ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 55.1 บันทึกของศิษย์พี่ยามท่องไปในทะเลทักษิณ (1)
- Home
- ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว
- ตอนที่ 55.1 บันทึกของศิษย์พี่ยามท่องไปในทะเลทักษิณ (1)
ขณะนี้มีเสียงฟ้าร้องคำรามดังสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วหล้าในขณะที่สายฟ้าแลบแปลบปลาบสาดประกายไปทั่วท้องฟ้า
เหนือท้องทะเลภายในระยะรัศมีหนึ่งพันลี้ มีลมพัดกระโชกและสายฝนสาดเทลงมาขณะที่มีคลื่นก่อตัวขึ้นสูงจนน่าสะพรึงกลัวภายในรัศมีหนึ่งร้อยลี้จากตำแหน่งของพื้นที่ที่เกิดทัณฑ์สวรรค์
ในเวลานั้นพลังวิญญาณแห่งสวรรค์และปฐพีภายในรัศมีนับพันลี้ได้มาบรรจบกันในสถานที่ที่หลี่ฉางโซ่วข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ ในขณะที่ของเหลวสายฟ้าจากสระสายฟ้าในเมฆทัณฑ์สวรรค์ก็หลั่งไหลลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า
บัดนี้ครึ่งหนึ่งของเกาะด้านล่างได้ถูกทำลายไปแล้ว โชคดีที่หลี่ฉางโซ่วเลือกสถานที่ที่เป็นเกาะร้างไร้สิ่งมีชีวิตในขณะที่บรรดาสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในทะเลล้วนหนีไปหมดก่อนหน้านี้แล้ว
น้ำตกสายฟ้าสาดเทลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมกับสายลมพัดโหมและสายฝนกระหน่ำทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
เดิมทีนี่คือทัณฑ์สวรรค์บรรลุเซียนของผู้บำเพ็ญซึ่งไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่คาดไม่ถึงว่า มันจะกลายเป็นสถานการณ์ที่สวรรค์กำลังลงทัณฑ์ทรราช
ทัณฑ์สวรรค์บรรลุเซียนเป็นหนึ่งในหลายประเภทของทัณฑ์สวรรค์ที่ทรงพลังน้อยกว่าทัณฑ์สวรรค์ประเภทอื่น เพราะการทะยานขึ้นสู่เซียนในช่วงยุคบรรพกาลนั้นถือเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
ทัณฑ์สวรรค์ที่ทรงพลังร้ายแรงอย่างแท้จริง น่าจะเป็นทัณฑ์สวรรค์ที่เกิดขึ้นเมื่อเซียนเทียนขั้น สูงสุดจะข้ามผ่านสู่เซียนจิน หากผลกรรมร้ายของพวกเขาสูงกว่าบุญมาก เต๋าสวรรค์จะไม่ยอมให้พวกเขาได้เป็นอมตะ และทัณฑ์สวรรค์แห่งเซียนก็จะฟาดลงมา
มันเป็นทัณฑ์สวรรค์ที่สามารถสังหารเซียนจินได้ เมฆทัณฑ์สวรรค์จะครอบคลุมพื้นที่หลายพันลี้และมีทัณฑ์สวรรค์หลายประเภทซึ่งแตกต่างไปจากสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ประเภทเดียวเช่นนี้
ตูม!
ครืนๆๆ!
ในเวลาเดียวกันนั้น ณ สถานที่ซึ่งห่างออกไปหนึ่งพันสามร้อยลี้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากตำแหน่งของทัณฑ์สวรรค์
“ท่านอาจารย์ เหตุใดเราถึงหยุดอีกครั้งหรือเจ้าคะ” เด็กสาวนาม ‘หานจื่อ’ ซึ่งอยู่บนก้อนเมฆเอ่ยถามเสียงเบา
นักพรตเต๋าชราขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่แผ่สัมผัสเซียนรับรู้ที่ทรงพลังของเขาเพื่อตรวจดูท้องทะเลซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายพันลี้
แม้จะมีพลังระดับกึ่งเซียนจิน แต่เขาก็ยังไม่อาจมองทะลุผ่านพื้นที่ซึ่งถูกเมฆทัณฑ์สวรรค์ปกปิดเอาไว้อย่างหนาทึบได้
ณ ที่นั้น ดูเหมือนว่าจะมีพลังแห่งทัณฑ์สวรรค์เข้มข้นรุนแรงมากไปเล็กน้อย
แต่จากการที่เมฆทัณฑ์สวรรค์สั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง เขาจึงพอสรุปได้ว่าสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์จะฟาดลงมาหรือไม่
“มีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับทัณฑ์สวรรค์ครั้งนี้ บัดนี้นี่เป็นสายฟ้าสายที่เจ็ดแล้ว แต่เมฆยังไม่แยกย้ายสลายไปด้วยซ้ำ!”
ชั่วขณะนั้น นักพรตเต๋าชราก็นับนิ้วทำนายก่อนจะหันร่างไปมองยังตำแหน่งของสถานที่ที่มีทัณฑ์สวรรค์ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป
“ดูเหมือนว่าจะมีอย่างอื่นนอกเหนือจากทัณฑ์สวรรค์…”
เด็กสาวหานจื่อจึงเอ่ยถามว่า “ท่านอาจารย์ แล้วเหตุใดเราไม่ลองเข้าไปดูเล่าเจ้าคะ”
“หากอยู่ใกล้เกินไป และได้เห็นทัณฑ์สวรรค์บรรลุเซียนเช่นนี้ ข้าเกรงว่าเจ้าอาจจะกลัวทัณฑ์สวรรค์ในภายหน้าได้” นักพรตเต๋าชราขมวดคิ้วและกล่าวเสริมว่า “ไม่ต้องห่วง เรารอที่นี่อีกสักพักและดูว่าเขาจะรอดพ้นจากสายฟ้าที่แปดได้หรือไม่ ซึ่งตามหลักแล้ว เขาไม่น่าจะทำได้…”
ตูม! ตูม!
ทันใดนั้นพิภพพลันสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่แปดฟาดลงมาและมองเห็นน้ำตกสายฟ้าจากที่ไกลออกไปหลายพันลี้ได้อย่างชัดเจน!
เมฆทัณฑ์สวรรค์ยังไม่สลายไปอีกหรือ
“ผู้บำเพ็ญสามารถข้ามผ่านสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์สายที่แปดได้สำเร็จใช่หรือไม่ เขาอาจเป็นผู้ทรงพลังโบราณที่กลับชาติมาเกิดหรือไม่… ฮึ่ม ไปกันเถิด หานจื่อ พวกเราไปดูกันเถิด!”
นักพรตเต๋าชราผู้นี้ไม่รู้ว่าเขาตื่นตกใจไปกี่ครั้งแล้ว และทันใดนั้นเขาก็ขับเคลื่อนเมฆขาวเพื่อช่วยให้เขาและศิษย์บินตรงไปยังทิศทางที่หลี่ฉางโซ่วข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์อย่างรวดเร็ว
แต่เพียงไม่นานหลังจากที่เริ่มเคลื่อนไหว พวกเขาก็เห็นสายฟ้าขนาดใหญ่สีขาวเงินที่แต่งแต้มด้วยสีม่วงก่อตัวขึ้นภายในเมฆทัณฑ์สวรรค์นั้น!
มันดูราวกับวิหคสายฟ้าในตำนานที่ลอยขึ้นจากทะเล แล้วกลายเป็นดวงตะวันดวงที่สองบนท้องฟ้า!
ทันใดนั้นสายฟ้าก็ฟาดลงมาพร้อมด้วยเสียงดังตูม และพลังแห่งทัณฑ์สวรรค์ก็มาถึงระดับสูงสุด ทำให้คลื่นในทะเลเบื้องล่างดุจคลื่นพิโรธที่สาดซัดขึ้นไปเป็นพันชั้นราวกับภูเขาใหญ่!
นักพรตเต๋าชรายังคงบินไปข้างหน้าต่อไป แม้แต่ในขอบเขตพลังของเขา ระยะทางมากกว่าหนึ่งพันลี้นี้ก็ยังนับว่าค่อนข้างไกลสำหรับเขา
ฟู่…
จู่ๆ ก็มีลมกระโชกแรงพัดผ่านทะเลซึ่งเกิดขึ้นจากความรุนแรงรวดเร็วของพลังวิญญาณที่พุ่งผ่านไปยังเกาะที่หลี่ฉางโซ่วอยู่
พลังวิญญาณมาบรรจบกันอย่างรวดเร็วมากจนก่อให้เกิดลำแสงเจ็ดสีขึ้นมาในอากาศ
“ท่านอาจารย์ พายุพัดมาแล้วเจ้าค่ะ!” หานจื่อตื่นตกใจแล้วร้องตะโกนอีกว่า “คนผู้นั้นรอดจากทัณฑ์สวรรค์แล้วเจ้าค่ะ!”
“ดี! นี่เป็นสัญญาณของการบรรลุเซียนที่ประสบความสำเร็จเมื่อผู้เป็นเซียนดูดซับพลังวิญญาณ!” นักพรตเต๋าชรามีท่าทีตื่นเต้นกระวนกระวาย “ไปกันเถิด! คนผู้นี้จะต้องเป็นผู้ทรงพลังยิ่งใหญ่ที่กลับชาติมาเกิดแน่ ดูจากปริมาณพลังวิญญาณเหล่านี้แล้ว คนผู้นี้ ไม่ใช่สิ เซียนท่านนี้น่าจะบรรลุขึ้นสู่เซียนเทียน!…
เร็วเข้า! ไปเถิด ไปทำความรู้จักกับเขากันเถิด! หากเราชักชวนให้เขาเข้าร่วมสำนักของเราได้ ย่อมจะเป็นเรื่องวิเศษสุดอย่างยิ่ง!”
ทันทีที่เขากล่าวจบ สายฟ้าสีม่วงก็สว่างวาบขึ้นบนท้องฟ้า แล้วสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์สายที่เก้าก็พุ่งทะลุผ่านเมฆทัณฑ์สวรรค์แล้วฟาดลงไปบนเกาะนั้น!
ดวงตาของนักพรตเต๋าชราเบิกกว้าง ใบหน้าแดงก่ำของเขาพลันสะท้อนสีม่วงออกมาภายใต้แสงสว่างของสายฟ้าเทพสวรรค์ม่วง…
จะเกิดอันใดขึ้นกับเขาในวันนี้
เมื่อเขาคิดว่าคนผู้นั้นจะต้องตาย แต่อีกฝ่ายก็ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จ
เขาเพิ่งกล่าวว่าคนผู้นั้นสามารถผ่านพ้นทัณฑ์สวรรค์ไปได้อย่างราบรื่น และทันใดนั้นสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์อีกสายหนึ่งก็พุ่งฟาดลงมา…
เขาสาบานได้ว่าคำพูดของเขาไม่ได้ทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้จริงๆ!
จากนั้นเด็กสาวหานจื่อก็เอ่ยถามอย่างสงสัยว่า “ท่านอาจารย์ นั่นอะไรหรือเจ้าคะ”
“การลงทัณฑ์จากสวรรค์! เป็นการลงทัณฑ์จากสวรรค์ที่แท้จริง” นักพรตเต๋าชรากล่าวตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “เต๋าสวรรค์รู้สึกว่าเขาเป็นคนผิดปกติ แม้เขาจะอยู่เหนือทัณฑ์สวรรค์ แต่ก็ยังต้องถูกลงทัณฑ์จากสวรรค์…มันจบแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คนผู้นี้ต้องตายอย่างแน่นอน มันย่อมไม่มีอะไรดี เมื่อการลงทัณฑ์จากสวรรค์มาถึง…”
ทว่าคราวนี้ก่อนที่เขาจะทันกล่าวจบ ลมกรรโชกก็ส่งเสียงคำรามโหยหวนอย่างรุนแรงไปรอบๆ พวกเขาในขณะที่เขาบอกว่าคนผู้นี้ต้องตายอย่างแน่นอน พลังวิญญาณที่มากมายไร้ขอบเขตก็ยังพุ่งไปรวมตัวกันยังสถานที่เกิดทัณฑ์สวรรค์ที่เกาะนั้นอีกครั้ง
“เอ๋? ปากของข้าไม่ดีจริงๆ!”
เปรี้ยงๆ!
ทันใดนั้นเด็กสาวที่อยู่ข้างๆ ก็รีบยื่นมือปิดปากอาจารย์ของนางแล้วกล่าวว่า “หยุดพูดเถิดเจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ เรารีบไปดูกันเถิดเจ้าค่ะ”
นักพรตเต๋าชรายิ้มและส่ายศีรษะพลางชี้นิ้วไปด้านหน้า แล้วเมฆขาวก็เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วมากขึ้น
บัดนี้พวกเขายังคงอยู่ห่างจากเกาะซึ่งเป็นสถานที่ที่เกิดการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ไปแปดร้อยลี้ ในขณะที่มีเมฆมงคลรูปทรงเห็ดหลินจือปรากฏขึ้นในสถานที่เกิดการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์
เมฆทัณฑ์สวรรค์บนท้องฟ้าได้แยกออกเป็นเมฆสีขาวหลายก้อน ก่อนที่จะรวมตัวกันเป็นรูปทรงกรวยอย่างรวดเร็ว และที่ส่วนปลายกรวยของมันได้ชี้ตรงไปที่คนผู้ที่ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์
แล้วพลังวิญญาณบริสุทธิ์ในเมฆสีขาวนั้นก็พุ่งลงไปที่ร่างมนุษย์ซึ่งมองเห็นได้ไม่ชัดเจน
จากนั้นก็มีลำแสงสีทองสาดส่องมาจากชั้นสวรรค์ทั้งเก้า และเข้าห่อหุ้มร่างของคนผู้นั้นเอาไว้
ในลำแสงนี้ มีเงาของเทพธิดามากมายที่กำลังร่ายรำและโปรยกลีบบุปผาไปทั่วพร้อมกับเสียงเพลงที่อยู่ภายในลำแสงสาดสว่างนั้น
และยังมีชายชราผมขาวที่ขี่นกกระเรียนอีกคนที่บินข้ามมาและทำการคารวะเต๋าให้กับร่างมนุษย์ที่อยู่ด้านล่างหลายครั้ง
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปรากฏการณ์แห่งสวรรค์และปฐพี
ในเวลานี้พลังแห่งทัณฑ์สวรรค์นั้นเบาบางลงมากแล้ว
ครั้นเมื่อถึงเวลาที่นักพรตเต๋าชราและศิษย์ของเขาอยู่ห่างออกไปกว่าหกร้อยลี้ ปรากฏการณ์นั้นก็ยังคงอยู่บนท้องฟ้า แล้วทันใดนั้นร่างมนุษย์ซึ่งดูดกลืนเมฆทัณฑ์สวรรค์เข้าไปหมดแล้ว ก็หันหลังและกระโดดลงไปในทะเลทันที…
ฉับพลันนั้น นักพรตเต๋าชราผงะงันไปชั่วขณะก่อนจะรีบใช้พลังเซียนส่งข้อความเสียงออกไป
“สหายเต๋า!…ข้าและศิษย์ของข้าเป็นผู้บำเพ็ญที่มาจากเกาะเต่าทอง พวกเรามาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับท่านโดยเฉพาะ!”
แต่ในขณะนั้นก็มีแสงเซียนเปล่งประกายอยู่ในทะเล และคนผู้นั้นก็หายตัวไปทันที
“เหตุใดเขาถึงหนีไปเล่าเจ้าคะ ท่านอาจารย์” หานจื่อถามขณะขมวดคิ้ว “ทำราวกับว่าพวกเราเป็นคนเลว”
“เฮ้อ…เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเราดีหรือเลว”
นักพรตเต๋าชราถอนหายใจแล้วนับนิ้วทำนาย ทว่าพยายามทำอยู่ครู่หนึ่งก็ไม่ได้ผลใดๆ
เขาหลบเลี่ยงการทำนายสวรรค์หรือ
คนผู้นั้นน่าจะเป็นผู้ทรงพลังยิ่งใหญ่กลับชาติมาเกิดอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ระแวดระวังตัวมากถึงเพียงนี้
ข้าค่อนข้างเชี่ยวชาญในทักษะทำนายสวรรค์ แต่ก็ยังไม่อาจพบร่องรอยใดๆ ของเขาเลย
เมื่อมองแวบแรก ก็รู้ได้อย่างชัดเจนว่า เขาได้ฝึกฝนมาแต่โบราณ และรู้ถึงอันตรายของโลกบำเพ็ญเพียร
“หานจื่อ เจ้ายังอยากไปดูอีกหรือไม่ คนผู้นั้นจากไปแล้ว”
“เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ ศิษย์ก็อยากจะเห็นว่าทัณฑ์สวรรค์นี้ทรงพลังเพียงใดเจ้าค่ะ”
“ตกลง” นักพรตเต๋าชรามองดูนางด้วยความรัก จากนั้นก็ควบคุมเมฆใต้ฝ่าเท้าของพวกเขา และนำศิษย์ของเขาเดินทางไป
……………………..