ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - บทที่ 703 การสนทนากับปรมาจารย์จอมปราชญ์ (3)
บทที่ 703 การสนทนากับปรมาจารย์จอมปราชญ์ (3)
แน่นอนว่า จ้าวกงหมิงย่อมเข้าใจว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเทพธิดาจินกวงจบลงอย่างไม่มีปัญหา และในฐานะ “คู่บำเพ็ญเต๋า” เขาก็จำเป็นต้องอธิบายความสัมพันธ์ของเขากับเทพธิดาจินกวง ซึ่งเป็นคู่บำเพ็ญเต๋าของเขา ให้กับทางสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยเข้าใจอย่างชัดเจนโดยเร็วที่สุด
หากพวกเขาแยกจากกันไปโดยไม่เอ่ยวาจาใดแม้สักคำ ไม่เพียงแต่มันจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเทพธิดาจินกวงเท่านั้น แต่มันยังทำให้ผู้อื่นเข้าใจลักษณะนิสัยของเขาผิดไป และนอกจากนี้ ยังทำให้ชื่อเสียงของสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยต้องเสื่อมเสียอีกด้วย!
ในห้องโถงด้านหลังของวิหารเทพทะเล จ้าวกงหมิงก็ถูมือใหญ่ของเขาและยังคงเดินไปอย่างต่อเนื่องไม่หยุด
“จัดการ!
เขาต้องจัดการทำให้ดีๆ และเชิญสหายศิษย์ทุกคนที่เคยแอบดูมาก่อนหน้านี้!
คู่รักมนุษย์ธรรมดานี้ ต้องบูชาฟ้าดินเมื่อพวกเขาแต่งงานกันมิใช่หรือ?
น้องชาย ช่วยข้าคิดหน่อยว่าจะทำตรงข้ามอย่างไรดี!
นอกจากนี้ คู่รักมนุษย์ธรรมดาไม่สวมอาภรณ์แต่งงานเมื่อพวกเขาแต่งงานกันหรือ? หากทำไม่ได้ เราก็จะสวมเสื้อคลุมสีดำ!”
ที่ข้างๆ เขา บัดนี้ หลี่ฉางโซ่วเอามือข้างหนึ่งก่ายหน้าผาก
เมื่อเห็นว่าอาจารย์ลุงจ้าวรู้สึกตื่นเต้นเพียงใด เขาก็คิดจริงๆ ว่าอาจารย์ลุงจ้าวมีคนรักใหม่และแทบรอไม่ไหวที่จะประกาศให้โลกรู้ว่าเขาและเทพธิดาจินกวงบริสุทธิ์สะอาด ปราศจากมลทิน!
แน่นอนว่า อาจารย์ลุงจ้าวย่อมจะไม่ทำเช่นนั้น…
อุปนิสัยของเปี้ยนจวงได้รับการพัฒนามาในบรรยากาศพิเศษของหอเทียนหยา และหลังจากที่เขาไปศาลสวรรค์แล้ว เขาก็ปลดปล่อยธรรมชาติของเขาต่อไป
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ฝึกบำเพ็ญในโลกบรรพกาลนั้นยังคงค่อนข้างหัวโบราณ และบรรดาผู้เป็นเซียนส่วนใหญ่จะเขินอายเมื่อพวกเขาประสบกับภัยพิบัติแห่งรักชั่วคราว
มีข้อยกเว้นคือ เผ่าพันธุ์มังกรและเหล่าปีศาจบางบางเผ่าพันธุ์
หลังจากจัดการเรื่องความสัมพันธ์กับเทพธิดาจินกวงนี้เสร็จสิ้นแล้ว อาจารย์ลุงจ้าวก็น่าจะบำเพ็ญเพียรอยู่อย่างสงบสุขสบายใจ และรอมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพที่กำลังจะมาถึง
“พี่ชาย”
หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “เหตุใดท่านไม่ไปคุยกับอีกฝ่ายก่อนด้วยเล่า บอกนางถึงเรื่องความกังวลและความทุกข์ยากทั้งหมดของท่านกับนางอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา
เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่ความพยายามทำให้ดีที่สุดของเรา เพราะหากนางไม่เห็นด้วย มันจะส่งผลตรงกันข้ามได้”
ดวงตาของจ้าวกงหมิงเปล่งประกายทันที
จากนั้นเขาก็ตะโกนออกมาดังลั่นว่า “แน่นอน! น้องชายรอสักครู่ ข้าจะไปคุยเรื่องนี้กับศิษย์น้องหญิงจินกวง แล้วค่อยกลับมาหาเจ้า!”
กล่าวจบ จ้าวกงหมิงก็รีบจากไปอย่างเร่งร้อนพร้อมกับไข่มุกของเขา เขาไม่ให้โอกาสหลี่ฉางโซ่วได้เตือนเขาแม้สักคำ…
“พี่ชาย ท่านรีบกินเต้าหู้เหม็น[1]ไม่ได้”
หลังจากนั้นร่างจำแลงของหลี่ฉางโซ่วก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับถือแส้หางม้าของเขา และเดินไปที่ห้องโถงด้านหน้า
ในฉากกั้นระหว่างโถงหน้าและโถงหลังของวิหารเทพทะเล เขาพบแผนภาพไท่จี๋ที่เขาแขวนเอาไว้ก่อนหน้านี้…
หลี่ฉางโซ่วทำการคารวะเต๋า แล้ววางไม้เฉียนคุนของแท้ และท่านปู่เจดีย์ลงบนโต๊ะอย่างนอบน้อม
จากนั้นเสี้ยวอักขระเต๋าที่หมุนวนล้อมรอบพวกมัน เจดีย์เสวียนหวงเทียนตี้ และไม้เฉียนคุนก็หายไปในทันที
“ท่านอาจารย์!”
ทันใดนั้นหลี่ฉางโซ่วก็ก้มศีรษะพลางกล่าวว่า “ศิษย์มีข้อกังขาบางอย่างในใจ และอยากขอให้ท่านอาจารย์ช่วยชี้แจงข้อสงสัยให้ด้วยขอรับ!”
ในขณะนั้น อักขระเต๋าที่กำลังจะสลายตัวก็ก่อตัวขึ้นใหม่อีกครั้ง และคราวนี้ พวกมันก็ปรากฏขึ้นในใจของหลี่ฉางโซ่วและก่อตัวเป็นถ้อยคำ!
“ว่ามา”
หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขารู้ว่าปรมาจารย์จอมปราชญ์น่าจะได้ยินความคิดของเขา
ดังนั้นเขาจึงถามในใจว่า “ตั้งแต่ศิษย์เริ่มฝึกบำเพ็ญมา ศิษย์ได้เปลี่ยนแปลงบางอย่างใช่หรือไม่ขอรับ?”
“ใช่”
“ศิษย์ได้รับอิทธิพลจากเต๋าสวรรค์ในขณะที่ทำการตัดสินบางอย่างหรือไม่ขอรับ?”
“อย่าได้สงสัยตัวเอง เต๋ามีจุดสิ้นสุดแห่งเต๋า”
บัดนั้นหลี่ฉางโซ่วก็เบิกบานใจยิ่ง เขาโค้งคำนับให้แผนภาพไท่จี๋อย่างสุดซึ้งและกล่าวเสียงดังลั่นว่า “ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ชี้แนะ! ศิษย์สบายใจแล้วขอรับ!”
ศาลสวรรค์มีความสำคัญสูงสุด
ศาลสวรรค์มีความสำคัญสูงสุด?
หลี่ฉางโซ่วรู้สึกตื่นเต้น เขาได้สนทนากับปรมาจารย์จอมปราชญ์โดยตรง เขาเรียกท่านว่า’ท่านอาจารย์’ และจอมปราชญ์ก็ตกลงให้หลี่ฉางโซ่วเรียกขานเขาเช่นนั้น
เมื่อเขาเห็นถ้อยคำที่เพิ่งก่อตัวขึ้น เขาก็อดจะผงะงันทันทีไม่ได้
ศาลสวรรค์มีความสำคัญสูงสุด …นั่นหมายความว่าอย่างไร?
บัดนี้อักขระเต๋าในใจของเขาได้สลายไปหมดสิ้นแล้ว หลี่ฉางโซ่วไม่อาจเอ่ยถามเพิ่มเติมต่อไปได้ และเขาก็จะไม่ถามเพิ่มเติมอีก
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่เดาด้วยตัวเองอย่างมืดบอดเท่านั้น
หากปรมาจารย์จอมปราชญ์ได้ชี้แจงทุกอย่างให้เขาฟังด้วยตัวเอง แล้วเขาจะยังเป็นปรมาจารย์จอมปราชญ์อยู่หรือไม่?
มันสำคัญสูงสุด
หรือว่าข้าเข้าใจผิดมาตลอด?
ท่านอาจารย์ไท่ชิงไม่ได้คิดให้ค่ากับสำนักบำเพ็ญเต๋ามากเกินไป แต่เขาให้ความสำคัญกับศาลสวรรค์มาก?
อย่าได้สงสัยตัวเอง เต๋ามีจุดสิ้นสุดแห่งเต๋า ความหมายของคำเหล่านั้นเข้าใจได้ไม่ยาก
สมควรแล้วที่จอมปราชญ์ได้บอกเขาว่าไม่ต้องหลงกังวลไปอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง เต๋าสวรรค์ไม่อาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใดๆ ของสิ่งมีชีวิต
ไม่เช่นนั้น โลกบรรพกาลจะไม่เป็นเช่นนี้
เต๋าสวรรค์เพียงต้องมีอิทธิพลในการตัดสินของคนสำคัญบางคนในช่วงเวลาที่สำคัญ
จากนั้นมันก็จะค่อยๆ ผูกมัดสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนเข้ากับโลกใบนี้
และเมื่อเป็นเช่นนี้ โลกบรรพกาลก็จะเงียบสนิท แต่ก็จะมีเสถียรภาพอย่างยิ่ง
หลังจากที่หลี่ฉางโซ่วถามคำถามสามข้อนั้นแล้ว เขาก็รู้สึกมั่นใจในแผนการต่อต้านมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพมากขึ้น!
เขาสามารถเปลี่ยนแปลงได้และเขาวางแผนต่อต้านสำนักบำเพ็ญประจิมได้ และไม่ว่าเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ก็ตาม นั่นจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่มันก็มีความเป็นไปได้เช่นนี้อย่างแน่นอน…
ทว่าจอมปราชญ์ก็ใช้ถ้อยคำหกคำที่ทำให้หลี่ฉางโซ่วสับสนมากยิ่งขึ้น
ศาลสวรรค์มีความสำคัญสูงสุด
ดังนั้น…
แม้เขาจะต้องเสียสละความแข็งแกร่งของสำนักบำเพ็ญเต๋าเพื่อเติมเต็มศาลสวรรค์อย่างรวดเร็วและทำให้เต๋าสวรรค์สมบูรณ์แบบ เขาก็จะเสียสละอย่างไม่เสียดายและลังเลใดๆ
การตีความนั้นน่ากลัวเกินไป
ในไม่ช้า หลี่ฉางโซ่วก็กลับไปที่โถงด้านหลังของวิหารเทพทะเลพร้อมกับแส้หางม้าของเขา แล้วตกอยู่ภวังค์แห่งในความคิดอย่างลึกซึ้ง
หลี่ฉางโซ่วคิดถึงเรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ดูเหมือนว่า เขาจะรู้ความจริงของมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพอยู่มาก ทว่าความจริงแล้ว เขาก็ไม่รู้อะไรในเรื่องนี้เลย…
ข้าควรไปตรวจสอบที่วังเซิ่งหมู่ของเทพีหนี่วาหรือไม่?
หลี่ฉางโซ่วดูมังงะสองสามเรื่องที่เขาวาดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและอดจะคิดเช่นนั้นไม่ได้
ทว่าตาม ร่างหลักและร่างจำแลงของเขาก็สั่นสะท้าน
เขาไม่อยากถูกจองจำอยู่ในโลกสีขาวที่เหมือนกรงขัง ซึ่งเร่งเร้าให้ปรับปรุง
ใช่ มีวิหารเซิ่งหมู่ของพระมารดาศักดิ์สิทธิ์ เทพีหนี่วาอยู่ในโลกมนุษย์มากมายไม่ใช่หรือ
ในฐานะศิษย์เผ่าพันธุ์มนุษย์ มันย่อมสมเหตุผลแล้วที่เขาจะไปแสดงความเคารพที่วิหารวิหารเซิ่งหมู่ของพระมารดาศักดิ์สิทธิ์ เทพีหนี่วาและเผามังงะสักสองสามเล่มเพื่อเป็นการแสดงความเคารพบูชาต่อนางด้วย
มันช่างไร้ที่ติ