ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 238 ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต กลับใจคือฟากฝั่ง (2)
ตอนที่ 238 ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต กลับใจคือฟากฝั่ง (2)
ในขณะนั้น สงปู้ฮ่านอดจะกำหมัดแน่นไม่ได้ เขาไม่กล้าขัดคำสั่งของเทพแห่งท้องทะเลในขณะที่นึกถึงเหตุการณ์น่ายินดีของภรรยาที่ตั้งครรภ์และกำลังจะคลอดบุตรคนที่สามในไม่ช้านี้ แล้วเผยรอยยิ้มเบิกบานใจออกมา
รอยยิ้มนั้นทำให้มังกรชายผู้นั้นประหลาดใจ
แล้วสงปู้ฮ่านยังหันกลับมาผายมือเชิญอีกด้วย …
“ข้าไม่อาจทำอะไรท่านได้ ขอท่านได้โปรดทำต่อไปเถิด ข้าได้แต่หวังว่าท่านจะให้ความเคารพท่านเทพแห่งท้องทะเลของข้า
ในขณะนั้น สงปู้ฮ่านก็หันหลังกลับแล้วจากไปไม่เหลียวหลัง ทำให้มังกรตะลึงงัน เขาไม่คิดว่า คนเผ่าพ่อมดจะไม่โจมตี แม้เขาจะอยู่ในสถานะเช่นนี้!
คนในเงามืด[1]ผู้นั้นบอกไม่ใช่หรือว่า คนเผ่าพ่อมดนั้น ไม่ค่อยฉลาดมากนัก?
มังกรชายวัยกลางคนอดคิดถึงคนในเงามืดและคำพูดไม่กี่คำที่คนในเงามืดกล่าวเอาไว้ไม่ได้…
โอกาสได้เป็นเซียนจิน ผลเต๋าอายุยืน ล้วนอยู่ในแผนสำหรับวันนี้ของข้า … มังกรชายวัยกลางคนหรี่ตาลงพลางชูฝ่ามือซ้ายไปทางสงปู้ฮ่านแล้วบีบนิ้วทั้งห้าของเขา เบาๆ จากนั้น ก็มีแรงดูดพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา
ทันใดนั้น สงปู้ฮ่านซึ่งอยู่ห่างออกไปสิบจั้งก็ซวนเซไปข้างหลัง
อย่างไรก็ตาม สงปู้ฮ่านก็มีปฏิกิริยาตอบสนองได้รวดเร็วยิ่ง ทันใดนั้น เขารีบลุกขึ้นยืนและย่อตัวลงในท่าหม่าปู้ จากนั้นก็ได้ยินเสียงแตกเบาๆ สองครั้งในขณะที่เท้าใหญ่โตของเขาเตะทลายแผ่นหินไปสองแผ่นทันที!
ร่างของเขาแทบจะทรงตัวไม่อยู่!
“ข้าบอกให้เจ้าออกไปไม่ใช่หรือ?”
มังกรชายวัยกลางคนกล่าวเย็นชา ในตอนนี้ มันเป็นเพียงการกระทำธรรมดาและเขากำลังจะเพิ่มความรุนแรงขึ้น
ในขณะนั้น ร่างหนึ่งก็โผล่ออกมาจากแผ่นหินที่แตกบนพื้นและยืนสกัดกั้นอยู่ด้านหน้าสงปู้ฮ่าน[2]
คนผู้นี้มีผมขาว เคราขาว และใบหน้าผอมบาง เขาถือแส้หางม้าเอาไว้ในมือและสวมชุดคลุมเต๋าสีขาวแผ่อักขระเต๋าที่นิ่งสงบ
มังกรชายวัยกลางคนขมวดคิ้วเล็กน้อยทันที
แน่นอนว่า เขาไม่รู้ว่าเซียนชราที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นร่างจำแลง และไม่คิดว่าจะมีเซียนเทียนระดับต้นปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน
มันย่อมเป็นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เซียนชราของหลี่ฉางโซ่วอย่างแน่นอน
หลี่ฉางโซ่วเหวี่ยงแส้หางม้าของเขาเบา ๆ แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สหายเต๋า ไยเจ้าถึงมาที่นี่?”
มังกรชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เจ้าเป็นผู้ใดกัน?”
สงปู้ฮ่านที่ยังไม่ได้จากไปไกล หันกลับมาและตะโกนว่า “นี่คือ ผู้อาวุโสของสำนักเทพทะเลของเรา! ห้ามบังอาจล่วงเกินท่าน!”
“เอาล่ะ รีบไปเถิด ปู้ฮ่าน!”
“ขอรับท่านผู้อาวุโส” สงปู้ฮ่านยิ้มบางแล้วก้าวออกจากโถงหลักของวิหาร เขาเรียกทูตเทวะออกมาข้างนอกสิบกว่าคน และเริ่มเชิญให้เหล่ามนุษย์ในวิหารออกไป
หลี่ฉางโซ่วตระหนักได้ทันทีว่าในขณะที่เขาปฏิบัติต่อสงปู้ฮ่านในฐานะผู้เยาว์ ธิดาของสงปู้ฮ่านก็ถือว่าเขาเป็นพี่ชายและเรียกเขาเช่นนั้นทุกวัน
มันเป็นความจริง แต่ละร่างของเขาอยู่บนพื้นฐานที่แตกต่าง หลี่ฉางโซ่วโบกแส้หางม้าแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สหายเต๋า ไยไม่มาที่โถงด้านหลังกับข้า? หากมีเรื่องใดเร่งด่วนก็บอกข้าได้ ข้าจะช่วยเจ้ารายงานท่านเทพแห่งท้องทะเลให้อย่างแน่นอน”
“เหอะ ข้าแค่คิดว่าสำนักเทพทะเลของเจ้าโอหังและกดขี่ผู้คนมากเกินไป!”
มังกรชายวัยกลางคนเผยกรงเล็บมือซ้าย และมีเปลวไฟวูบวาบอยู่ภายใน “ข้าไม่กลัวที่จะบอกเจ้าว่าข้ามาที่นี่ในวันนี้ เพื่อทำลายรูปปั้นเทพแห่งท้องทะเลของเจ้า!
องค์ชายรองแห่งเผ่ามังกรของข้า อ๋าวอี่จะยอมจำนนต่อเทพแห่งท้องทะเลได้อย่างไร!
สำนักเทพทะเลนี้ควรเป็นของเผ่ามังกร!”
ในหอโอสถ อ๋าวอี่บันดาลเดือดจนเลือดขึ้นหน้า เขาอยากจะย้ายร่างไปยังเมืองอันสุ่ย และต่อสู้กับเจ้ามังกรตัวนี้ได้ในทันที ทุกคำพูดของเขาล้วนเผยให้เห็นแรงจูงใจที่ซ่อนอยู่!
เห็นได้ชัดว่าเขาเจตนามาหาเรื่อง!
เขาก็นึกว่าเผ่ามังกรมีเรื่องสำคัญต้องทำจริงๆ…
ทว่ามีเสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นในห้องโถง
“อืม ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน” ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่ปลอมตัวเป็นเซียนนักพรตเต๋าชราถือแส้หางม้าและพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ข้าคิดว่าเจ้าพูดมีเหตุผล”
มังกรชายวัยกลางคนตกตะลึงก่อนจะขมวดคิ้วและจ้องไปที่ชายชราที่อยู่ตรงหน้าพลางกระตุกปากเล็กน้อย
ไม่โกรธหรือ? ไฉนถึงไม่โจมตีเล่า?
ไม่ว่าจะเป็นผู้พิทักษ์เผ่าพ่อมดหรือผู้อาวุโสเซียนเทียน ตราบใดที่มีคนจากสำนักเทพทะเลทักษิณลงมือโจมตี เขาก็จะทำตามแผนที่วางไว้ทันที เขาจะปลิวกระเด็นออกไป แล้วตกลงตรงหน้าห้องโถงหลัก จากนั้นก็กระอักเลือดและทำร้ายตัวเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัส .
ถูกต้อง นั่นคือ ทั้งหมดที่เขาต้องทำ และเขาจะได้มีโอกาสเป็นเซียนจิน!
มังกรชายวัยกลางคนกัดฟันและก้าวไปออกไปข้างหน้าสองสามก้าวทันที
หลี่ฉางโซ่วรีบกระโดดไปด้านข้างอย่างว่องไวและยิ้มพลางกล่าวว่า “สหายเต๋า ไฉนเจ้าไม่โจมตีและทำลายรูปปั้นเทพเจ้าหลักเสียก่อนเล่า?”
“โอ้? แล้วไยเจ้าไม่หยุดข้าเล่า?”
“แล้วไยข้าต้องหยุดสหายเต๋าเล่า?” หลี่ฉางโซ่วผายมือออก “เผ่ามังกรมีส่วนอย่างมากในการสร้างสถานที่แห่งนี้ สหายเต๋าเป็นคนของเผ่ามังกร หากต้องการทำลายสถานที่นี้ ก็ย่อมทำได้ มันสมเหตุสมผลแล้ว ผู้ใดจะกล้าไม่ยินยอมเล่า”
หลี่ฉางโซวกล่าวอย่างอบอุ่นว่า “สหายเต๋า เหตุใดท่านไม่นั่งลงพักผ่อนสักครู่? ข้าจะเรียกทูตเทวะสักสองสามคนมาเดี๋ยวนี้ งานเช่นนี้ จะให้ท่านลงมือด้วยตัวเองได้อย่างไร” มังกรชายวัยกลางคนเกือบจะตะโกนก่นด่าใส่เขา แต่เขาแค่นเสียงแล้วกระโจนเข้าหาตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วทันที! ทว่าในขณะนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็เพียงหรี่ดวงตาลงและยิ้มพลางค่อยๆ หยิบไข่มุกออกมาจากแขนเสื้อของเขา
ผลึกบันทึกเหตุการณ์ขนาดใหญ่?
มังกรชายวัยกลางคนชะงักงันไปชั่วครู่และดูหวั่นกลัวเล็กน้อย
หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “สหายเต๋า ดูนี่สิ มันใหญ่และกลม นี้เป็นเครื่องมือเวทที่ข้าได้ปรับปรุงแล้ว เรียกว่าผลึกคู่แฝดบันทึกเหตุการณ์ในขณะนี้ ทุกการกระทำและทุกอิริยาบถของสหายเต๋าได้ถูกบันทึกเอาไว้ในนี้ นับตั้งแต่ที่สหายเต๋าร่อนลงมาหยุดที่หน้าห้องโถงจนถึงยามนี้ ภาพที่มันบันทึกจะถูกเก็บไว้ในผลึกอีกเม็ดที่ประกอบจับคู่เข้ากับมัน กล่าวอีกนัยหนึ่ง แม้สหายเต๋าจะทำลายไข่มุกที่บันทึกสิ่งที่เจ้าทำไป แต่ผลึกอีกเม็ดก็ได้รับการคุ้มครองอยู่ในที่ลับซึ่งห่างไกลออกไปหลายพันลี้”
มังกรชายวัยกลางคนมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ในขณะนั้น เขาคิดจะฆ่าสังหารนักพรตเต๋าชราและทำลายผลึกบันทึกเหตุการณ์ในทันที
ทว่าในขณะที่เขากำลังจะเคลื่อนไหว หลี่ฉางโซ่วก็สะบัดแส้หางม้าเบา ๆ
“สหายเต๋า โปรดใช้พิจารณาดูรอบกายให้ดีกว่านี้เสียก่อนที่จะตัดสินใจว่าวันนี้จะทำอันใดรุนแรงกับข้าหรือไม่”
มังกรชายวัยกลางคนกวาดสัมผัสเซียนรับรู้ออกไปตรวจดูบริเวณโดยรอบและสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
ก่อนหน้านั้น เขาไม่ได้สังเกตเห็นว่า ทั่วทั้งโถงหลักนี้ มีผลึกบันทึกเหตุการณ์อยู่ มันถูกแขวนไว้ใต้ชายคา ฝังไว้อยู่บนคาน รวมถึงดวงตาของรูปปั้นทั้งสอง และตามมุมอื่นๆ
เมื่อมองแวบแรก เขาก็ตระหนักว่ามีผลึกบันทึกเหตุการณ์อยู่มากกว่าสิบเม็ด!
ใบหน้าของมังกรชายวัยกลางคนดูมืดมนในขณะที่หลี่ฉางโซ่วยิ้มและถอนหายใจ
“สหายเต๋า ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต กลับใจคือฟากฝั่ง[3] ข้าคิดว่าสหายเต๋ามีชะตาต้องกันกับสำนักเทพทะเล แล้วไยท่านไม่ฟังคำสอนของท่านเทพแห่งท้องทะเลบ้าง? ข้าจะไม่บอกผู้ใดว่าเกิดอันใดขึ้นในวันนี้ เจ้าเห็นเป็นเช่นไร?”
“เจ้า…”
มังกรชายวัยกลางคนขมวดคิ้วและถอนหายใจเบาๆ
ช่างมันเถิด ท้ายที่สุดเขาก็ไม่มีโอกาสได้เป็นเซียนจินจริงๆ เรื่องนี้ก็พังทลายแล้ว “หึ ขออำลา!” มังกรชายวัยกลางคนสะบัดแขนเสื้อแล้วหันหลังเดินออกจากห้องโถงไปทันทีอย่างไม่ลังเลใดๆ
ทว่าขณะที่เขาเดินไปได้เพียงสองก้าว บางสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน! ทันใดนั้นแสงสีโลหิตก็พุ่งออกมาจากไหล่ซ้ายของมังกร แล้วก่อตัวขึ้นเป็นกระบี่ยาว ฟันลงที่คอของมังกรชายวัยกลางคนนั้น!
………………………………………………………………..
[1] ผู้บงการอยู่เบื้องหลัง
[2] คือท่าทีที่ออกมาขวางกั้นระหว่างมังกรและสงปู้ฮ่าน เพื่อปกป้องสงปู้ฮ่าน
[3] บางแห่งอาจใช้ว่า ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต หันมองกลับย่อมเห็นฝั่ง หมายถึง ผู้ที่เคยทำบาป ก่อกรรมทำเข็ญ เพียงขอให้กลับตัวกลับใจ ย่อมมีหนทางให้เดินต่อไป ไม่ต้องจมอยู่ในทะเลแห่งความทุกข์ เป็นสำนวนกำลังภายในจากนิยายของโกวเล้งที่ปรับมาจากพุทธคติ ซึ่งปรากฏขึ้นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ซ่งเมื่อราวเก้าร้อยกว่าปีก่อน โดยเห็นข้อความนี้ในภาพวาดบนผนัง และมีบันทึกไว้ในวัจนะของจูจื่อ