ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 167 สามสำนักบำเพ็ญเต๋ารวมตัวกัน ยันต์หยกสั่น เขย่าขวัญผู้คน (1)
- Home
- ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว
- ตอนที่ 167 สามสำนักบำเพ็ญเต๋ารวมตัวกัน ยันต์หยกสั่น เขย่าขวัญผู้คน (1)
[ภาค 3] ตอนที่ 167 สามสำนักบำเพ็ญเต๋ารวมตัวกัน ยันต์หยกสั่น เขย่าขวัญผู้คน (1)
“เมื่อไม่นานมานี้ ข้าทำให้ศิษย์หลานฉางโซ่วขุ่นเคืองหรือไม่?”
ทันทีที่ได้ยินคำถามของหลี่ฉางโซ่ว จิ่วอูก็สั่นสะท้านอยู่ในใจขณะที่ขมวดคิ้วและครุ่นคิด
จิ่วอูไตร่ตรองคำพูดอย่างรวดเร็วแล้วส่งข้อความเสียงตอบกลับไปว่า “เอ่อ…ข้าง่วนอยู่กับการปฏิบัติงานในสำนักจนกระทบแม้แต่การบำเพ็ญเพียรของข้า คงไม่เหมาะที่จะรับศิษย์ หวังว่าฉางโซ่วคงเข้าใจ”
ขณะกล่าว จิ่วอูก็อดจะมอง ‘ภูเขาน้อย’ ที่อยู่ข้างหน้าเขาไม่ได้…
“ฉางโซ่ว เจ้าอยากพาญาติผู้น้องของเจ้ากลับไปที่สำนักจริงๆ หรือ?”
“หากมีญาติผู้น้องอยู่ด้วย ข้าจะรู้สึกสบายใจขึ้น” หลี่ฉางโซ่วตอบ
เมื่อไม่อาจโหดเหี้ยมได้ แน่นอนว่า เขาก็ต้องเก็บอันตรายที่ซ่อนเร้นเช่นนี้ เอาไว้ข้างกาย
วิธีปกติของเขา คือ การให้คำสัตย์สาบานปฏิญญาต้าเต๋า ซึ่งไม่เหมาะกับสงหลิงลี่
แม้เขาจะทำให้สงหลิงลี่ตระหนักอย่างจริงจังถึงความสำคัญของเรื่องนี้และให้นางทำสัตย์สาบานปฏิญญาต้าเต๋าอันโหดเหี้ยมที่สุด นางก็อาจถูกสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าสวรรค์ฟาดผ่าลงมาจนแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หากนางผล็อยหลับไปและเผลอละเมอพูดเรื่องนี้ออกมาสองสามคำในความฝันของนางโดยไม่ตั้งใจ…
ดังนั้น หลี่ฉางโซ่วจึงคิดหาวิธีที่จะนำสงหลิงลี่ซึ่งเป็นที่รังเกียจของสำนักเซียนเซียวเหยาอย่างเห็นได้ชัด กลับไปที่สำนักตู้เซียน
ยอดเขาหยกน้อยยังมีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอ และหลี่ฉางโซ่วเองก็มั่นใจเก้าสิบแปดในหนึ่งร้อยส่วนว่า เขาจะสามารถกำราบเด็กสาวผู้นี้ได้ …
อีกสองส่วนที่เหลือคือ นางอาจหนีไปพร้อมกับปฏิญญาต้าเต๋า และความไม่แน่นอนแห่งเต๋าสวรรค์
เผ่าเวทย่อมสามารถเคลื่อนภูเขาและถมทะเลได้
หากเขาพาสงหลิงลี่กลับไปที่สำนักและฝึกฝนนางอย่างระมัดระวัง สงหลิงลี่ก็อาจสามารถแบกยอดเขาหยกน้อยและวิ่งหนีไปยังจุดเชื่อมต่อที่สำคัญได้
เมื่อพิจารณาในจุดนั้น เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น สงหลิงลี่ก็เกิดในครอบครัวของผู้ที่เป็นทูตเทวะของสำนักเทพทะเล และมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขา หลี่ฉางโซ่วรู้ภูมิหลังของนางและจะไม่เพิ่มกรรมใหม่ให้ตัวเขาเอง
นอกจากนี้ หลี่ฉางโซ่วยังมีแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัวเล็กน้อย…
ยอดเขาหยกน้อยยังขาดหัวหน้ารักษาความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือและเชื่อฟัง สงหลิงลี่มีคุณสมบัติและความสามารถตามธรรมชาติที่ดีเช่นกัน เรียกว่า นางเป็นสัตว์ร้ายตัวน้อยที่ปกป้องสำนักได้
แน่นอนว่า เรื่องนี้หาได้สมบูรณ์แบบไม่
หลี่ฉางโซ่วยังพิจารณาถึงคำถามของจิ่วอูอย่างรอบคอบเช่นกัน
ประการแรก เห็นได้ชัดว่า โชคชะตาของสงหลิงลี่ไม่ดีพอ มีเพียงศิษย์ของยอดเขาพิชิตสวรรค์เท่านั้นที่สามารถอยู่รอดได้ หากนางเป็นศิษย์ธรรมดา ก็คงมีแต่โชคร้ายเท่านั้น
ประการที่สอง หลี่ฉางโซ่วหลีกเลี่ยงกรรมมากเกินไป เขาไม่อยากมีน้องสาวคนที่สามโดยไร้เหตุผล
ในเมื่อจิ่วอูไม่กล้ายอมรับนาง หลี่ฉางโซ่วจึงครุ่นคิดถึงคนต่อไปที่เขาสามารถหันไปหา…
หากเต็มใจทุ่มเทอย่างเต็มที่ ย่อมมีหนทางเสมอ
แม้ในชีวิตก่อนหน้านี้ หลี่ฉางโซ่วจะเคยได้ยินคนกล่าวถึงว่า ‘เราไม่อาจครองสิ่งที่ดีที่สุดทั้งสองอย่างไปพร้อมกันได้’ ทว่าจริงๆ แล้ว ย่อมมีวิธีแก้ปัญหา
เพียงแค่ต้องคิดนอกกรอบและหาทางบีบให้ ‘พระยูไล[1]’ ปรับเปลี่ยนพุทธบัญญัติได้
แค่ล้อเล่นน่า มาพูดถึงงานกันเถิด
เขาต้องพาสงหลิงลี่กลับไปที่สำนักตู้เซียน นอกจากการหาอาจารย์ให้สงหลิงลี่แล้ว เขายังต้องโน้มน้าวสำนักเซียนเซียวเหยาและดูว่าพวกเขาจะยอมปล่อยนางไปหรือไม่…
ไม่นานหลังจากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็พูดบางอย่างอีกสองสามคำกับจิ่วอูผ่านการส่งข้อความเสียง
ในขณะนั้น จิ่วอูก็ขมวดคิ้วและลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตกลงยอมรับ
แต่เมื่อดูจากสีหน้าของ จิ่วอูแล้ว เขารู้สึกว่า ดูเหมือนว่า จิ่วอูจะยอมรับอย่างไม่เต็มใจ
หลี่ฉางโซ่วเตรียมพร้อมแล้ว จึงส่งข้อความเสียงไปทันที
“ท่านอาจารย์ลุง ศิษย์มีโอสถวิญญาณที่เพิ่งหลอมขึ้นมาใหม่สองเม็ด เม็ดหนึ่งมีชื่อว่าโอสถคลายเส้นเอ็น และอีกเม็ดเรียกว่าโอสถเพิ่มความสูงมังกรพยัคฆ์”
จิ่วอูมองหลี่ฉางโซ่วอย่างฉงน
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วยังคงเผยรอยยิ้มจริงใจพลางห่อขวดกระเบื้องสองขวดเอาไว้ด้วยพลังเวทจำลองของเขาและผลักพวกมันส่งไปให้จิ่วอูผ่านทางด้านหลังของสงหลิงลี่
จากนั้นหลี่ฉางโซ่วก็กล่าวผ่านการส่งข้อความเสียงอีกครั้ง
“ศิษย์ไม่คิดจะใช้มันเพื่อบีบท่านอาจารย์ลุงนะขอรับ โอสถเหล่านี้ล้วนเป็นโอสถทั้งหมดที่ข้าหลอมขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ข้ากำลังคิดหาโอกาสมอบเป็นของกำนัลให้ท่านอย่างกตัญญูอยู่แล้วขอรับ”
จิ่วอูคว้าขวดกระเบื้องและดึงจุกไม้ออกมาอย่างระมัดระวังก่อนจะดมกลิ่นมันเบาๆ เพื่อวิเคราะห์คุณสมบัติยาในใจ และตื่นตกใจขึ้นมาทันที
“โอสถคลายเส้นเอ็นนี้!”
หลี่ฉางโซ่วกล่าวว่า “ท่านจะเพิ่มส่วนสูงได้อย่างน้อยครึ่งชุ่น แต่จะรับได้เพียงเม็ดเดียวเท่านั้น”
“ไม่ต้องห่วง ลุงคนนี้จะจัดการดูแลเรื่องญาติผู้น้องของเจ้าเอง!”
จิ่วอูปิดจุกขวดหยกอย่างตื่นเต้นก่อนจะวางไว้ในคลังเวทจัดเก็บของเขาอย่างระมัดระวัง และทันใดนั้น เขามีอารมณ์หลากหลายปนเปกันอยู่ในใจ
รักแท้มีอยู่จริงในโลกบรรพกาล!
เป็นความจริง!
หลายปีที่ผ่านมานี้ นอกจากซือซือแล้ว ก็มีเพียงศิษย์หลานฉางโซ่วคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจข้าจริงๆ!
แม้จะรู้ว่าศิษย์หลานฉางโซ่วกำลังหลอกใช้เขา แต่เขาก็ยัง…เบิกบานใจอย่างยิ่ง!
ในขณะนั้น จิ่วอูก็ลุกขึ้นยืน แล้วเหลือบมองศีรษะน่ารักของสงหลิงลี่พร้อมกับยิ้มอย่างมั่นใจก่อนจะเดินไปหาท่านอาจารย์ของเขา หว่างฉิงผู้สูงส่ง
“พี่ชาย…”
ทันใดนั้น สงหลิงลี่ก็ลืมตาและกระซิบว่า “ข้าท่องครบสามร้อยจบแล้ว”
หลี่ฉางโซ่วยิ้มพลางพยักหน้า และส่งโอสถให้สงหลิงลี่
จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “นี่คือโอสถที่ทำให้จิตใจสงบได้ จะเป็นผลดีต่อวิญญาณของเจ้า กินแล้วก็นั่งเข้าฌานได้สักพักหนึ่ง”
“ขอบคุณพี่ชายที่ให้รางวัลเจ้าค่ะ”
“อย่าพูดถึงคำว่า ‘รางวัล’ จงใส่ใจกับคำพูดของเจ้า” หลี่ฉางโซ่วถามนางอีกครั้งว่า “หลิงลี่ เจ้าอยากย้ายไปฝึกบำเพ็ญในสำนักเซียนอื่นบ้างหรือไม่?”
สงหลิงลี่บีบเม็ดโอสถที่มีขนาดพอๆ กับเมล็ดข้าวในมือขณะที่เอียงศีรษะ
“ทุกคนก็ปฏิบัติกับข้าดี”
ดังนั้นหลี่ฉางโซ่วจึงต้องเปลี่ยนไปใช้ถ้อยคำใหม่และกล่าวต่อไป
“หลิงลี่ เจ้าเป็นอัจฉริยะในการฝึกบำเพ็ญเซียนที่หาได้ยากยิ่งในหมู่บ้านสง ร่างจำแลงของข้านี้มีภารกิจที่ยากลำบากซึ่งต้องอาศัยความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากเจ้าจึงจะสำเร็จได้ แต่มันก็อันตรายมาก จนอาจถึงขั้นทำให้เจ้าตายได้ เจ้ายินดีจะอุทิศตัวเองและยอมเหนื่อยยากเพื่อหมู่บ้านสง และสำนักเทพทะเลหรือไม่? สงหลิงลี่จ้องมองหลี่ฉางโซ่วพลางยัดโอสถเข้าไปในปากแล้วกลืนลงไป ใบหน้าของนางเปี่ยมไปด้วยความชอบธรรมขณะกำหมัดแล้วกล่าวเบาๆ ว่า “พี่ชาย! โปรดวางใจ ให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง!”
นางเพ่งสมาธิท่องจำคำนั้นในใจสามร้อยครั้ง และก็เป็นไปตามคาด ในที่สุด นางก็เรียกเขาว่า ‘พี่ชาย’ ได้อย่างราบรื่น
หลี่ฉางโซ่วพยักหน้าพลางแย้มยิ้มแล้วกล่าวว่า “อย่าตะโกน อย่าตะโกน พักผ่อนก่อนเถิด”
“ตกลง” สงหลิงลี่รับคำ เมื่อกินยาแล้ว นางก็รู้สึกเหนื่อยและง่วงงุนเล็กน้อย…
และท่ามกลางความง่วงงุนนั้น นางก็นั่งลงและผล็อยหลับไปขณะที่มีฟองน้ำมูกเล็กๆ ไหลออกมาจากจมูกของนาง มันขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็หดตัวเล็กลงเรื่อยๆ เป็นวงจรเช่นนี้ต่อไป ในเวลาเดียวกันนั้น ก็เกิดเสียงกรนระเบิดปานเสียงฟ้าร้องคำรามดังขึ้นรอบๆ หลี่ฉางโซ่ว ซึ่งดึงดูดความสนใจของทุกคนที่อยู่รอบตัวเขา
……………………………………………………
[1] คำเรียกพระพุทธเจ้าของจีน