแบบไหนก็เชิญตามสบาย ไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตรอง” ผู้เฒ่าตระกูลถังบอกกับหลินหนาน
หลินหนานกำลังนั่งมองพ่อครัวมากมาย ที่กำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารด้วยความสนอกสนใจ จึงได้แต่ถามกลับไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“อาวุโสถัง พ่อครัวทั้งหมดนี้เป็นพ่อครัวที่ทำอาหารให้กับคุณโดยเฉพาะเลยเหรอครับ?”
“ใช่แล้ว! พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นพ่อครัวที่มีฝีมือ และมีหน้าที่ดูแลเรื่องอาหารการกินภายในตระกูลถังของเรา” ถังหยวนซานตอบกลับยิ้มๆ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ถังหยวนไม่ได้พูดออกไป นั่นก็คือ.. ผู้ที่เป็นหัวหน้าพ่อครัวทีมนี้คนหนึ่ง ได้รับค่าจ้างจากตระกูลถังต่อปีนับหลายล้านหยวนเลยทีเดียว
แต่แน่นอนว่า หากเปรียบเทียบกับรายได้ที่มากมายมหาศาลของตระกูลถัง เงินค่าจ้างจำนวนนั้นจึงเปรียบเสมือนแค่น้ำหนึ่งหยดในถังขนาดใหญ่เท่านั้น
และนี่คือวิถีชีวิตของชนชั้นสูง และแน่นอนว่าตระกูลถังยังไม่ใช่ตระกูลที่ใช้ชีวิตหรูหราที่สุด!
“สิ่งที่ได้เปิดหูเปิดตาในวันนี้ ทำให้ผมเข้าใจคำพูดหนึ่งได้ลึกซึ้งมาขึ้น – คนจนนอนอดตายข้างถนน ส่วนคนรวยก็ดื่มกินกันอย่างฟุ่มเฟือยอยู่ภายในบ้าน” หลินหนานพูดขึ้นพร้อมกับเบ้ปากเล็กน้อย
การจ้างทีมพ่อครัวมากมายไว้ในบ้านเช่นนี้ นับว่าเป็นชีวิตที่หรูหราอย่างมากจริงๆ!
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหลินหนาน ถังหยวนซานกับถังชวงก็ถึงกับทำหน้าไม่ถูก ถังหยวนซานจึงได้แต่ตอบกลับไปว่า
“ท่านหมอหลิน คงต้องโทษที่ผมเป็นคนช่างกิน แต่จะว่าไป อาหารก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับมนุษย์เราไม่ใช่เหรอ?”
และเพื่อเป็นการแก้เก้อ ถังหยวนซานจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย ด้วยการถามหลินหนานกลับไปว่า “ไม่ทราบท่านหมอหลินต้องการดื่มอะไร? ที่นี่มีทั้งเหล้าขาว และไวน์ต่างประเทศอีกมากมาย!”
“ไม่ล่ะ.. แค่กินอาหารก็น่าจะพอแล้ว!” หลินหนานโบกไม้โบกมือ พร้อมกับปฏิเสธเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ถังหยวนซานนำเสนอ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ถังชวงจึงได้สั่งให้คนนำน้ำแร่ที่สั่งตรงจากประเทศอิตาลี่มาบริการหลินหนานแทน และน้ำแร่จากภูเขาขวดนี้ ก็มีขายอยู่ตามออนไลน์ด้วยราคาสูงนับร้อยดอลลาร์เลยทีเดียว
ท่ามกลางโต๊ะอาหารที่ใหญ่โต กลับมีคนนั่งร่วมโต๊ะเพียงแค่สามคนเท่านั้น แม้หลินหนานจะรู้ว่า อาหารในวันนี้นับเป็นอาหารชั้นเลิศ และมีราคาแพงมาก แต่เขากลับรู้สึกว่าไร้รสชาด..
เขาชอบอาหารตามร้านข้างนอก หรือไม่ก็ตามรถเข็นข้างถนนมากกว่า แม้ว่าอาหารจะไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อสุขภาพนัก แต่รสชาดอร่อยถูกปากเขามากกว่า อีกทั้งกลิ่นของควันและไฟ ยังช่วยเสริมสร้างบรรยากาศในการกินอาหารได้ดีอีกด้วย
หากได้ไปนั่งกินกับเพื่อนที่รู้ใจเพียงไม่กี่คน กินกันไปก็ร้องตะโกนโหวกเหวกคุยกันไปด้วย นั่นต่างหากคือชีวิตที่แท้จริงในความรู้สึกของหลินหนาน!
แต่ช่างน่าเสียดายนัก ที่คนร่ำรวยใช้ชีวิตอยู่หลังกำแพงสูงภายในบ้านที่หรูหราใหญ่โตนี้ กลับไม่เข้าใจชีวิตแบบนั้น..
หลังจากที่ทั้งสามคนกำลังนั่งรับประทานอาหารกันอยู่นั้น จู่ๆเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้น..
“ท่านปู่.. ท่านพ่อ.. ทำไมตั้งโต๊ะอาหารแล้ว ถึงไม่มีใครไปเรียกผมเลย นี่ผมหิวจะตายอยู่แล้ว! ป้าหลิว ช่วยเตรียมจานกับช้อนให้ผมด้วย..”
ทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น หลินหนานก็ได้แต่แอบหัวเราะอยู่ในใจ..
โลกนี้จะกลมอะไรนักหนานะ!
ระหว่างที่หลินหนานกำลังทานอาหารด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายอยู่นั้น จู่ๆชายหนุ่มในวัยยี่สิบห้าปีก็เเข้ามาสร้างความสนุกสนานให้กับเขาจนได้
เช่นนี้แล้วหลินหนานจะไม่มีความสุขได้อย่างไรกัน?
และแน่นอนว่า ผู้ที่เพิ่งมาถึงนั้นจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากถังจินซ่ง เขาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ข้างถังชวง แต่สีหน้ายังคงบูดบึ้งบอกบุญไม่รับ
เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของถังจินซ่ง ถังชวงจึงได้แต่ขมวดคิ้ว พร้อมกับถามขึ้นว่า “นี่แกเป็นอะไรของแก? ทำไมไม่รู้จักทักทายแขกคนสำคัญเสียก่อน?”
“แขกคนสำคัญเหรอครับพ่อ? ไหนล่ะ?”
ถังจินซ่งที่กำลังลูบไล้แก้วน้ำใสในมืออยู่หันไปถามผู้เป็นพ่อ และเวลานี้เขาก็ไม่ได้สวมแว่นตา อีกทั้งยังอารมณ์ไม่สู้ดี จึงไม่ทันได้มองไปรอบโต๊ะ แต่เมื่อสายตาของเขาตวัดไปเห็นหลินหนานเข้า ใจของเขาก็ถึงกับเต้นแรงขึ้นทันที
อย่างบอกนะว่าเป็นไอ้หมอนี่?!!
ถังจินซ่งรีบหยิบแว่นตาขึ้นมาใส่ทันที และเมื่อเห็นว่า แขกที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขานั้น หน้าตาเหมือนกันหลินหนานไม่มีผิด เขาถึงกับผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว
ห๊ะ?!! เป็นมันจริงๆเหรอนี่?
“แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” ถังจินซ่งตวาดใส่หลินหนานเสียงดังด้วยความโมโห
และเวลานี้ เขากับหลินหนานก็ไม่ต่างจากศัตรูคู่แค้น ที่ยากจะอยู่ร่วมโลกกันได้อีก!
“เชิญตามสบายนะครับคุณชายถัง?” หลินหนานเอ่ยเชื้อเชิญถังจินซ่ง ราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของเขาเอง
“แกอย่ามาทำปากดี! รีบออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้เลย!”
ถังจินซ่งไม่สามารถอดรนทนได้อีก เขาระเบิดอารมณ์ออกมา พร้อมกับตะโกนไล่หลินหนานออกจากบ้านในทันที
หลังจากได้เห็นท่าทีของถังจินซ่ง ถังชวงถึงกับงุนงง และตกตะลึง!
ก่อนหน้านี้หลินหนานบอกว่าพวกเขารู้จักกันนี่? แต่ทำไมจินซ่งกลับทำท่าทางราวกับพบเจอศัตรูคู่แค้นแบบนี้ล่ะ?
ถังหยวนซานถึงกับหน้าเปลี่ยนสีขึ้นมาทันที เมื่อได้เห็นท่าทางการแสดงออกของถังจินซ่ง เขารีบตวาดหลานชายกลับไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“นี่แกพูดกับแขกคนสำคัญของฉันแบบนี้ได้ยังไง?”
“แต่.. คุณปู่ครับ! หมอนี่ไม่ใช่คนดีอะไรอย่างที่ทุกคนคิด..” ถังจินซ่งรีบอธิบายทันที
“นี่แกพล่ามบ้าอะไร!” ถังหยวนซานยกมือขึ้นตบโต๊ะเสียงดัง พร้อมกับตวาดถังจินซ่งด้วยเสียงที่ดังราวกับฟ้าผ่า
ถังจินซ่งถึงกับตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ เพราะตั้งแต่เขาเกิดมา เขายังไม่เคยเห็นปู่ของตนแสดงอาการโกรธเกรี้ยวกับตัวเองมากมายเหมือนอย่างวันนี้มาก่อนเลย อีกทั้งยังแสดงออกว่าเข้าข้างหลินหนานอย่างมากด้วย!
ถังชวงเริ่มรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ จึงรีบลุกขึ้นยืน และหันไปพูดกับลูกชายว่า “จินซ่ง นี่แกไม่รู้เหรอว่า ท่านหมอหลินเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตปู่ของแกไว้?”
“ห๊ะ?! จะเป็นมันไปได้ยังไง?” ถังจินซ่งร้องอุทานออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
คนที่ดูกระจอก ไร้สกุลรุนชาติ หน้าด้าน แล้วก็ไร้ยางอายแบบมันนี่น่ะเหรอ ที่จะเป็นคนช่วยชีวิตท่านปู่ไว้?
คนอย่างมันมีความสามารถขนาดนั้นเชียวเหรอ?
“ใช่แล้ว! ท่านหมอหลินเป็นคนที่ช่วยชีวิตของฉันไว้ แกยังไม่รีบขอโทษท่านหมอหลินอีกงั้นเหรอ?” ถังหยวนซานตอบกลับด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“ผมไม่ขอโทษมัน!” ถังจินซ่งระเบิดอารมณ์คั่งแค้นออกมา และไม่สนใจอะไรอีก
จะให้ฉันขอโทษศัตรูอย่างมันนี่นะ? ไม่มีทาง! ฉันไม่มีวันทำแน่!
“หึ! เดี๋ยวนี้แม้กระทั่งคำสั่งของฉัน แกก็ไม่เชื่อฟังแล้วสินะ?”
ถังหยวนซานตวาดกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดังยิ่งกว่าเดิม ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยอารมณ์โกรธ และดูเหมือนจะไม่สามารถอดทนอดกลั้นได้อีกต่อไป
“ท่านปู่! ถ้าเป็นคนอื่นผมจะยอมขอโทษแต่โดยดี แต่ถ้าเป็นมัน.. ผมไม่ยอมขอโทษแน่! เพราะผมกับมันมีปัญหากันอยู่!” ถังจินซ่งยังคงโต้เถียง และไม่ยอมที่จะขอโทษหลินหนาน
“ฉันไม่สนใจว่าแกกับท่านหมอหลินจะมีปัญหาอะไรกัน แต่ฉันสั่งให้แกขอโทษท่านหมอเดี๋ยวนี้!”
ถังหยวนซานตวาดเสียงสั่น แววตาของเขาบ่งบอกถึงความเด็ดขาด และน้ำเสียงก็เย็นชาอย่างยากที่ใครจะกล้าขัดคำสั่งได้อีก
ถังจินซ่งหน้าตาบูดบึ้ง สีหน้ายุ่งเหยิบ บ่งบอกว่าเขาเองก็พร้อมที่จะแตกหักเช่นกัน!
ทำไม?!! ทำไมฉันต้องเป็นฝ่ายขอโทษมันด้วย?!
ฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกมันกลั่นแกล้งรังแก แล้วทำไมฉันต้องขอโทษมันด้วย?
นี่คุณปู่เห็นคนนอกดีกว่าหลานในไส้ของตัวเองหรือยังไง?
“แกจะขอโทษหรือไม่ขอโทษ?” ผู้เฒ่าตระกูลถังเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก แววตาของเขาประหนึ่งมีเปลวไฟกำลังลุกโชนอยู่
ถังชวงถึงกับกระสับกระส่าย และทำตัวไม่ถูก เขารู้จักนิสัยของผู้เป็นพ่อดี และรู้ว่าเวลานี้ถังหยวนซานใกล้จะหมดความอดทนแล้ว และขืนปล่อยให้ถังหยวนซานระเบิดออกมา ย่อมไม่เป็นผลดีต่อถังจินซ่งลูกชายของเขาแน่..
นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้ว!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ถังชวงจึงตวาดใส่ลูกชายเสียงดัง “จินซ่ง! แกเลิกดื้อ แล้วก็ขอโทษท่านหมอหลินเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นฉันจะทำโทษแกด้วยการไม่ให้แกเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลาหนึ่งปี แล้วก็จะระงับบัตรเครดิต และอายัดเงินในบัญชีของแกทั้งหมด!”
ถังจินซ่งถึงกับหายใจถี่เมื่อผู้เป็นพ่อยื่นคำขาดแบบนี้ ใบหน้าของเขาซีดเผือดคล้ายกับคนสิ้นหวัง
จะไม่ให้เขาหนักอกหนักใจได้อย่างไรกัน เพราะนั่นไม่ต่างจากการตัดเส้นเลือดใหญ่ของตัวเอง!
และเวลานี้ถังจินซ่งก็รู้สึกถึงแรงบีบคั้นอย่างหนัก!