ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 51 ชำระล้างมังกร (1)
แปลกจริง เหตุใดจู่ๆ จึงมีสัมผัสเซียนรับรู้ที่เกรี้ยวกราดมากมาย ค้นหาไปมารอบๆ ที่นี่?
บนแนวชายฝั่งที่ต่อเนื่องกันของชายฝั่งทะเลบูรพาและบริเวณพื้นที่ทางด้านตะวันออกของดินแดนเทวะทักษิณนั้น มีเนินเขาที่หันหน้าเข้าหาทะเลอยู่…
ในหมู่บ้านชาวประมงที่มีบ้านหินเรียบง่ายหลายสิบหลัง บัดนี้หลี่ฉางโซ่วในร่างนักพรตเต๋าที่ดูเย็นชา กำลังถือถ้วยน้ำร้อนที่มีหญิงชราสองสามคนนำมาให้ ขณะที่เขากำลังกวาดมองสำรวจพื้นผิวทะเลและดื่มมัน
เขาเพิ่งแจกยันต์บางอย่างในหมู่บ้าน ในเวลานี้เขาได้รับการขอบคุณอย่างอบอุ่นจากชาวบ้าน และเขายังใช้สิ่งนี้ในการปกปิดตัวเองเพื่อให้การเคลื่อนไหวของเขาที่ฝั่งทะเลบูรพาดูสมเหตุสมผลมากขึ้น
มีผู้บำเพ็ญมนุษย์ที่เดินทางท่องเที่ยวหลายคนใช้วิธีการเช่นนี้เพื่อรับโชควาสนาและบุญกุศลให้กับตนเองมากขึ้น
แต่มีหลักการที่หลี่ฉางโซ่วเข้าใจเหตุผลมาเนิ่นนานแล้ว นั่นคือการช่วยคนดีย่อมก่อให้เกิดผลกรรมดี และการช่วยคนเลวย่อมก่อให้เกิดผลกรรมชั่ว
เขาไม่แน่ใจว่ายันต์ที่เขาให้ไปนั้นได้ช่วยคนดีหรือคนเลว ดังนั้นวิธีที่เหมาะสมที่สุดก็คือแจก ‘ยันต์ช่วยหลับ’ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งแม้จะวาดยันต์ผิดก็ไม่มีผลใดๆ และด้วยวิธีนี้เขาจะไม่มีส่วนกระทบต่อกรรม
บนพื้นผิวทะเลในระยะไกลออกไป มีร่างของมังกรครามได้โผนผ่านไปอย่างเงียบๆ และในไม่ช้าก็หายลับไปในหมู่เมฆ
มันเป็นเผ่ามังกรจริงๆ ดูเหมือนมันกำลังมองหาอะไรบางอย่าง
ข้าไม่ควรออกทะเลในเวลานี้ ด้วยเกรงว่าข้าจะปะทะเข้ากับมังกรเหล่านี้
ดังนั้นหลี่ฉางโซ่วจึงผ่านความยากลำบากด้วยการกินและนอนบนที่โล่งชายหาด เดินไปตามชายฝั่งทะเลจากเหนือจรดใต้ เพื่อดูชีวิตในดินแดนมนุษย์ซึ่งเขาสามารถเข้าใจอย่างถ่องแท้ได้เล็กน้อย
ครึ่งเดือนต่อมา หลี่ฉางโซ่วก็เดินไปทางใต้เป็นระยะทางกว่าพันลี้ และในที่สุดเขาก็แน่ใจว่าปรมาจารย์มังกรเหล่านั้นได้ออกจากพื้นที่ทะเลนี้ซึ่งพวกเขาได้สำรวจซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปแล้ว
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง หลี่ฉางโซ่วก็ตัดสินใจจะไม่เปลี่ยนแผนเดิมของเขาที่จะข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ในเขตพื้นที่ทะเลแห่งนี้
หลังจากรออีกสองเดือน ในที่สุดเขาก็แน่ใจว่ารัศมีหลายร้อยลี้นั้นสงบสุขอย่างสมบูรณ์
เขาเลือกคืนหนึ่งเพื่อแอบใช้เคล็ดวิชาลวงตาของเขาและแปลงร่างเป็นปลาขนาดกลางก่อนจะแหวกว่ายและดำดิ่งเข้าไปในน้ำทะเลที่ค่อนข้างอบอุ่น
เขาใช้หลีกลี้วารีเร้นกายไปยังเกาะเล็กๆ ไม่กี่แห่งที่เขาเคยเห็นในแผนผังการเดินเรือของชาวประมงมาก่อน
สถานที่สำหรับการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ไม่อาจอยู่ไกลเกินไปจากดินแดนมนุษย์ได้
ดินแดนมนุษย์เป็นที่ลี้ภัยฉุกเฉินสำหรับเขา หากเขาถูกโจมตีก่อนและหลังการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ เขาสามารถซ่อนตัวอยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่ของผู้คนได้โดยตรง
ทว่าสถานที่สำหรับการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ก็ไม่อาจอยู่ใกล้เกินไปกับดินแดนมนุษย์ด้วยเช่นกัน
ดินแดนมนุษย์เต็มไปด้วยพลังขุ่นมัวและความวุ่นวาย ดังนั้นร่างเต๋าและปราณวิญญาณของผู้บำเพ็ญจะถูกปนเปื้อนได้ง่าย หากเขาสามารถข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จ เขาก็จะดูดซับพลังวิญญาณระหว่างสวรรค์และปฐพีเมื่อเขาบรรลุเป็นเซียน
แม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะดูดซับพลังขุ่นมัวในดินแดนมนุษย์ แต่ก็ยังค่อนข้างไม่เป็นที่พอใจนัก
การข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ของท่านอาจารย์ของเขายังไม่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นเขาจึงดูดซับพลังวิญญาณได้ในช่วงเวลาสั้นมาก
เมื่อสองเดือนก่อน เผ่ามังกรกำลังมองหาสิ่งใดกันแน่
ในเวลานี้หลี่ฉางโซ่วรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาเล็กน้อย
คนหรือสมบัติประเภทใดกันที่สามารถทำให้อีกฝ่ายกระตือรือร้น จนส่งกองกำลังจำนวนมากออกมาค้นหาที่ชายแดนทะเลบูรพาได้
ในขณะนั้น แม้เขาจะมองไม่เห็นร่างของปรมาจารย์มังกร แต่พวกมันก็ไม่ได้ซ่อนเร้นลมปราณเอาไว้เลย และเขาก็สามารถสัมผัสพวกมันได้จากระยะไกล
ช่างมันเถิด ไม่ใช่เรื่องของเขา
เขาแอบบันทึกการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ จากนั้นก็พบสถานที่ที่จะใช้ฝึกฝนเป็นเวลาสองถึงสามปีเพื่อทำให้เต๋าของเขามีเสถียรภาพ ปกปิดลมปราณของเขา และปรับปรุงทักษะสงบลมปราณเต่า หลังจากนั้นเขาก็จะกลับไปที่สำนักและดำเนินชีวิตที่มั่นคงของศิษย์รุ่นเยาว์แห่งสำนักตู้เซียน
เวลานี้เขาแทบจะไม่อาจระงับขอบเขตพลังของเขาได้ และอาจบรรลุไปถึงขอบเขตคืนกลับอนัตตาขั้นเก้าได้ตลอดเวลา
เขาเดินอย่างระมัดระวังอยู่ในน้ำทะเล หลี่ฉางโซ่วค่อยๆ สัมผัสบริเวณเกาะเล็กๆ ซึ่งมีพื้นที่หลายลี้และสังเกตดูพวกมันอย่างระมัดระวังไปทุกหนแห่ง แต่ก็ยังไม่พบที่ใดที่เขาพอใจ
ไม่ใช่ว่าเกาะเล็กๆ เหล่านี้จะไม่เพียงพอให้เขาซ่อนตัว แต่โครงสร้างของพวกมันค่อนข้างซับซ้อน และมีที่ซ่อนมากเกินไป ซึ่งจะทำให้ผู้คนสำรวจในเชิงลึกได้ง่าย
ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ดีสำหรับการปิดด่านฝึกบำเพ็ญเพียรและข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์
หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและค้นหาไปทางด้านใต้ต่อไป เพราะปรมาจารย์มังกรเหล่านั้นย้ายจากใต้ขึ้นเหนือไปเมื่อสองถึงสามเดือนก่อน
เขาเดินทางเร็วขึ้นและค้นหาช้าลงพร้อมกับสงบจิตใจเพื่อค้นหาสถานที่แห่งโชคชะตาของเขาเอง
ในช่วงกลางดึก ดวงตาของหลี่ฉางโซ่วก็สว่างไสวขึ้นเมื่อพลังปราณสัมผัสรับรู้ของเขาได้ค้นพบเกาะเล็กๆ ที่ดีทีเดียว
เกาะนั้นมีรูปร่างเหมือนวงแหวน อันที่จริงมันมีเนินเขาหลายลูกที่ยื่นออกมาจากทะเล พลังปราณสัมผัสรับรู้ของเขาแผ่ขยายออกไป และโครงสร้างของสถานที่แห่งนั้นก็ชัดเจนในชั่วพริบตา ซึ่งมันจะไม่ดึงดูดให้ผู้อื่นมองสังเกตอย่างระมัดระวัง
หลังจากแปลงร่างเป็นปลาและเข้าไปใกล้เกาะแห่งนี้ หลี่ฉางโซ่วก็รู้สึกพอใจมากขึ้น เขาใช้หลีกลี้วารีเร้นกายวนรอบเกาะมากกว่าสิบครั้งจากระยะไกล ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าไปใกล้เพื่อตรวจสอบมากขึ้น
ขณะนี้ยังต้องไปต่ออีกกว่าสิบลี้…
เอ๋? ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดปกติกับกระแสน้ำทะเล
หลี่ฉางโซ่วเห็นกระแสน้ำวนเล็กๆ ในทะเล จากนั้นเขาก็แผ่พลังปราณสัมผัสรับรู้ของเขาออกไปตรวจสอบมันทีละชุ่น และในไม่ช้าก็พบว่ามีถ้ำซ่อนอยู่ใต้น้ำ ถ้ำแคบมากและโครงสร้างทั้งหมดก็เป็นแนวทแยงขึ้นไปเชื่อมต่อกับแอ่งน้ำเล็กๆ ที่ใดที่หนึ่งในเกาะ…
ดีเลย เป็นสถานที่ยอดเยี่ยม มีแม้กระทั่งเส้นทางหลบหนีตามธรรมชาติในยามฉุกเฉิน!
ยิ่งมองดูมันมากเท่าใด หลี่ฉางโซ่วก็ยิ่งพอใจมากขึ้นเท่านั้น
เขาตัดสินใจได้แล้ว เป็นสถานที่แห่งนี้!
……
ต้องการจับองค์ชายอย่างข้ากลับไปหรือ ฝันไปเถิด!
ในเวลานี้อ๋าวอี่แปลงร่างเป็นมนุษย์ ร่างกายของเขาติดอยู่กับกำแพงหินแข็งที่เย็นยะเยือกในขณะที่เขากำลังตรวจสอบสถานการณ์รอบๆ เกาะในรัศมีสามลี้อย่างระมัดระวัง และแอบใช้เคล็ดวิชาลึกลับจากเผ่าพันธุ์มังกร…เวทมังกรใต้พิภพ
เขารู้ว่าเขาไม่อาจสำรวจด้วยพลังปราณสัมผัสรับรู้ได้ไกลเกินไป ไม่เช่นนั้นมันจะเปิดเผยตัวเขาได้ง่ายมาก
และด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่อาจแน่ใจได้ว่ายังมีคนของเขาอยู่ที่นี่อีกหรือไม่
แต่ไม่มีปัญหา เขามีความอดทนที่จะรอต่อไป แม้ว่าเขาจะซ่อนตัวอยู่ที่นี่เป็นเวลาสามเดือนแล้วก็ตาม เขาก็ยังสามารถรอต่อไปได้
เพื่อแสวงหาการกำเนิดเป็นมังกร
เพื่อสายโลหิตที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขา
เพื่อความรับผิดชอบในฐานะองค์ชายของเผ่ามังกร!
ตราบใดที่เขาขึ้นฝั่งและออกจากขอบเขตอำนาจอิทธิพลของวังมังกร สถานการณ์ย่อมจะดีขึ้นมากและเอื้อต่อเขามากขึ้น
ความจริงแล้ว อ๋าวอี่ค่อนข้างทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะไม่ใช่เซียนเหล่านั้นบนเกาะที่ค้นหาเขา
เซียนอู้หยุนได้แจ้งไปยังวังมังกรโดยตรง และวังมังกรก็ได้ส่งปรมาจารย์จำนวนมากเพื่อมาดักจับเขาจากเหนือจรดใต้!
ในวันนั้นหากอ๋าวอี่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองได้ทันเวลา และแอบเคลื่อนตัวผ่านน้ำไปอย่างเงียบๆ เขาก็คงเกือบจะเผชิญหน้ากับผู้คนจากเผ่าพันธุ์ของเขาแล้ว!
ต้องนับว่าเขาโชคดีทีเดียว เมื่อเขาซุ่มซ่อนอยู่ที่ก้นทะเล เขาเคลื่อนไปตามภูมิประเทศของก้นทะเลกระทั่งพบเกาะรูปวงแหวนนี้อย่างรวดเร็ว และได้พบรอยแยกหินที่เขาซ่อนอยู่นี้…
เขาจึงรอดพ้นจากการค้นหาของเหล่าปรมาจารย์ในเผ่าของเขาอย่างไม่คาดคิด
ฮึ่ม ที่ซ่อนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้มีเพียงองค์ชายอย่างข้าเท่านั้นที่จะค้นพบได้!
เมื่ออ๋าวอี่คิดเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกภูมิใจในตัวเอง
ทันใดนั้น อ๋าวอี่ก็รู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา
นี่ไม่ใช่ว่าเขาตรวจพบบางอย่างแต่เป็นความสามารถของสายโลหิตของเขาที่ทำนายเหตุการณ์วิกฤตได้
ข้าจะถูกค้นพบหรือ
อ๋าวอี่วิตกกังวลในใจ เขาไม่กล้าขยับเมื่ออยู่ใกล้กับกำแพงหินในขณะที่พลังเวทมังกรใต้พิภพของเขาปั่นป่วนอย่างรุนแรง
ในเวลานี้เขาเกลียดเพียงบรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์มังกรที่เย่อหยิ่งเกินไปและไม่ศึกษาวิธีการแปลงร่างเพื่อการหลบซ่อนอย่างยอดเยี่ยม!
จู่ๆ ก็มีนักพรตเต๋าเฒ่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ปรากฏตัวขึ้นนอกถ้ำ เจาะเข้ามาในรอยแยกของหินและเข้าใกล้ที่เขาอยู่
ทันใดนั้นอ๋าวอี่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาขมวดคิ้วในขณะที่ดวงตาของเขาหรี่ลงอย่างจดจ่อ องค์ชายรองได้ตัดสินใจในใจแล้วและเตรียมการโจมตีที่รุนแรงที่สุดอย่างเงียบ ๆ
ลมปราณของนักพรตเต๋าเฒ่าผู้นี้ไม่แข็งแกร่ง อีกทั้งเขาก็ไม่รู้ว่าตนเองได้ใช้เวทมังกรใต้พิภพ อ๋าวอี่ย่อมสามารถซุ่มโจมตีเขาได้ด้วยมือเดียว และหากนักพรตเต๋าเฒ่าก้าวเข้ามาใกล้กว่านี้อีก เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน!
‘เซียนผู้เมตตาจะถูกเซียนทำร้าย และมังกรผู้เมตตาก็จะถูกเซียนกดขี่เช่นกัน!’
นี่คือความจริงที่อาจารย์สอนเขาในช่วงที่เขายังอยู่ในไข่!
นักพรตเต๋าเฒ่าเคลื่อนเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว…
สิบจั้ง…
แปดจั้ง…
ห้าจั้ง…
เขามาถึงแล้ว!
อ๋าวอี่หรี่ตาของเขาลง และเมื่อนักพรตเต๋าเฒ่าอยู่ห่างจากเขาไปไม่เกินสามจั้งซึ่งอยู่ใกล้กับกำแพงหิน ฉับพลันนั้นอ๋าวอี่ก็ระเบิดแสงสีครามออกมาแล้วพุ่งเข้าโจมตีอย่างรุนแรงทันที!
หัวมังกรครามโผล่พุ่งออกมาจากน้ำทะเลที่เย็นยะเยือกและรอยแยกแคบๆ ของหินในทันใด แล้วอ้าปากที่ดูราวกับจระเข้ยักษ์เพื่อเขมือบนักพรตเต๋าเฒ่า หลี่ฉางโซ่ว เข้าปากในคำเดียว!
นั่นคือพลังเวทโดยกำเนิดของเขา: กลืนทั้งสวรรค์ยันปฐพี!
หลี่ฉางโซ่วตื่นตกใจอย่างเห็นได้ชัด!
แต่ปฏิกิริยาของเขาก็รวดเร็วไม่แพ้กัน เขาหลบไปด้านข้างทันทีในขณะที่มือซ้ายของเขาก็หยิบขวดกระเบื้องสองขวดเอาไว้อย่างรวดเร็ว
ชั่วพริบตานั้น หัวมังกรก็สาดประกายแสงสีครามพร่างพรายในน้ำทะเล และปากของมังกรก็กัดแขนซ้ายของหลี่ฉางโซ่วทันทีก่อนที่จะกลืนมันเข้าไปในคำเดียว!
…………………………………………