ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 410 ตั้งใจไปหาสมบัติ กลับไม่ได้
ตอนที่ 410 ตั้งใจไปหาสมบัติ กลับไม่ได้ แต่กิ่งหลิวที่ไร้ใจกลับระเบิดเกิดขึ้นมา (1)
ในหอโอสถ หลี่ฉางโซ่วนั่งหน้าอยู่หน้าเตาหลอมโอสถ และมองดูลูกไฟสองสามลูกที่ฉายแสงวิบวับเบาๆ เขาเพ่งจิตส่วนหนึ่ง มุ่งไปที่การควบคุมตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ขนส่ง และเคลื่อนตัวข้ามผ่านเทือกเขา มุ่งหน้าไปยังดินแดนเทวะทักษิณ หากเป็นช่วงเปิดโลกบรรพกาล จะมีสมบัติอยู่ทั่วทุกที่ในโลกบรรพกาลที่เพียงเดินไปสองก้าว ก็สามารถหยิบสมบัติเซียนเทียนบางอย่างได้ เพราะในท้ายที่สุดแล้ว ทั่วทั้งโลกบรรพกาลก็ถือกำเนิดมาจากเต๋าเซียนเทียน
อย่างไรก็ตาม มีการรวมแหล่งกำเนิดมากมายนับไม่ถ้วนดำรงอยู่แล้วในโลกบรรพกาล มีคลื่นแห่งภัยพิบัติคลื่นแล้วคลื่นเล่ายังคงถาโถมถล่มลงมา บรรดาสิ่งมีชีวิตเซียนเทียน มังกร หงส์ เผ่าเวท และมนุษย์ต่างรอดชีวิตผ่านจากยุคยิ่งใหญ่มาหลายยุคแล้ว…
สมบัติวิญญาณเซียนเทียนที่ยังไม่ถือกำเนิด ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกับปรมาจารย์จอมปราชญ์ พวกมันหายากมากจริงๆ
นั่นไม่ถูกต้อง มันน่าจะมีนักสะสมมากมายในโลกบรรพกาล หากเขาต้องการค้นหาสมบัติ ทางเลือกแรกคือไปที่ดินแดนเทวะมัชฌิมาซึ่งมีโอกาสพบสมบัติได้มากขึ้น ทว่าหลี่ฉางโซ่วไม่อยากสุ่มเสี่ยงหาโอกาสอย่างไร้จุดหมาย
ตัวอย่างเช่น ครั้งแรกที่เขาทิ้งความประทับใจดีๆ เอาไว้ให้ผู้อาวุโสว่านหลินหยุน เขาได้คิดคำนวณและศึกษามาล่วงหน้าอย่างถี่ถ้วนรอบคอบแล้วก่อนจะทำสิ่งในที่ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนพึงพอใจ แล้วจึงลอบโจมตี ซึ่งในท้ายที่สุด เขาก็ได้รับคัมภีร์พิษสำหรับเต๋าการปกป้อง
การล่าสมบัติก็เฉกเช่นกัน เขาต้องวางแผนให้รอบคอบ
อย่างแรก เขาเขียนตำราคู่มือเรื่องกฎการล่าสมบัติ ซึ่งมีเพียงสามประเด็นหลัก เขาต้องคำนวณหาผลได้เสียในเรื่องกรรม พิจารณาปัญหาเรื่องมโนธรรม ไม่สร้างความอับอายให้สำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน อย่างที่สอง เขาต้องยืนยันเป้าหมายหลักในการต่อสู้ให้ได้มันมา เป้าหมายหลักของหลี่ฉางโซ่วในครั้งนี้คือ สมบัติที่อาจารย์ลุงจ้าวมีวาสนาชะตาลิขิตเอาไว้ให้ได้รับมัน ซึ่งอยู่ในสามอันดับแรกของรายการสมบัติเต๋าชั่วร้าย ซึ่งเป็นเหรียญทองแดงสมบัติลั่วเป่า หรือเหรียญลั่วเป่า
อย่างที่สาม เขาต้องการแผนการสมบูรณ์แบบ
ก่อนที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ล่าสมบัติจะเริ่มออกเดินทาง แผนการล่าสมบัติทั้งหมดก็เสร็จสมบูรณ์ และยังใช้ผ้าไปมากกว่าสิบม้วนเพื่อการนี้
โชคดีที่เขาไม่จำเป็นต้องสร้างภาพจักรพรรดินีชราไป่เหมยและวังชิวกงใหม่ในเร็วๆ นี้ จึงไม่เป็นไรที่ใช้ผ้าเหล่านี้จนหมด
นอกเหนือจากสามประเด็นหลักนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ยังมีอย่างที่สี่
“ต่อให้ไม่ได้อะไรเลย ก็จงอย่าเสียใจ” เป็นการปลอบใจเพื่อบำบัดตัวเอง
คราวนี้ หลี่ฉางโซ่วไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถหาเหรียญทองแดงได้ ก่อนที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ล่าสมบัติจะออกเดินทาง เขาก็เตรียมพร้อมที่จะกลับมามือเปล่าแล้ว ซึ่งหากกลับมามือเปล่า
เขาจะไม่ประสบผลกรรมใดๆ แต่จะเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงหากเขาไม่ได้อะไรมาเลยแต่กลับแปดเปื้อนไปด้วยกรรมแทน!
เหรียญทองแดงสมบัติเหล่านั้น เป็น ‘ตัวอย่าง’ ที่จักรพรรดิมนุษย์สร้างขึ้นมา มันเป็นเหรียญทองแดงสองเหรียญแรกในโลกบรรพกาล ซึ่งได้รับบุญจากเต๋าสวรรค์ และมีสติปัญญาทีเดียว หลี่ฉางโซ่วมีเหรียญทองแดงสองเหรียญอยู่ในมือ ซึ่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเหรียญทองแดงสมบัติลั่วเป่า พวกมันเป็นเหรียญทองแดงรุ่นแรกแห่งเผ่ามนุษย์ที่มีพลังบุญอยู่บ้างและถือได้ว่าเป็น “ลูกๆ” ของเหรียญทองแดงนั้น
ดังนั้น การเดินทางในครั้งจึงเป็น…การเดินทางตามหาแม่ของเหรียญทองแดง!
หลี่ฉางโซ่วอยากไปที่วังดุสิตเพื่อแสดงความเคารพโดยถือเหรียญทองแดงสองเหรียญ แล้วร้องตะโกนบอกเหล่าจื้อว่า เหล่าจื้อ โปรดเมตตาเด็กทั้งสองนี้ ปล่อยให้พวกมันได้อยู่กับบิดามารดาของพวกมันด้วย!”
แค่กๆ ล้อเล่นน่า ขำๆ เหรียญทองแดงลั่วเป่าใช้ในการหยั่งรู้ได้ แต่ผลที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือ เพื่อได้รับสมบัติวิญญาณเซียนเทียน
และในช่วงเวลาสำคัญของเหรียญทองแดงลั่วเป่านั้น ทันทีที่เหรียญทองแดงสาดแสงเจิดจ้า มันก็ลักไข่มุกเทพทะเลออกไปในช่วงระหว่างมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพ
ในเวลานั้น จ้าวกงหมิงที่ออกมาจากภูเขาเพราะการบาดเจ็บล้มตายของสิบจักรพรรดิสวรรค์ เขาได้อาศัยไข่มุกเทพทะเล กวาดล้างเหล่าปรมาจารย์แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าฉาน จากนั้นก็ไล่ตามรองเจ้าสำนักหรานเติ้ง และต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ขณะที่ต่อสู้กัน หรานเติ้งก็หนีไปที่ภูเขาอู่อี้ และพบกับชายชราสองคนที่กำลังเล่นเดินหมากรุกอยู่ที่มุมหนึ่ง เมื่อชายชราทั้งสองมองดูใกล้ขึ้น ก็ตระหนักว่า รองเจ้าสำนักบำเพ็ญเต๋าฉาน ถูกทำร้าย พวกเขาจึงอยากก้าวออกไปเอาใจเขาทันที จากนั้น พวกเขาก็นำเหรียญทองแดงลั่วเป่าออกมาจัดการกับไข่มุกเทพทะเลของจ้าวกงหมิง
ทันทีที่เหรียญทองแดงปรากฏขึ้น มันก็คว้าไข่มุกเทพทะเลและเชือกผูกมังกรไป ซึ่งทำให้จ้าวกงหมิงตกใจจนไม่ทันตั้งตัวและทำได้เพียงจ้องมองอย่างงุนงง
จ้าวกงหมิงรีบไปคว้ามันและทำร้ายชายชราหนึ่งในสองคนนั้นจนตาย แต่เขาก็ถูกหรานเติ้งบีบไล่ให้ถอยร่นไปเพราะสูญเสียสมบัติล้ำค่าอย่างไข่มุกเทพทะเล
นับจากนั้นเป็นต้นมา ไข่มุกเทพทะเลทั้งยี่สิบสี่เม็ดก็ตกไปอยู่ในมือของหรานเติ้ง และบางที หรานเติ้งจึงมีความมั่นใจที่จะทรยศสำนัก…
อย่างไรก็ตาม สองชายชรานั้น คนหนึ่ง มีนามว่า เซียวเซิง และอีกคนหนึ่ง มีนามว่า เฉาเป่า ซึ่งในเรื่องราวของมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพแต่เดิมนั้น พวกเขาได้ไปที่ศาลสวรรค์และกลายเป็นผู้ใต้บัญชาของจ้าวกงหมิงและยังเป็นเจ้าเป่าเทียนจุนและน่าเจินเทียนจุนอีกด้วย
หลี่ฉางโซ่วไม่เคยได้ยินเรื่องราวที่น่าสนใจในศาลสวรรค์ มันน่าจะน่าตื่นเต้นมาก แต่มากล่าวถึงการค้นหาเหรียญทองแดงที่หายไปกันก่อนดีกว่า
หากต้องการหาเหรียญทองแดงลั่วเป่า สิ่งแรกที่เขาต้องพิจารณาคือ ต้องหาเจ้าของเหรียญทองแดงลั่วเป่าดั้งเดิมแห่งมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพเสียก่อน นั่นคือ เซียวเซิงและเฉาเป่า
แล้วภูเขาอู่อี้ในโลกบรรพกาลอยู่ที่ใดกัน?
หลี่ฉางโซ่วตรวจสอบสำเนา “บันทึกของดินแดนเทวะมัชฌิมา” จากแหล่งต่างๆ สองสามฉบับ ก็ไม่พบร่องรอยของภูเขาอู่อี้ แต่เขากลับพบสถานที่สองสามแห่งในดินแดนเทวะทักษิณที่เรียกว่า ‘ภูเขาอู่อี้’ หลังจากคิดถี่ถ้วนแล้ว เขาก็ตระหนักว่าสนามรบหลักของมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพน่าจะอยู่ในดินแดนเทวะทักษิณ ในเวลานั้น จ้าวกงหมิงน่าจะกำลังไล่ตามหรานเติ้งอยู่
จากมุมมองนี้ ดูเหมือนว่า เซียวเซิงและเฉาเป่าจะไม่ได้พบกันโดยบังเอิญ เหตุการณ์นั้น อาจเป็นแผนของนักพรตเต๋าเฒ่าหรานเติ้ง
นอกจากนี้ ยังมีอีกปัญหาหนึ่งที่หลี่ฉางโซ่วต้องพิจารณาให้ดี หากเขาได้รับเหรียญทองแดงลั่วเป่ามาจริงๆ แล้วมันจะส่งผลต่อมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพอย่างไรบ้าง?
จ้าวกงหมิงถูกตำราเจ็ดลูกศรหัวตะปูของลู่หยาสังหาร แม้มันจะเกี่ยวข้องกับเหรียญทองแดง แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขามากนัก
ในเวลานั้น จ้าวกงหมิงสูญเสียไข่มุกเทพทะเลไปและยืมกรรไกรมังกรวารีทองคำมาได้ เขายังได้ปราบสำนักบำเพ็ญเต๋าฉานอีกด้วย และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ตำราเจ็ดลูกศรหัวตะปูมีโอกาสได้ปรากฏขึ้น
ทว่าหากเขาได้รับเหรียญทองแดงลั่วเป่า ก็จะไม่มีเรื่องที่จ้าวกงหมิงไปเกาะซานเซียวเพื่อขอยืมสมบัติเพราะเสียไข่มุกเทพทะเลไป
เช่นนั้นแล้ว…เทพธิดาอวิ๋นเซียวก็อาจลดการมีส่วนร่วมในมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพน้อยลงไปด้วย
ทว่าหากอาจารย์ลุงจ้าวตกตาย เขาก็อาจยังคงได้รับสิ่งในที่สมควรได้รับ ซึ่งยังยากยิ่งนักที่จะจัดการปัญหานั้นได้
เมื่อตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ล่าสมบัติออกเดินทางไปได้เจ็ดวัน พวกเขาก็ได้สำรวจสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับภูเขาอู่อี้สองสามแห่งในดินแดนเทวะทักษิณ…
เป็นไปตามที่หลี่ฉางโซ่วคาดไว้ นั่นคือโลกมนุษย์ และไม่มีร่องรอยของผู้ฝึกบำเพ็ญเลย
เพื่อความปลอดภัย หลี่ฉางโซ่วได้ควบคุมตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ให้ค้นหาสถานที่เหล่านั้นอย่างระมัดระวัง
นอกจากนี้ หลี่ฉางโซ่วยังให้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ล่าสมบัติ นำเหรียญทองแดง “ต้นแบบ” สองเหรียญที่ใช้ป้องกันการหยั่งรู้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เขาพบสมบัติได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ เขายังไม่ได้รับสิ่งใดในดินแดนเทวะทักษิณ “ในเมื่อใช้เบาะแสนั้นไม่ได้ผล ข้าก็ทำได้เพียงเริ่มจากเบาะแสอื่นๆ เท่านั้น”
หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจเบาๆ และควบคุมไฟอย่างชำนาญ เขาได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของ “ยอดโอสถ” ในใจ จากนั้น เขาก็ควบคุมตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ล่าสมบัติและเปลี่ยนเส้นทางไปยังดินแดนเทวะมัชฌิมา…
เขาไม่รู้ว่าเขาอยู่ห่างจากมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพมากเพียงใด
หลี่ฉางโซ่วไม่เห็นสัญญาณของมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพมากนัก ไม่มีเหตุการณ์สำคัญเช่น ‘เสวียนเหนี่ยวให้กำเนิดซาง’ ในดินแดนเทวะทักษิณ
ในโลกบรรพกาล เวลาส่วนใหญ่ถูกคำนวณเป็นพันๆ ปี
ในบรรดาทางเลือกที่เหลือ มีสามตัวเลือกที่น่าเชื่อถือมากที่สุด
ตัวเลือกที่หนึ่ง ค้นหาที่อยู่ของเฉาเป่า และเซียวเซิง
ตัวเลือกที่สอง หาข่าวลือเกี่ยวกับเหรียญทองแดงลั่วเป่า
ตัวเลือกที่สาม ขอให้ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ช่วยหาตำแหน่งของเหรียญทองแดงลั่วเป่า…
เขาต้องทำตัวเลือกที่หนึ่ง และที่สอง แต่ตัวเลือกที่สามย่อมจะลำบาก
มันไม่ปลอดภัยนักที่จะให้ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ช่วยเขาค้นหาสมบัติ
มันง่ายที่จะทำให้ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่รู้สึกว่าเขากำลังแสร้งหลอกล่อขอสมบัติ ซึ่งจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของศิษย์ผู้โดดเด่นที่เขาได้พากเพียรสร้างขึ้นมาในสายตาของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ ดังนั้น หลี่ฉางโซ่วจึงเลือกได้เพียง “ตัวเลือกที่สี่” เมื่อตัวเลือกที่หนึ่งและตัวเลือกที่สองล้มเหลว
“ข้าจะไปเยี่ยมเยือนบรรพชนเผ่ามนุษย์ที่ถ้ำเมฆไฟในนามขององค์เง็กเซียน เพื่อหารือถึงวิธีที่จะอยู่ร่วมกันด้วยดีระหว่างมนุษย์กับศาลสวรรค์พร้อมกับถามถึงที่อยู่ของเหรียญทองแดงลั่วเป่า”
………………………………………………………………..