ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 575 หลี่ฉางโซ่วไม่แม้แต่จะเผย
บทที่ 575 หลี่ฉางโซ่วไม่แม้แต่จะเผยโฉมหน้าของเขา (3)
“สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้สำนักบำเพ็ญเต๋าได้เผยพลังของพวกเขา และรวมสามสำนักให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เผ่ามังกรได้ระบายความโกรธแค้นของพวกเขาเช่นกัน นอกจากนี้ยังทำให้หัวใจเต๋าของเขามั่นคงเพื่อป้องกันไม่ให้เขารู้สึกผิดในเรื่องนี้อีกด้วย … ”
“ไม่ว่าผู้ใดก็ตามย่อมจะยกย่องเขาทุ่มเทเต็มที่เพื่อสำนักบำเพ็ญเต๋า… ศิษย์น้องอวิ๋นเซียวช่างมีสายตาดีมากจริงๆ!”
นักพรตเต๋าตั๋วเป่าหันไปมองเทพธิดาจินหลิงและอดจะถามออกมาเบาๆ ไม่ได้ว่า “ใช่หรือไม่เล่า ศิษย์น้องคิดมากไปหรือไม่? ฉางเกิง ศิษย์น้องหวงหลง ศิษย์น้องกงหมิง ศิษย์พี่เสวียนตู และข้าได้หารือเรื่องนี้ด้วยกันและตัดสินใจร่วมกันจริงๆ…”
เทพธิดาจินหลิงส่ายศีรษะและมองไปที่แขนเสื้อของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่
“นั่นคือเหตุผลที่ว่าเขาฉลาดมาก แม้หากตอนนี้ไม่เผยโฉมหน้าออกมา พวกเราก็ยังต้องขอบคุณเขา นอกจากนี้ ความริษยาและความเกลียดชังของสำนักบำเพ็ญประจิมก็จะไม่ตกอยู่กับเขาเลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่า ข้าไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะสมเลย อันที่จริง ข้าเพียงแค่รู้สึกว่าวิธีการวางแผนของเขาลึกล้ำจนออกจะน่ากลัวอยู่สักหน่อย…
ศิษย์พี่ จากนี้ต่อไปหากศิษย์พี่มีข้อสงสัยไม่แน่ใจเกี่ยวกับการจัดการด้านการศึกษา ท่านก็ไปหารือเรื่องนี้กับเขาได้ มันย่อมจะเป็นการเสียเปล่าที่จะไม่ใช้งานคู่บำเพ็ญเต๋าของศิษย์น้องอวิ๋นเซียว”
“ตกลง!”
ตั๋วเป่ายิ้มรับคำ และไม่ได้เอ่ยอะไรอีก
เมฆกระจายอยู่ด้านหน้าของภูเขาและภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้า พวกเขายังคงอยู่ห่างออกไปหลายพันลี้เมื่อพวกเขาสัมผัสได้ถึงอักขระเต๋าที่สงบและมั่นคงของจอมปราชญ์
บัดนี้พวกเขามาถึงภูเขาวิญญาณแล้ว
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้ส่งข้อความเสียงออกไปทั่วทุกที่
“จงดุดันมากขึ้น”
บรรดาเซียนจากสำนักบำเพ็ญเต๋าแย้มยิ้มก่อนในตอนแรก จากนั้นพวกเขาแต่ละคนก็ทำหน้าบูดบึ้ง บัดนี้พวกเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยเจตนาสังหารขณะที่เหยียบย่ำลงบนภูเขาวิญญาณอย่างเต็มกำลัง
ในขณะนั้น พวกเขาหยุดกลุ่มเมฆอยู่ตรงจุดที่อยู่ห่างออกไปพันลี้
นักพรตเต๋าตั๋วเป่าเป็นคนแรกที่ก้าวออกไปข้างหน้าและกระบี่เรืองแสงก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาในขณะที่เขาตะโกนไปที่ภูเขาวิญญาณว่า “พวกเรา ศิษย์ของสำนักบำเพ็ญเต๋าจะไม่ล่วงเกินสำนักเต๋าของจอมปราชญ์ ตอนนี้ให้ศิษย์ของสำนักบำเพ็ญประจิมที่สามารถจัดการเรื่องต่างๆ ได้ จงออกมาเดี๋ยวนี้!”
ครึ่งแรกของประโยคของเขาตะโกนว่าจะไม่ล่วงเกินสำนักเต๋าให้จอมปราชญ์ขุ่นเคืองนั้นไม่ได้น่ารังเกียจ แต่ครึ่งหลังของประโยคนั้นทำให้บันดาลโทสะจนนักพรตเต๋าเฒ่าบนภูเขาวิญญาณกัดฟันด้วยความเดือดดาลและพูดไม่ออก
หลังจากนั้นไม่นาน แสงสีทองก็สาดส่องลงมาบนภูเขาวิญญาณ!
ทันใดนั้นประตูก็เปิดขึ้นในค่ายกลใหญ่ที่นี่ แล้วร่างหลายร้อยร่างก็บินออกมาจากประตูนั้น และลอยขึ้นไปสูงเท่ากับประตูเต๋า
ในขณะนั้น นักพรตเต๋าชราสามคนเดินนำหน้า พวกเขาแต่ละคนหัวเราะเสียงดังลั่นและนำผู้ฝึกบำเพ็ญของภูเขาวิญญาณออกไปข้างหน้าหลายร้อยลี้
ทว่ากฎของการหัวเราะ “ฮ่าฮ่า” เป็นสิ่งแรกเมื่อพบกันนั้นก็ขึ้นอยู่บนหลักสมมติฐานที่ว่าไม่มีฝ่ายใดเป็นศัตรูกัน
วันนี้ ไม่ว่าผู้ฝึกบำเพ็ญของสำนักบำเพ็ญประจิมจะหัวเราะอย่างไร บรรดาเซียนของสำนักบำเพ็ญเต๋าก็มีแต่สีหน้าท่าทีเย็นชา พวกเขายืนเป็นแถวเรียงกันบนก้อนเมฆด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร
นั่นทำให้ฝ่ายที่หัวเราะรู้สึกขัดเขิน…
นักพรตเต๋าชรากล่าวว่า “สถานที่นี้เป็นภูเขาวิญญาณแห่งสำนักบำเพ็ญประจิมของข้า สหายเต๋าแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋า ไม่รู้ว่าเจ้ามีอันใดจะชี้แนะข้า ถึงได้ระดมคนมามากมายเพียงนี้?”
“ชี้แนะหรือ?”
นักพรตเต๋าตั๋วเป่าออกหน้าอีกครั้ง…
เขาไม่มีทางเลือก เขาเป็นศิษย์พี่คนสุดท้องของเหล่าศิษย์พี่แห่งสามสำนัก กวงเฉิงจื่อเข้าร่วมสำนักก่อน และมีสถานะสูงอยู่ในฐานะปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่
ตั๋วเป่าเบิกตากว้างและก่นด่าออกมาเล็กน้อย “มีคนในสำนักบำเพ็ญประจิมสร้างข่าวลือและก่อปัญหา เขาทำลายชื่อเสียงของศิษย์ของข้าและเกือบทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในสำนักบำเพ็ญเต๋าของข้า เขาเกือบจะก่อให้เกิดสงครามระหว่างสองสำนัก!
หากสำนักบำเพ็ญประจิมไม่ให้คำอธิบายแก่พวกเราในวันนี้ ก็น่ากลัวว่าเรื่องนี้จะไม่มีทางยุติ!”
นักพรตเต๋าชราสามคนแรกใช้สามโองการของ ‘แสร้งทำเป็นไม่รู้’ พร้อมๆ กัน
“โอ้? เป็นเช่นนั้นหรือ?”
“เหตุใดพวกเราไม่รู้?”
“เกรงว่าต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่”
“เข้าใจผิด?”
จ้าวกงหมิงแค่นเสียงเย็นชาและลูบเคราในขณะที่เขาเดินออกไปข้างหน้า ทันใดนั้นนักพรตเต๋าชราส่วนใหญ่จากสำนักบำเพ็ญเต๋าประจิมก็มีสีหน้าท่าทีเปลี่ยนไป ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาล
โชคดีที่วันนี้ขาของอาจารย์ลุงจ้าว แข็งแรงมาก เขาเพียงแค่ตวาดออกมาว่า “สหายศิษย์ของข้าหลายคนจากทั้งสามสำนักได้ใช้สมบัติเต๋าสวรรค์เพื่อทำการหยั่งรู้และได้พบว่าผู้ที่เผยแพร่ข่าวลือออกไปนั้น ยังถึงกับได้รับการคุ้มครองจากดอกบัวทองคำระดับสิบสองในสำนักบำเพ็ญเต๋าประจิมของเจ้าอีกด้วย!”
นักพรตเต๋าชราตอบว่า “สหายเต๋ากงหมิง เจ้ากล่าวผิดไปแล้ว! สำนักบำเพ็ญประจิมเปิดกว้างและเหนือกระดาน[1]เสมอ พวกเราจะจดจำคำสั่งสอนของท่านอาจารย์ทั้งสองเอาไว้ในใจตลอดไป
เป็นเรื่องยากลำบากยิ่งนักกว่าที่สำนักบำเพ็ญประจิมจะเจริญรุ่งโรจน์อย่างยิ่งใหญ่ แล้วเหตุใดพวกเราถึงต้องวางแผนทำร้ายสำนักบำเพ็ญเต๋าและเพิ่มกรรมให้ตัวเองโดยเปล่าประโยชน์?”
เมื่อจ้าวกงหมิงได้รับการส่งข้อความเสียงแล้ว เขาก็หัวเราะและก่นด่าออกมาทันที “สำนักบำเพ็ญประจิมเปิดกว้างและเหนือกระดานเสมอ? เจ้าไม่กลัวจะถูกเยาะเย้ยหยาบหยามที่พูดเช่นนั้นหรือ?
หันกลับไปถามว่ามีสหายศิษย์ร่วมสำนักของเจ้าคนใดที่ไม่มีความลับที่ทำให้พวกเขาอับอายไม่กล้าเปิดเผยบ้าง ผู้ที่อ้างว่าพวกเขาไม่มีจะต้องก้าวออกมาข้างหน้าและให้สัตย์ปฏิญญาต้าเต๋าเพื่อให้เต๋าสวรรค์เป็นพยานยืนยัน!”
ศิษย์สำนักบำเพ็ญประจิมล้วนเงียบงันทันที
ในที่ลับ หลี่ฉางโซ่วยิ้ม ในขณะนั้นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่กำลังจดบันทึกในห้องโถงด้านหลังของวิหารเทพทะเลในเมืองอันสุ่ยก็ได้เพิ่มบรรทัดของอักขระขนาดเล็กใต้แถวตอนอักขระของจ้าวกงหมิงทันที
“เครื่องมือล้ำค่าระดับปรมาจารย์แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าประจิม!”
นักพรตเต๋าชราผู้หนึ่งจากภูเขาวิญญาณร้องตะโกนว่า “เกรงว่า ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ สหายเต๋าโปรดสงบสติอารมณ์และให้ข้าได้ไถ่ถามก่อนเถิด!”
หลังจากกล่าวเช่นนั้น นักพรตเต๋าชราก็หันไปมองบรรดาศิษย์ผู้มาชุมนุมหลายร้อยคน แล้วกล่าวว่า “ในหมู่พวกเจ้า มีผู้ใดทำเช่นนั้น? หากได้ทำไปแล้ว ก็จงยืนหยัดและออกมายอมรับมันอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา อย่าทำให้ชื่อเสียงสำนักบำเพ็ญประจิมของเราต้องเสื่อมเสียได้!”
ผู้ฝึกบำเพ็ญทั้งหมดของภูเขาวิญญาณล้วนแล้วแต่เงียบงันในขณะที่หลี่ฉางโซ่วก็แอบรออยู่เช่นกัน …
เขาลังเลจริงๆ เมื่อเสนอคำชี้แนะไปก่อนหน้านี้ มันมีสถานการณ์ที่เขาไม่ได้กล่าวถึงโดยตรง
หากตี้จั้งเริ่มจะยอมรับความผิดพลาดของเขาออกมาก่อนและระงับโทสะของสำนักบำเพ็ญเต๋าด้วยการลงโทษตัวเอง
หากเป็นเช่นนั้น หลี่ฉางโซ่วก็จะเพิ่มระดับการเป็นภัยคุกคามของตี้จั้ง!
ทว่าหลังจากเงียบไปครู่หนึ่งแล้ว นักพรตเต๋าวัยกลางคนก็บินออกมาและถอนหายใจอย่างหดหู่และกล่าวว่า “ข้าเป็นคนทำเรื่องนี้เอง”
หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจโล่งอก…
โชคดีที่ในตอนนี้ ตี้จั้งยังไม่กล้าก้าวออกมาข้างหน้า เขาน่าจะมีแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัวบางอย่าง ในภายหน้าเมื่อเขาวางแผนต่อสู้กับตี้จั้ง เขาย่อมจะมีโอกาสมากกว่านี้อีกมากมายในการโจมตี
คนไม่กี่คนที่ดูแลสำนักบำเพ็ญเต๋า ทั้งปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ ตั๋วเป่า และกวงเฉิงจื่อล้วนยิ้มกริ่มในใจ และคำว่า “แผนการดี” ก็ปรากฏขึ้นมา
พวกเขาควรจัดการกับแผนนี้อย่างไร?
ในขณะนั้น พลังลมปราณของจ้าวกงหมิงก็พลุ่งพล่านไปทั่วร่างและระเบิดออกมา พลังของเขาท่วมท้นปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
เขาตะโกนเสียงดังลั่นว่า “เจ้ากล้าวางแผนร้ายต่อสำนักบำเพ็ญเต๋าได้อย่างไร? ว่าแต่ว่า บอกข้ามาที มีคนสั่งออกคำสั่งอยู่เบื้องหลังให้เจ้ามาปลุกปั่น สร้างความบาดหมางระหว่างสามสำนักบำเพ็ญเต๋าใช่หรือไม่!?!”
ในขณะนั้น นักพรตเต๋าตั๋วเป่าก็ได้ยินข้อความเสียงส่งมา เขาก้าวออกไปข้างหน้าสองก้าวทันทีและกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ศิษย์น้องกงหมิง ส่งแม่แบบคำสาบานของเจ้าออกมาเถิด และให้เขาสาบานว่าเขาได้เป็นคนทำมันจริงๆ! หากเต๋าสวรรค์พบว่าเขาโป้ปด ก็ย่อมแสดงว่าเขากำลังปกป้องผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังเขา!”
สีหน้าท่าทีของผู้ฝึกบำเพ็ญจากภูเขาวิญญาณเปลี่ยนไปในทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเคยเห็นภาพเหตุการณ์เยี่ยงนี้จากที่ใดสักแห่ง…
………………………………………………………………..
[1] ยุติธรรม โปร่งใส เชื่อถือได้ ตรงไปตรงมา