ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 54.2 ทัณฑ์เทพปีศาจเก้าสวรรค์! (2)
ยังโชคดีที่ก่อนหน้านี้ ข้าอาจพอได้ประโยชน์จากความสุภาพมาก่อน
หลี่ฉางโซ่วควบคุมลมปราณของเขาแล้วสวมเสื้อแขนสั้นและเสื้อคลุมเต๋าอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ใคร่ครวญว่าควรกล่าวขอบคุณปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเต๋าสวรรค์อย่างไรดี
ทันใดนั้น ก็มีเสียงสายฟ้าระเบิดดังก้องกัมปนาทไปในอากาศ แล้วทั้งลม เมฆและทิวทัศน์โดยรอบก็พลันเปลี่ยนไปในทันที!
และในขณะนั้นหลี่ฉางโซ่วก็ประสานมือเข้าด้วยกันและทำการคารวะเต๋า
จากนั้นเขาก็ร้องตะโกนออกไปอีกครั้งว่า “ศิษย์แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าขอแจ้งแก่สวรรค์ในวันนี้!…สิ่งที่เกิดขึ้นกับทัณฑ์สวรรค์นั้นหาใช่เจตนาของข้าไม่! นี่เป็นเพียงวิธีที่ข้าใช้ในการหลีกเลี่ยงเหตุการณ์หรือภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้นเท่านั้นขอรับ! รากฐานแห่งเต๋าที่ข้าสร้างขึ้นมาได้จนถึงบัดนี้ แท้จริงแล้วเป็นผลมาจากการที่ศิษย์ได้รับคู่มือของสำนักบำเพ็ญเต๋า ปฏิบัติตามคำสอนของบรรพชนผู้ก่อตั้งสำนักบำเพ็ญเต๋า และผ่านการฝึกบำเพ็ญอย่างหนักตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน! ได้โปรดช่วยปล่อยสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ลงมาอีกครั้งเถิดขอรับ แล้วดูว่าศิษย์ได้บำเพ็ญเพียรมาอย่างหนักเพียงใด เพื่อให้ได้รับขอบเขตพลังเช่นนี้!…นอกจากนี้ โปรดอนุญาตให้ข้าเปลี่ยนสถานที่ในการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์เพื่อหลีกเลี่ยงชะตากรรมไม่ให้ต้องตายไปด้วยเหตุบังเอิญ!”
ทันทีที่กล่าวจบเมฆสีเทาดำบนท้องฟ้าก็ค่อยๆ ขยายออกทีละน้อย และมีลมกระโชกแรงพัดพามาจากทั่วทุกทิศทาง เมฆสีเทาดำจำนวนมากก็ก่อตัวลอยขึ้นจากพื้นผิวทะเลภายในรัศมีหลายพันลี้ แล้วมารวมตัวกันอยู่เหนือศีรษะของหลี่ฉางโซ่ว
ทันใดนั้นก็ดูเหมือนว่า หลี่ฉางโซ่วจะเข้าใจได้ในทันทีในขณะที่เขาหันศีรษะและรีบพุ่งไปที่ทะเลอย่างกะทันหัน
ก่อนหน้านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนก่อปัญหาก่อนที่จะมีทัณฑ์สวรรค์เกิดขึ้น เขาจึงตั้งใจค้นหาสถานที่ที่เป็นไปได้หลายแห่งโดยเฉพาะและจัดวางค่ายกลเอาไว้ในท้องทะเลเพื่อช่วยเร่งความเร็วในการใช้หลีกลี้วารีเร้นกาย
ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเขาจะตรงไปยังสถานที่ที่สองเพื่อข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ มันไม่ใช่เพราะเขาเกรงจะมีผู้ใดมาขัดจังหวะ แต่เพราะเขาต้องการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่สองของเขา!
เป็นครั้งที่สอง! ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์บรรลุเป็นเซียนสองครั้ง? เรื่องเช่นนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน…
เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้มากเกินไปที่เขาจะเตรียมรับมือมากมายเพื่อเผชิญกับการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์!
คราวนี้เมฆทัณฑ์สวรรค์ได้ลอยครอบคลุมอยู่เหนือทะเลในรัศมีนับพันลี้ และมีความหนามากกว่าเดิมถึงสิบเท่า
หลี่ฉางโซ่วเคลื่อนตัวข้ามท้องทะเลไปทางทิศตะวันออกอย่างรวดเร็ว หมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์ขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่เหนือเขาก็เคลื่อนที่ไปตรงทางทิศตะวันออกด้วยความเร็วเทียบเท่ากัน
เหนือเมฆทัณฑ์สวรรค์นั้น หมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์ได้รวมตัวกันเป็นวังสวรรค์อันยิ่งใหญ่สง่างามซึ่งมีรูปปั้นร่างมนุษย์สีเทาจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่รอบๆ วังสวรรค์ และนอกจากนี้ยังมีจักรพรรดิผู้สง่างามนั่งอยู่ในวังสวรรค์อีกด้วย
ร่างมนุษย์เหล่านี้ล้วนเกิดจากการรวมตัวกันของหมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์ซึ่งมีลักษณะใบหน้าที่ไม่อาจแยกออกได้
ด้านล่างวังสวรรค์มีรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่แยกเขี้ยวและกางกรงเล็บ กับมีหงส์ที่กางปีกสยายออก กระทั่งดูเหมือนว่าพวกมันจะมีชีวิตขึ้นมาและต่อสู้กันเองในทันที
ข้างล่างของรูปปั้นทั้งสองนั้นเป็นสงครามระหว่างสัตว์ร้ายและกลุ่มมนุษย์ร่างสูงตระหง่าน ราวกับว่าพวกเขากำลังสร้างสงครามจอมเวท-ปีศาจ
สุดท้ายในส่วนที่ลึกที่สุดด้านล่าง มีจุดกำเนิดสายฟ้าสีขาวเงินจำนวนหนึ่งและมีสีม่วงกระจายอยู่รอบๆ เมฆทัณฑ์สวรรค์ ในขณะที่พวกมันเข้ารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว และนี่คือการก่อตัวของสระสายฟ้าขนาดกว้างสิบจั้ง!
สายฟ้าที่อยู่ในสระนี้เป็นเหมือนของเหลว ส่วนสระก็กำลังค่อยๆ ถูกเติมอย่างช้าๆ
สถานที่แห่งที่สองที่หลี่ฉางโซ่วเลือกนั้น อยู่ห่างออกไปสามร้อยลี้ และมีการจัดวางค่ายกลต่างๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้าซึ่งช่วยเร่งให้หลี่ฉางโซ่วเคลื่อนที่เหนือน้ำไปได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นอย่างต่อเนื่อง
ในทันทีที่เขามาถึงเกาะที่สอง ก็มีเสียงคำรามดังก้องอยู่บนท้องฟ้า
ทันใดนั้นหลี่ฉางโซ่วก็คว้าถุงเก็บสมบัติและเขย่ามันอย่างแรงโดยไม่สนใจสิ่งใด จากนั้นกรงฟาราเดย์หกพับก็ถูกเหวี่ยงออกไปทุกทิศทาง เพราะเขาไม่มีเวลาพอที่จะเปิดมันแล้ว…
และก่อนที่ถุงเก็บสมบัติจะตกลงบนพื้น หลี่ฉางโซ่วก็ถือมีดแกะสลักเอาไว้ในมือซ้ายและถือกระบี่ไม้เอาไว้ในมือขวาของเขาแล้ว! ในขณะที่มียันต์หลายแผ่นพุ่งออกมาจากแขนเสื้อของเขา!
เมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง หลี่ฉางโซ่วก็หยุดทันทีในขณะที่เงยหน้าขึ้น
นี่คือสิ่งใดกัน
เวลานี้สระสายฟ้าบนท้องฟ้าเอียงเล็กน้อย ฉับพลันนั้นก็มี ‘น้ำตกสายฟ้า’ สาดใส่ตรงมาที่เขา…
แล้วสายฟ้านับไม่ถ้วนก็ทำให้โลกที่มืดมนสว่างไสวขึ้นอย่างกะทันหัน!
หลี่ฉางโซ่วกวัดแกว่งมีดแกะสลักของเขาอย่างรวดเร็วและแกะสลักอักขระโบราณหลายตัวขึ้นในอากาศ เขาใช้พลังเวทในร่างของเขา จากนั้นร่างกายส่วนบนของเขาก็เริ่มเปล่งแสงเซียนเจ็ดสีออกมาในขณะที่เขาสะสมลมปราณแห่งเซียนที่ส่วนบนของร่างกาย
ตูม!
หลี่ฉางโซ่วจมอยู่ในน้ำตกสายฟ้าอย่างสมบูรณ์ และตัวอักขระโบราณเหล่านั้นถูกบดขยี้จนแตกเป็นเสี่ยงๆ เกือบจะในทันที ร่างสูงโปร่งของเขาก็ถูกกดลงบนพื้นที่หลอมละลายเช่นกัน…
หลังจากนั้นไม่นานน้ำตกสายฟ้าก็สลายหายไป หลี่ฉางโซ่วก็กระโดดออกมาจากหลุมสี่เหลี่ยมลึก เสื้อคลุมเต๋าของเขาขาดรุ่งริ่งและลมปราณพลุ่งพล่านไม่เสถียรมั่นคง ทันใดนั้นเขาก็กระอักโลหิตออกมาอย่างกะทันหัน
นี่คือทัณฑ์สวรรค์ที่แท้จริงของเขาใช่หรือไม่
ทรงพลัง…แข็งแกร่งเพียงพอ
ทันใดนั้นหลี่ฉางโซ่วก็กวัดแกว่งมีดแกะสลักของเขา และเขียนอักขระโบราณสองสามตัวขึ้นไปในอากาศ เนื้อหาของคำเหล่านี้มาจากงานนิพนธ์คู่มือการเพาะปลูกซึ่งเขียนขึ้นโดยเทพเสินหนง[1] ซึ่งเป็นบรรพชนของมนุษย์โบราณ
ดูเหมือนว่าอักขระโบราณเหล่านี้จะรวมตัวกันเป็นค่ายกลเวทและเรียงกันตามข้อความในต้นฉบับก่อนที่พวกมันจะค่อยๆ ลอยขึ้นไปเหนือศีรษะของหลี่ฉางโซ่ว
ในเวลาเดียวกันนั้นเพลิงสมาธิแท้ก็ปรากฏขึ้นข้างๆ หลี่ฉางโซ่ว แล้วห่อหุ้มร่างกายของเขาเอาไว้
ขณะนี้มีบงกชเก้ากลีบจำนวนมาก แต่ละดอกมีขนาดใหญ่ปานอ่างลอยขึ้นอย่างช้าๆ และค่อยๆ เบ่งบานรอบกายเขา
นี่คือปรากฏการณ์ประหลาดที่ปรากฏขึ้นเมื่อเขาใช้กำลังเต็มที่เพื่อกระตุ้นพลังเวทของเขา!
มาเลยทัณฑ์สวรรค์!
หลี่ฉางโซ่วเงยหน้าขึ้นมองในขณะที่เส้นผมยาวของเขาและเสื้อคลุมเต๋าของเขาต่างปลิวพลิ้วไสวไปตามสายลม และสระสายฟ้าที่ด้านบนก็เอียงอีกครั้ง แล้วทันใดนั้นน้ำตกสายฟ้าอีกสายหนึ่งก็ตกลงมาทันที!
ทว่าคราวนี้หลี่ฉางโซ่วก้มลงคุกเข่าก่อนจะผลักดันทะยานทั้งร่างของเขาลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ดวงตาของเขาสดใสเจิดจ้าในขณะที่เผชิญหน้ากับน้ำตกสายฟ้าอย่างกระตือรือร้น!
เก้าสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์! ข้ารอเจ้ามานานมากแล้ว
…
“ท่านอาจารย์ เหตุใดถึงหยุดอีกครั้งหรือเจ้าคะ”
ในเวลานั้นเมฆขาวก้อนหนึ่งหยุดอยู่เหนือทะเลทักษิณ ขณะที่มีเด็กสาวผู้หนึ่งดึงเสื้อคลุมของนักพรตเต๋าชราคนหนึ่งเพื่อถาม
ชั่วขณะนั้นนักพรตเต๋าชราก็อ้าปากค้างขณะจ้องมองไปยังตำแหน่งของสถานที่ที่สองที่หลี่ฉางโซ่วใช้ในการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์
“อันใดกันนั่น…อันใดกันนั่น…นี่มันทัณฑ์สวรรค์เยี่ยงใดกัน…มีวังสวรรค์เบื้องบน มีมังกรและหงส์อยู่ตรงกลาง และเทพปีศาจอยู่เบื้องล่าง นี่อาจเป็นทัณฑ์เทพปีศาจเก้าสวรรค์ในสถานที่ที่สองที่มีการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์หรือไม่”
จากนั้นนักพรตเต๋าชราก็ส่ายศีรษะพลางถอนหายใจ “วันนี้เกิดอันใดขึ้นกับทะเลทักษิณ มีเหล่าผู้บำเพ็ญอัจฉริยะมาพบกันเพื่อข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ของพวกเขาหรือไม่…น่าเสียดายที่มีสหายน้อยอีกคนกำลังจะตายภายใต้ทัณฑ์สวรรค์ของเขา…ไปเถิด เราไปกันเถิด ดูไปก็ไร้ประโยชน์”
ในขณะนั้นเด็กสาวก็ถามแผ่วเบาว่า “ท่านอาจารย์ คนผู้นั้นจะไม่อาจรอดพ้นจากทัณฑ์สวรรค์เช่นนี้ได้หรือเจ้าคะ”
นักพรตเต๋าชราเอ่ยถามว่า “เจ้าสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณพลุ่งพล่านอยู่รอบๆ ที่พุ่งตรงไปยังตำแหน่งที่เกิดทัณฑ์สวรรค์ในยามที่มีแปดสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์เกิดขึ้นหรือไม่”
เด็กสาวส่ายศีรษะทันที
“แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่จะเอาชีวิตรอดจากแปดสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ และไม่ต้องพูดถึงทัณฑ์สวรรค์ที่รุนแรงถึงสามสิบสองครั้งซึ่งจะยิ่งรุนแรงกว่านั้น ผู้บำเพ็ญที่เราพบเมื่อครู่นี้ย่อมสิ้นชีพแล้วแต่ยังมีอีกผู้หนึ่งเข้ามา”
นักพรตเต๋าชรากล่าวเสริมพร้อมด้วยรอยยิ้มขื่นว่า “สวรรค์จะไม่ยินยอม หากคนผู้หนึ่งมีคุณสมบัติและความสามารถพิเศษดีมากเกินไป มีปรมาจารย์มากเกินไปในยุคบรรพกาล หากทัณฑ์สวรรค์ไม่อาจกำราบผู้บำเพ็ญได้ มหาทัณฑ์สวรรค์ก็อาจมาถึงในไม่ช้าหลังจากนั้น…ไปกันเถิด ไม่จำเป็นจะต้องมาเฝ้าดูคนตาย”
ทันทีที่เขากล่าวจบ เมฆขาวก็ยังคงเคลื่อนตัวไปทางทิศใต้ในขณะที่เด็กสาวก็ยังมองดูทะเลที่อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเป็นพิเศษ
และบัดนี้เมฆทัณฑ์สวรรค์ที่มีขนาดใหญ่อย่างยิ่งก็คืบคลานเข้ามา จนเกือบจะครอบคลุมไปทั่วท้องทะเลแล้ว
…………………………………………………………………
[1] เทพเสินหนง คือเทพห้าธัญพืชหรือเทพกสิกรรม