ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 547 ผู้ช่วยที่แข็งแกร่งที่สุดแห่
บทที่ 547 ผู้ช่วยที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งโลกบรรพกาล! (3)
แม้เขาจะเผยไพ่ตายของ “เด็กวิญญาณน้ำเต้า” ออกมาแล้ว แต่คลังไพ่ไม้ตายของเขาย่อมจะขยายเพิ่มเติมขึ้นอีกในไม่ช้า!
หลี่ฉางโซ่วหยิบถุงเก็บสมบัติสามใบออกมาอย่างระมัดระวัง แล้วเอาถุงเก็บสมบัติสามใบนั้นซ้อนกันเป็นสามชั้น จากนั้นเขาถึงใส่ขวดโลหิตของราชามังกรสองขวดเข้าไปเก็บไว้ในนั้น
เงื่อนไขที่นี่ค่อนข้างเรียบง่าย เขาไม่อาจไม่ระวัง และจะแตะต้องพิษร้ายแรงเช่นนี้ง่ายๆ ไม่ได้ เขาต้องรอให้การต่อสู้ของเผ่ามังกรสิ้นสุดลง แล้วจึงใช้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ให้ไปค้นหาภูเขาที่รกร้างเพื่อค่อยๆ จัดการมันช้าๆ
“เหตุใดเจ้าจึงทำเช่นนี้?” ปู่ใหญ่เจดีย์ถามอย่างเฉื่อยชาในใจของหลี่ฉางโซ่ว
จากนั้นก็บรรยายต่อไปอย่างจริงจังว่า “ระเบิด! ระเบิด! ทั้งหมดนั้นคือระเบิด! ยาพิษมีดีอันใด!?! มันไม่สง่างาม! เจ้าเป็นบุรุษผู้เก่งกาจ ควบคุมอาคมลับระเบิดวิญญาณและจำแลงกาย! เช่นนี้แล้ว เทพธิดาอวิ๋นเซียวจะไม่ชมชอบเจ้าได้อย่างไรหลังจากที่เจ้าทำการระเบิดไปบ้างแล้ว”
หลี่ฉางโซ่วยิ้มเฉยไม่เอ่ยอันใด เขาเคยชินกับคำพล่ามไร้สาระของปู่ใหญ่เจดีย์เสียแล้ว
“ท่านเทพวารี” หัววัวถามอย่างอ่อนแรง “พวกเราจะไปที่ใดกัน? พวกเราทั้งสองพี่น้องจำบทของท่านได้แล้ว! ม่อ~”
หน้าม้ารีบกล่าวเสริมว่า “พวกเรา เจ้าหน้าที่แห่งแดนยมโลกจะเป็นสหายของท่านตลอดไปท่านเทพวารี ฮี้!”
หลี่ฉางโซ่วพยักหน้าพลางยิ้มและกล่าวว่า “ต้องขอบคุณที่สหายเต๋าทั้งสองช่วยเหลือในตอนนี้ ไม่เช่นนั้น คงไม่อาจควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้”
“ท่านเทพอย่าพูดเช่นนั้นเลย” หัววัวพึมพำและกล่าวว่า “หากไม่เป็นเพราะข้าและหน้าม้ายืนกรานที่จะติดตามท่านมาที่นี่ บางที พวกกบฏวังมังกรบางส่วนเหล่านั้น คงไม่อาจหลบหนีไปได้!”
“นั่นไม่จริงเลย…”
หลี่ฉางโซ่วกำลังจะชี้แจงถึงการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในตอนนี้ ทันใดนั้นแผนภาพไท่จี๋ที่คุ้นเคยได้ปรากฏขึ้นในน้ำทะเลข้างๆ เขา แล้วหลี่ฉางโซ่ว หัววัวและหน้าม้าก็ว่ายน้ำหายไปในทันที
หลังจากที่พวกเขาจากไป ก็มีร่างสองสามร่างบินออกมาจากทั่วทุกทิศทางและเริ่มทำงานง่วนอยู่ในหลุมลึกที่ก้นทะเล พวกเขาฆ่าทำลายซากศพที่นั่นทีละซากและใช้ไข่มุกสะกดวิญญาณเพื่อรวบรวมวิญญาณที่เหลืออยู่
หลังจากนั้นก็รวบรวมซากศพเหล่านี้เข้าด้วยกัน แล้วจุดเพลิงสมาธิแท้ขึ้น
และต่อจากนั้นก็สวดพระสูตรเต๋าแห่งการหลุดพ้น มนตราขจัดภัยพิบัติและอำนวยพรแห่งเต๋าและคาถาสงบวิญญาณขององค์ไท่ชิง
ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ตัวหนึ่งเปิดฟองอากาศในน้ำทะเล แล้วรวบรวมเถ้าถ่าน จากนั้นเขาก็เป่าแตรในฟองอากาศนั้น แล้วความรู้สึกถึงบรรยากาศแห่งพิธีกรรมก็เติมเต็มขึ้นมาทันที…
ในวิหารเทพทะเล
ในขณะนั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ เทพธิดาอวิ๋นเซียว หลี่ฉางโซ่ว หัววัวและหน้าม้าได้ปรากฏตัวขึ้นมาทีละคน ราวกับว่าพวกเขาไม่เคยออกไปที่ใดมาก่อน
หลี่ฉางโซ่วหลับตาและตั้งสมาธิ ผ่านทางตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เพื่อเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวและสถานการณ์ต่างๆ ของทั้งสี่คาบสมุทร
สำหรับสำนักบำเพ็ญประจิม แม้จะไม่พบ ‘สมบัติมังกร’ ใดๆ ในทะเลประจิม แต่พวกเขาก็ไม่ได้ประสบความสูญเสียใหญ่หลวงนัก เพราะพวกเขาได้ล่าถอยไปอย่างเด็ดขาด และน่ากลัวว่าพวกเขาจะไม่มีวันยอมแพ้ในวันนี้
ในขณะนั้น ทะเลทักษิณ และทะเลบูรพาล้วนตกอยู่ในความโกลาหล กองทัพกบฏเผ่าทะเลได้ปล่อยการโจมตีอย่างดุเดือด และแนวรบของเผ่ามังกรก็ตึงเครียดอยู่พักหนึ่ง…
เมื่อเห็นหลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้ว ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่จึงถามขึ้นมาว่า “ฉางเกิง เป็นอย่างไรหรือ?”
“มันวุ่นวายไปทั่วทุกที่ขอรับ” หลี่ฉางโซ่วกล่าว “พี่ชาย ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่ข้าจัดเตรียมไว้ได้ค้นพบกองทัพกบฏของเผ่ามังกรทะเลประจิมแล้ว เวลานี้ พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปทางเหนือและทางใต้ที่ชายแดนของดินแดนเทวะประจิม
ดูเหมือนว่า พวกเขาจะโจมตีทะเลอุดรและทะเลทักษิณ ในครั้งนี้ สำนักบำเพ็ญประจิมมีเป้าหมายชัดเจน สิ่งที่พวกเขาต้องการคือ การสะสมของวังมังกรที่มีมานานหลายปีนับไม่ถ้วนเพื่อเป็นรากฐานสำหรับความเจริญรุ่งเรืองมหาศาลของสำนักบำเพ็ญประจิม”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ขมวดคิ้วและกล่าวว่า “สำนักบำเพ็ญประจิมกำลังจะรุ่งเรือง แล้วสำนักบำเพ็ญเต๋าของเราอยู่ที่ใดกันเล่า?
เอาเป็นเช่นนี้! ศิษย์น้องอวิ๋นเซียว เจ้าคอยคุ้มกันฉางเกิงและไปที่ทะเลทักษิณ ส่วนข้าจะไปจัดการดูแลที่ทะเลอุดรให้เรียบร้อยเอง ข้าต้องทำลายแผนการของสำนักบำเพ็ญประจิม! ด้วยการเคลื่อนไหวนี้ โชคชะตาของสำนักบำเพ็ญเต๋าก็จะเจริญรุ่งเรืองขึ้น!”
เมื่อกล่าวจบ แผนภาพไท่จี๋ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ แล้วเขาก็หันหลังกลับเข้าไป
เทพธิดาอวิ๋นเซียวที่กำลังยืนอยู่ด้านข้างเงียบๆ นั้น ก็อดจะกะพริบตาไม่ได้ ดูเหมือนว่า นางได้ถูกเตรียมการพร้อมแล้ว
ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วก็รีบกล่าวว่า “ศิษย์พี่ขอรับ เรื่องนี้!”
ทว่าแผนภาพไท่จี๋ได้หายไปในพริบตา และปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูก็ได้จากไปแล้ว
อวิ๋นเซียวอดจะหัวเราะเบาๆ ออกมาไม่ได้แล้วกล่าวเบาๆ ว่า “สิ่งที่ศิษย์พี่เสวียนตูกล่าวมานั้นก็สมเหตุสมผล การต่อสู้กับสำนักบำเพ็ญประจิมไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินเท่านั้น”
หลี่ฉางโซ่วอดจะยิ้มออกมาไม่ได้แล้วกล่าวว่า “การต่อสู้เมื่อครู่นี้ ทำให้เจ้าต้องขบขันแล้ว ตอนนี้ ข้าอายตัวเองนัก”
“สหายเต๋าลงมือ หากไม่เคลื่อนไหว ก็คงไม่เป็นไร แต่หากขยับ มันก็ปานภูเขาถล่ม” อวิ๋นเซียวยิ้มและกล่าวว่า “สหายเต๋า เจ้าเกิดช้า หากเจ้าเริ่มฝึกบำเพ็ญมาแต่ในสมัยโบราณ ป่านนี้ เจ้าย่อมจะกลายเป็นผู้ทรงพลังยิ่งใหญ่ไปนานแล้ว”
หลี่ฉางโซ่วส่ายศีรษะพลางแย้มยิ้มแล้วกล่าวว่า “ดีที่เจ้าไม่คิดว่าข้าลงมือแบบไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ทำทุกวิถีทางเพียงเพื่อบรรลุผลโดยไม่สนใจวิธีการ”
อวิ๋นเซียวเอียงศีรษะเล็กน้อยพร้อมกับครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยถามเบาๆ ว่า “สหายเต๋า เจ้าคิดว่าข้ารู้เพียงแค่วิธีฝึกบำเพ็ญโดยไม่รู้ว่าโลกบรรพกาลนั้นอันตรายเพียงใดหรือ?”
หลี่ฉางโซ่วยิ้มอย่างอบอุ่นและส่ายศีรษะช้าๆ ในยามนั้น ทั้งสองต่างมองหน้ากันและรู้สึกว่าต่างเข้าใจกันมากขึ้น
ในมุมหนึ่งนั้น…
หัววัวกระซิบว่า “ม้า เราอยู่ที่นี่ช่างน่าอึดอัดนัก ม่อ”
และก่อนที่หน้าม้าจะทันได้ร้อง ฮี้ๆ จู่ๆ แผนภาพไท่จี๋ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็มีสองมือใหญ่เอื้อมออกมาจากอากาศบางๆ แล้วดึงสองพี่น้องเข้าไปในนั้น
จากนั้นเสียงของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็ดังออกมาจากแผนภาพไท่จี๋ว่า “ฉางเกิง! รับเอาไว้!”
ทันใดนั้น ก็มีลำแสงสีดำบินผ่านและตกลงต่อหน้าหลี่ฉางโซ่ว และหลี่ฉางโซ่วก็จับมันเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง มันคือ สมบัติวิญญาณบุญเซียนเทียน ไม้เฉียนคุนที่องค์ไท่ชิงสร้างขึ้นมา!
รูปทรงของไม้นั้น ดุจกระบี่ทื่อที่ไร้คม ครั้งหนึ่งมันเคยตีระฆังจักรพรรดิบูรพาและดวงวิญญาณของคุนเผิง มันเป็นสมบัติวิญญาณสายโจมตีที่ล้ำค่าหายากของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน!
แน่นอนว่า มันเหมือนกับเจดีย์เสวียนหวง มันเป็นเพียงการให้ยืม หาใช่การมอบให้ไม่
มันออกจะสุภาพไปสักหน่อยที่จะบอกว่าเขายืมมัน มันน่าจะถือได้ว่า นี่เป็นโครงการพิเศษของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน – สมบัติวิญญาณที่แบ่งปัน ร่วมกันใช้ได้!
ในขณะนั้น ไม้เฉียนคุนสั่นเทาเล็กน้อย เสี้ยวพลังวิญญาณดังขึ้นในใจของหลี่ฉางโซ่ว มันทะเลาะกับเจดีย์เสวียนหวง
“พวกเราไปที่วังมังกรทะเลทักษิณกันเถิด เรื่องสำคัญอย่าได้รอช้า” เทพธิดาอวิ๋นเซียวกล่าว
“ข้าทำให้เจ้าต้องมีส่วนพัวพันไปกับกรรมเช่นนี้ด้วย…” หลี่ฉางโซ่วกล่าวอย่างขออภัย
“อย่ากลัวไปเลย” ดวงตาของอวิ๋นเซียวสุกสกาวราวแสงดาว นางเอามือไพล่หลังแล้วพูดว่า “เจ้าต้องใช้ความพยายามมากกว่านี้เพื่อเตรียมการจัดแจงสิ่งต่างๆ อย่าปล่อยให้ข้ามีโอกาสลงมือได้”
………………………………………………………………..