วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~ - ตอนที่ 6 ผมปกตินะ
“นี่มันหมายความว่าอย่างไร!? ทำไมนายถึงใช้ฟันดาบคู่ได้?”
เจ้าผมแดงเดินเข้ามาใกล้ๆ
“ผมก็ฝึกมันนะสิ”
“อย่าพูดไร้สาระนะ สกิลมันไม่ใช่อะไรที่นายจะฝึกหรือเรียนได้!”
ก็เหมือนจะเป็นอย่างนั้น
แค่ผมก็ทำมันได้สำเร็จนะ
“การที่จะใช้สกิลได้ นายก็ต้องมีสกิลก่อนสิ!”
“แน่นอน ปกติแล้วไม่มีใครที่ฟันพร้อมกันได้หรอก เพราะอย่างงั้นดาบของผมมันจึงดีเลย์เล็กน้อย”
“จริงไหมล่ะ?”
“ดังนั้นผมจึงเพิ่มความเร็วในการฟันให้มากขึ้น”
“ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลย!?”
เจ้าผมแดงพยายามที่จะจับที่หัวตัวเอง แต่เพราะเขารู้สึกเจ็บที่แขน เขาจึงแสดงสีหน้ายอมแพ้ออกมาแทน
“เอ๊ะ…”
“เป็นอะไรไป นายลืมเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์มาเหรอ?”
มีอยู่ 2 วิธีที่จะฟื้นฟูพรคุ้มกัน
วิธีแรกคือรอให้มันฟื้นฟูเองตามธรรมชาติ
และอีกวิธีคือดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์
น้ำศักดิ์สิทธิ์สามารถหาได้ที่โบสถ์ทั่วไป
มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องพกไปด้วยเวลาที่ออกนอกเมือง แต่ดูเหมือนเขาจะทำมันแตกตอนที่ต่อสู้กับฮ็อบก็อบลิน
เขาดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ผมให้ไป และเมื่อเราใกล้ถึงเมือง พรคุ้มกันของเจ้าผมแดงก็ฟื้นกลับคืนมา
และเมื่อพรคุ้มกันฟื้นฟูแล้ว มันจะช่วยรักษาบาดแผลที่ได้รับ หรือก็คือ บาดแผลจะสมานตัวเอง
“บาดแผลเป็นอย่างไรบ้าง?”
“…มันดีขึ้นมากแล้ว”
“อย่างนั้นเหรอ…อืมงั้นเอาไว้วันหลังดีกว่า”
“นายพูดเรื่องอะไร”
“ไม่ แค่คิดว่าจะมาดวลด้วยสักหน่อย แต่ดูจากสถานการณ์แล้ว เอาไว้วันหลังดีกว่า”
ที่ผมต่อสู้กับก็อบลินเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการดวลกับเจ้าผมแดง
ผมเป็นพวกเกลียดความพ่ายแพ้ล่ะนะ
ไม่ชอบเลยที่แพ้
“โอ้! …ไม่เป็นไร! ถ้าจะมาดวลก็มาเลย ฉันรับคำท้า”
เจ้าผมแดงชักดาบออกมา
“แน่ใจแล้วหรอ? เอาไว้วันหลังก็ได้”
“ไม่เป็นไร บาดแผลก็หายแล้ว”
เจ้าผมแดงแกว่งดาบไปมาเพื่อแสดงให้ดูว่าสบายดีแล้ว
“จริงนะ”
อย่างน้อมผมก็ไม่ต้องมานัดวันดวลใหม่
ถ้าผมไม่บังเอิญไปเจอเขาในป่า ผมก็ต้องมุ่งหน้าไปที่ป้อมทหารยามเพื่อถามหาบ้านเจ้าผมแดง
ผมไม่รู้ว่าบ้านเจ้าผมแดงอยู่ที่ไหน ถึงแม้ว่าเราจะอาศัยอยู่ในเมืองเดียวกัน
“ถึงแม้นายจะใช้ฟันดาบคู่ได้ก็เถอะ ฉันจะต้องชนะ! เพราะว่าฉันเป็นนักดาบ ไม่มีทางที่จะแพ้ให้ไร้อาชีพอย่างนายหรอก”
เจ้าผมแดงยืนยันเช่นนั้นและถือดาบขึ้นมา
ผมเลยชักดาบขึ้นมา เพื่อเผชิญหน้ากับเขา
“เอาล่ะนะ! ฟันดาบคู่!”
เขาปล่อยสกิลโจมตีออกมาโดยไม่ให้ทันตั้งตัว
คมดาบพุ้งเข้ามาจากทั้ง 2 ด้านในเวลาเดียวกกัน
แน่นอนว่ามันเป็นการโจมตีแบบเดิม
“ฟันดาบคู่!”
แก๊ง! เสียงดาบกระทบกันดังไปทั่ว ดาบของเจ้าผมแดงถูกดีดออกไป
ผมไม่ได้ใช้ฟันดาบคู่เพื่อโจมตี แต่ใช้เพื่อป้องกัน
แต่ว่ามันยังไม่จบ
แก๊ง!
“อ๊ะ…”
เจ้าผมแดงมองไปรอบๆด้วยความประหลาดใจ
เพราะการโจมตีครั้งที่3 ฟาดเข้าไปที่ไหล่
“…อะ อะไร…? การโจมตีเมื่อกี้คืออะไรกัน”
ฟันดาบคู่ของฉันไม่ใช่สกิล หรือจะให้พูดก็คือ มันไม่จำเป็นต้องฟันสองครั้งก็ได้
อย่างไรก็ตามการโจมตีครั้งที่ 3 ของผมยังไม่ถึงขั้น มันยังช้ากว่าการโจมตี 2 ครั้งแรกอยู่
“ปะ เป็นไปไม่ได้… นี่มันอะไรกัน มันไม่มีทางเป็นไปได้”
“อืม งั้นเดียวจะแสดงให้ดูอีกทีก็แล้วกัน“
หลังจากผมล้างแค้นเจ้าผมแดงได้สำเร็จ ผมก็กลับบ้าน
“อาระ ยินดีต้องรับกลับบ้านจ๊ะ อาเรลจัง”
“แม่ ผมมีอะไรอยากจะขอหน่อย”
“อะไรเหรอจ๊ะ?”
“ผมขอดูสกิลที่แม่มีทั้งหมดหน่อย”
“ทำไมเหรอจ๊ะ?”
“ผมอยากเรียนสกิล”
ตอนนี้ผมสามารถเรียนฟันดาบคู่ที่เป็นสกิลของนักดาบได้แล้ว
ถ้าอย่างนั้นผมน่าจะเรียนสกิลอื่นได้เหมือนกัน
ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ
ในตอนที่ผมกำลังคิดอยู่ แม่ก็เข้ามากอดผม
“ขอโทษนะอาเรลจัง… ลูกจะต้องเศร้ามากแน่เลย…”
“แม่?”
“ขอโทษที่แม่ไม่รู้นะจ๊ะ… แม่เป็นแม่ที่แย่จริงๆ…”
“แม่กำลังพูดเรื่องอะไรนะ”
“ถึงแม้ว่าลูกจะดูเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ลูกก็ยังอายุแค่ 10 ขวบ… แม่จะคอยอยู่ข้างๆลูกเสมอนะ”
อืม ดูเหมือนว่าแม่จะคิดว่าฉันเฟ้อไปแล้ว เพราะว่าฉันกลายเป็นคนไร้อาชีพ
“ผม ผมยังปกติดี”
“ฮือ ฮือ แม่รู้จ๊ะ แม่จะอยู่ข้างอาเรลจังเสมอนะ”
แบบนี้ไม่ดีแน่
ทางที่เร็วที่สุดคือแสดงให้เห็นเลยดีกว่า
เมื่อผมหลุดออกมาจากอ้อมกอดแม่ได้ ผมก็มุ่งหน้าไปที่สวน
“แม่ดูนี่นะ”
“แน่นอนจ๊ะอาเรลจัง แม่จะคอยดูลูกอยู่เสมอนะ”
ผมคิดว่าแม่แปลกมากเลยล่ะ
เอาละนะ
“ฟันดาบคู่”
การฟันทั้ง 2 ครั้งตัดอากาศในเวลาเดียวกัน
“แม่คิดว่าไงบ้าง?”
ถึงแม้ว่าคนธรรมดาจะมองด้วยตาไม่ทัน แต่ถ้าเป็นแม่ แม่จะต้องเข้าใจแน่ว่าเป็นฟันดาบคู่
“…เอ๋ แปลกจัง ทำไมถึงรู้สึกว่าอาเรลจังพึ่งใช้ฟันดาบคู่ไป… ไม่สิ มันไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือว่ามันจะเป็นความฝัน…ใช่ มันต้องเป็นความฝันแน่แน่เลย แต่ถ้าจะฝันแบบนี้ แสดงว่าฉันรับไม่ได้ที่อาเรลจังไร้อาชีพ…? อา ฉันเป็นแม่ที่แย่จริงๆเลย”
“แม่ มันไม่ใช่ความฝันนะ”
แม่ค้างไปสักครู่ มันก็เป็นเรื่องปกติล่ะนะ
ผมหยิกแก้มของแม่
“จะ เจ็บนะ?”
“นี่ไม่ใช่ความฝัน ผมพยายามเลียนแบบฟันดาบคู่ มันใช้เวลาประมาณ 1 เดือนได้”
“จริงเหรอ”
แม่ผมตาเบิกกว้างเพราะไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น ในที่สุดเธอก็วิ่งเข้าไปในบ้าน
“พ่อจ๋า พ่อจ๋า อาเรลจังเป็นอัจฉริยะจริงๆด้วย”
ไม่ไหว ไม่ไหว
เสียงดังเหมือนทุกทีเลย
Note : ถ้าใครต้องการสนับสนุนค่าไฟหรือค่ากาแฟสามารถโดเนทได้ตามด้านล่างครับ