ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 427 เจ้าเคยเห็นสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่
ตอนที่ 427 เจ้าเคยเห็นสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งการลงทัณฑ์จากสวรรค์หรือไม่…โลกบรรพกาลน่าเกลียดเมื่อใดกัน? (1)
“เจ้าสำนัก ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา เหตุการณ์ระเบิดวิญญาณได้เริ่มเกิดขึ้นอีกครั้งแล้ว คราวนี้มาบ่อยกว่าครั้งก่อน”
“แค่กๆๆๆ … ข้าหาใช่คนหูหนวกไม่ ได้ยินมานานแล้ว”
ในโถงตู้เซียนแห่งสำนักตู้เซียน เจ้าสำนักผู้ว่างเปล่า จี้อู๋โหย่วที่สวมชุดคลุมสีน้ำเงิน กระแอมไอออกมาพลางมองดูเหล่าผู้อาวุโสที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างช่วยไม่ได้ เขารับมือเรื่องการระเบิดได้หรือ? นับตั้งแต่มีการรบกวนพลังวิญญาณที่ไม่เป็นที่รู้จักรอบๆ สำนักตู้เซียน จี้อู๋โหย่วก็ได้นำเหล่าผู้อาวุโสไปตรวจสอบมาหลายคราแล้ว ในที่สุด พวกเขาก็ได้ข้อสรุปที่แตกต่างกันออกมาสองประการ
บรรดาผู้อาวุโสของสำนักตู้เซียนทุกคนล้วนรู้สึกว่า นั่นอาจเป็น “การปะทะวิญญาณ” ที่เกิดจากเส้นชีพจรวิญญาณที่ไม่เสถียรในปฐพี
บางที อาจมีปรมาจารย์สองคนกำลังฝึกปรือฝีมือและต่อสู้กันอยู่ใกล้ๆ จนทำให้เกิดความโกลาหลเช่นนี้
แต่ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไรก็ไม่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม เจ้าสำนักได้คาดเดาคำตอบที่ถูกต้องแล้ว…
เป็นไปได้มากกว่าแปดส่วน ฉางโซ่วน่าจะฝึกฝนพลังเวทบางอย่างที่ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่สอนเขา ทุกครั้งที่พลังวิญญาณปะทุ มันจะปรากฏขึ้น ห่างจากสำนักตู้เซียนไปนับพันลี้ ยิ่งไปกว่านั้น มันจะปรากฏขึ้นในทิศทางต่างๆ อย่างไร้แบบแผน
แม้เจ้าสำนักจะไร้หลักฐานใดๆ แต่หลักฐานทั้งหมดก็พิสูจน์ได้ว่าการคาดเดาของเขาถูกต้อง “น่าจะเป็นปรมาจารย์ที่ฝึกฝนพลังเวทบางอย่าง แค่กๆ” จี้อู๋โหย่วไอ พลางเช็ดเลือดที่มุมปากแล้วยิ้ม
เขากล่าวต่อไปว่า “อย่ากังวลไปเลย เหล่าผู้อาวุโส ควบคุมและกำชับบรรดาศิษย์แห่งยอดเขาต่างๆให้ฝึกบำเพ็ญอย่างสงบสุข พิธีเปิดใกล้เข้าแล้ว มีเรื่องต่างๆ ที่ซับซ้อนมากมาย ยามนี้ สำนักตู้เซียนกำลังส่งศิษย์อีกกลุ่มหนึ่งที่ฝึกบำเพ็ญสำเร็จออกไป การเตรียมการที่เหมาะสมให้พวกเขานั้นเป็นสิ่งสำคัญ กว่า”
บรรดาผู้อาวุโสต่างมองหน้ากันและเข้าใจกันคร่าวๆ ว่า เจ้าสำนักน่าจะรู้อะไรบางอย่าง พวกเขาจึงตกลงและจากไป
“อืม…”
จี้อู๋โหย่วเผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้าซีดเซียว แล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะขี่เมฆพร้อมกับไพล่มือของเขาไปไว้ด้านหลัง มุ่งหน้าไปยังยอดเขาหยกน้อย เขาไอเบาๆ หลังจากบินไปได้ไม่ถึงร้อยจั้ง แล้วร่างของเจ้าสำนักก็หายวับไปในอากาศ ทำให้สายตาที่แหลมคมและสัมผัสเซียนรับรู้ของผู้คนหลายคนในสำนักนิกายไม่อาจติดตามเขาต่อไปได้
หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าสำนักก็มาปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกของค่ายกลของหอโอสถแห่งยอดเขาหยกน้อย เขาส่งข้อความเสียงไปหาหลี่ฉางโซ่วในหอโอสถ… และไอออกมาสองครั้ง
จากนั้น ค่ายกลรอบๆ ก็ถูกเปิดในขณะที่เจ้าสำนักได้ก้าวไปข้างหน้า ร่างของเขาเปล่งแสงวิบวับสองสามครั้งก่อนจะไปปรากฏตัวที่หน้าหอโอสถ
ทว่าหลี่ฉางโซ่วก็ยังนั่งเงียบๆ อยู่ในหอโอสถโดยไม่ขยับ
จี้อู๋โหย่วขมวดคิ้วเล็กน้อย…
อย่างไรเสีย เขาก็คือเจ้าสำนักในนาม หลี่ฉางโซ่วก็ควรมาต้อนรับเขา
ทว่าจี้อู๋โหย่วก็ร้องอุทานออกมาเบาๆ เมื่อตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติกับหลี่ฉางโซ่วที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ เตาหลอมโอสถ
เขาไม่อาจพูดได้อย่างมั่นใจ แต่เขารู้สึกเหมือนเป็นเปลือกที่ว่างเปล่าตลอดเวลา มันเป็นเรื่องบังเอิญที่เจ้าสำนักมา
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของ “การกลั่นโอสถ” เขาเพ่งจิตจดจ่ออยู่ที่ร่างหลักซึ่งซ่อนตัวอยู่ในรอยแยกในหินใต้ดินที่อยู่ห่างออกไปสามพันห้าร้อยลี้ เขากำลังดู “เม็ดโอสถ” ในหม้อสมุนไพรที่เปล่งแสงเจ็ดสีอย่างต่อเนื่อง
สิ่งเดียวที่ทำให้หลี่ฉางโซ่วไขว้เขว คือปล่อยให้เจ้าสำนักเข้ามา แต่ร่างหลักของหลี่ฉางโซ่วก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจในการใช้เวทหลบหนีของเขาอย่างฉับไวเพื่อหลบหนีห่างออกไปหลายร้อยลี้
เขาทำทุกขั้นตอนทั้งหมดแล้วก่อนที่เม็ดโอสถจะก่อตัวขึ้น ไม่ว่ามันจะระเบิดหรือจะยังคงเสถียรนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับโชคของมันเอง
ที่ด้านหน้าเตาหลอมโอสถในหอโอสถแห่งยอดเขาหยกน้อย ร่างของหลี่ฉางโซ่วสั่นเล็กน้อย ในขณะที่เขาเพ่งจิตกลับมาที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ ‘ร่างหลัก’ ในหอโอสถ
ในเวลานั้น เขาลุกขึ้นทันทีและทำการคารวะเต๋าให้จี้อู๋โหย่ว “ท่านเจ้าสำนัก โปรดอภัยให้ศิษย์ด้วย ศิษย์กำลังคิดถึงเม็ดโอสถจนไม่อาจคืนสติกลับมาได้ชั่วขณะ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า อืม ไม่เป็นไร” จี้อู๋โหย่วหัวเราะและเดินเข้าไปในหอโอสถ เขารู้สึกโล่งใจมากขึ้น เหตุใดจู่ๆ ท่านเจ้าสำนัก จึงมาที่นี่อย่างกะทันหัน?
หลี่ฉางโซ่วหยิบเก้าอี้ออกมาจากถุงเก็บสมบัติของเขาและวางมันไว้ตรงกลางหอโอสถก่อนจะเชิญเจ้าสำนักให้นั่งลงอย่างนอบน้อม จี้อู๋โหย่วยิ้มและถามว่า “ฉางโซ่ว เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าได้ฝึกบำเพ็ญอย่างราบรื่นหรือไม่” “ท่านเจ้าสำนัก ศิษย์ฝึกบำเพ็ญได้ราบรื่นทีเดียวขอรับ”
“อืม” จี้อู๋โหย่วพยักหน้า เขาใคร่ครวญอยู่สักพักและกล่าวว่า “เมื่อไม่นานมานี้ มีการเคลื่อนไหวอยู่นอกสำนักอย่างต่อเนื่อง เจ้ากำลังฝึกฝนพลังเวทของเจ้าอยู่หรือไม่?
หลี่ฉางโซ่วอยากจะปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว
เขาอยากจะกล่าวว่า “นั่นเป็นไปได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้ ศิษย์ไม่มีความสามารถเช่นนั้น” ทว่าดูท่าแล้ว ท่านเจ้าสำนักดูมั่นใจมาก กว่าแปดส่วน คิดว่าเขาน่าจะ มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมอยู่แล้ว “ศิษย์บังเอิญทำเช่นนั้น…”
“เจ้าเป็นคนก่อการระเบิดหกสิบครั้งในครั้งก่อนและการระเบิดร้อยครั้งในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมาใช่หรือไม่?”
“ศิษย์กำลังปรุงโอสถพิเศษขอรับ” หลี่ฉางโซ่วรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย “ทว่าศิษย์อยู่นอกสำนัก เมื่อไม่นานมานี้ ศิษย์ยังวางสถานที่ที่หลอมโอสถไว้ในใต้ดิน ด้วยวิธีนี้ พื้นดินจะสั่นสะเทือนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นขอรับ”
“อืม การหลอมโอสถเป็นสิ่งที่ดี แต่เจ้าต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองด้วย” จี้อู๋โหย่วสั่งสอนเขาอย่างเป็นกันเองก่อนจะมองหลี่ฉางโซ่วและถามเบาๆ ว่า “ฉางโซ่ว เจ้าปรุงยาอะไรหรือ? ไฉนถึงทำให้เกิดความโกลาหลเช่นนี้ได้?
“ตอนนี้ ศิษย์ยังอธิบายไม่ได้ขอรับ…”
“ไม่จำเป็นต้องอธิบายหรอก ข้าเพียงแค่สงสัย” จี้อู๋โหย่วยิ้มและกล่าวว่า “เพราะข้าแน่ใจว่าเป็นเจ้า และไม่มีอะไรเสียหาย ข้าจะแจ้งให้คนในสำนักรับรู้หลังจากนี้ และปล่อยให้พวกเขาได้ฝึกบำเพ็ญกันอย่างสงบสุข ฉางโซ่ว เจ้าจะหลอมโอสถเช่นนี้ต่อไปอีกนานเท่าใดหรือ?”
“นี่…”
หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอย่างระมัดระวัง แล้วจู่ๆ เขาก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ โอสถเมื่อครู่นี้ไม่ได้ระเบิดหรือ? “ท่านเจ้าสำนัก โปรดรอสักครู่ ขอศิษย์ตรวจดูและสรุปก่อนขอรับ” ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์หลี่ฉางโซ่วรับคำในขณะที่ยืนอยู่ตรงหน้าจี้อู๋โหย่ว
ห่างออกไปสามพันลี้ ทันใดนั้น ร่างหลักของหลี่ฉางโซ่วก็รีบไปตรวจสอบตำแหน่งของ “เม็ดโอสถ”
หม้อสมุนไพรใบเล็กปลอดภัยดี มีเม็ดโอสถอยู่ภายในที่เปล่งแสงสีสันสดใส มีชั้นหยินหยางล้อมรอบ และมีดาวห้าดวงกำลังไล่ล่ากันอยู่ภายใน มันเสถียรหรือไม่!
หลี่ฉางโซ่วเบิกตากว้าง แล้วหยิบแผ่นหยกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็จัดการแยกแยะกระบวนการสกัดกลั่นสมุนไพรนี้ ปริมาณของวัสดุล้ำค่าต่างๆ และวัสดุยาที่ใช้ ตลอดจนลำดับและระยะเวลาในการเพิ่มวัสดุล้ำค่าต่างๆ เส้นโค้งการควบคุมพลังเซียนและอื่นๆ!
ท่านเจ้าสำนักผู้นี้เป็นดาวนำโชคของข้า! หลี่ฉางโซ่วตรวจสอบลักษณะต่างๆ ของเม็ดโอสถอย่างระมัดระวังและระงับความเบิกบานเอาไว้ในใจ
นั่นหมายความว่าอย่างไร?
การวิจัยเซียนกำลังจะระเบิด แล้วจะทำอย่างไรหากไม่ระเบิด?
หากระเบิดได้ดี เขาย่อมจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน!
หลี่ฉางโซ่วมั่นใจว่าเม็ดโอสถเสถียรอย่างสมบูรณ์และบรรลุความคาดหวังของเขา แล้ว เขาได้จัดสถานที่ให้เรียบร้อยทันทีและมุ่งหน้าไปยังสถานที่ชั่วคราวต่อไป!
ในสำนักตู้เซียน ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วไม่ได้มีสีหน้าท่าทีเปลี่ยนไปมากนัก ในขณะนั้นเขาได้ให้ระยะเวลาที่แน่นอนกับเจ้าสำนักแล้ว “เจ้าสำนัก ศิษย์จะใช้เวลาหลอมโอสถเม็ดนี้ได้ในเวลาไม่เกินครึ่งเดือนขอรับ”
“ดีแล้ว แค่กๆๆๆ”
จี้อู๋โหย่วยิ้มและกล่าวว่า “พิธีเปิดกำลังใกล้เข้ามาแล้ว อย่าทำให้เด็กที่จะมาเป็นศิษย์เหล่านั้นตกใจเพราะเรื่องนี้ ฉางโซ่ว เจ้าอยากรับศิษย์คนใดหรือไม่?
หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “ศิษย์เพิ่งไปถึงเซียนหยวน ย่อมไม่ที่จะรับผู้ใดเป็นศิษย์ขอรับ”
“อืม ข้าลืมไปว่าเจ้าไม่สะดวกจะเปิดเผยขอบเขตพลังของเจ้า” จี้อู๋โหย่วยกชายเสื้อคลุมนักพรตเต๋าของเขาพลางลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะไม่ทำให้การศึกษาเต๋าแห่งการหลอมโอสถของเจ้าต้องล่าช้าไป หากต้องการอะไร เจ้าก็มาหาข้าที่โถงตู้เซียนได้ เมื่อเร็วๆ นี้ มีหลายสิ่งเกิดขึ้นในสำนักจนข้าเข้าปิดด่านนั่งสมาธิไม่ได้”
“ท่านเจ้าสำนัก หากท่านต้องการสิ่งใด เพียงบอกศิษย์ ขอให้ท่านฟื้นตัว ท่านเจ้าสำนัก”
“ได้”
จี้อู๋โหย่วโบกมือและออกจากหอโอสถไปเอง ร่างของเขาหายวับไปในแสงแดดและหายไปอย่างไร้ร่องรอย หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจโล่งอกและงุนงงเล็กน้อย…
แม้เขาจะใช้เต๋าไท่ชิงเพื่อให้เจ้าสำนักรู้ว่า เขารู้จักปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่และได้รับผลประโยชน์จากเขา แล้วไฉนเจ้าสำนักจึงสุภาพกับเขาเช่นนี้?
หลี่ฉางโซ่วคิดหาเหตุผลไม่ได้ เขาทำได้เพียงให้เกียรติรับรองชื่อเสียงของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น
ก่อเรื่องวุ่นวาย! ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นั่งอยู่หน้าเตาหลอมโอสถ และเปิดใช้งานค่ายกลรอบๆ หอโอสถ มีเสี้ยวสัมผัสเซียนรับรู้รายล้อมรอบยอดเขาหยกน้อย หลี่ฉางโซ่วเพ่งจิตมุ่งไปที่ร่างจำแลงของเขา
………………………………………………………………..