ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 283 โอสถเก้าแปรเปลี่ยนกลายเป็นไพ่ไม้ตาย! (1)
ตอนที่ 283 โอสถเก้าแปรเปลี่ยนกลายเป็นไพ่ไม้ตาย! (1)
ขณะที่ผู้บำเพ็ญเหวินจิง และเหล่าผู้คนดุร้ายคนอื่นๆ ถอยกลับไป ปรมาจารย์เผ่ามังกรก็ปล่อยมือ จากนั้นก็พุ่งเข้าหาฝูงปลา พวกเขาชูกระบี่ขึ้น แล้วฟาดฟันจากทิศใต้ไปเหนือ และจากทิศเหนือไปทิศตะวันตก…
กองทัพกบฏเผ่าทะเลทั้งหมดและกลุ่มปีศาจใต้ทะเลได้สูญเสียกำลังสำคัญ แล้วพ่ายแพ้ราวกับภูเขาถล่มทลาย ในขณะที่สำนักบำเพ็ญประจิมได้กำจัดแม่ทัพระดับสูงที่มีฐานพลังปราณแข็งแกร่งของกองทัพกบฏเผ่าทะเลไปเป็นจำนวนมากเพื่อไม่ให้สร้างปัญหาเกิดขึ้นได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ปีศาจใต้ทะเลลึกก็ถูกโยนลงพื้นและทิ้งเอาไว้ที่นี่… ในขณะนั้น ศิษย์จอมปราชญ์ทั้งหกคนของสำนักบำเพ็ญประจิมก็เดินไปรอบๆ ทะเลบูรพาและพลาดโอกาสที่จะปรากฏตัว พวกเขาทำได้เพียงซ่อนตัวและแอบกลับไปที่ดินแดนเทวะประจิมและก่นด่าในความหยาบช้าของสำนักบำเพ็ญประจิม
หลี่ฉางโซ่วไม่สนใจว่าพวกเขาจะโกรธหรือกล่าวโทษอย่างไร
ในตอนนี้ หลี่ฉางโซ่วกังวลเพียงว่า ผู้อาวุโสจ้าวกงหมิงจะเกลียดชังสำนักบำเพ็ญประจิมมากเกินไป ซึ่งย่อมไม่ใช่เรื่องดี
แม้จ้าวกงหมิงจะไม่สนใจ แต่ เขา หลี่ฉางโซ่วก็หลอกเขาทางอ้อมได้ในท้ายที่สุด…
สำนักบำเพ็ญเต๋าหยินน่าจะมีความเกลียดชังนี้
หลี่ฉางโซ่วมองไปที่ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูและลังเลจะกล่าวออกไป
ดูเหมือนว่าปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่จะรู้ถึงความคิดและความกังวลในใจหลี่ฉางโซ่วแล้วกล่าวอย่างอบอุ่นว่า “เจ้ากังวลเรื่องน้องกงหมิงใช่หรือไม่?”
“เฮ้อ” หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจและฝืนยิ้มแหยๆ ออกมาพลางกล่าวว่า “ศิษย์กังวลว่า สำนักบำเพ็ญประจิมจะวางแผนทำร้ายผู้อาวุโสกงหมิงเพราะเรื่องนี้ขอรับ”
“เมื่อถึงเวลา ข้าจะจัดการเอง เจ้าอย่าห่วงไปเลย” ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูหัวเราะเบา ๆ และมองดูภาพในกระจกผลึกแก้วก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ และลุกขึ้นยืน
“ในเมื่อที่นี่ไม่มีอะไรสำคัญมากแล้ว ข้าก็ควรจะกลับไปที่วังดุสิต ฉางโซ่ว เจ้าอยากกลับไปกับข้าหรือไม่?”
“ศิษย์ยังรบกวนท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ให้ต้องลำบากพาศิษย์ไปด้วยแล้วขอรับ” หลี่ฉางโซ่วกล่าวพลางยิ้ม
“ศิษย์เป็นเป็นเพียงศิษย์ตัวเล็กๆ ของสำนักตู้เซียน จึงไม่เหมาะนักที่ศิษย์จะมาปรากฏตัวที่นี่”
“เพราะเหตุใดกัน?”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูกล่าวต่อว่า “ในวันนี้ เจ้าได้จัดการวิกฤตของเผ่ามังกรไปแล้วครึ่งหนึ่ง เจ้ากลายเป็นคนถ่อมตนและยอมจำนนตั้งแต่เมื่อใดกัน เจ้าจะไม่ไปรับผลประโยชน์บางอย่างจากเผ่ามังกรหรือ?”
หลี่ฉางโซ่วทำการคารวะเต๋าและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ศิษย์เพียงกังวลว่าคนในสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินจะคิดกับศิษย์อย่างไรเท่านั้น ศิษย์ไม่ปรารถนาอะไรไปมากกว่านี้ เพราะในท้ายที่สุด เรื่องของวังมังกรก็ล้วนเป็นแผนการเท่านั้น ศิษย์ได้รับรางวัลตอบแทนจากท่านและศาลสวรรค์แล้ว จึงไม่ควรละโมบสมบัติของเผ่ามังกรอีกขอรับ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ข้าชื่นชมวาจาเก่งกาจของเจ้านัก”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูแย้มยิ้มพลางเอามือไพล่ไว้ด้านหลัง จากนั้นก็แตะนิ้วบนตัวหลี่ฉางโซ่วและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หากเจ้ากำเนิดขึ้นเมื่อหลายร้อยหลายพันปีก่อนหน้านี้ ข้าก็จะไม่ต้องฝึกบำเพ็ญอย่างเงียบเหงามากนัก ฉางโซ่ว เจ้าคิดถึงเรื่องของเผ่ามังกรที่จะตามมาหลังจากนี้อย่างไร?”
หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “แม้เผ่ามังกรจะคว้าชัยในศึกวันนี้ แต่ก็ยังเห็นชัดว่า พวกเขาก็เผชิญปัญหามากมาย คาดว่าหลังจากนี้ เผ่ามังกรน่าจะ… ยโสขึ้นอีกเล็กน้อยและไม่เหมาะที่ศาลสวรรค์จะติดต่อกับพวกเขามากนัก เวลานี้ ศาลสวรรค์ยังต้องรักษาระยะห่างจากเผ่ามังกร และไม่อาจเผยเจตจำนงที่จะรับเผ่ามังกรเข้ามาด้วยได้ ในฐานะเทพแห่งท้องทะเลทักษิณ ศิษย์ยังคงต้องคอยอยู่เคียงข้างเพื่อนำทางเผ่ามังกรต่อไป ศิษย์คิดจะมอบบุญจากศาลสวรรค์บางส่วนให้อ๋าวอี่เพื่อเป็นแบบอย่างของเผ่ามังกร และใช้บุญล่อลวงพวกเขา”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูพยักหน้าช้าๆ และกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้าเข้าใจทุกอย่างแล้ว ข้าก็ไม่ต้องแนะนำอะไรอีก”
หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “ขอบคุณท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูที่ชี้แนะขอรับ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูโบกมือและกล่าวว่า “เจ้าบอกว่าเผ่ามังกรเผชิญปัญหามากมาย แล้วปัญหาหลักคืออันใดกันหรือ? ครั้งนี้ ข้าเพียงแค่สงสัยเท่านั้น หาใช่ทดสอบเจ้าไม่”
หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “ท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ ไยพวกเราไม่นั่งดูกันต่ออีกสักสองชั่วยามต่อจากนี้เล่าขอรับ?”
“โอ้?”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูสนใจในทันทีแล้วดึงหลี่ฉางโซ่วให้นั่งลงด้วยกัน “เช่นนั้นก็ดูกันสักครึ่งวัน มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปอีก”
ท่านไม่ยุ่งจริงๆ หรือนี่?
มีการแสดงดีจริงๆ แต่ก็ต้องรออีกวัน กว่างานอภิเษกของเผ่ามังกรจะสิ้นสุดลง และส่งคู่บ่าวสาวเข้าห้องหอ
และทุกคนย่อมรู้กันดีว่า เมื่อคู่บ่าวสาวเข้าห้องหอแล้ว พวกเขาย่อมจะ… มีเรื่องในห้องหอให้เล่นสนุกอย่างแน่นอน
กลับมาที่เรื่องสำคัญเถิด
นอกวังมังกรทะเลบูรพา บัดนี้ กองกำลังของเผ่ามังกรขับไล่ศัตรูที่แข็งแกร่งให้ล่าถอยไปแล้ว พวกเขาไม่ได้ไล่ตามต่อ แต่กำลังเก็บกวาดสถานการณ์การต่อสู้ทั้งหมด
แม้อ๋าวอี่จะพลาดช่วงฤกษ์งามยามดีในงานอภิเษกของเขาไป แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อเขามากนัก ในเวลานี้ เขาได้กลับมาทำตามกระบวนการและดำเนินการไปอย่างต่อเนื่องแล้ว ชั่วขณะนั้น ก็เกิดคลื่นเขียวครามปนโลหิต เมื่อมีการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่ด้านนอกวัง แต่งานอภิเษกที่ยิ่งใหญ่ภายในนั้น ก็ยังเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและเบิกบานใจ ปรมาจารย์มังกร แม่ทัพหน้าของเผ่ามังกร และแม่ทัพกำลังเสริมที่เพิ่งเข้าร่วมรบ ทั้งหมดต่างรวมตัวกันที่วังผลึกแก้ว… ในขณะนั้น “ปัญหา” ที่หลี่ฉางโซ่วกล่าวถึงนั้น ก็ถูกเปิดเผยออกมาทันที ในบรรดาปรมาจารย์เผ่ามังกร ผู้ที่ออกศึก เข่นฆ่าศัตรูอย่างหนักที่สุดและมีฐานพลังปราณในระดับกลางถึงสูง ต่างกำลังนั่งอยู่ที่ด้านหลังเพื่อชมดูพิธีแทน ส่วนที่นั่งด้านหน้าล้วนเป็นของขุนนางผู้ทรงอำนาจของเผ่ามังกร ซึ่งไม่ได้เคยออกศึกหรือจัดการดูแลเรื่องการรบมาก่อนทั้งหมด
ส่วนกองทหารเซียนมังกรวารีจำนวนมากนั้น พวกเขาล้วนไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเข้าไปในวังผลึกแก้ว จึงทำได้เพียงเฝ้าชมดูอยู่ห่างๆ จากระยะไกลเท่านั้น
หลี่ฉางโซ่วชี้ไปที่สถานการณ์ในภาพและกล่าวกระซิบว่า “ท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตู โปรดดูเถิด นี่คือ บาดแผลร้ายแรงของเผ่ามังกรขอรับ”
ในขณะนั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูมีสีหน้าจริงจัง คราวนี้เขาไม่ได้ทำมุทราหยั่งรู้ใดๆ แต่กลับครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแทนที่
ใจมนุษย์นั้นสุดหยั่ง
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ส่ายศีรษะเบาๆ แล้วกล่าวอย่างสงบว่า “ผู้ทรงอำนาจก็ยังมีพลังอำนาจไม่เท่ากัน ผู้ที่ต่อสู้อย่างกล้าหาญก็เป็นเช่นทาส เผ่ามังกรยังคงสืบสานปฏิบัติตามวิถีโบราณของพวกเขาและเคารพในสายเลือดของตน น่าเสียดายที่เผ่ามังกรมาจากสมัยโบราณ มังกรที่มีเลือดบริสุทธิ์สืบสานสายตรงจากบรรพบุรุษมังกรได้ถูกลดจำนวนลงมากเกินไป เพราะเติมเต็มดวงตาแห่งท้องทะเล และในขณะนี้ ก็ไม่อาจปราบกองกำลังมังกรเซียนและมังกรเหล่านี้ได้อีกต่อไป”
บัดนี้ มังกรได้กลายร่างเป็นงูเหลือม งู มังกรวารี ปลา และอื่นๆ เผ่าพันธุ์ที่มีสายเลือดมังกรจะกลายเป็นมังกร ซึ่งแตกต่างจากมังกรแท้ หลี่ฉางโซ่วกล่าวเบาๆ ว่า “มันเป็นความยากลำบากของเผ่ามังกร พวกเขาไม่อาจมอบพลังอำนาจของพวกเขาให้กับมังกรกลายพันธุ์และกองกำลังมังกรเซียนวารีเหล่านี้ได้ หากยอมสละอำนาจ คนแรกที่จะก่อการกบฏต่อราชามังกร ก็จะเป็นคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาในเวลานี้”
“ว้าว” ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ขมวดคิ้วและกล่าวว่า “เผ่ามังกรต้องการโอสถฤทธิ์แรงจริงๆ แม้สำนักบำเพ็ญประจิมจะทำร้ายพวกเขาในครั้งนี้ แต่พวกเขาก็ยังไม่โหดเหี้ยมพอ”
หลี่ฉางโซ่วยังกล่าวเสริมอีกว่า “หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้แล้ว คาดว่า เผ่าทะเลจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามร้อยปีกว่าจะฟื้นตัวได้ และมีเพียงปรมาจารย์แห่งสำนักบำเพ็ญประจิมเท่านั้นที่ยังคงกดดันเผ่ามังกรต่อไปได้
หากมีการฉวยโอกาสจากความขัดแย้งภายในเผ่ามังกร…”
“มันถูกฉวยโอกาสไปแล้ว”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ยกมือขึ้นแล้วชี้ไปที่หน้าจอ ซึ่งฉายภาพตรงไปที่บุรุษร่างแกร่งกำยำ ผิวคล้ำที่อยู่นอกห้องโถงอย่างรวดเร็ว นี่คือ แม่ทัพของกองกำลังมังกรเซียนวารี ซึ่งเป็นเซียนจินที่แผ่ลมปราณแข็งแกร่งและทรงพลังอย่างยิ่ง
เสวียนตูขีดข่วนที่กระจกเบา ๆ แล้วร่างของบุรุษแข็งแกร่งผู้นั้นก็ดูเหมือนจะโปร่งใส และมียุงเลือดอยู่ใกล้ปราณวิญญาณของเขา
หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดครู่หนึ่งและกล่าวเบา ๆ ว่า “ท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ นี่คือ หุ่นเชิดที่หนึ่งในคนของพวกเขาได้รับมา”
“สตรีที่ดูน่าหลงใหลผู้นั้นเป็นคนทำหรือ?”
“ศิษย์คิดเช่นนั้น ศิษย์เคยเห็นยุงเลือดนั้นมาสองสามครั้งแล้วขอรับ” บัดนั้น ทั้งสองต่างก็มองหน้ากันแล้วยิ้ม จากนั้น พวกเขาก็หลีกเลี่ยงหัวข้อนี้อย่างเข้าใจกันดี แล้วพูดคุยกันถึงเรื่องที่ตามมาของเผ่ามังกรต่อไป ชั่วขณะนั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็พอเข้าใจอยู่สักหน่อย ส่วนปรมาจารย์เต๋าน้อยก็รับรู้บ้างเล็กน้อย
วันนี้ เผ่ามังกรเพิ่งถูกโจมตี และแทบจะไม่ถือว่าได้ชัยชนะครั้งใหญ่ เผ่ามังกรส่วนใหญ่ยังรู้สึกตื่นเต้น แน่นอนว่า ยังมีอีกน้อยคนนัก อย่างเช่น อ๋าวอี่ มังกรน้อยผู้มีมโนธรรม ซึ่งจะต้องรู้สึกเสียใจไปกับการตายจากการต่อสู้ของคนในเผ่าของเขา
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่มองดูงานอภิเษกของเผ่ามังกรอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าแขกกำลังมอบของขวัญ เขาก็หยุดดูและพาหลี่ฉางโซ่วออกไปจากที่นี่
ก่อนจะจากไป หลี่ฉางโซ่วก็เก็บกระจกผลึกแก้วเอาไว้ แม้พลังเวทบนนั้นจะค่อยๆ สลายไปในไม่ช้า แต่เขาก็จะใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ในภายหลัง
ส่วนทหารสวรรค์ทั้งสี่หมื่นคนนั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายเนื่องจากมีทหารถั่วเซียนปกป้อง
………………………………………………………………..