ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 92
ตอนที่ 92 สะดุดตอ
โรงแรมมารีออทตั้งอยู่แถบชานเมืองของเมืองเจียงไฮว..
โรงแรมแห่งนี้นับเป็นโรงแรมหรูหรา ที่คนมีฐานะร่ำรวยนิยมมาใช้เวลาพักผ่อนในช่วงวันหยุด
เมื่อครั้งที่หลิวหยิงหยิงจะก่อสร้างโรงแรมแห่งนี้ขึ้น เธอเป็นผู้เลือกสถานที่ และทำเลทั้งหมดด้วยตนเอง และใช้เวลาในการสรรหาอยู่นานถึงปีกว่า
หลังจากได้ทำเลสำหรับก่อสร้างแล้ว ก็ต้องใช้เวลานานถึงสามปีในการออกแบบ และทำการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ ท้ายที่สุดโรงแรมแห่งนี้ก็เสร็จสิ้นด้วยเงินลงทุนกว่าสามพันล้านหยวน
อาจพูดได้ว่า.. นอกเหนือจากโกลเดนพาเลซแล้ว โรงแรมมารีออทแห่งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ทำเงินให้กับหลิวหยิงหยิงมากที่สุด
หลินหนานเรียกแท๊กซี่มาถึงโรงแรมมารีออท และหลังจากก้าวลงจากรถ ก็ทำให้เขาอดที่จะตกตะลึงไม่ได้..
ดูท่าพี่สาวคนนี้จะลงทุนทำอะไร คงจะเน้นที่ความหรูหราใหญ่โตเป็นหลักสินะ!
เพราะไม่ว่าจะเป็นน้ำพุหินขนาดใหญ่ หรือแม้แต่สวนกลางแจ้งของโรงแรม ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินจำนวนมากในการก่อสร้าง
ระหว่างทางที่เดินเข้ามาในโรงแรมนั้น หลินหนานรู้สึกว่า ตนเองกำลังเดินเข้าไปในงานมอเตอร์โชว์ที่มีการนำรถหรูมาแสดงเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นบูกัตติ เวย์รอนรุ่นลิมิเต็ด เฟอรารี่ แรมโบกินี หรือเบนท์ลีย์ ล้วนแล้วแต่จอดเรียงรายอยู่เต็มไปหมด
ไม่เพียงเท่านั้น ดูเหมือนแขกเหรื่อที่มาในงานคืนนี้ต่างก็แต่งตัวอย่างเป็นทางการ ผู้ชายสวมชุดสูท ผู้หญิงสวมเดรสยาวหรูหรา เห็นได้ชัดว่าแขกที่มาร่วมงาน ล้วนแล้วแต่เป็นคนระดับสูงทั้งสิ้น
หลินหนานไม่รู้ว่าหลิวหยิงหยิงรอเขาอยู่ส่วนไหนของโรงแรม จึงต้องการที่จะเดินเข้าไปสอบถามพนักงานต้อนรับ แต่เมื่อเขาไปถึงประตูทางเข้า กลับถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขวางไว้เสียก่อน
“ไม่ทราบว่ามาทำอะไรเหรอครับ?” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเอ่ยถามหลินหนาน
“ผมมางานเลี้ยง..” หลินหนานตอบกลับทันที
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้นั้น มองหลินหนานตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับทำสีหน้าประหลาดใจ นั่นเพราะชุดที่หลินหนานสวมใส่นั้น ดูคล้ายกับชุดลำลองเสียมากกว่า
แต่จะว่าไป ชุดที่เขาสวมใส่เวลานี้ ควรจะเรียกว่าชุดกีฬาบ้านๆจะเหมาะสมกว่า และรองเท้าที่สวมก็ยังเป็นรองเท้ากีฬาเก่าๆ ที่ดูเหมือนว่าจะผ่านการใช้งานมานานไม่ต่ำกว่าหนึ่งหรือสองปี
“ไม่ทราบว่าคุณมีบัตรเชิญมั๊ยครับ?” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเอ่ยถามต่อ
“ดูเหมือนจะไม่มี..” หลินหนานส่ายหน้าไปมา
ฉันเองก็เพิ่งจะถูกคนตามตัวมาที่นี่ จะมีบัตรชงบัตรเชิญอะไรกันเล่า?
“ขอโทษด้วยครับ ถ้าไม่มีบัตรเชิญ ทางเราก็ไม่สามารถให้คุณเข้าไปในงานได้! กรุณากลับออกไปได้แล้ว..” ครั้งนี้สีหน้าท่าทางของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูเหมือนจะเย็นชายิ่งกว่าเดิม
ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ และหญิงสาวที่ควงคู่มาในชุดเดรสยาว ก็เดินตรงเข้ามาที่ประตูโรงแรม
ใบหน้าของชายหนุ่มสดใสดูคล้ายกับเพิ่งจะผ่านการโกนหนวดโกนเครามา ดวงตาหรี่เล็กนั้นดูชั่วร้ายไม่น้อย ท้องของเขากลมใหญ่ราวกับจะระเบิดทะลุเสื้อสูทออกมาให้ได้
ส่วนหญิงสาวที่เดินมาด้วยนั้น ใบหน้าคมเฉี่ยวในแบบที่ผ่านมีดหมอมา รูปร่างของเธอสูงถึงหนึ่งเมตรเจ็ดสิบสองเซ็นติเมตร และด้วยรองเท้าส้นสูงที่สวมใส่ ทำให้ศรีษะของเธอสูงกว่าชายร่างอ้วนอย่างเห็นได้ชัด
ชุดเปิดไหล่ราตรีสีฟ้าที่หญิงสาวสวมใส่นั้น ได้เผยผิวขาวนวลดั่งหิมะออกสู่สายตาของผู้คนที่พบเห็น
“สวัสดีครับคุณจาง..”
หลังจากที่ได้เห็นชายคนนี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนอยู่หน้าประตูโรงแรม ก็รีบทักทายพร้อมกับยิ้มให้ทันที
“อืมม..”
ผู้ชายคนนี้ชื่อว่าจางจ้ง เขาเพียงแค่ส่งเสียงตอบรับอยู่ในลำคอ และเดินตรงเข้าไปในโรงแรมพร้อมกับผู้หญิงที่มาด้วย โดยไม่แม้แต่จะปรายตามองไปทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้นั้น
เมื่อหลินหนานเห็นทั้งคู่เดินเข้าไปในโรงแรมได้ง่ายๆเช่นนั้น เขาจึงได้แต่ขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยถามออกไปว่า
“พวกเขาก็ไม่มีบัตรเชิญนี่นา ทำไมยังเข้าไปได้?”
“นี่คุณไม่รู้จักประธานจางหรือยังไง? คุณจางเป็นเจ้าของธุรกิจมูลค่ามากกว่าร้อยล้านหยวน ใบหน้าของคุณจางก็แทนบัตรเชิญได้แล้ว ทำไมยังต้องขอดูบัตรเชิญอีกล่ะ?” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเบะปากในขณะที่ตอบหลินหนาน
“นี่คุณเลือกปฏิบัตินี่นา!” หลินหนานโวยวาย สีหน้าของเขาเริ่มไม่พอใจเล็กน้อย
ถ้าใบหน้าใช้แทนบัตรเชิญได้ ใบหน้าหล่อๆของฉันก็น่าจะใช้ผ่านทางได้ไม่ใช่เหรอ?
“เลือกปฏิบัติแล้วยังไง? ถ้าคุณไม่มีบัตรเชิญ ผมก็ไม่สามารถให้คุณเข้าไปได้จริงๆ! กรุณากลับออกไปได้แล้ว และกรุณาอย่ามาสร้างปัญหาที่นี่!” น้ำเสียงของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเย็นชามากยิ่งขึ้น
และดูเหมือนประธานจางจะได้ยินคำพูดของหลินหนาน เขาจึงหันกลับมามอง พร้อมกับร้องตะโกนถามออกไปด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“พ่อหนุ่ม นี่เธอมีปัญหากับฉันงั้นเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ! ผมกำลังต่อว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นี่ ที่เลือกปฏิบัติกับแขกตามรูปลักษณ์ภายนอก..” หลินหนานตอบกลับไปทันที
ประธานจางถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา พร้อมกับเอื้อมมือไปโอบเอวแฟนสาว..
ระหว่างที่เขาหัวเราะเสียงดังนั้น หน้าท้องใหญ่โตของเขาก็กระเพื่อมไปมา ทุกคนในที่นั้นต่างก็เป็นห่วงว่า กระดุมเสื้อจะกระเด็นหลุดออกมาเสียก่อน
“ประธานจางครับ อย่าไปสนใจผู้ชายคนนี้ดีกว่าครับ ผมจะจัดการไล่เขาไปเอง” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร้องบอกประธานจาง
“ไม่ต้อง.. ผมจะอธิบายให้เขาฟังเอง!”
หลังจากห้ามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้ว ประธานจางก็หันไปทางหลินหนาน พร้อมกับพูดยิ้มๆ
“พ่อหนุ่ม เธออยากจะรู้มั๊ยว่าทำไมฉันถึงเข้ามาได้โดยไม่ต้องใช้บัตรเชิญ?”
หลินหนานเพียงแค่พยักหน้า..
ประธานจางยกข้อมือข้างหนึ่งขึ้น พร้อมกับใช้มืออีกข้างชี้ไปที่นาฬิกาข้อมือของตนเอง แล้วจึงบอกกับหลินหนานว่า
“นาฬิกาโรเล็กซ์ของฉันเรือนนี้ ราคามากกว่าแปดแสนหยวน!”
“ส่วนชุดสูทและรองเท้าหนังที่ฉันสวมอยู่ ก็สั่งตัดมาเป็นพิเศษ ทั้งสองอย่างรวมกันมูลค่ามากกว่าสามแสนหยวน..”
“และรถโรลลอยซ์ที่ฉันขับมา ราคาก็มากกว่าสามล้าน..”
หลังจากอวดทรัพย์สินทั้งหมดของตนเองแล้ว ในที่สุดประธานจางก็หันไปตบบั้นท้ายของหญิงสาวที่มาด้วยเบาๆ พร้อมกับพูดขึ้นว่า
“และนี่.. น่าจะเป็นของราคาแพงที่สุด เพราะฉันต้องให้เงินเธอใช้ปีละหลายๆล้านเลยทีเดียว..”
หลังจากพูดจบ ประธานจางก็ยิ้มให้กับหลินหนานอีกครั้ง พร้อมกับถามขึ้นว่า “คราวนี้เธอเข้าใจแล้วใช่มั๊ยว่า ระหว่างเธอกับฉัน พวกเราสองคนแตกต่างกันยังไง?”
“ผมไม่เข้าใจ!” หลินหนานตอบกลับพร้อมกับส่ายหน้าไปมา
“เงิน! เพียงแค่มีเงินมากกว่า มันทำให้คุณกับผมแตกต่างกันขนาดนี้เชียวเหรอ?”
“ใช่! เพราะถ้ามีเงิน เธอก็สามารถทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าไม่มีเงิน เธอก็จะไม่ต่างจากสวะข้างถนน.. คราวนี้เธอเข้าใจหรือยังล่ะพ่อหนุ่ม?”
หลังจากพูดจบ ประธานจางก็ควักซิการ์ออกมาสูบ หญิงสาวข้างกายเขา จึงรีบกุลีกุจอช่สนจุดซิการ์ให้ทันที
ประธานจางดูดซิการ์ พร้อมกับพ่นควันใส่หน้าหลินหนาน..
นับเป็นเรื่องสำคัญที่คนประสบความสำเร็จอย่างเขา จะต้องสั่งสอนชายหนุ่มที่อ่อนต่อโลกอย่างหลินหนาน ให้ได้รับบทเรียนเสียบ้าง..
หลินหนานฟังแล้วก็ได้แต่หัวเราะออกมาเสียงดัง แล้วจึงตอบประธานกลับไปอย่างท้าทาย
“ใช่ว่าเงินจะสามารถบันดาลทุกอย่างได้ อย่าลืมว่าบางอย่างเงินก็ซื้อไม่ได้ และบางสิ่งบางอย่าง แม้ไม่มีเงินก็ทำได้!”
“งั้นเหรอ?! ถ้าอย่างนั้นก็ลองยกตัวอย่างให้ฉันฟังหน่อยสิ!” ประธานจางแสร้งทำเป็นเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ
“คุณคอยดูให้ดี.. ผมจะทำให้คุณเห็นว่า ผมสามารถเข้าไปในโรงแรมได้ โดยไม่ต้องใช้บัตรเชิญเช่นเดียวกับที่คุณทำ!” หลินหนานเอ่ยตอบ
“ว้าว.. งั้นก็ลองทำให้ฉันดูหน่อยสิ!” ประธานจางร้องบอกพร้อมกับผายมือเชื้อเชิญหลินหนาน
ในเวลานั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ได้พูดขึ้นมาว่า “ประธานจางครับ อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของเขาดีกว่าครับ ไม่ว่ายังไงผมก็คงให้เขาเข้าไปไม่ได้แน่ ถ้าไม่มีบัตรเชิญ!”
“อย่างด่วนสรุปแบบนั้นสิ! เธอควรจะต้องเชื่อเขาบ้าง โลกของเรามักจะมีปาฏิหารย์เกิดขึ้นเสมอไม่ใช่เหรอ?”
ประธานจางแสร้งทำเป็นใจกว้างให้โอกาสหลินหนาน แต่ความจริงแล้ว เขาต้องการบีบให้หลินหนานแสดงความโง่ออกมา และยิ่งหลินหนานแสดงออกมากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งขายหน้ามากขึ้นเท่านั้น..
หลิงหนานยิ้มออกมาเล็กน้อย พร้อมกับล้วงกระเป๋าเงินเก่าๆออกมา ก่อนจะหยิบบัตรใบหนึ่งออกมายื่นให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนเดิม
“เอาล่ะ.. ฉันคงจะเข้าไปได้แล้วสินะ?”
“นี่มันบัตร.. คุณ..”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นถึงกับตัวแข็งราวกับถูกสาป และถึงกับติดอ่างจนไม่สามารถพูดออกมาได้ สีหน้าของเขาเวลานี้บ่งบอกว่ากำลังตกใจสุดขีด!
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?!!
เป็นไปได้ยังไงกัน?! ทำไมคนแบบนี้ถึงได้มีบัตรนี้?!!
ซวยแล้ว!! นี่ฉันเดินสะดุดตอเข้าเต็มๆเลยสินะ!
“เกิดอะไรขึ้น? ตกใจอะไรขนาดนั้น? แล้วนั่นมันบัตรอะไร?” ประธานจางหันไปถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพร้อมกับยิ้มหยัน
“นี่.. นี่เป็นบัตรดำทองระดับซุปรีมครับ!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนายนั้นถึงกับกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก และเวลานี้ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นซีดขาว และเศร้าหมอง
จบเห่แน่คราวนี้!