ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 245 ข้าขอบังอาจถามนามของเทพธิดาเข่อเล่อเอ๋อร์สักหน่อยได้หรือไม่ (1)
- Home
- ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว
- ตอนที่ 245 ข้าขอบังอาจถามนามของเทพธิดาเข่อเล่อเอ๋อร์สักหน่อยได้หรือไม่ (1)
ตอนที่ 245 ข้าขอบังอาจถามนามของเทพธิดาเข่อเล่อเอ๋อร์สักหน่อยได้หรือไม่? (1)
ในขณะนั้น องครักษ์หญิงสี่คนที่ปรมาจารย์เผ่ามังกรทั้งสี่คนปลอมตัว นำเข่อเล่อเอ๋อร์ซึ่งเป็นอ๋าวอี่ปลอมตัวมา ต่างพุ่งตรงไปหาอ๋าวอี่ตัวปลอม
สถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ชายแดนของห้าดินแดนแห่งโลกบรรพกาล ในเมืองใหญ่ไม่ได้มีเฉพาะมนุษย์เท่านั้น แต่มีปีศาจ วิญญาณ สัตว์ประหลาด คนของเผ่าทะเลและเผ่าพันธุ์อื่นๆ อยู่ทั่วทุกหนแห่ง…
แน่นอนว่า พวกเขาส่วนใหญ่เป็นมนุษย์
นอกจากนี้ยังมีสัตว์ดุร้ายบางตัวที่แปลงร่างและแบกรับกรรมร้าย บางครั้งพวกมันก็มาปรากฏตัวที่นี่ หากพวกเขาทำตามกฎของที่นี่แล้วจากไป ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกผู้ที่ต้องการรับบุญเข้าปิดล้อมโจมตีหรือทำลายอุปกรณ์ของพวกเขา พวกเขาก็สามารถอยู่ที่นี่ได้
หลี่ฉางโซ่วกำลังใช้ตุ๊กตากระดาษนักพรตเต๋าชรา ในเวลานั้น เขาถือไม้เท้าแล้วไล่ตามพวกเขาพร้อมกับตะโกนว่า “คุณหนู อย่าวู่วามเจ้าค่ะ นี่คือ พื้นที่ชายแดนของห้าดินแดนแห่งโลกบรรพกาล อย่าบุ่มบ่ามทำอะไรไปเด็ดขาดนะเจ้าคะ! ต่อให้ท่านบันดาลโทสะอย่างไร ท่านก็น่าจะหารือกับสหายของท่าน…”
ทว่าเข่อเล่อเอ๋อร์ซึ่งอยู่ข้างหน้ากลับไม่ได้หยุดเลย นางพุ่งตรงเข้าไปในสถานที่พิเศษนั้นอย่างรวดเร็ว…
ภัตตาคาร…
สำนักโคมเขียว นั่นเป็นคำที่ใช้ในโลกมนุษย์
เซียนสามารถแสวงหาความสุขเช่นนั้นได้อย่างไรกัน?
เซียนมายังสถานที่เช่นนี้ เพียงเพื่อเผชิญกับภัยพิบัติทางอารมณ์ชั่วคราวและเพิ่มการหยั่งรู้และความเข้าใจในเต๋าอันยิ่งใหญ่ เข้าใจตัวตนแท้จริง และมุ่งเน้นการบำเพ็ญเพียร!
แน่นอนว่า ยังมีแขกรับเชิญที่ฝึกบำเพ็ญมานานเกินไปและต้องการแสวงหาความรักที่พวกเขามีในอดีต…
แน่นอนว่า ผู้ฝึกบำเพ็ญของเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ย่อมไม่จำเป็นต้องทำตามกฎของโลกมนุษย์ที่บุรุษเหนือกว่าสตรี เนื่องจากภัตตาคารเช่นนี้เปิดในเมืองเทียนหยาจึงเป็นธรรมดาที่จะให้บริการทุกอย่างด้วยคุณภาพเป็นเลิศ ทั้งบุรุษและสตรีล้วนสามารถเข้ามาพักผ่อนที่นี่ได้
ทันทีที่เข่อเล่อเอ๋อร์เข้ามา ชายสองคนก็เดินมาทักทายนางทันที
พวกเขาเป็นชายหนุ่มรูปงามและเป็นผู้ฝึกบำเพ็ญวัยกลางคนที่มีท่าทางเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาทั้งคู่ล้วนเป็นเซียนเสิ่น
“เทพธิดา เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? วันนี้มาดื่มกันสักหน่อยดีหรือไม่?”
“รีบไสหัวไปเสีย!”
เข่อเล่อเอ๋อร์ตวาดออกมาอย่างเย็นชา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยโทสะ คนทั้งสองที่ถูกตวาดไม่ได้แสดงท่าทีโกรธเคืองใดๆ หนึ่งในนั้นยิ้มและจากไปในขณะที่อีกคนกล่าวพลางยิ้มว่า “นี่คือสถานที่ที่หอเทียนหยา คุ้มครองอยู่ เทพธิดา ได้โปรด…”
“ข้าบอกให้ไสหัวไป!”
เข่อเล่อเอ๋อร์ตวาดแล้วชักกริชออกมาทันที
ทันใดนั้น หญิงชราที่หลี่ฉางโซ่วปลอมตัวมาก็แสร้งทำเป็นรีบรุดไปเกลี้ยกล่อมว่า “คุณหนู โปรดระงับโทสะก่อน หากซื้อที่นี่ได้ ท่านค่อยทำลายมันหลังจากนั้น ก็ยังไม่สายเกินไปนะเจ้าคะ”
“ข้ามาที่นี่เพื่อทำลายอาคารกระจอกๆ นี่น่ะหรือ?” เข่อเล่อเอ๋อร์ก่นด่าออกมา ในขณะที่ข้างหลังนาง เหล่าองครักษ์ของราชามังกรก็เดินออกมาข้างหน้าแล้วโยนป้ายที่ระบุคำว่า ‘เทียนหยา’ ออกมา
สีหน้าท่าทีของเซียนบุรุษวัยกลางคนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เขาก้มศีรษะลงทันทีและตอบกลับอย่างนอบน้อมว่า “ท่านเป็นแขกผู้มีเกียรตินี่เอง ข้าทำให้ท่านขุ่นเคืองใจแล้ว โปรดทำตามสบาย และเป็นไปตามประสงค์ของท่านเถิดขอรับ”
“เหอะ!”
หลงเอ้อร์กวาดแขนเสื้อของเขาออกไปแล้วเก็บป้ายกลับอย่างไม่พอใจนัก
หลี่ฉางโซ่วพอเข้าใจ
หอเทียนหยาได้รับผลประโยชน์จากเผ่ามังกร หรือ… หลงเอ๋อร์จะจ่ายเงินให้ที่นี่เป็นจำนวนมากพอ…
แค่กๆ ไม่อาจตัดความเป็นไปได้ทั้งหมดออกไปได้ง่ายๆ
ร้านอาหารแห่งนี้สูงสิบสองชั้น แต่ไม่มีบันไดเลยแม้เพียงครึ่งขั้น ตรงกลาง ‘ลาน’ มีเมฆสีชมพูหกก้อนที่มีลักษณะคล้ายกลีบบุปผาใน “กระพัง[1]ลอยฟ้า” ตรงกลาง คอยส่งแขกขึ้นและลงอย่างต่อเนื่อง
ในเวลานั้น หลี่ฉางโซ่วก็เดินตามมังกรทั้งห้าที่อยู่ในชุดสตรีขึ้นไปบนก้อนเมฆแล้วขึ้นไปยังชั้นบนทันที
ส่วนบทที่ตามมาก็เป็นไปตามที่เขาวางอาไว้ทั้งหมด…
เข่อเล่อเอ๋อร์รีบไปที่ห้องส่วนตัวก่อนจะยกกระโปรงขึ้นเพื่อเตะประตูเปิดออกไปแล้วพุ่งเข้าไปพร้อมด้วยกระบี่ที่เปล่งประกายวาววับ
ในชั่วพริบตานั้น ปีศาจใต้ท้องทะเลหลายสิบตัวล้วนตกตะลึง ส่วนอ๋าวอี่ตัวปลอมก็ยิ่งงุนงงมากขึ้นไปอีก…
เมื่อผู้ที่ปลอมตัวเป็นอ๋าวอี่เห็นว่า เข่อเล่อเอ๋อร์เป็นเพียงเซียนเสิ่นเท่านั้น เขาก็ยิ้มและกล่าวว่า
“ไม่เลวนี่ มาอยู่กับข้าเถิด!”
เข่อเล่อเอ๋อร์เดือดจัดทันที ดวงตาของนางลุกเป็นไฟขณะชูกระบี่ในมือแล้วพุ่งปราดไปข้างหน้า!
ทว่าองครักษ์ราชามังกรทั้งสี่ยังเร็วกว่าเข่อเล่อเอ๋อร์
มังกรทั้งสี่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หลงอี้ ซึ่งเป็นองครักษ์ส่วนตัวของอ๋าวอี่คอยติดตามอ๋าวอี่ดุจเงา
และก่อนที่อ๋าวอี่จะลงมือโจมตี หลงอี้ก็ร่ายเวทตรึงร่างเพื่อผนึกอ๋าวอี่ตัวปลอม ซึ่งเป็นเซียนเทียนเท่านั้นเอาไว้
เกือบจะพร้อมกันนั้น หลงเอ้อร์ก็โยนเชือกที่ห่อหุ้มด้วยเกล็ดบางๆ ออกมาในขณะที่หลงซานก็โยนถุงสีม่วงที่แผ่ไอสังหารชั่วร้ายออกมา
ส่วนหลงซื่อก็ก้าวออกไปด้านข้างทันทีเพื่อปกป้องตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่ว
ทันใดนั้น เชือกเซียนก็พุ่งแวบวาบไปอย่างรวดเร็วมากจนเกิดเป็นภาพติดตาหลายสิบภาพ แล้วเข้าพันธนาการปีศาจใหญ่ระดับเซียนเทียนเจ็ดถึงแปดตัวพร้อมๆ กันก่อนจะเหวี่ยงพวกมันไปข้างหลัง
ในขณะนั้น ก็มีแรงดูดอันทรงพลังปรากฏขึ้นในถุงของเขาและกันปีศาจเหล่านี้ทั้งหมดออกไป ทว่ามันไม่ได้เพียงแค่ไม่ทำร้ายสตรีที่มากับเขาเท่านั้น แต่ยังไม่ได้ขยับกระทั่งจอกสุราหรือตะเกียบด้วยซ้ำ
หลี่ฉางโซ่วแอบคิดกับตัวเองว่า ช่างเป็นสมบัติล้ำค่ายิ่งนัก!
เร็วอย่างเหลือเชื่อ!
บัดนั้นก็มีเสียงกรีดร้อง และตะโกน ก่นด่าออกมาไม่หยุด บัดนี้ พลังลมปราณของเหล่าเซียนเทียน และเซียนจินพลุ่งพล่านขึ้นอย่างมากทำให้แขกทุกคนในอาคารล้วนตื่นตระหนก
แน่นอนว่ายังมีช่วงเวลาสำคัญที่ผู้คนต้องตื่นตระหนกอีก
ทันใดนั้นก็เกิดปฏิกิริยาตอบสนองขึ้น เมื่อค่ายกลเวทและกฎห้ามรอบๆ อาคารสูงนี้ถูกเปิดใช้งานทันที ทว่าหลังคายังคงถูกทำลายโดยตรงด้วยความผันผวนของพลังเซียนที่แข็งแกร่ง!
ปีศาจสองสามตัวที่มีฐานพลังปราณสูงกว่าก็โต้ตอบอย่างรวดเร็ว เมื่อเชือกเซียนและถุงผ้าเข้าโจมตีทำให้เกิดปัญหา ทันใดนั้น พวกมันก็ยืนขึ้นเพื่อตอบโต้ศัตรู! แต่หลงเอ้อร์และหลงซานไม่ได้ใช้สมบัติเพียงอย่างเดียว ทันทีที่ทั้งสองหยิบสมบัติขึ้นมา พวกเขาก็พบกับปีศาจใต้ท้องทะเลลึกที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้สองตัวพุ่งตรงมาหาพวกเขา
เมื่อพวกเขาโจมตี การเคลื่อนไหวของพวกเขาก็ยอดเยี่ยม และการโจมตีของพวกเขาก็เฉียบขาดแม่นยำ พวกเขาพุ่งไปอย่างรวดเร็วมากจนเหลือเพียงสองภาพติดตาเอาไว้
ในขณะนั้น วิธีการใช้ยันต์ กฎห้ามและวิชาเวทที่ยอดเยี่ยมก็ทำให้สามารถระเบิดพลังเซียนที่รุนแรงยิ่งขึ้นออกมาได้ในทันที!
สองปีศาจในบรรดาปีศาจใหญ่นับสิบนั้น เป็นปีศาจที่หลงเหลือมาตั้งแต่สมัยโบราณ พวกมันมีฐานพลังสูงมากและมีผลเต๋าอายุยืน ในทะเลลึก ต้องนับว่าพวกมันโหดเหี้ยมนัก
พวกมันเพิ่งหลบเชือกเซียนและถุงผ้าเมื่อเผชิญหน้ากับสตรีสองคนที่กำลังกระโจนใส่ ทันใดนั้นพวกมันก็ร้องตะโกนออกมาพร้อมกับชูสมบัติขึ้นมาตอบโต้ทันที
แต่ก่อนที่แสงสมบัติล้ำค่าจะสว่างขึ้น คอของพวกมันทั้งสองก็ถูกมืออ่อนโยนของสตรีทั้งสองคนคว้าจับเอาไว้…
มันคือกรงเล็บมังกรรุ่นบรรพกาลของแท้
ฝ่ามือของหลงเอ้อร์และหลงซานทรงพลังมากขึ้นด้วยพลังลึกลับของเผ่ามังกรและเข้าผนึกปราณวิญญาณของปีศาจเฒ่าทั้งสองในทันที…
การต่อสู้ทั้งหมด พวกเขาบดขยี้อีกฝ่ายจนราบเรียบอย่างสิ้นเชิง
………………………………………………………………………..
[1] ภาชนะชนิดหนึ่งคล้ายหม้อ