ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 51 ชำระล้างมังกร (2)
หลี่ฉางโซ่วแค่นเสียงเยาะหยันออกมาและรีบถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็วในขณะที่มือขวาของเขาก็ร่ายเวท!
อ๋าวอี่เปิดตัวด้วยการโจมตีที่รุนแรงแต่กลับถูกหลบหลีกได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับความเร็วของปฏิกิริยาโต้ตอบของนักพรตเต๋าเฒ่าหน้าเย็นชา
เขารีบไล่ตามลงไปข้างล่างทันที แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะใช้หลีกลี้วารีเร้นกายหนีไป แล้วร่างของเขาก็พุ่งออกไปจากถ้ำกลางทะเล!
อ๋าวอี่ปล่อยให้เขาหนีรอดไปเช่นนั้นไม่ได้!
อ๋าวอี่รู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมาก พลันหางของมังกรก็โบกสะบัดแล้วไล่ตามไปข้างหน้าทันที แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกวิงเวียนต่อด้านหน้าเขา…
เมื่อครู่นี้เขากลืนอะไรลงไปหรือ
ขณะที่พุ่งไปข้างหน้า อ๋าวอี่ก็ตรวจสอบตัวเองอย่างรวดเร็ว แต่เขาเห็นแขน ‘กระดาษขาว’ เล็กๆ อยู่ในท้องของเขา ขวดกระเบื้องสองขวดที่กำลังจะละลายด้วยพลังเวทของเขา และโอสถสองกลุ่มนั้นก็กำลังหลอมละลายอย่างเงียบๆ …
ตัวเบาหวิวๆ เฉื่อยซึมเซา แล้วก็ง่วงนอน!
ถูกวางยา!?
เป็นยาสลบฤทธิ์แรงอะไรเช่นนี้!
บัดนี้อ๋าวอี่เข้าใจว่ามีคนวางแผนทำร้ายเขา ฉับพลันนั้นพลังสายโลหิตภายในร่างมังกรของเขาก็ระเบิดออกมา และหน้าผากของเขาก็เปล่งประกายแสงสีครามออกมาทันที
ในสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้ อ๋าวอี่จะต้องตายอย่างแน่นอนหากเขาหมดสติไป เขาทำได้เพียงฆ่านักพรตเต๋าเฒ่าที่แขนขาดก่อนที่พลังฤทธิ์ยาทั้งสองนี้จะมีผลทำร้ายเขาอย่างสมบูรณ์เต็มที่!
พุ่งโจมตี!
ปัง…
ทันใดนั้นทะเลข้างหน้าก็เปิดทางออก และมังกรสีครามก็พุ่งทะลุผ่านออกมาจากรอยแตกของหิน
เพื่อต่อต้านการแพร่กระจายของฤทธิ์ยา อ๋าวอี่ได้พองตัวขยายร่างของเขาออกในทันที แต่ในตอนนี้ในทะเลมืดมิดเบื้องหน้า เขาก็ได้เห็นนักพรตเต๋าเฒ่าหน้าเย็นชายืนอยู่เงียบๆ…
มังกรพลันอ้าปากพุ่งทะยานไปข้างหน้า!
แท่งน้ำแข็งยอดแหลมลึกลับก็ปรากฏขึ้นในน้ำทะเลโดยรอบพร้อมกับมีเปลวไฟลุกโชนอยู่ภายในแท่งน้ำแข็งนั้น มันพุ่งเข้าใส่นักพรตเต๋าเฒ่าไปพร้อมๆ กัน!
แขนของเขายังดีอยู่?
ไม่สิ นี่ไม่ใช่คนเดียวกัน!
หัวมังกรขนาดใหญ่ของอ๋าวอี่พลันตกลง อาการวิงเวียนศีรษะของเขารุนแรงขึ้น และความคิดของเขาก็เฉื่อยชาเชื่องช้าลงมาก ซึ่งทำให้เขารู้สึกวิตกกังวลอย่างยิ่ง
ในเวลาเดียวกัน อ๋าวอี่ยังรู้สึกว่ามีพลังฤทธิ์ยาที่คล้ายคลึงกันมากขึ้นมาจากน้ำทะเลในทุกทิศทาง แล้วเจาะเข้าไปในทุกส่วนของร่างกายของเขา และกัดเซาะจิตวิญญาณมังกรของเขาโดยตรง!
ทันใดนั้นร่างที่เหมือนกันหลายคนก็ปรากฏขึ้นทางด้านหลังของนักพรตเต๋าเฒ่าผู้นั้น โดยแต่ละคนล้วนถือขวดกระเบื้องที่เปิดอยู่ในมือของพวกเขาเอาไว้!
ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ใช้หลีกลี้วารีเร้นกายไปพร้อมๆ กัน และร่างทั้งหกของพวกเขาก็แยกย้ายกระจัดกระจายกันไปอย่างรวดเร็วในน้ำทะเล หลบหลีกร่างมังกรของอ๋าวอี่ที่พุ่งเข้ามาด้วยความเฉื่อยได้อย่างง่ายดาย
มีผงยาเซียนระทวยหกขวดที่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และผงยาเซียนระทวยเข้มข้นระดับสูงสุดหนึ่งขวด…
อ๋าวอี่ยังคงรักษาร่างกายของเขาให้มั่นคงอย่างสงบอยู่ในทะเล ดวงตามังกรของเขาขุ่นมัวดั่งเมฆครึ้ม และร่างกายที่ยาวนับสิบจั้งก็สั่นไหวแกว่งไกวไปมา แต่เขากำลังจะรีบพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำทะเลทันที…
ทว่าราวกับพวกเขาจะสามารถอ่านความคิดของอ๋าวอี่ได้ ทั้งหกร่างนั้นพลันกลับมารวมตัวกันอีกครั้งด้านบน
และทั้งสิบสองแขนเสื้อของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เหล่านี้ก็พองตัวในน้ำทะเล ในขณะที่ถุงเก็บสมบัติที่พวกเขาถืออยู่พลันเปิดออก จากนั้นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เหล่านี้ก็รีบขว้างยันต์ออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วยันต์เหล่านั้นก็สานทอกันเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ในน้ำทะเล!
ยันต์หนึ่งร้อยแปดแผ่นเหล่านั้นเปรียบเสมือนเป็นฐานค่ายกลขนาดเล็กหนึ่งร้อยแปดฐาน ซึ่งพลังเวทกำลังไหลเวียนอยู่ แล้วทันใดนั้นพลังธาตุน้ำในน้ำทะเลก็ถูกกระตุ้นให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ค่ายกลยันต์ผนึกสะเทือนปฐพีวารีธาตุ!
ในชั่วพริบตานั้น ผนึกสี่ทิศทางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งร้อยจั้งก็ถูกควบแน่นและกระแทกลงบนหัวมังกรครามที่กำลังพุ่งใกล้เข้ามาจากด้านล่าง!
รัศมีรอบๆ ผนึกขนาดใหญ่พลันสาดประกายพร่างพราวด้วยพลังแผ่นดินถล่ม เพราะมันถูกควบแน่นด้วยพลังวิญญาณที่เพิกเฉยต่อการต่อต้านของทะเลโดยตรง
ทันใดนั้น มังกรครามที่อยู่เบื้องล่างก็เงยหน้าขึ้นร้องคำรามพร้อมกับที่แผงคอสีซีดของมันพลันระเบิดออก และกรงเล็บมังกรของมันก็ยืดออกด้วยกำลังภายในสุดแสนทรหดขณะที่มันพุ่งตรงไปที่ผนึกขนาดใหญ่นั้น!
เมื่อถึงจุดนี้ อ๋าวอี่ไม่มีพลังที่จะคิดสิ่งใดอีกต่อไป เนื่องจากอาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรงทำให้เขาไม่อาจตัดสินใจต่อไปได้ ทว่าเขามีเพียงเจตจำนงอันแข็งแกร่งที่จะต่อสู้ในหัวใจของเขา และหัวใจมังกรของเขาก็ไม่ยอมจำนน!
ข้าคือ อ๋าวอี่ องค์ชายรองแห่งวังมังกรทะเลบูรพา!
“อ๊าก…”
มังกรครามร้องคำรามในขณะที่ตราผนึกขนาดใหญ่กำลังตกลงมาใส่มัน!
ฉับพลันนั้นก็เกิดพลังคลื่นกระแทกที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าระเบิดผ่านท้องทะเล!
ทำให้เกิดคลื่นใหญ่มหาศาลสาดซัดพลุ่งพล่านในระยะรัศมีสิบลี้อยู่ภายในท้องทะเล และเกาะด้านข้างก็สั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง!
เมื่อมองดูอีกครั้ง!
ตราผนึกขนาดใหญ่ระเบิดแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และมังกรครามก็ไม่ได้รับอันตรายอย่างจริงจัง!
แต่ดวงตาที่เรียวยาวของหัวมังกรก็ค่อยๆ ปิดลง ร่างกายที่ใหญ่โตดูเหมือนจะสูญเสียความแข็งแกร่งทั้งหมด และตกลงสู่ก้นทะเลลึกหลายร้อยจั้ง…
มังกรที่ยังไม่ได้กลายเป็นเซียนสามารถต้านทานได้ถึงเพียงนี้เลยหรือ ดูเหมือนว่าสูตรของผงยาเซียนระทวยจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงบางอย่าง
หลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้วอยู่ในรอยแยกหินก้นทะเลที่อยู่ห่างออกไปสามร้อยจั้งในขณะที่แผ่พลังปราณสัมผัสรับรู้ของเขาออกไปตรวจสอบพื้นที่โดยรอบในรัศมีสามสิบลี้
แน่นอนว่าวิธีการต่อสู้ในน้ำนั้นย่อมแตกต่างไปจากบนบก และมันบังคับให้เขาใช้ ‘กลยุทธ์’ บางอย่างที่ต้องใช้พลังเวทของเขา
ถึงเวลาตรวจสอบผลของเพลิงสมาธิแท้แล้ว
เวลานี้ค่ายกลยันต์ทรงพลังอย่างยิ่ง
ดวงตาของหลี่ฉางโซ่วหรี่ลงในขณะที่เขาหยิบกระบี่บินสีเงินขนาดเล็กหกเล่มออกมาจากแขนเสื้อของเขาแล้วขว้างไปที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์
กระบี่บินทั้งหกเล่มนี้ล้วนเปล่งแสงสีขาวออกมา และในชั่วพริบตานั้น พวกมันก็กลายเป็นกระบี่บินยาวสามฉื่อที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งหกตัวจับเอาไว้แน่นตลอดเวลา
หลี่ฉางโซ่วกางมือซ้ายออก จากนั้นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งหกตัวต่างก็ร่ายรำกระบี่ของพวกมัน ร่างของพวกมันเชื่อมต่อกัน กลายเป็นค่ายกลกระบี่หกเหลี่ยม
เมื่อเขากดด้วยมือซ้าย ตุ๊กตากระดาษทั้งหกตัวก็คว่ำศีรษะลงและยกเท้าขึ้น พวกมันหมุนเวียนค่ายกลกระบี่ไปยังมังกรครามเบื้องล่าง แล้วรัดคอมัน เหนือกระบี่เซียนทั้งหกเล่มนั้น กระแสคลื่นเปลวเพลิงสมาธิแท้ก็จุดประกายขึ้นพร้อมๆ กัน!
ราวกับว่าน้ำทะเลที่อยู่รอบๆ นั้นช่างไร้ค่า และพลังของเพลิงสมาธิแท้ก็ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด!
ทันใดนั้น…
หลี่ฉางโซ่วพลันรู้สึกอับจนหนทางไปชั่วขณะหนึ่ง และกระบี่เพลิงสมาธิแท้ทั้งหกเล่มที่กำลังจะเจาะผิวหนังของมังกรครามก็หยุดลงกะทันหัน
นี่ไม่ใช่เพราะความใจดีของหลี่ฉางโซ่ว
เจ้ามังกรน้อยตัวนี้เคลื่อนไหวอย่างโหดเหี้ยม โจมตีเขาอย่างร้ายกาจด้วยต้องการจะสังหารเขาโดยตรง ดังนั้นจึงมีเหตุผลที่เขาจะสังหารมันเป็นการโต้กลับ
เขาจะยุติกรรม ณ ที่นี้ ในทันที แล้วปิดด่านบำเพ็ญเพียรอย่างสงบ จากนั้นก็ไปที่ทะเลทักษิณเพื่อการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จและกลับไปยังสำนัก… นี่คือแผนการที่หลี่ฉางโซ่วคิดขึ้นในขณะที่เขาถูกมังกรโจมตี
อย่างไรก็ตาม ชั่วขณะนั้นมีเกล็ดสามเหลี่ยมสีม่วงแวววาวระยิบระยับวาบขึ้นที่ด้านหลังมังกรคราม หลี่ฉางโซ่วเคยเห็นจากในตำราโบราณว่ามันเป็นเวทลับของอักขระเก่าแก่ที่สลักไว้บนนั้น
หากเขาสังหารมังกรตัวนี้ ปราณวิญญาณของเขาจะถูกปิดผนึกด้วยกฎลึกลับของเผ่าพันธุ์มังกรทันที และเขาก็จะถูกเผ่ามังกรไล่ล่าสังหารตลอดไป
ตามกฎของเผ่ามังกร เมื่อเห็นเกล็ดสีม่วงเปล่งแสงวาบจะต้องหยุดมือ คนที่ลงมือจะไม่ได้มีเพียงแต่ถูกล่าเท่านั้น แต่ยังสามารถได้รับของขวัญขอบคุณจากวังมังกรด้วย…
ข้อมูลที่บันทึกไว้ในตำราโบราณเล่มนั้นได้รับการเผยแพร่จากวังมังกรเอง ซึ่งเทียบเท่ากับการให้ทางรอดของมังกรน้อยที่สำคัญของพวกเขา ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการยืนยันมาหลายครั้งตั้งแต่สมัยโบราณว่าไม่ใช่เรื่องเท็จ
มังกรน้อยนี้คือผู้ใดกัน เขาต้องมีฐานะสูงส่งอย่างแน่นอน
มีความเป็นไปได้กว่าแปดในสิบส่วนที่เขาน่าจะเป็นเป้าหมายที่ปรมาจารย์มังกรกำลังค้นหากันอยู่
หลี่ฉางโซ่วส่ายศีรษะในขณะที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์หกตัวก็กลับมาอย่างรวดเร็วและเริ่มตรวจค้นตามที่ต่างๆ เพื่อหาร่องรอยที่พวกเขาอาจทิ้งเอาไว้
แต่ในขณะที่หลี่ฉางโซ่วกำลังเก็บสัมภาระจากสนามต่อสู้ก่อนจะจากไป เขาก็เหลือบมองไปอีกครั้ง แล้วเห็นองค์ชายรองแห่งวังมังกรทะเลบูรพา ซึ่งบัดนี้ได้กลายร่างเป็นมนุษย์และกำลังนอนหลับอยู่เบื้องล่าง
เป็นเขา?
เหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่
ปรมาจารย์มังกรเหล่านั้นค้นหาจากใต้สู่เหนือ…
แล้วหลี่ฉางโซ่วก็พลันนึกขึ้นได้ว่าเจ้ามังกรน้อยตัวนี้จงใจแพ้ให้เขาเมื่อก่อนหน้านี้…
เป็นไปได้หรือไม่ว่าการคาดการณ์ของเขาในวันนั้นถูกต้อง องค์ชายรององค์นี้กำลังพยายามต่อต้านและทำให้เผ่าพันธุ์มังกรต้องอับอายขายหน้าในระหว่างงานชุมนุมกวาดล้างปีศาจ แต่เขาลงเอยด้วยการ ‘ชนะ’ และแผนการของเขาก็ล้มเหลว?
หลังจากนั้น…เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาใช้ข้ออ้างอื่นเพื่อไปเป็นศิษย์สำนักเซียนและยังคงยั่วประสาทเผ่าพันธุ์มังกรต่อไป
และในที่สุด เจ้าคนผู้นี้ก็ถูกส่งตัวไปยังดินแดนของสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยเพื่อเป็นศิษย์…และเขาก็หนีมาที่แห่งนี้?
นี่อาจจะเป็นละครจริงๆ!
หากอ๋าวอี่หนีจากทางใต้และมาปรากฏตัวที่นี่ เมื่อดูจากการกระทำของเจ้าหนุ่มผู้นี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการไปที่ดินแดนเทวะมัชฌิมาหรือ ดินแดนเทวะบูรพา และเป็นไปได้ด้วยซ้ำว่าเป้าหมายของเขาคือการหลบหนีไปยังสำนักตู้เซียน…
หลี่ฉางโซ่วหรี่ตาของเขาลงทันที
หากเจ้าตัวน้อยนี้ไปถึงสำนักตู้เซียนจริงๆ สำนักก็น่าจะทำให้มังกรตัวนี้มีเสถียรภาพก่อนแล้วจึงติดต่อหาวังมังกรเพื่อสอบถามเรื่องนี้ และในท้ายที่สุดมันอาจจะจบลงด้วยปัญหาวุ่นวาย
ช่างมันเถิด เพราะในท้ายที่สุดแล้ว สำนักตู้เซียนก็คือสำนักของเขา มังกรน้อยตัวนี้ได้รับการคุ้มครองจากกฎลึกลับของเผ่ามังกรและไม่สามารถสังหารได้โดยตรง…
นี่เป็นปัญหาจริงๆ
ครั้งนี้เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ โอสถจำนวนมากถูกใช้ไป แม้แต่เลือดมังกรก็เก็บไม่ได้
หลี่ฉางโซ่วปล่อยตุ๊กตากระดาษอีกสองสามตัวและนำเซียนเมามายเข้มข้นที่เขาได้สกัดเอาไว้ล่วงหน้าสำหรับท่านอาจารย์อาจิ่วของเขาออกมา
แล้วครู่ต่อมา ก็มีแพไม้ไผ่ล่องลอยอยู่กลางทะเลอย่างนุ่มนวล
อ๋าวอี่ที่เต็มไปด้วยสุราก็นอนอยู่บนแพไม้ไผ่นั้นในขณะที่ร่างกายของเขาสาดแสงสีม่วงบางเบาออกมา
รอยยิ้มอันเงียบสงบปรากฏขึ้นที่มุมปากของอ๋าวอี่ที่กำลังถือ ‘ไหสุรา’ ที่ทำจากเปลือกหอยในมือของเขาขณะล่องลอยไปในทะเลลึกทางตอนเหนือบนกระแสน้ำทะเล
หลังจากเติมเซียนเมามายเข้มข้นกว่ายี่สิบขวดแล้ว คาดว่าเขาคงจะหลับไปหลายสิบวัน
ทั้งตัวของอ๋าวอี่ก็ได้รับการชำระล้างอย่างทั่วถึงหลายสิบครั้ง ไม่มีกลิ่นอายลมปราณของเขาแผ่ออกมาภายนอกอีกแล้ว…
แม้แต่กระดาษแผ่นเล็กๆ ที่อ๋าวอี่กลืนเข้าไปซึ่งกระเพาะอาหารของมังกรก็ไม่สามารถย่อยได้นั้น หลี่ฉางโซ่วก็เอาตุ๊กตากระดาษนั้นออกด้วย
ส่วนของขวัญแสดงความขอบคุณจากวังมังกรนั้น หลี่ฉางโซ่วไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยและเขาก็ได้หนีไปทางทิศใต้ทันที
………………………………………………………………………