ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 491 สัตว์วิญญาณอะไร เจ้าต้องการสัตว์วิญญาณตัวใด (2)
- Home
- ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว
- ตอนที่ 491 สัตว์วิญญาณอะไร เจ้าต้องการสัตว์วิญญาณตัวใด (2)
ตอนที่ 491 สัตว์วิญญาณอะไร? เจ้าต้องการสัตว์วิญญาณตัวใด? (2)
ในเวลานั้น เผ่าเวทสายเลือดบริสุทธิ์หลายสิบคนที่เข้าใกล้ร่างเต๋าเซียนเทียน ได้ลอบเข้าไปในตำแหน่งด้านหน้าโดยใช้กลิ่นอายลมปราณโกลาหลของเผ่าเวทเพื่อปกปิดการดำรงอยู่ของตัวพวกเขาเอง
ขณะนี้มีกลิ่นอายปีศาจเต็มไปทั่วทั้งป่าหนาทึบ
มีเหล่ามนุษย์เวทดุร้ายอยู่ภายนอกเมือง
หลี่ฉางโซ่วดำเนินการตามแผนอย่างใจเย็นโดยมีตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์หลายตัวซุ่มซ่อนตัวเพื่อรอโจมตีอยู่เงียบๆ ภายใต้ป่าทึบนั้น
เขาจะโรยยาสลบเพิ่มเล็กน้อย แล้วปล่อยกระจายออกไปสักหน่อย
เหล่าผู้ปฏิบัติการจากสำนักบำเพ็ญประจิมได้สร้างวงล้อมอย่างเรียบง่ายเอาไว้ในป่าในขณะที่เหล่าปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดสองสามตัวได้ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง พวกมันและหารือกันถึงโอกาสในการลงมือโจมตีแล้ว
พวกเขาต้องการรอให้เหล่าทูตเทวะของสำนักเทพทะเล พุ่งเข้าไปในใจกลางวงล้อมซุ่มโจมตีนี้ จากนั้นก็จะเข้าปิดล้อมเหล่าทูตเทวะจากทั่วทุกทิศทางแล้วบุกโจมตีพร้อมๆ กัน
พวกเขาต้องการยุติการต่อสู้ให้เร็วที่สุดแล้วล่าถอยไปเมื่อกระทำการสำเร็จ จากนั้นก็กลับไปรับรางวัล
เมื่อเห็นว่าเหล่ามนุษย์เวทนั้นไร้เดียงสาเพียงใด พวกเขาเพียงรู้วิธีพุ่งโจมตีอย่างไรเท่านั้น เหล่าปีศาจก็อดจะหมิ่นหยามพวกเขาไม่ได้
เจ้าพวกเผ่าเวทด้อยปัญญา!
ทว่าในไม่ช้าปีศาจใหญ่เหล่านี้ก็ตกตะลึง…
เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็วมาก จนทำให้เหล่าปีศาจไม่ทันตั้งตัว!
เมื่อทูตเทวะหลายร้อยคนของสำนักเทพทะเล พุ่งเข้าไปในป่าและมาถึงบริเวณรอบนอกวงล้อมที่วางไว้ของเหล่าปีศาจ ทันใดนั้นก็มีวิญญาณหมีดำตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากหลังต้นไม้กะทันหัน
มันหันศีรษะมาแล้วร้องคำรามว่า “ผู้น้อยเข้าใจแล้ว! ผู้น้อยจะเป็นผู้นำศึก พุ่งออกไปที่ด้านหน้าก่อน!”
หลังจากกล่าวเช่นนั้น มันก็วิ่งเตลิดไปอย่างบ้าคลั่ง แล้วพุ่งเข้าหาเหล่าทูตเทวะหลายร้อยคน!
แล้วจู่ๆ ก็มีปีศาจชายในชุดคลุมสีขาว กระโดดออกมาจากยอดไม้ที่อยู่ห่างออกไปสองสามร้อยจั้ง แล้วร้องตะโกนว่า “ฆ่า!”
ทันใดนั้น กลุ่มปีศาจยี่สิบหรือสามสิบกลุ่มที่ดักรอซุ่มโจมตีอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ก็พุ่งปรี่ออกมา ไล่ล่าวิญญาณหมีดำทันที และทะยานตามไปอย่างไม่ลดละ!
เมื่อเห็นบรรดาสหายของพวกมันรีบพุ่งตัวออกไป เหล่าปีศาจส่วนใหญ่ก็ไม่มีเวลาจะตัดสินใจใดๆ อีก พวกมันได้ปรากฏตัวขึ้นทันที
ในชั่วพริบตานั้น พวกมันก็รวมตัวกัน สร้างเป็นกองทัพปีศาจที่ประกอบไปด้วยเหล่าปีศาจมากกว่าสามร้อยตัว!
จากนั้น พวกมันก็บินขึ้นไปบนฟ้าบ้าง หรือมุดดินบ้าง หรือไม่ก็พุ่งออกไปเผชิญหน้า ต่อสู้กับเหล่าทูตเทวะแห่งสำนักเทพทะเล!
เหล่าปีศาจอีกครึ่งหนึ่งสัมผัสได้ถึงกลิ่นผิดปกติและคิดว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง จึงอยากถอยหนี หรือไม่ก็นอนหลับสนิทและสลบไสลไม่ได้สติไปจริงๆ
บัดนั้น เมื่อการปิดล้อมที่เหล่าปีศาจสร้างขึ้นมาก่อนหน้านี้ ได้ถูกจัดการอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้ บรรดาแม่ทัพปีศาจจึงล้วนอารมณ์เสีย และกระทืบเท้าพลางก่นด่าสาปแช่งออกมา…
หลี่ฉางโซ่วที่เพิ่งมาถึงด้านนอกป่าก็หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นเช่นนั้น
พวกก่อความวุ่นวายที่รวมตัวกันชั่วคราวเหล่านั้น เต็มไปด้วยช่องโหว่จริงๆ
ในเวลานั้น วิญญาณหมีดำและปีศาจชายในชุดคลุมสีขาวก็แอบดึงลมปราณปีศาจจาก “แก่นปีศาจพังพอน” แล้วใช้ปกคลุมร่างตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งสองก่อนจะใช้เวทหลบหนีเพื่อแอบเข้าไปในวงล้อมศัตรู…
มันเป็นการจัดการพื้นฐาน อย่าหก[1] ทั้งหมดล้วนเป็นเพียงกลอุบายเล็กๆ อย่างหนึ่งเท่านั้น
จากนั้น ก็มีตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์บินออกมาจากแขนเสื้อของหลี่ฉางโซ่ว พวกเขาโอบรากฐานค่ายกลเอาไว้ และใช้เวทหลบหนีเพื่อวนเวียนไปรอบๆ
ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เซียนจินของหลี่ฉางโซ่ว ไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ เขายังคงเฝ้าตรวจสอบและติดตามสภาพแวดล้อมของเขาโดยไม่กล้าจะผ่อนคลายใดๆ
เหล่าทหารแนวหน้ากำลังจะประจัญบานแล้ว
ในขณะนั้น เหล่าทูตเทวะของสำนักเทพทะเลนับสิบคนที่อยู่ด้านหน้า พลันกระโดดออกไปทางซ้ายและขวาพร้อมๆ กัน!
หน้าม้าและหัววัว ซึ่งหลังจากถอดหมวกออกแล้ว ก็ทำให้ไม่อาจระบุตัวตนของพวกเขาได้ นำเผ่าเวทสงครามอีกสี่สิบหกคนเร่งความเร็วขึ้นในทันใด
บัดนั้น ร่างของพวกเขาเคลื่อนไหวรวดเร็วราวภูตผี และระเบิดลมปราณของเผ่าเวทแท้ออกมาจนก่อให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นบนพื้นดินอย่างกะทันหัน!
ทันใดนั้น กระแสแสงโลหิตสี่สิบแปดสายก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าประหนึ่งควันไฟหมาป่า[2] ทำให้แสงระเรื่อแห่งดวงสุริยันยามอัสดงถูกอาบย้อมจนเป็นสีแดง!
บรรดาปีศาจพลันแตกตื่นตกใจ! และในขณะนั้นเอง ก็มีเสาแสงปรากฏขึ้นมาจากพื้นที่ส่วนต่างๆ ของป่า
เสาแสงเหล่านั้นต่างไปบรรจบรวมกันที่ศูนย์กลาง แล้วในพริบตานั้น ก็ก่อตัวขึ้นเป็นค่ายกลขนาดมหึมาที่ผนึกพื้นที่โดยรอบในรัศมีหลายสิบลี้ทันที!
ที่ฐานค่ายกลสิบสองค่ายกล มีตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์สามตัวซึ่งครองความแข็งแกร่งระดับเซียนเทียนขั้นสูง กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่
พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะถ่ายเทพลังเซียนของพวกเขาเข้าไปในรากฐานค่ายกลและปรับปรุงค่ายกลได้ตลอดเวลาเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยให้พวกปีศาจเล็ดรอดออกไปได้แม้แต่ตัวเดียว!
ในเมืองอันสุ่ย ขณะนี้ มีเหล่ามนุษย์เวทหลายร้อยคนจากหมู่บ้านสง กำลังวิ่งไปรอบๆ เพื่อค้นหาพวกปีศาจที่หลงเหลืออยู่…
ภายใต้อาทิตย์อัสดง บัดนั้น แม่น้ำเลือดหลั่งไหลนองในป่าทึบ เหล่าปีศาจใหญ่ถูกเผ่าเวทสงครามฉีกทึ้งเป็นชิ้นๆ ด้วยมือเปล่า และสามารถพบเห็นซากศพทุกชนิดของพวกมันได้ทั่วทุกหนแห่ง
เผ่าเวทสงครามหลายสิบคนที่กำลังต่อสู้นองเลือดกันอยู่นั้น เผยให้เห็นท่าทางดุร้าย เลือดในร่างของพวกเขาเข้มข้นขึ้นในขณะที่พวกเขาได้รับศักดิ์ศรีกลับคืนมาอีกครั้ง ราวกับจะประกาศศักดาที่รุ่งโรจน์เกรียงไกรแห่งมหาสงครามโบราณที่ปรากฏขึ้นในครั้งอดีตกาล!
แม้กระทั่งบรรดาทูตเทวะแห่งหมู่บ้านสงซึ่งมีสายเลือดครึ่งหนึ่งของเผ่าเวทอยู่ในตัว พวกเขาก็ยังมีสีหน้าหน้าซีดเซียว
ในขณะนั้น พวกเขาซ่อนตัวอยู่ตามมุมต่างๆ และสร้างค่ายกลต่อสู้แนวป้องกัน… พวกเขาล้วนตัวสั่นเทาและทำอะไรไม่ถูก
หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม…
เผ่าเวทสี่สิบแปดคน แต่ละคนล้วนลากซากสัตว์ปีศาจสองถึงสามตัวที่มีรสชาติดีในความทรงจำของพวกเขา แล้วพากันไปที่ชายหาดริมทะเล ภายใต้การคุ้มกันโดยรอบของเหล่าทูตเทวะแห่งหมู่บ้านสง
จากนั้นพวกเขาก็อาบน้ำทะเลแล้วตั้งตะแกรงย่างอย่างคล่องแคล่ว เนื้อสัตว์ส่งกลิ่นหอมลอยฟุ้งตลบอบอวลอยู่ในอากาศ แผ่ขจรขจายออกไปในรัศมีร้อยลี้…
ในขณะนั้น หัววัวและหน้าม้าล้วนสวมหมวก และกำลังนั่งอยู่ตรงมุมชายหาด พวกเขาเฝ้ามองผู้คนในเผ่าของพวกเขาที่กำลังร้องเพลงเต้นรำกันอย่างเบิกบานสำราญใจ
ลมทะเลพัดโชยมาต้องแผงคออันอ่อนนุ่มของหน้าม้าในขณะที่เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงลุ่มลึกซึ่งเต็มไปด้วยความจริงใจอย่างลึกซึ้งว่า “วัว เจ้าจำได้หรือไม่? ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกเราได้ไล่ล่าเหล่าสัตว์ร้ายและวิ่งอย่างเริงร่าในยามอาทิตย์อัสดง”
………………………………………………………………..
[1] เป็นคำศัพท์ย่อที่ใช้กันทางอินเทอร์เน็ตจีน หมายถึง ธรรมดามาก ไม่ต้องตกตะลึงหรือเอะอะกันไป เพราะมันเป็นเพียงการดำเนินการขั้นพื้นฐานของผู้เยี่ยมยอด ซึ่งในสายตาของคนนอกนั้น จะดูเป็นเรื่องอัศจรรย์ แต่จริงๆ แล้ว สำหรับผู้เยี่ยมยอด มันเป็นเพียงพื้นฐานสามัญมาก
[2] ควันสัญญาณการออกศึก