วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~ - ตอนที่ 68 ไม่มีทาง ตัวข้าคนนี้
หลังจากจบงานนำเสนอผมก็เลื่อนชั้นได้สำเร็จ
ปกติแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้เลื่อนชั้น ถ้าไม่ได้นำเสนอด้วยตัวเอง
ซึ่งมันเป็นอะไรที่เสียเปล่ามาก แต่หลังจากกดดันอาจารย์ร็อคอย่างหนัก และพูดว่า”ผมอยากจะเข้ากลุ่มงานวิจัยของคุณมากๆเลยครับ!” ผมก็เลยสามารถเลื่อนชั้นได้
และด้วยเหตุนี้เขาจึงช่วยผม
ดังนั้นผมจึงต้องเข้ากลุ่มงานวิจัยของอาจารย์ร็อคเวลโดยอัตโนมัติ
มันเป็นศูนย์วิจัยที่เน้นเกี่ยวกับโกเลม ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ตัวเลือกที่แย่นัก
“บอกวิธีสร้างโกเลมแบบใหม่หน่อยสิ” (ร็อคเวล)
เขาไม่ละอายใจกับชื่อเสียงที่ขโมยผลงานวิจัยของนักศึกษา และเขาก็ไม่มีเจตนาจะปิดบังด้วย
“โอเค มันยังมีอยู่อีกสี่ตัวนอกจากอัลฟ่า คือเบต้า แกมม่า เดลต้า และเอปซิลอน” (อาเรล)
“!?” (ร็อคเวล)
ผมขยับโกเลมทั้งห้าพร้อมกัน ร็อคเวลก็จ้องพวกมันอย่างไม่ละสายตา และคร่ำครวญออกมา
“น-นั่นมันสุดยอดมากเลย”
ข้อกำหนดในการเลื่อนชั้นของสถาบันสีขาว นั้นคล้ายคลึงกับข้อกำหนดของสถาบันสีแดง
คือต้องได้รับการแนะนำจากอาจารย์ สอบเขียนและภาคปฏิบัติ
แต่ที่แตกต่างก็คือ จะมีสอบปฏิบัติเพิ่มเติมหลังจากนี้
ผมผ่านการสอบข้อเขียนและปฏิบัติแล้ว แต่ว่าการสอบปฏิบัตินั้นต้องใช้เวลาพอสมควรเลย
เนื่องจากเป็นการทดสอบแบบพิเศษของห้องวิจัย ถ้าหากสามารถผ่านได้ ก็ได้จะเข้าห้องวิจัยนั้นไปโดยอัตโนมัติ
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง ผมก็เลือกห้องวิจัยที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเวทมนตร์แสง
“สวัสดี ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันขอแนะนำตัวเองก่อนนะค่ะ ฉันชื่อคาเอเดะ ฉันมาที่นี่ เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้คุมสอบของเธอ” (คาเอเดะ)
เธอชื่อว่าคาเอเดะ เธอมีอายุประมาณ 20 ปี เธอมีผมสีดำที่สวยงามยาวเป็นประกาย
ดูเหมือนเธอจะมาจากตะวันออก และอาชีพของเธอก็คือมิโกะ ซึ่งเป็นอาชีพระดับสูง
มิโกะเป็นอาชีพที่สามารถเรียนรู้เวทสีขาวได้ และดูเหมือนว่าเธอจะเดินทางมาจากแดนไกลเพื่อมาเรียนรู้ที่สถาบันแห่งนี้
ซึ่งตอนนี้เธอดูเหมือนจะเป็นนักเรียนระดับท็อปของชั้นปีที่หนึ่ง
นักเรียนระดับท็อปของชั้นปีที่หนึ่งจะได้รับห้องวิจัยเป็นของตัวเอง ซึ่งก็เป็นห้องวิจัยที่จะได้รับเมื่อขึ้นไปชั้นปีที่สอง ซึ่งมันเหมือนกับตำแหน่งที่อยู่ตรงกลางระหว่างอาจารย์และนักเรียน
ห้องทดลองของเธอนั้นเป็นที่ที่ผมอยากจะอยู่ และเธอก็เป็นเหมือนอาจารย์ของที่นั่น และเป็นผู้คุมสอบผม
“ขอบคุณมาก แต่ว่าเธอมองไม่เห็นงั้นเหรอ?” (อาเรล)
“ใช่แล้วค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลไป” (คาเอเดะ)
เธอหลับตาของเธอตลอดเวลา
ดูเหมือนว่าเธอนั้นจะตาบอด
“ถ้าหากสัมผัสถึงพลังเวทมนตร์ได้ คุณก็จะสามารถใช้ชีวิตแบบปกติได้ แม้ว่าจะตาบอดก็ตาม ที่จริงฉันก็ดีใจนะที่ตาบอด เพราะว่ามันทำให้ฉันสามารถมองเห็นได้ลึกยิ่งขึ้นไปอีก” (คาเอเดะ)
เธอยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ถ้าหากฉันมองดูพลังเวทของเธอ ฉันก็จะสามารถระบุได้ว่าคุณเป็นคนแบบไหน—-!?” (คาเอเดะ)
ทันใดนั้นเธอก็หายใจเข้าเฮือกใจราวกับว่าประหลาดใจกับบางสิ่งบางอย่าง
“เช่น….เหมือนกับว่าฉันมองไม่เห็นก้นบึ้งพลังเวทของเขาเลย…? และที่ยิ่ง…ก-กว่านั้นคือพลังเวทเหล่านั้นผสมปนเปกันอยู่…? การจะรักษาสภาพแบบนี้ได้…ไม่สิ พลังเวทเหล่านั้นไม่ต่อต้านกัน เลยทำให้สมดุลและไม่ระเบิดออกมา…” (คาเอเดะ)
เธอกำลังพึมพำอะไรบางอย่างอยู่
“….ค-คุณเป็นใครกันแน่…?? หรือว่าจะเป็นอาชีพในตำนานนั่น—” (คาเอเดะ)
ถึงแม้ว่าเธอจะถามออกมาราวกับตกใจกลัว แต่ผมก็ตอบเธอกลับไป
“ไม่หรอก ผมไร้อาชีพน่ะ” (อาเรล)
*****
ข้างใต้ของสถาบันสีขาวนั้นมีโบราณสถานอยู่
มันเป็นอณาจักรที่ถูกทำลายไปนานแล้ว
ถึงแม้จะเป็นสุสานที่ราชวงศ์พักผ่อนอยู่ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามันก็ได้สะสมพลังเวทเอาไว้ และตอนนี้มันก็กลายเป็นดันเจี้ยนไปแล้ว
และว่ากันว่ามีอันเดดจำนวนมากอาศัยอยู่ในนั้น และการรุกรานเหล่านั้นก็ถูกระงับด้วยเวทสีขาว ซึ่งมีพลังในการชำระล้างอันเดดเหล่านั้น
ห้องวิจัยที่ผมเลือกนั้นกำลังศึกษาเกี่ยวกับเวทแสง ที่เชี่ยวชาญในการกำจัดพวกอันเดดและปีศาจ ซึ่งคนส่วนใหญ่นั้นจะถูกเรียกว่าเป็นเอ็กซอร์ซิสต์ (หมอผี)
ดังนั้นการสอบภาคปฏิบัติก็คือ จะต้องเข้าไปในดันเจี้ยนแห่งนี้และกำจัดอันเดด โดยอยู่ภายใต้การดูแลของผู้คุมสอบ
ภายในดันเจี้ยนนั้น ทั้งชื้นและมีเชื้อราขึ้น
มันเป็นสถานที่ที่มีกลิ่นเหม็นลอยมาจากที่ไหนสักแห่ง และผมไม่อยากจะอยู่ที่นี่นานเกินไป
ทางเดินนั้นทรุดโทรมอย่างหนัก และจมอยู่ในความมืดมิด ทำให้ดูเหมือนกับว่าจะมีอันเดดปรากฏขึ้นมา
“<ไลท์> “
ตอนนี้ผมได้ใช้เวทแสงออกมา เพื่อให้ส่องสว่างไปด้านหน้า
“โปรดระวังด้วย ถ้าพวกอันเดดเห็นแสงแล้ว พวกมันจะเข้ามาใกล้ค่ะ” (คาเอเดะ)
“พวกมันไม่ได้หนีไปหรอกเหรอ?” (อาเรล)
“นั่นเป็นกรณีที่เป็นแสงที่รุนแรง แต่ถ้าเป็นแสงอ่อน พวกมันจะพยายามเข้ามาใกล้เพื่อกำจัดแหล่งกำเนิดแสงค่ะ” (คาเอเดะ)
เข้าใจแล้ว
แสงปริมาณเท่านี้จะล่อพวกมันออกมาหรือเปล่านะ
แบบนี้ค่อนข้างสะดวกเลย
“…ว่าแต่ คุณเคยชำระอันเดดมาก่อนหรือเปล่าคะ?” (คาเอเดะ)
คาเอเดะถามออกมา
“ไม่เคยเลยสักครั้ง?” (อาเรล)
“เอ๋~? ค-คุณไม่ได้ทำมันในชั้นเรียนงั้นเหรอคะ?” (คาเอเดะ)
“ผมไม่เคยทำมันเลย” (อาเรล)
ผมไม่ค่อยได้เข้าชั้นเรียนน่ะ
บางทีตอนที่ผมไม่ได้เข้า อาจจะมีชั้นเรียนเกี่ยวกับอันเดดอยู่ก็ได้
“ไม่ต้องกังวลไป แม้มันจะเป็นหลักสูตรเร่งด่วน แต่คุณจะเข้าใจมันอย่างแน่นอนค่ะ”(คาเอเดะ)
และในตอนนั้นเอง
“อู-อา-”
มีมอนสเตอร์รูปร่างคล้ายนมุษย์ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้า
ร่างกายบางส่วนของมันเน่าเปื่อย และเดินโซซัดโซเซเข้ามาใกล้ที่นี่
“ซอมบี้งั้นเหรอ” (อาเรล)
ผมยิงเวทแสดงที่ถูกบีดอัดออกไป
“<แสงศักดิ์สิทธิ์>” (อาเรล)
“โอ้ววววว~!?”
ซอมบี้ตัวนั้นกรีดร้องออกมาด้วยเสียงที่สยดสยองท่ามกลางแสดงที่เจิดจ้า
จนในที่สุดมันก็หยุดเคลื่อนไหว และร่างกายที่เน่าเปื่อยของมันก็สลายกลายเป็นเถ้าถ่าน
การชำระล้างเสร็จสิ้น
“ก็คงประมาณนี้แหละมั้ง” (อาเรล)