ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 53.2 โปรดชำระล้างข้าด้วยความรักอีกครั้งเถิด ทัณฑ์สวรรค์! (2)
- Home
- ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว
- ตอนที่ 53.2 โปรดชำระล้างข้าด้วยความรักอีกครั้งเถิด ทัณฑ์สวรรค์! (2)
ห่างออกไปหลายลี้ มีนักพรตเต๋าชราผู้หนึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังเกาะอมตะในทะเลทักษิณพร้อมกับศิษย์ของเขาเพื่อไปเยี่ยมเยือนสหายสนิทของเขา ในเวลานั้น เขาก็มองดูสถานที่ที่หลี่ฉางโซ่วข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์อย่างสงสัย
นักพรตเต๋าชราผู้นี้กดนิ้วมือของเขาเข้าหากันเพื่อทำการคำนวณเหตุการณ์ แล้วทันใดนั้นดวงตาของเขาก็พลันเปล่งประกายขึ้นทันทีพร้อมกับโพล่งออกมาด้วยความตกตะลึงว่า “นั่นคือ…ทัณฑ์สวรรค์ในตำนาน สายฟ้าที่สี่! สัตว์อสูรสามสิบสองตัว แปดสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์!”
สตรีงดงามเลิศล้ำปัญญาที่ด้านข้างเขาพลันสงสัยแล้วถามว่า “ท่านอาจารย์ มีอันใดผิดปกติหรือเจ้าคะ”
“ไม่มีอะไร” นักพรตเต๋าชราส่ายศีรษะพลางถอนหายใจก่อนจะกล่าวว่า “มีผู้บำเพ็ญอัจฉริยะคนหนึ่งกำลังจะตายจากการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ของเขาเอง หานจื่อไปกันเถิด
“ทัณฑ์สวรรค์เช่นนี้…ย่อมไม่อาจรอดพ้นไปได้! บางครั้ง การมีศักยภาพพิเศษเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี!…ด้วยความสามารถในการฝึกบำเพ็ญเซียนระดับสูงเช่นเจ้า หานจื่อ เจ้าจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อต้องเผชิญกับทัณฑ์สวรรค์ในภายหน้า”
หลังจากกล่าวเช่นนั้นแล้วนักพรตเต๋าชราก็เดินทางไปกับหานจื่อต่อไป
นี่เป็นเซียนคนเดียวที่สามารถยุ่งเกี่ยวในระหว่างกระบวนการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ทั้งหมดของหลี่ฉางโซ่วได้
อย่างไรก็ตาม เซียนผู้นี้ก็ไม่ได้มองดูมากนัก และจากไปพร้อมกับศิษย์ของเขา พร้อมทั้งรู้สึกสงสารผู้บำเพ็ญที่กำลังจะตายจากการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์…
เขาเพียงแค่บังเอิญผ่านบริเวณนั้น และจากไปอย่างเงียบๆ
นี่เป็นการยืนยันถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ของหลี่ฉางโซ่ว และความพยายามทั้งหมดของเขาในการหาสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้สูญเปล่า
ลำแสงสายฟ้าทั้งเจ็ดได้ฟาดลงมาพร้อมๆ กันในขณะที่เสียงฟ้าร้องคำรามดังกึกก้องกัมปนาทไปทั่วทั้งระหว่างสวรรค์และปฐพี และสิ่งมีชีวิตที่อยู่ห่างออกไปในรัศมีหลายร้อยลี้ต่างก็ตื่นตระหนกและเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ
ในขณะนี้เวลาผ่านไปเพียงไม่ถึงหนึ่งก้านธูปนับจากที่ทัณฑ์สวรรค์เริ่มต้นขึ้นครั้งแรก
ขนาดของหมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์ด้านบนก็ได้ลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียว พร้อมกับเสียงคำรามดุร้ายของสัตว์ร้ายที่ก้องกังวานออกไปในอากาศ แล้วจุดกำเนิดสายฟ้าสามสิบสองจุดก็สาดประกายออกมาจากหมู่เมฆอยู่ตลอดเวลาเพื่อเตรียมสร้างสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์สายสุดท้ายแห่งทัณฑ์สวรรค์นี้!
ภายใต้หมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์ บัดนี้หลี่ฉางโซ่วกำลังขมวดคิ้วแน่นและสูดลมหายใจเข้าลึก เพื่อระงับการสั่นสะเทือนที่เกิดจากการปะทะกันระหว่างพลังเวทและพลังเซียนในร่างกายของเขา
ลำแสงสายฟ้าเต๋าที่เจ็ดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางสิบฉื่อได้เกิดขึ้นแล้ว
คราวนี้มันน่าจะยิ่งใหญ่ขึ้นและทรงพลังรุนแรงขึ้น!
ขณะนี้เสื้อคลุมเต๋าของหลี่ฉางโซ่วมีหลายสิบรูแล้ว อย่างไรก็ตาม จากหน้าผากถึงคอของเขาก็ยังเปล่งแสงเซียนเจ็ดสีสันสดใสออกมา
เมื่อฐานเซียนของเขาเสถียรมั่นคงแล้ว แสงเซียนนี้ก็หายไปอย่างรวดเร็ว
ทว่า…
ทัณฑ์สวรรค์ของข้าเอง…โดยไม่คาดคิด…
ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ
มันไม่ได้มีประสิทธิภาพมากนัก ซึ่งทัณฑ์สวรรค์ที่ยอดเยี่ยม ควรจะให้ประโยชน์และประสบการณ์ที่ทรงพลังเพียงพอแก่ผู้บำเพ็ญ และช่วยส่งเสริมการเปลี่ยนสถานะของผู้บำเพ็ญ ทำให้พวกเขากลายเป็นเซียนที่แท้จริง
แต่ดูเหมือนว่าทัณฑ์สวรรค์ของหลี่ฉางโซ่วจะไม่ทรงพลังแข็งแกร่งเท่าใดนัก
มันอ่อนโยนเกินไป ทำให้ในเวลานี้ร่างเต๋าทั้งหมดของเขา มีเพียงร่างกายตั้งแต่คอของเขาขึ้นไปเท่านั้นที่กลายเป็นร่างเซียน
นี่เป็นผลจากการที่หลี่ฉางโซ่วใช้เพียงพลังเวท ร่างกาย และปราณวิญญาณเพื่อต้านทานสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์เท่านั้น เขายังไม่ได้ใช้วิธีอื่นๆ ที่เขาเตรียมจะต่อต้านเอาไว้ล่วงหน้าในกระบวนการนี้
ไม่เป็นไร ยังคงมีสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์สายที่แปดอยู่
หลี่ฉางโซ่วปลอบใจตัวเอง แต่ในใจของเขาก็เริ่มมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีแล้ว
เหนือจุดกำเนิดสายฟ้าฟาด ยังคงมีแสงสว่างอย่างต่อเนื่องขณะที่สายฟ้ายังรวมตัวกัน และพลังแห่งทัณฑ์สวรรค์ก็ยิ่งทวีความพลุ่งพล่านปั่นป่วนบ้าคลั่งราวกับว่ามันต้องการฉีกร่างของหลี่ฉางโซ่วเป็นชิ้นๆ ด้วยสายฟ้าสายสุดท้ายนี้
ในขณะนี้มีภาพปรากฏการณ์ต่างๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้าของหลี่ฉางโซ่ว
หลายครั้งที่เขาระงับขอบเขตพลังของเขาอย่างบ้าคลั่ง สะสมความเข้าใจของเขาอย่างต่อเนื่องซ้ำแล้วซ้ำเล่า และถือว่าการทะลวงด่านในทุกความก้าวหน้าเล็กๆ ล้วนเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในชีวิตของเขา…รวมถึงความยากลำบากและความพากเพียรฝึกฝนอย่างหนักทั้งหมดที่เขาต้องอดทนมาตลอดเวลาหลายปีที่เขาฝึกบำเพ็ญอย่างทรหด และยังมีความกลัวทั้งหมดที่เขาเผชิญและความระมัดระวังทั้งหมดที่เขาต้องฝึกบำเพ็ญราวกับเดินบนแผ่นน้ำแข็งบางๆ…
บัดนี้ร่างเต๋าของเขาแข็งแกร่งราวกับอาวุธเวท และปราณวิญญาณของเขาก็สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
ในที่สุด ความพากเพียรพยายาม การต่อสู้ และความเสี่ยงทั้งหมดที่เขาทำอย่างบ้าคลั่งในชีวิตของเขาก็บรรลุผลสำเร็จในวันนี้แล้ว
จุดกำเนิดสายฟ้าทั้งสามสิบสองจุดต่างระเบิดออกลุกเป็นไฟพร้อมๆ กัน แล้วสายฟ้าและกระแสไฟฟ้าราวกับอสรพิษสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนก็สาดเส้นสายแปลบปลาบอย่างบ้าคลั่งบนท้องฟ้า และรวมตัวเป็นลำแสงสายฟ้าขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางสามฉื่ออยู่ในกระแสวังวนนั้น และในชั่วพริบตา มันก็พุ่งลงไปด้วยแสงที่เจิดจ้าตรงเข้าหาหลี่ฉางโซ่วที่ด้านล่างอย่างดุร้าย!
เวลานี้มีเพียงทะเลสายฟ้าเท่านั้นในพื้นที่ระหว่างสวรรค์และปฐพี!
ที่ชายแดนของโลกมนุษย์เหนือทะเลทักษิณ มีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้โลกบริสุทธิ์!
ในที่สุดหลี่ฉางโซ่วก็เคลื่อนไหว เขาอ้าแขนของเขาเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงสถานะของชีวิตของเขา!
หัวใจของเขาเต้นแรง!
ทั้งหมดเป็นเพียงเพราะเขาสัมผัสได้แล้วว่า เต๋าของเขาจะยืนหยัดอยู่ในโลกนี้นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!
เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของวิถีแห่งเซียนของเขา และพรุ่งนี้จะนำการผจญภัยมาสู่ชีวิตของเขา!
ปัง…
ทันใดนั้น สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์เข้าครอบคลุมไปทั่วทั้งร่างของหลี่ฉางโซ่วอย่างสมบูรณ์ และละลายแนวปะการังด้านล่างทันที จากนั้นทะเลก็เต็มไปด้วยสายฟ้า!
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง แสงสว่างของสายฟ้าก็เริ่มกระจัดกระจาย แล้วเสียงดนตรีไพเราะระหว่างสวรรค์และปฐพีก็ดังขึ้น มีเมฆมงคลรูปเห็ดหลินจือขนาดเล็กลอยขึ้นจากพื้นผิวทะเลเพื่อรองรับร่างของหลี่ฉางโซ่ว
จากนั้นรัศมีแห่งเซียนก็สาดส่องมาจากหมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์ เข้าปกคลุมร่างของหลี่ฉางโซ่ว ชั่วเวลานั้นเขาก็ไม่อาจซ่อนความตื่นเต้นของเขาเองได้
บัดนี้ข้ากลายเป็นเซียนแล้ว!
เฉิงเต๋า!
นี่คือวิถีเซียน!
นี่!
ช้าก่อน มีบางอย่างผิดปกติ!
หลี่ฉางโซ่วมองลงไป แล้วจู่ๆ สีหน้าของเขาก็เผยความรู้สึกประหลาดใจทันที!
ขณะนี้มีเพียงร่างกายของเขาตั้งแต่ศีรษะจนถึงหน้าอกเท่านั้นที่เปลี่ยนเป็นร่างเซียนและเปล่งแสงแห่งเซียนเจ็ดสีออกมา ทว่ามือ แขน และส่วนอื่นๆ ของร่างกายที่อยู่ใต้หน้าอกของเขายังคงเหมือนเดิม
เพียงแต่ว่าเขาได้รับพลังเซียนเพิ่มสูงขึ้นในร่างเต๋าเดิมของเขา…
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาเป็นเหมือนรูปปั้นที่ไม่สมบูรณ์ ครึ่งหนึ่งของเขาทำจากหยกสีรุ้งสดใสระดับสูงสุด ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งทำมาจากดินและโคลน!
ปราณวิญญาณในร่างของเขายังหลั่งไหลด้วยพลังเซียนเจ็ดสีเป็นครั้งคราว และบางครั้ง…ก็ยังดูเหมือนเดิม!
ราวกับรู้สึกว่า หลี่ฉางโซ่วค้นพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทันใดนั้นเสียงดนตรีไพเราะจากสวรรค์ก็หยุดลง พร้อมกับการสลายหายไปของเมฆมงคล และปรากฏการณ์แปลกๆ ทั้งหมดก็หายไปเช่นกัน
หมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์ที่เปลี่ยนเป็นสีขาวและยังคงอยู่ระหว่างการสลายตัว…
หลี่ฉางโซ่วฟื้นคืนสติกลับมาอย่างรวดเร็ว
เกิดอันใดขึ้น
สถานการณ์เช่นนี้ไม่มีบันทึกเอาไว้ในตำราโบราณที่เขาอ่าน!
ทัณฑ์สวรรค์จบลงแล้ว แต่พลังแห่งทัณฑ์สวรรค์ไม่เพียงพอหรือไร
หรือว่ารากฐานของเขาแข็งแกร่งเกินไปจนถึงระดับที่แปดสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ยังไม่อาจส่งผลกระทบต่อมัน และเปลี่ยนร่างเต๋าของเขาทั้งหมดให้เป็นร่างเซียนไม่ได้
มารดามันเถิด…
แล้วบัดนี้เขาควรทำอย่างไร
ตัดแขนขาของเขาเองและปล่อยให้ร่างกายส่วนบนของเขาขึ้นเป็นเซียนหรือ
ร่างกายส่วนล่างของเขาก็สำคัญมากเช่นกันนะ!
ยิ่งกว่านั้นปราณวิญญาณของเขากำลังอยู่ในสภาวะแรกกำเนิดเซียนได้เพียงกึ่งหนึ่งเท่านั้น และไม่มีทางที่เขาจะตัดปราณวิญญาณของเขาเองได้!
จะตัดปราณวิญญาณได้อย่างไร นี่ไม่ใช่เคล็ดวิชากระบี่บางอย่างที่จะสามารถตัดทิ้งได้ตามต้องการ!
หลี่ฉางโซ่วเงยหน้าขึ้นมองไปที่หมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์ที่กำลังกระจายและสลายไปในอากาศจนเกือบหมดสิ้น ขณะที่ในใจของเขาพลุ่งพล่านอย่างมากและเผยท่าทีกังวลใจออกมา
ในขณะนั้นเขาไม่สนใจสิ่งอื่นใด นอกจากต้องรีบแก้ไขสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ทันที
เขาไม่ปรารถนาที่จะเป็นเพียงกึ่งเซียน!
ประตูสู่เซียนได้ถูกเปิดออกแล้ว และเขาก็ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จ แต่รากฐานเต๋าของเขายังติดขัดอยู่!
หลี่ฉางโซ่วยกมือขึ้นแล้วก้าวไปข้างหน้าสองก้าวพร้อมกับรีบตะโกนไปที่เมฆทัณฑ์สวรรค์สุดท้ายที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในท้องฟ้า
“ช้าก่อน!”
เมฆทัณฑ์สวรรค์ขนาดมหึมาหยุดชะงักลงชั่วคราว แต่แล้วก็เร่งความเร็วในการสลายและหายไปในพริบตา
หลี่ฉางโซ่วเงียบงันฉับพลัน…
หนี…หนีไปงั้นหรือ!
และก่อนที่เขาจะทันได้ก่นด่าสาปแช่งออกไป เขาก็ได้ยินเสียง ‘ตึ้ง’ เบาๆ ซึ่งทำให้ปราณวิญญาณและร่างเต๋าของเขาพลันสั่นสะท้านกะทันหัน
ทันใดนั้นพลังกดดันมหาศาลจนเกินกว่าจะพรรณนาจากสวรรค์ก็ได้กักขังเขาเอาไว้ทันที!
………………………………………………………………………