ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 97
ตอนที่ 97 มาได้ยังไง?
แม้ว่าหยวนเฟิงจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับอาไห่ แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้เป็นรองมากนัก และเขาก็มั่นอกมั่นใจอย่างยิ่งว่า จะสามารถจัดการกับคนอ่อนหัดอย่างหลินหนานได้อย่างสบาย
แต่ช่างน่าเสียดายนัก ที่ครั้งนี้หยวนเฟิงกลับตาไม่ถึง จึงทำให้เกิดความมั่นอกมั่นใจแบบผิดๆ!
ก่อนที่กำปั้นของหยวนเฟิงจะทันได้สัมผัสกับใบหน้าของหลินหนาน รองเท้ากีฬาเบอร์ 42 ก็ได้กระแทกเข้าใส่ร่างของหยวนเฟิงเสียก่อน แล้วร่างของเขาก็ถูกลูกถีบของหลินหนานเข้าอย่างแรง จนลอยละลิ่วออกไปกลางอากาศ
ส่วนบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลังนั้น ยังไม่ทันที่จะได้เข้าไปช่วย ก็ถูกร่างของหยวนเฟิงที่ลอยละลิ่วออกไปกลางอากาศ กระแทกเข้าใส่จนล้มระเนระนาดกองกับพื้นไปเช่นกัน
ร่างของหยวนเฟิงลอยละลิ่วออกไป ไม่ต่างจากว่าวที่หลุดจากเชือก..
แต่ในระหว่างที่ร่างของเขาลอยละลิ่วจนเกือบจะออกนอกประตูโรงแรมไปนั้น จู่ๆ ร่างของใครคนหนึ่งก็เดินสวนเข้ามา และรีบก้าวตรงไปหาร่างของหยวนเฟิง พร้อมกับตวัดมือทั้งสองข้างไปมาอย่างรวดเร็ว
แล้วฝ่ามือที่มีพลังนุ่มนวล และอ่อนโยนราวกับสายน้ำนั้น ก็ได้รับร่างของหยวนเฟิงไว้ได้ ในขณะที่ฝ่ามืออีกข้างที่โบกสะบัดไปมาอยู่กลางอากาศนั้น ก็ได้ซัดเข้าใส่ร่างของหลินหนานที่อยู่ตรงหน้า
หลินหนานเองก็ไม่รอช้า เขากำหมัดไว้แน่น พร้อมกับซัดกำปั้้นเข้าใส่ฝ่ามือที่พุ่งเข้าหาตนอย่างรวดเร็วเช่นกัน!
ปัง!
หนึ่งหมัดปะทะกับหนึ่งฝ่ามือ เกิดเป็นเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งโรงแรม..
ในวินาทีนั้น พลังปราณจากจุดตันเถียนของหลินหนาน ก็ได้พวยพุ่งออกจากท้องน้อย เคลื่อนไปตามเส้นลมปราณสู่กำปั้นของเขาอย่างรวดเร็ว
และเวลานี้ ดูเหมือนพายุลมปราณจากกำปั้นของหลินหนาน ก็ได้ปกคลุมฝ่ามือของอีกฝ่ายไว้จนหมด.
กร๊อบ.. กร๊อบ..
เสียงกระดูกลั่นดังขึ้นพร้อมกันถึงสองครั้ง ทำให้อีกฝ่ายถึงกับตกใจจนต้องผงะถอยหลังไปสองสามก้าว!
ชายผู้นั้นวางร่างของหยวนเฟิงลงกับพื้น ในขณะที่ปากก็ร้องตะโกนออกไปว่า “กำลังภายในแข็งแกร่งมากทีเดียวนี่!”
“ก็งั้นๆล่ะ!” หลินหนานตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจนัก
สายตาของหลินหนานจับจ้องอยู่ที่ร่างชองชายที่เพิ่งเดินเข้ามา และพบว่าชายชราอายุราวห้าสิบปีผู้นี้มีร่างกายผอมบาง แววตาเป็นประกาย ขมับสองข้างปูดออกมาเล็กน้อย
จากสีหน้าท่าทางของชายชราผู้นี้ บ่งบอกชัดเจนว่าเป็นผู้ที่ผ่านฝึกฝนกำลังภายในมาไม่น้อย!
“คุณจาง นี่ลมอะไรพัดคุณมาถึงที่นี่?” หลิวหยิงหยิงฝืนยิ้ม พร้อมกับร้องทักทาย แต่แววตานั้นกลับเย็นชายิ่งนัก
ชายชราผู้นี้ชื่อว่าจางเฉิง.. เขาคือหนึ่งในสามพยัคฆ์แห่งลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงและฮวงโห!
แต่วันนี้ กลับเดินทางมาถึงที่นี่ด้วยตนเอง!
และผู้ที่ได้ฉายาพยัคฆ์ทั้งสามนั้น หนึ่งในนั้นก็คือเสิ่นวู๋เตา ส่วนอีกสองคนก็คือหลิวจื่อหยาน และจางเฉิง
เมื่อก่อนนี้.. ทั้งสามคนนับเป็นผู้ที่มีอิทธิพล และยิ่งใหญ่มากในโลกธุรกิจใต้ดินของเมืองเจียงไฮว เรียกได้ว่าไม่มีผู้ใดที่ทรงอิทธิพลเท่าสามคนนี้อีกแล้ว จึงได้ฉายาว่าสามพยัคฆ์
แต่ด้วยนิสัยที่ตรงไปตรงมา และทำอะไรเปิดเผยของเสิ่นวู๋เตา ทำให้เขาได้สร้างศัตรูให้ตนเองไว้อย่างมากมาย ประกอบกับธุรกิจในมือของเขานั้นเติบโต และรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว ทำให้คนที่ได้รับผลกระทบเริ่มไม่พอใจ
ทั้งหมดจึงได้รวมหัว และร่วมมือกันล้มล้างอำนาจอิทธิพล และบารมีของเสิ่นวู๋เตา!
และในครั้งนั้น ผู้ที่ลงมือแทงเสิ่นวู๋เตาก่อนใครๆ ก็คือจางเฉิงผู้นี้นั่นเอง!
“เถ้าแก่หลิว! อย่าให้มันเกินไปนัก คุณก็รู้ว่าหยวนเฟิงเป็นคนของผมแล้วเวลานี้ ทำไมยังกล้าทำร้ายเขาแบบนี้ด้วย?” จางเฉิงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หยวนเฟิงถูกหลินหนานถีบกระเด็นจนลอยละลิ่วออกไปกลางอากาศ และเวลานี้มุมปากของเขาก็ยังมีเลือดสีแดงไหลออกมาไม่หยุด
และหากจางเฉิงเข้ามาช่วยไว้ไม่ทันเวลา แน่นอนว่าหยวนเฟิงจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส จนถึงกับต้องไปนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียงแน่ๆ
“อ่อ.. ที่แท้คนผู้นี้ก็คือหยวนเฟิงงั้นรึ? ฉันคิดว่าเป็นสุนัขปากเปราะตัวหนึ่งซะอีก..” หลิวหยิงหยิงตอบกลับไป พร้อมกับหัวเราะคิกคัก
สีหน้าของจางเฉิงเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวจนน่าเกลียด เมื่อได้ยินคำตอบของหลิวหยิงหยิง!
“หึ! ต่อให้เป็นสุนัข ก็ยังมีคำพูดว่า จะตีสุนัขก็ต้องดูเจ้าของมันด้วย! หยวนเฟิงเป็นคนของผม ไม่ได้เป็นลูกน้องของคุณแล้ว การที่เถ้าแก่หลิวทำเช่นนี้ ไม่เท่ากับว่าจงใจที่จะเรื่องผมงั้นรึ?” จางเฉิงตอบกลับด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง
“อ่อ.. ที่แท้เขาก็เป็นสุนัขจริงๆสินะ! ตอนแรกฉันเองก็ไม่มั่นใจนัก แต่ในเมื่อคุณจางยืนยันด้วยตัวเองแบบนี้ ฉันก็จะได้มั่นใจ!” หลิวหยิงหยิงแสร้งทำเป็นยกมือขึ้นปิดปาก พร้อมกับหัวเราะคิกคักในขณะที่ตอบโต้กลับไป
เดิมทีหยวนเฟิงเพียงแค่โมโหที่ถูกด่าว่าเป็นสุนัข แต่เวลานี้จางเฉิงเรียกเขาว่าสุนัขอย่างเต็มปากเต็มคำเช่นนี้ ทำให้หยวนเฟิงแทบกระอักเลือด
ในสายตาของจางเฉิง.. เขาก็เป็นเพียงแค่สุนัขตัวหนึ่งเท่านั้น!
“เถ้าแก่หลิว อย่าผยองอวดดีไปนัก! อย่าคิดว่ามีคนดีมีฝีมือมาช่วยงานแบบนี้ จะทำอะไรตามใจชอบก็ได้!” จางเฉิงกัดฟันกรอด
“อ่อ.. ดูเหมือนคุณจางก็กลัวเป็นเหมือนกันสินะ?”
หลิวหยิงหยิงจงใจเอนกายไปทางหลินหนาน พร้อมกับกระซิบบอกเขา ใบหน้างดงามนั้นเผยให้เห็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์อย่างมาก..
เวลานี้หลิวหยิงหยิงรู้สึกมีความสุข และสนุกอย่างมาก!
ตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้น เธอต้องตกเป็นฝ่ายที่ต้องอยู่ภายใต้แรงกดดันของชายกลุ่มนี้ ที่กระจายอำนาจอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งมาโดยตลอด
แต่ครั้งนี้ หยวนเฟิงลูกน้องของเขา กลับถูกหลินหนานซ้อมจนได้รับบาดเจ็บต่อหน้าต่อตาจางเฉิง เช่นนี้แล้วจะไม่ให้เซิ่งหยิงหยิงรู้สึกดีได้อย่างไรกันเล่า..
และเวลานี้ เธอก็รู้สึกว่าเธอเลือกคนได้ถูกต้องยิ่งนัก!
“อย่ายะโสให้มากนักเถ้าแก่หลิว ระวังว่าก้อนหินที่คุณถืออยู่ มันจะหล่นใส่เท้าตัวเองล่ะ..” จางเฉิงทำเสียงขึ้นจมูกด้วยความไม่พอใจ และสีหน้าของเขาก็เย็นชายิ่งกว่าเดิม
หยวนเฟิงพยุงร่างที่บาดเจ็บของตนเองลุกขึ้น และไปยืนอยู่ด้านหลังของจางเฉิง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความโกรธแค้น
“คุณจาง คุณต้องล้างแค้นให้ผมด้วย ผู้หญิงแซ่หลิวคนนี้กล้าทำร้ายผม และฉีกหน้าคุณกลางที่สาธารณะ!”
และในฐานะสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของจางเฉิง หยวนเฟิงยอมให้เรื่องนี้จบเพียงแค่นี้ไม่ได้แน่!
“ฉันรู้แล้ว!” จางเฉิงตอบเพียงสั้นๆ
“ท่านจาง.. ช่วยแก้แค้นให้ผมด้วย!” หยวนเฟิงโอดครวญเพื่อให้จางเฉิงช่วยแก้แค้นให้กับตนเอง
“แกหุบปากได้แล้ว!” จางเฉิงตวาดหยวนเฟิงด้วยความหงุดหงิดรำคาญ
แต่เมื่อเห็นเจ้านายแสดงอารมณ์โกรธเกรี้ยวออกมาเช่นนี้ หยวนเฟิงก็รีบหุบปากทันที และในฐานะที่เป็นสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ เขาย่อมรู้ดีว่าเวลาไหนควรจะพูดเอาความดีความชอบเข้าตัว และเวลาไหนควรจะต้องเชื่อฟัง
ไม่เช่นนั้น หากเจ้านายของเขาโมโหขึ้นมา จะไม่โยนกระดูกให้เขากิน!
“แกรู้มั๊ยว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นอะไรกับเถ้าแก่หลิว?” จางเฉิงกระซิบถามหยวนเฟิงเสียงเบา
“ผมเองก็ไม่แน่ใจครับ! แต่จากท่าทางที่ทั้งคู่แสดงออกต่อกัน ผมว่าชายหนุ่มคนนี้น่าจะเป็นคู่นอนของเถ้าแก่หลิว!” หยวนเฟิงกระซิบตอบเสียงเบาเช่นกัน
“คู่นอน?!” จางเฉิงพึมพำออกมาพร้อมกับตาโตด้วยความตกใจ
“เอาล่ะ.. แกอย่าเพิ่งกระโตกกระตาก และพูดเรื่องนี้ออกไป รอให้ฉันบอกเรื่องนี้กับคุณหยางก่อน เดี๋ยวเขาก็จะมางานเลี้ยงในคืนนี้เหมือนกัน!” จางเฉิงกระซิบตอบ
“คืนนี้คุณหยางจะมาด้วยเหรอครับนายท่าน?”
หยวนเฟิงกระซิบถาม พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข และเวลานี้ภาพของชายสง่างามผู้หนึ่งก็ปรากฏขึ้นในห้วงความคิดของเขา!
คุณหยางแห่งเมืองเจียงไฮวที่จางเฉิงพูดถึงนั้น เขาเปรียบเสมือนหัวของมังกรตัวใหญ่ และเป็นหนึ่งในสามของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเจียงไฮว
หากเขามางานเลี้ยงคืนนี้จริงๆ วันนี้จะต้องกลายเป็นวันที่เลวร้ายอีกหนึ่งวันของเถ้าแก่หลิวเป็นแน่!
“ใช่! ฉันเป็นคนเชิญมาเอง ใครจะรู้ว่านังหญิงแพศยาคนนี้คิดจะทำอะไรบ้าง? จู่ๆ ก็จงใจที่จะเลือกให้มีงานเลี้ยงขึ้นในวันที่ตรงกับวันตายของเสิ่นวู๋เตาแบบนี้!” จางเฉิงยิ้มกว้าง
“วันนี้นางผู้หญิงคนนี้คงต้องไม่รอดแน่สินะครับเจ้านาย!” หยวนเฟิงกระซิบตอบพร้อมกับหัวเราะออกมา
ในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังซุบซิบกันอยู่นั้น เสียงของหลินหนานก็ดังขึ้น..
“นี่!! ไม่ต้องอายหรอกน่า ถ้าเจ็บก็ร้องออกมาได้!”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหลินหนาน ร่างกายของจางเฉิงก็ถึงกับสั่นสะท้าน เพราะจู่ๆ ความเจ็บปวดยิ่งยวดก็ปรากฏขึ้นที่ข้อมือของตน และเมื่อเขายกขึ้นมาดู ก็ถึงกับตกใจอย่างมาก เพราะเวลานี้ฝ่ามือข้างที่ปะทะกับหมัดของหลินหนานนั้น ได้บวมเปล่งเหมือนกับซาลาเปา
ไม่เพียงแค่ฝ่ามือที่บวมเปล่ง แต่ทั้งฝ่ามือและหลังมือของเขา ล้วนกลายเป็นสีเขียวช้ำไปหมด บ่งบอกว่าได้รับบาดเจ็บไม่น้อยทีเดียว!
“ฮึ่ม!!”
จางเฉิงร้องคำรามออกมา และเดินเข้าไปภายในห้องจัดเลี้ยงทันที โดยไม่แม้แต่จะหันไปมองหลินหนาน
“เป็นไงบ้างเถ้าแก่หลิว? ผมเปิดงานได้ยอดเยี่ยมมั๊ยครับ?” หลินหนานเพื่อขอคำชม พร้อมกับยิ้มกว้าง
“ไม่เพียงแค่ยอดเยี่ยม! แต่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติต่างหาก..”
หลิวหยิงหยิงหันไปตอบ พร้อมกับยิ้มให้หลินหนาน ในขณะที่ในใจนั้นกลับคิดไปถึงภาพที่หลินหนานกำลังสังหารศัตรูของเธอ
“เถ้าแก่หลิว.. ดูท่าทางคุณจะมีความสุขมากเลยสินะ?”
เสียงที่เย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็งของใครบางคนดังขึ้น และเพียงแค่ได้ยิน ก็ทำให้หลิวหยิงหยิงนึกถึงใบหน้าดุดัน และเย็นชาของใครบางคน สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพึมพำออกมาว่า
“ไม่นะ! เขามาได้ยังไง?”