ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 277 ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ ดูทีสิว่ามีผู้ใดอยู่ที่นั่น (1)
- Home
- ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว
- ตอนที่ 277 ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ ดูทีสิว่ามีผู้ใดอยู่ที่นั่น (1)
ตอนที่ 277 ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ ดูทีสิว่ามีผู้ใดอยู่ที่นั่น (1)
“ท่านผู้อาวุโส ท่านทำเรื่องนี้ได้ในภายหลัง…”
ภายในถ้ำหลี่ฉางโซ่วได้แนะนำรายละเอียดต่างๆ ที่จะให้จ้าวกงหมิงไปดำเนินการอย่างระมัดระวัง
หวงเหลงเจินเหริน ซึ่งกำลังฟังอยู่ที่ด้านข้างเขารู้สึกงุนงง แม้เขาจะมีความรู้ แต่ก็ยังไม่อาจจินตนาการถึงภาพสวยงามที่ทั้งสองบรรยายออกมาได้
แต่ในครั้งนี้ จ้าวกงหมิงเผยท่าทีลำบากใจออกมา…
“ที่ข้าช่วยพี่หวงหลงเมื่อก่อนหน้านี้ ข้ารีบร้อน เป็นเพราะอับจนหนทาง และไม่มีมาตรการรับมือใดๆ ในระหว่างนั้น” จ้าวกงหมิงลูบเคราพลางขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “น้องชายเทพแห่งท้องทะเล เจ้าจงอยู่ที่นี่เถิด จะได้ทุ่มเทคิดแผนกลยุทธ์อื่นๆ ได้อย่างเต็มที่”
แต่หากน้องรองของข้ารู้เรื่องนี้…”
“ผู้อาวุโสกงหมิง!”
กระดาษหนังอมตะของหลี่ฉางโซ่วลัทธิเต๋าก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าวทันที ดวงตาของเขาดูจริงจัง เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ผู้น้อยคนนี้ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว หากเขาใช้พลังเหนือธรรมชาติของเขาในการสกัดกั้น มันก็ไม่ดีเท่านี้”
ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่ปลอมตัวเป็นเซียนชราของหลี่ฉางโซ่ว ได้ก้าวออกไปข้างหน้าครึ่งก้าวทันที ก่อนจะกล่าวอย่างหนักแน่นพร้อมด้วยดวงตาที่ฉายแววจริงใจ “ผู้น้อยคิดแผนการเรื่องนี้อย่างรอบคอบแล้ว หากใช้พลังเวทสกัดกั้น มันก็จะไม่ดีเท่านี้จริงๆ ครั้งนี้ ควรใช้วิธีนี้!”
“ข้าไม่เคยหลอกลวงพวกเขาหกหรือเจ็ดคนนั้น” จ้าวกงหมิงมองไปที่หวงเหลงเจินเหรินซึ่งยืนอยู่ข้างเขา ขณะนี้หวงเหลงเจินเหรินมีท่าทีสับสน แต่ก็ยังพยายามฝืนยิ้มอย่างดีที่สุด
หวงเหลงเจินเหรินรีบกล่าวว่า “ข้าจะช่วยทำอะไรได้บ้าง? น้องชาย หากมีสิ่งใดที่ข้าช่วยได้ ก็บอกมาได้เลย”
ทว่าหลี่ฉางโซ่วกลับกล่าวตอบว่า “ท่านหวงเหลงเจินเหริน ยังมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง หลังจากนี้ผู้น้อยจะอธิบายให้ท่านรู้ทันที
จากนั้นเขากล่าวก็ต่อว่า “ผู้อาวุโสจ้าว ขึ้นอยู่กับท่านที่จะลงมือ เรื่องนี้ต้องรบกวนท่านทำในวันนี้แล้ว ยังมีผู้ใดอีกบ้างที่มีทักษะและพลังเช่นท่านขอรับ? แม้ผู้อาวุโสอวิ๋นเซียวจะใช้ถังทองคำฮุ่นหยวน มาจัดการกับพวกเขา แต่ก็ย่อมจะดีกว่าหากในวันนี้ ท่านไปอยู่ที่นั่นและหยุดพวกมันเอาไว้ได้สักหนึ่งหรือสองชั่วยาม”
“เฮ้ แล้วเหตุใด เรื่องนี้ถึงต้องรบกวนน้องรองของข้าด้วยเล่า”
ทันใดนั้น จ้าวกงหมิงก็เบ่งหน้าอกของเขาพร้อมกับเชิดหน้าขึ้น พลางถอนหายใจออกมา เอาไพล่มือไว้ทางด้านหลังของเขาก่อนจะยิ้มและกล่าวว่า “ข้าไม่อยากทำพฤติกรรมเก่าๆ ของข้าซ้ำๆ อีก แต่ในเมื่อน้องเทพแห่งท้องทะเลขอให้ข้าทำเช่นนั้น ข้าก็จะไปหลอกลวงพวกเขา!”
“ผู้อาวุโส ท่านทรงพลังยิ่งขอรับ!”
“แค่เล็กน้อยน่า” จ้าวกงหมิงหัวเราะลั่น ดวงตาพลันเปล่งประกายภายใต้คิ้วหนาของเขา
จากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็หยิบแผนการหลอกลวงชุดล่าสุดออกมา
เครื่องมือเวทที่ปรับแต่งตัวเองได้ และบันทึกภาพได้ในเวลาเดียวกัน—ผลึกบันทึกเหตุการณ์คู่ แม่แบบปฏิญญาต้าเต๋าและไข่มุกฟื้นโลหิต ทั้งหมดล้วนถอยกลับคืนมาได้ทันเวลา… และยังมีอื่นๆ อีกมากมาย
หลี่ฉางโซ่วยังย้ำเตือนรายละเอียดบางอย่างกับจ้าวกงหมิงด้วย ตัวอย่างเช่น เขาต้องยืนยันว่าได้ไปที่วังปี้โหยวเพื่อให้สมเหตุผล
อีกฝ่ายหนึ่งวางแผนทำร้ายเผ่ามังกรก่อน จนทำให้ทะเลทักษิณและทะเลบูรพาต้องเจ็บปวดทนทุกข์ หากพวกเขาถูกเปิดเผย ย่อมจะทำให้จอมปราชญ์แห่งสำนักบำเพ็ญประจิมต้องเสียหน้าอย่างมาก ดังนั้น ศิษย์ทั้งหกของ สำนักบำเพ็ญประจิมคงไม่กล้าไปเผชิญหน้ากับเขาที่วังปี้โหยวอย่างแน่นอน
แต่ห้ามพูดว่า ‘เขากำลังจะไปที่ภูเขาหลิงซาน’
วันนี้ต่างไปจากกาลก่อน เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งทุ่มเทไปในเรื่องนี้อย่างมหาศาลแล้ว และไม่อยากล้มเลิกไป จึงย่อมเพียงพอที่เขาจะให้ปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพวางแผนร้ายและสังหารพวกเขา!
ในขณะนั้น จ้าวกงหมิงก็ตัดสินใจเด็ดขาดในทันที เขาเปิดใช้งานเครื่องมือเวทกับเตรียมพลังเวทของเขา และทำตามที่หลี่ฉางโซ่วกล่าว ขี่เมฆบินตรงไปยังสถานที่ที่ศิษย์ทั้งหกคนของจอมปราชญ์เทพแห่งสำนักบำเพ็ญประจิมซ่อนตัวอยู่
หลังจากนั้น เขาก็แสร้งทำเป็นบังเอิญพบพวกเขา แล้วใช้ไข่มุกเทพทะเลพร้อมกับเล่นมุกตลกเล็กๆ กับพวกเขา
หลี่ฉางโซ่วกังวลว่าผู้อาวุโสจ้าวกงหมิงอาจจะไม่สามารถกำราบปรมาจารย์ทั้งหกได้ และพร้อมกันนั้น ก็ขอให้ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่คอยเฝ้าจับตามองพวกเขาทางด้านนี้และให้ความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น
หากจ้าวกงหมิงตกอยู่ในอันตรายจริงๆ เขาจะขอให้ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ปรากฏกายขึ้นและถามเขาว่า…
“เฮ้ เฮ้ น้องจ้าว เกิดอันใดขึ้นกับเจ้าหรือ?”
อืม… เขาไม่ต้องใช้น้ำเสียงเช่นนั้นก็ได้ ไม่รู้ว่า เผ่ามังกรจะรู้สึกอย่างไร หากพบว่าวิกฤตการณ์ที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ในวันนี้ ล้วนได้รับการจัดการจากศิษย์อาวุโสชั้นนอกแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยด้วยการล้มตัวลงนอนเช่นนั้น
หลี่ฉางโซ่วหัวเราะเบาๆ ในใจแล้วหันไปมองหวงเหลงเจินเหรินที่ดูไม่สบายใจนัก
และก่อนที่หลี่ฉางโซ่วจะทันได้กล่าวอะไร หวงเหลงเจินเหรินก็กัดฟันแล้วกระทืบเท้าเร่าๆ
เขาขมวดคิ้วพลางถามว่า “ต่อให้ท่านอาจารย์จะดุด่า หากข้าทำเช่นนี้ แต่วันนี้ เพื่อประโยชน์ของเผ่ามังกร ข้าก็จะไม่สนใจ สหายเต๋าเทพแห่งท้องทะเล แล้วข้าควรจะนอนลงตรงที่ใดหรือ?”
หลี่ฉางโซ่วชะงักงัน
“โปรดอย่ากังวลเลย ท่านต้องได้เข้าร่วมสัประยุทธ์ด้วยอย่างแน่นอน มีศัตรูที่ทรงพลังอยู่ที่ดวงตาของทะเลบูรพา ข้ากังวลว่าผู้อาวุโสเผ่ามังกรที่คอยพิทักษ์ดวงตาแห่งท้องทะเลนั้น ย่อมไม่อาจรับมือบรรดาสัตว์ร้ายได้อย่างแน่นอน…”
“อะไรนะ!”
หวงเหลงเจินเหรินมีสีหน้าเปลี่ยนไป ก่อนจะหันหลังกลับและรีบออกจากถ้ำไปโดยไม่เอ่ยอะไรพุ่งตัวไปยังส่วนลึกของทะเลบูรพาทันที
เมื่อเตรียมการให้ปรมาจารย์ทั้งสองคนที่อยู่ข้างๆ เขาแล้ว หลี่ฉางโซ่วก็ผนึกฝ่ามือ ทันใดนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่ปลอมตัวเป็นเซียนชราก็ปล่อยเพลิงสมาธิแท้ออกมาจากภายใน และในชั่วพริบตานั้น มันก็ถูกแผดเผาไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงขี้เถ้าล่องลอยไปในอากาศ
เดิมทีมันเป็นเพียงตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่มีไว้เพื่อการส่งสาร มันมีพลังเซียนเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
การนำมันกลับคืนมาจะมีความเสี่ยง ดังนั้นการให้มันทำลายตนเองย่อมจะปลอดภัยที่สุด
หลี่ฉางโซ่วได้ถอนจิตออกมาและชี้แจงถึงเรื่องความพยายามในการหลอกลวงของจ้าวกงหมิงให้ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูฟัง ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่จึงสนใจทันที จากนั้นก็ใช้พลังเวทจับจ้องไปที่จ้าวกงหมิงเพื่อเตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือเขาได้ทุกเมื่อ
เมื่อปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่อยากถามว่า หลี่ฉางโซ่วคิดกลวิธีหลองลวงเช่นนั้นได้อย่างไร เขาก็พบว่า หลี่ฉางโซ่วได้หลับตาลงอีกครั้งและอยู่ในสภาวะตึงเครียดแล้ว…
เจ้าศิษย์น้อยผู้นี้ช่างขยันขันแข็งยิ่ง
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูถอนหายใจในใจและรู้สึกขัดเขินเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็หยิบขวดหยกขนาดเล็กออกมาแล้ววางเอาไว้ข้างๆ มือของหลี่ฉางโซ่ว
หลี่ฉางโซ่วตื่นตัวและลืมตาขึ้นมองในทันที
“ท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่…”
“ไม่มีอะไร ข้าเพียงจะให้โอสถบางอย่างกับเจ้าเพื่อให้จัดการกับทัณฑ์สวรรค์เซียนจินได้ จงเก็บเอาไว้”
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ลุกขึ้นยืนแล้วโค้งคำนับให้ทันที เขาไม่ได้เปิดขวดหยกทว่าเก็บเอาไว้อย่างนอบน้อม
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ยิ้มพลางพยักหน้าให้แล้วมองไปรอบๆ อย่างเงียบๆ
ข้าได้ให้โอสถทองคำเก้าแปรเปลี่ยนสองเม็ด ซึ่งข้าได้รับมาจากท่านอาจารย์ หากเจ้าไม่อาจต้านทานสวรรค์เซียนจินได้แล้ว นั้นก็แสดงว่า เจ้า… วางแผนการได้เก่งกาจเกินไปจนสวรรค์ยังอิจฉาเจ้า
หลี่ฉางโซ่วนั่งลงอีกครั้งและหลับตาทำสมาธิ ทันใดนั้นก็มีภาพต่างๆ ปรากฏขึ้นมาในใจของเขา
ศึกสู้ในทะเลทักษิณเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และสถานการณ์ก็เริ่มเสียสมดุลแล้ว
เมื่อเหล่าปรมาจารย์จากสำนักบำเพ็ญประจิมหลายสิบคนได้เคลื่อนพลไปยังทะเลบูรพา กอปรกับการมาถึงของกองกำลังเสริมของเผ่ามังกร บัดนี้ เผ่ามังกรในทะเลทักษิณจึงครองสถานะได้เปรียบกว่า
ทว่าปรมาจารย์หลักของเผ่ามังกรถูกกำหนดให้พ่ายแพ้ แล้วเหล่าปรมาจารย์ของอีกฝ่ายก็ใช้เวทเต๋าเฉียนคุนและกำลังจะรีบพุ่งไปที่วังมังกรทะเลบูรพา…
ที่บริเวณรอบนอกของ วังมังกรทะเลบูรพา กลุ่มกบฏเผ่าทะเลทั้งสิบสองกลุ่มและทหารปีศาจใต้ทะเลลึกได้เข้าโจมตีอย่างรุนแรงแต่ไม่อาจทำลายค่ายกลป้องกันของเผ่ามังกรได้ ในขณะที่กองกำลังหลักของกองทหารเซียนมังกรวารีก็มารวมตัวกันที่นั่นแล้ว
สิ่งเลวร้ายที่ก็สุดคือ เหล่าสุดยอดฝีมือจากสำนักบำเพ็ญประจิมจำนวนหลายแสนคนที่ปรากฏตัวขึ้นภายในค่ายกลป้องกัน…
ในขณะนั้น บรรดากองทัพเหล่านี้ พร้อมด้วยปรมาจารย์อีกหลายสิบคน เช่น ผู้บำเพ็ญเหวินจิงได้มาถึงใกล้ๆ บริเวณวังมังกรทะเลบูรพาอย่างรวดเร็วแล้ว!
อีกฝ่ายก็ฉลาดเจ้าเล่ห์นัก มีปรมาจารย์หลายสิบคนที่ปกปิดกลิ่นอายลมปราณของตนและเร้นกายอยู่ในกองทัพกบฏเผ่าทะเล จึงเป็นเหตุให้เผ่ามังกรเข้าใจผิด
เผ่ามังกรคิดว่า นั่นเป็นเพียงกองทัพศัตรูธรรมดา ‘กองที่สิบสาม’ จึงส่งกองทหารหลายแสนคนไปล้อมรอบวังมังกรทันที
แต่ปรมาจารย์หลายสิบคนก็ได้ลงมือโจมตีอย่างรุนแรง และทำลายค่ายกลป้องกันของวังมังกรทะเลบูรพา!
บรรดาทหารชั้นยอดหลายหมื่นคนต่างรีบพุ่งเข้าไปก่อน ภายใต้การนำของผู้บำเพ็ญเหวินจิงและปรมาจารย์มากกว่าห้าสิบคน พวกเขาก็มุ่งหน้าตรงไปยังวังผลึกแก้ว!
ช่วงเวลานั้น กลุ่มของผู้บำเพ็ญเหวินจิงล้วนแผ่พลังแรงกดดันออกมา ทำให้วังผลึกแก้วตกอยู่ในความโกลาหลเล็กน้อยทันที
……………………………………………………………………