ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 450 ฉางเกิงแกล้งเสือดำตามคำสั่ง (2)
ตอนที่ 450 ฉางเกิงแกล้งเสือดำตามคำสั่ง (2)
ในราตรีกาลยามดึก ดวงจันทร์ทอแสงสว่างไสวในขณะที่ดวงดาวเบาบาง ในเวลานี้ มีหมอกบางเบาเป็นชั้นๆ หลี่ฉางโซ่ว คาดเดาเส้นทางที่คู่ปีศาจจะเลือก เขาใช้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เซียนจินเป็นผู้นำและทิ้งตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ตัวเก่าเอาไว้ระหว่างทาง
เมื่อเสือดาวดำพาเด็กสาวไปที่นั่น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วก็กลายร่างเป็นชายชราร่างท้วมเล็กน้อย เดินออกมาจากต้นไม้ใหญ่ พร้อมกับถือแส้ของเขาและไปปรากฏตัวในนิมิตของเสือดำ
เขายิ้มและกล่าวว่า “สหายเต๋า ช้าก่อน”
นั่นคือสิ่งแรก! เขาตะโกนใส่เสิ่นกงเป้าว่า “สหายเต๋า ช้าก่อน!”
เสือดำรีบหยุดวิ่งกะทันหันจนเกือบจะสะบัดภรรยาตกจากหลังของมันแล้ว
คู่ปีศาจนั้น ทำท่าดูราวกับว่า พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าเกรงขาม
ในขณะนั้น เด็กสาวกระโดดลงมาจากหลังเสือดำอย่างสง่างาม นางถือกริชเอาไว้ในมือคู่หนึ่งในขณะที่เผยใบหน้าเย็นชาออกมา
จากนั้น เสือดำก็ลุกขึ้นจากพื้นดินและกลายร่างเป็นชายวัยกลางคน เขายืนเอาตัวบังเด็กสาวที่อยู่ข้างหลังเขาและมองหลี่ฉางโซ่วอย่างระมัดระวัง ในขณะนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วได้เคลื่อนตัวไปข้างหน้า เขายิ้มและสะบัดแส้ที่ด้านหน้าของเขา
“สหายเต๋า ไยเจ้าถึงมาที่นี่? เจ้ากำลังจะไปที่ใดหรือ?”
ทั้งคู่ต่างมองหน้ากันอย่างตื่นตกใจและสงสัย
ชายชราผู้นี้มีฐานพลังล้ำลึกสุดหยั่ง… จะไม่ฆ่าพวกเราหรือ?
“สหาย… สหายเต๋า” เสือดำประสานมือคารวะและกล่าวว่า “พวกเราสองคนเพียงกำลังเดินทางผ่านที่นี่เท่านั้น พวกเราไม่ได้ทำร้ายใคร เราไม่ได้โลภในทรัพย์สมบัติใดๆ พวกเราแค่อยากไปที่ดินแดนเทวะทักษิณ…เพื่อไปเยี่ยมญาติ”
เยื่ยมญาติ?
หลี่ฉางโซ่วหรี่ตาพลางหัวเราะเบาๆ และเอ่ยถามอีกครั้งว่า “แล้วเจ้ามาจากที่ใด? และมีนามหรือไม่?”
“พวกเราล้วนเป็นภูตป่าที่แปลงร่างเป็นมนุษย์” เสือดำมองภรรยาของเขาด้วยสายตาที่อ่อนโยน
“ข้ามีนามอาเป้า ส่วนนางมีนามว่า เหมียวเหมี่ยว ผู้อาวุโส คราวนี้ท่านปล่อยพวกเราไปได้หรือไม่? พวกเราจะไม่ไปที่ดินแดนเทวะทักษิณเพื่อทำร้ายผู้คนจริงๆ พวกเราแค่อยากไปเยี่ยมญาติของเราที่นั่นเท่านั้น”
ในเวลานั้น ปีศาจสาวก็จับแขนของเสือดำและเอนตัวเข้าหาเขาราวกับว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ
หลี่ฉางโซ่วถึงกับพูดไม่ออก
เสิ่นกงเป้ากำลังแสดงความรักของเขาต่อหน้าข้าจริงๆ หรือนี่?!
อาเป้า…
นี่คือ หมากของจอมปราชญ์เทพที่จะปลุกระดมสามสำนักบำเพ็ญเต๋าในอนาคตจริงๆ หรือ?
เหตุใดจอมปราชญ์เทพถึงอยากให้ข้าพบเขา
แต่ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็ควรจะผูกไมตรีกับเขาไว้ก่อน
“สหายเต๋า โปรดวางใจ ข้าไม่มีกรรมร้ายใดๆ กับเจ้าทั้งสองคน ข้าไม่มีเจตนาจะฆ่าปีศาจ เหตุผลที่ข้ามาพบเจ้า ก็เพราะรู้สึกว่าเคยเห็นเจ้าที่ใดสักแห่งมาก่อน ข้าสัมผัสได้ถึงความคุ้นเคยบางอย่าง มาเถิด เอานี่ไป”
ขณะกล่าว หลี่ฉางโซ่วก็หยิบคลังเวทจัดเก็บออกมาสองชิ้น มีสมบัติเซียนระดับกลางสองชิ้นและศิลาวิญญาณบางส่วนอยู่ในนั้น จากนั้น เขาใช้พลังเซียนผลักพวกมันไปให้ทั้งคู่
“เอ่อ…”
ทั้งคู่มองหน้ากัน จากนั้นพวกเขาก็มองไปเครื่องมือเวทที่ลอยอยู่ต่อหน้าพวกเขา และไม่รู้ว่าควรรับไปหรือไม่
“สามี” ปีศาจน้ำ เหมียวเหมี่ยว ค่อยๆ ดึงแขนของเสือสีดำเบาๆ และกล่าวว่า “คนผู้นั้นหายไปแล้ว”
เสือดำเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าไม่มีใครอยู่ตรงหน้าแล้ว หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เสือดำก็หยิบกำไลขึ้นมาสองวง เมื่อเห็นสมบัติและศิลาวิญญาณข้างใน มันรู้สึกตื่นเต้น
“ฮูหยิน เรามีเครื่องมือเวทใช้แล้ว!”
“ใช่ นี่ยังเป็นกรรมดีของชาติก่อนของเจ้าด้วยหรือ?” ชาติก่อนของเขา?
ดวงตาของหลี่ฉางโซ่วเปล่งประกายในขณะที่เขาซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ เขาจับถ้อยคำสำคัญได้อย่างรวดเร็ว “ข้าจำไม่ได้ ข้าจำความทรงจำในชีวิตก่อนหน้านี้ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น” เสือดำถอนหายใจเบาๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์สะเทือนใจ
“แต่ผู้อาวุโสผู้นี้เป็นปรมาจารย์ เขาปฏิบัติต่อข้าเป็นอย่างดี และบอกว่า รู้สึกคุ้นเคยกับข้า… อา ข้าจะไม่พูดอีกต่อไป ข้าขอให้เขามีชีวิตที่ดี!”
“สามี!”
ปีศาจน้ำ เหมียวเหมี่ยว รีบปิดปากเสือดำอย่างรวดเร็วและกล่าวอย่างกังวลว่า “เจ้าแค่!” เสือดำตกตะลึง ในตอนนั้นเองที่เขารู้ตัวว่าตบตัวเอง
“ปากเหม็นของข้า! เหตุใดข้าถึงลืมไปได้เช่นนั้น!?!”
ที่ใต้ดิน มีเครื่องหมายคำถามค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของ หลี่ฉางโซ่ว
เกิดอันใดขึ้น?
ในขณะนั้น ร่างหลักของของหลี่ฉางโซ่วซึ่งกำลังพักฟื้นอยู่ในห้องลับใต้ดินแห่งยอดเขาหยกน้อยได้กระอักเลือดออกมาเต็มปาก เขามองไปที่พลังเซียนที่จู่ๆ ก็หายไปด้วยความตกใจ
เหตุใดจู่ๆ ข้าก็กระอักเลือดออกมา? ผ่านมากี่ปีแล้ว? เขาเป็นศิษย์ของสำนักบำเพ็ญเต๋าผู้มีความมั่นคง และตรงไปที่แก่น เขาไม่เคยทำผิดพลาดใดๆ เมื่อเขาโคจรพลัง เขาเป็นเซียนจินอยู่แล้ว เหตุใด จู่ๆ ปัญหาตื้นเขินเช่นนี้ก็ปรากฏขึ้น!
จากนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วก็ได้ยินคำตำหนิของปีศาจสาว…
“สามี พูดพล่อยๆ ไม่ได้นะ! เจ้าบอกว่าเจ้าอยากใช้ชีวิตที่เหลือกับข้า แล้วในวันที่สอง ก็มีปีศาจมาเยี่ยมเจ้าและบอกว่านางเป็นอดีตคนรักของเจ้า
เจ้าบอกว่า พวกเราจะปลอดภัยแน่นอน ทว่าสามวันต่อมา ก็มีปีศาจใหญ่มาถึงประตูของเรา แล้วเข้ายึดเคหาสน์ถ้ำของเราอย่างดุร้าย… อ่า ตอนนี้เจ้าอาจสาปแช่งผู้อาวุโสคนนั้นก็ได้”
เสือดำถอนหายใจและกล่าวว่า “ฮูหยิน พลังเวทลึกลับของปากข้าจะใช้ไม่ได้ผลหากใช้อย่างจงใจ มันจะใช้ได้ต่อเมื่อไม่ได้ตั้งใจเท่านั้น”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่ฉางโซ่วก็พอเข้าใจอะไรบางอย่างคร่าวๆ แล้ว
เขาเป็นบุตรแห่งมหาภัยพิบัติอย่างแท้จริง
ประโยคที่ว่า “สหายเต๋า ช้าก่อน” ไม่ใช่สิ่งที่ใครๆ ก็สามารถนำไปใช้ได้เพียงแค่พูดแบบสบายๆ นี้ มีเพียงเสือดำเท่านั้นที่จะใช้ได้… ทว่าหลี่ฉางโซ่วก็ยังไม่เชื่อทั้งหมด เขาจึงเริ่ม “การทดลอง” สองสามอย่างในทันที
เขากำกับฉากเล็กๆ สองฉากตรงหน้า
ฉากแรกเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้ฝึกบำเพ็ญมนุษย์สองคน ทั้งสองฝ่ายเท่าเทียมกัน แต่ในช่วงเวลาสุดท้าย ทั้งสองฝ่ายก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่อาจเคลื่อนไหวได้
ทั้งคู่ได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตาของพวกเขาเอง ทว่าพวกเขาคิดแต่เรื่องของตัวเองและหลีกเลี่ยงมัน พวกเขาไม่โลภและไม่อยากโจมตี แต่พวกเขาต้องการเลี่ยงและจากไปแทน
เมื่อหลี่ฉางโซ่วเห็นเช่นนั้น เขาก็สร้างตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์สองตัวมาแสร้งเป็นตายและจงใจเปิดเผยสมบัติบางอย่าง เสือดำและภรรยาของเขาคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง แม้จะลังเลใจ แต่พวกมันก็ยังจากไปอย่างรวดเร็ว…หลี่ฉางโซ่วรุ้สึกประทับใจเสือดำเพราะเขาเห็นคุณค่าของชีวิตของเขา
ในฉากที่สอง หลี่ฉางโซ่วได้จัดเตรียมตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ให้แปลงร่างเป็นผู้ฝึกบำเพ็ญมนุษย์เพื่อโจมตีเสือดำและภรรยาของเขา แล้วจับพวกเขาเอาไว้ เสือดำโกรธมากจนก่นด่าสาปแช่งไม่หยุด ส่วนอาการบาดเจ็บที่ร่างหลักของหลี่ฉางโซ่วซึ่งได้รับจากการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ ก็กลับเริ่มฟื้นตัวเร็วขึ้นท่ามกลางคำก่นด่าสาปแช่ง!
มีประโยชน์จริงหรือ?
จากนั้น ปรมาจารย์ผู้สวมหน้ากากที่แผ่กลิ่นอายปีศาจออกมา ก็ปรากฏตัวขึ้น และไล่ผู้ฝึกตนของมนุษย์ออกไป เขาช่วยทั้งคู่และให้โอสถแก่พวกเขา เสือดำรู้สึกซาบซึ้งใจมาก และขณะที่เขากำลังจะให้พร ปีศาจน้ำก็เตือนเขาทันเวลาและขัดจังหวะ “การร่าย” ของเขา
คราวนี้ หลี่ฉางโซ่วจับร่องรอยของอักขระเต๋าที่ไหลเวียนอยู่ได้…
ความสามารถของเสือดำเกือบจะได้รับการยืนยันแล้ว
เต๋าพิษแห่งสวรรค์! มันคือ เต๋าพิษแห่งสวรรค์!
หลี่ฉางโซ่วคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วว่า ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องอยู่ให้ห่างจากเสือดำ เขามีพลังเวทแปลกๆ และคาดเดาไม่ได้ จึงป้องกันไม่ได้ เช่นนั้น ย่อมเป็นการดีที่สุด หากเขาจะไม่ให้อีกฝ่ายรู้ชื่อของเขา เขาจะปกปิดเท่าที่เขาจะทำได้ แต่ด้วยคำสั่งของจอมปราชญ์เทพ หลี่ฉางโซ่วจึงไม่กล้าจากไปง่ายๆ และแอบตามเขาไปอย่างลับๆ
เสือดำพาปีศาจน้ำ เหมียวเหมี่ยวไปซ่อนตัวในทั่วทุกที่ พวกเขาผ่านดินแดนของสำนักเซียนมากมายในดินแดนเทวะบูรพา และเมื่อผ่านไปครึ่งเดือน พวกเขาก็มาถึงที่หมาย
พวกเขามาถึงป่าชายแดนของดินแดนเทวะทักษิณที่ตัดกับดินแดนเทวะบูรพา และดินแดนเทวะมัชฌิมา ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วก็รู้ว่า เสือดำอยู่ที่นั่นเพื่อค้นหาสมบัติ
เขากำลังมองหา “มรดก” บางอย่างที่ทิ้งไว้ในชีวิตชาติก่อนหน้านี้ ขั้นตอนการค้นหาสมบัติค่อนข้างราบรื่น เสือดำพบกำแพงหินในหุบเขากลางป่า หลังจากค้นหากำแพงหินแล้ว เขาก็เปิดประตูหินที่ซ่อนอยู่และเข้าไปในนั้นพร้อมกับปีศาจน้ำ เหมียวเหมี่ยว
หลี่ฉางโซ่วได้ยินเสือดำตะโกนอย่างมีความสุขหลังจากพบศิลาวิญญาณและเครื่องมือเวทจำนวนมาก
“ฮูหยิน! จากนี้ไป เราก็ฝึกฝนได้อย่างสงบสุขแล้ว! ศิลาวิญญาณเหล่านี้เพียงพอที่เราจะเป็นเซียนเทียนได้!”
ทว่าเมื่อเสือดำกล่าวจบ สัมผัสเซียนรับรู้ของหลี่ฉางโซ่วก็ตรวจจับปรมาจารย์ปีศาจสองสามคนที่บินมาจากดินแดนเทวะทักษิณได้ พวกเขาบินกลับไปที่หุบเขาในขณะที่พูดคุยและหัวเราะกัน…
ในห้องลับใต้ดินแห่งยอดเขาหยกน้อย หลี่ฉางโซ่วอดจะเอามือก่ายหน้าผากไม่ได้ เขาประทับใจ
แล้วทันใดนั้น ก็มีความคิดหนึ่งวาบเข้ามาในใจ จู่ๆ เขาก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ บางทีเขาอาจทำให้เสือดำพูดแทนเขาได้…สังหารปีศาจในศาลสวรรค์
………………………………………………………………..