ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - บทที่ 723 ปรมาจารย์ เราต้องการปรมาจารย์หลายคน (2)
บทที่ 723 ปรมาจารย์ เราต้องการปรมาจารย์หลายคน (2)
ทันใดนั้นหอกโลหิตก็พลันระเบิดขึ้น แล้วร่างของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็เคลื่อนไหวแวบวาบไปอย่างรวดเร็วสองสามครั้ง และเข้าไปใกล้โดยอยู่ห่างจากนางมารร้ายน้อยหนึ่งร้อยจั้งแล้ว!
บัดนั้นนางมารร้ายน้อยก็ปล่อยเสียงร้องคำรามต่ำราวกับสัตว์ดุร้ายออกมา และแขนทั้งสิบเอ็ดข้างของนางก็ถือหอกและเข้าต่อสู้กับปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ในอากาศอย่างดุเดือด…
ในขณะนั้น ก็มีกระแสวังวนปรากฏขึ้นใต้เท้าของหลี่ฉางโซ่ว!
พลังลมปราณหยินหยางได้รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว มันคือ แผนภาพไท่จี๋ที่เปิดเส้นทางจักรวาล
หลี่ฉางโซ่วไม่ได้ล่าถอยในทันที ทว่าเขากลับมองลงไปที่ร่างจำแลงแห่งความปรารถนาในมือของเขาแทน
เขาเพิ่งจะ…
“ฉางเกิง พวกเราไปก่อน”
เสียงของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ดังขึ้นมา และหลี่ฉางโซ่วพยักหน้ารับคำทันที
หลังจากลังเลเล็กน้อย หลี่ฉางโซ่วก็ตัดสินใจปล่อยให้ร่างจำแลงแห่ง “ความปรารถนา” อยู่ที่นี่ต่อไปและกำราบนางมารร้ายน้อยที่เกือบจะบ้าดีเดือดไปแล้ว
หลี่ฉางโซ่วได้ชี้ไปที่หน้าผากของร่างจำแลงแห่ง “ความปรารถนา” ของอารมณ์ทั้งเจ็ด และกระซิบว่า “องค์ราชินี โปรดถนอมตัวด้วย ข้าจะรีบเตรียมการให้เร็วที่สุดแล้วกลับมาช่วยท่าน”
กล่าวจบ หลี่ฉางโซ่วก็โยนสตรีที่อยู่ในมือของเขาออกห่างไปและในขณะนั้นร่างจำแลงแห่ง “ความปรารถนา” ก็ลืมตาขึ้นเล็กน้อยและเผยรอยยิ้มบางที่อ่อนโยนออกมาที่มุมปากของนาง
แต่จากนั้น ร่างจำแลงแห่ง “ความปรารถนา” ก็สั่นสะท้านเล็กน้อยและแค่นเสียงครวญครางออกมาอย่างเจ็บปวดเล็กน้อยในขณะที่ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความสับสนงุนงง
นางตกตะลึงทันทีที่เห็นหลี่ฉางโซ่ว จากนั้นนางก็มีสีหน้าตื่นตระหนกเล็กน้อย แล้วนางก็หันกลับมาและกลายเป็นควันก่อนที่จะระเบิด
นางถึงกับก่นด่าสาปแช่งออกมาเสียงดังว่า “เจ้ายังเป็นสิ่งมีชีวิตอยู่หรือ! เหอะ เจ้าสารเลว!”
ก่อนที่หลี่ฉางโซ่วจะทันได้ตอบกลับ ร่างหนึ่งก็แวบเข้ามาอยู่ข้างๆ เขา นั่นคือ ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ที่รีบเร่งมาโดยใช้วิชาเฉียนคุน
ในขณะนั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ไม่เอ่ยวาจาใด เขากดไหล่ของหลี่ฉางโซ่วด้วยมือซ้าย แล้วพวกเขาทั้งสองคนก็ตกลงไปในกระแสวังวนด้านล่างพร้อมกัน จากนั้นเขาก็โบกมือขวาขึ้นเหนือพวกเขา แล้วเส้นทางจักรวาลก็พังทลายลงทันที…
ทันใดนั้นร่างสีแดงโลหิตที่ไล่ตามพวกเขาก็พลาดและชนเข้ากับทะเลสาบหินหนืด
นางก่นด่าสาปแช่งอย่างดุเดือดว่า “กลับมานะ! ข้าจะฆ่าพวกเจ้า! ฆ่า! เฮ่ย…”
ในที่สุดพวกเขาก็ออกไปได้
ในยามนั้น หลี่ฉางโซ่วเพิ่งสัมผัสได้ถึงการดำรงอยู่ของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั่วทุกที่ บัดนี้เขาและปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้ไปปรากฏกายขึ้นที่บริเวณด้านนอก ทางด้านซ้ายบนของแผ่นจานสังสารวัฏหกวิถีแล้ว
พวกเขาทั้งสองคนต่างมีความเข้าใจกันและกันเองเป็นอย่างดี และในเวลาเดียวกันนั้น พวกเขาก็ซ่อนร่างของพวกเขาเอาไว้เพื่อไม่ทำให้ผู้ใดตื่นตกใจ
หลี่ฉางโซ่วกล่าวว่า “ศิษย์พี่ เราไปชำระล้างจิตใจของจ้าวแห่งแดนยมโลกทั้งสองนี้ให้บริสุทธิ์ที่ก้นนรกขุมที่สิบแปดกันก่อนเถิดขอรับ”
“ได้”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ยกมือขวาขึ้นและมองดูปลายนิ้วที่สั่นและบวมเล็กน้อยของเขา
จากนั้นเขาก็คลี่ยิ้มและกล่าวว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ความแข็งแกร่งของราชินีโฮ่วถู่ได้พัฒนาขึ้นมาก นี่ยังเป็นเพียงร่างจำแลงเท่านั้น”
“อืม ศิษย์พี่ เหตุใดท่านจึงไม่ใช้สมบัติเวทเลยขอรับ?”
“นึกว่าจะทำให้ดูดีกว่านี้เสียอีก…ฮ่าฮ่า
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!
ความจริงแล้ว เป็นเพราะข้าเพิ่งตื่นและลืมเอาไม้เฉียนคุนมาด้วย”
หลี่ฉางโซ่วถึงกับพูดไม่ออก
เขาถือเจดีย์เสวียนหวงที่หมุนวนอยู่ในฝ่ามือของเขา และร้องเรียกท่านปู่เจดีย์ในใจ แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ
หลี่ฉางโซ่วจึงรีบเอ่ยถามว่า “ศิษย์พี่ มีอันใดผิดปกติเกิดขึ้นกับท่านปู่เจดีย์หรือไม่ขอรับ?”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ยิ้มเฉยไม่เอ่ยวาจาใด แล้วชี้นิ้วไปที่เจดีย์น้อยและทำให้มันหยุดหมุนทันที
เจดีย์น้อยสั่นสะเทือนเบาๆ และแผ่พุ่งพลังลมปราณเสวียนหวงออกมาที่ด้านล่างของเจดีย์
จากนั้นเจตจำนงวิญญาณของปรมาจารย์เจดีย์ก็เชื่อมต่อกับจิตใจของหลี่ฉางโซ่วอีกครั้ง แล้วในใจของหลี่ฉางโซ่วก็เปี่ยมล้นไปด้วยความยินดี ลิงโลด และโล่งใจพร้อมกับตะโกนโห่ร้องในใจว่า
“สุดยอด!”
……
ครู่ต่อมา ที่ก้นนรกขุมที่สิบแปด
ด้วยความช่วยเหลือจากปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่และแผนภาพไท่จี๋ พวกเขาทั้งสองคนก็ได้ผ่านนรกขุมที่สิบแปดไปอย่างเงียบๆ
มันเป็นเฉกเช่นเดียวกับเพื่อนบ้านที่มาเยี่ยมเยียนกัน พวกเขาได้ผ่านกฎห้ามค่ายกลหลักสี่สิบเก้าไปได้อย่างง่ายดายจนมาถึงทะเลสาบแห่งน้ำตา
ทันทีที่มาถึง ความคิดชั่วร้ายเล็กน้อย ในใจของหลี่ฉางโซ่วก็สลายไป และความเศร้าที่ไม่อาจอธิบายได้ก็ผุดขึ้นมาท่วมท้นในใจของเขา
ในขณะนั้นความเศร้าน้อยที่อยู่ใจกลางทะเลสาบถอนหายใจเบาๆ และพึมพำบางอย่างออกมาในขณะที่นางยังคงนอนนิ่งอยู่อย่างนั้นโดยไม่ขยับเขยื้อนใดๆ
แล้วหากนางเปลี่ยนท่าทางเล่า?
มันย่อมเป็นเพียงการปล่อยให้หัวใจที่ว่างเปล่าของนางได้รับความสบายเล็กน้อยซึ่งนางไม่ควรได้รับ และความสบายใจนั้นก็หายไปในทันที เหลือไว้แต่เพียงความโศกเศร้าลึกล้ำ
นั่นคือสิ่งที่ความเศร้าน้อยคิด
ครั้งนี้ หลี่ฉางโซ่วและปรมาจารย์ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เข้าไปใกล้ความเศร้าน้อย
พวกเขาเพียงปล่อยผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนยมโลกสองคนคือ ราชาฉู่เจียงและราชาฉินกวงออกจากทะเลสาบและปลดกฎห้ามออกไป
ในขณะนั้นชาวเผ่าเวททั้งสองคนซึ่งถูกความคิดชั่วร้ายโจมตีและกำลังร้องตะโกนให้ฆ่า ต่างก็รีบพุ่งกระโจนเข้าหากันอีกครั้ง
ทว่าในขณะที่พวกเขากำหมัดแน่น ดวงตาที่เบิกกว้างของพวกเขาก็เต็มไปด้วยน้ำตาก่อนที่พวกเขาจะเข้าปะทะ ชกต่อยกันเอง
จากนั้นดวงตาของพวกเขาทั้งสองก็คลอเบ้าไปด้วยน้ำตา น้ำตาของพวกเขาไหลอาบแก้มลงมา แล้วพวกเขาก็อดจะกอดศีรษะและร่ำไห้ด้วยกันไม่ได้…
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลี่ฉางโซ่วก็ยังคงคิดและนึกถึงสถานการณ์ต่อไป
ในบรรดาร่างจำแลงแห่งอารมณ์ทั้งเจ็ดของราชินีโฮ่วถู่ นางมารร้ายน้อยที่ปรากฏตัวขึ้นและร่างจำแลงแห่ง “ความโกรธ” ที่ยังไม่ได้ปรากฏออกมานั้น นับเป็นร่างจำแลงที่แข็งแกร่งที่สุดในด้านของพลังการต่อสู้
แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดในท่ามกลางบรรดาอารมณ์ทั้งเจ็ดนั้นก็ยังคงเป็นความเศร้าน้อย
เหตุผลที่ราชินีโฮ่วถู่โยนความเศร้าน้อยออกมาจากแผ่นจานสังสารวัฏหกวิถีนั้น ไม่ใช่เพียงเพราะความเศร้าน้อยจะทำลายตัวนางเอง และจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ แต่มันยังเป็นเพราะความเศร้าน้อยนั้นทรงพลังแข็งแกร่งเกินไปและสามารถส่งผลกระทบต่ออีกหกร่างจำแลงที่เหลือได้อย่างง่ายดาย ซึ่งก่อให้เกิดผลที่ตามมามากมายอย่างไม่อาจประเมินได้
ในขณะนั้น ราชินีโฮ่วถู่ก็กำลังถูกร่างจำแลงแห่งอารมณ์ทั้งเจ็ดกัดกร่อนเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกัดกร่อนจากความเศร้าน้อยนั้นแข็งแกร่งที่สุด…
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่นวดนิ้วของเขาและถามว่า “ฉางเกิง หลังจากที่ข้าหลับไปแล้ว เกิดอันใดขึ้นหรือ?”
ทันใดนั้นดวงตาของหลี่ฉางโซ่วก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองใจอย่างมาก และปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็เงยหน้าขึ้น แล้วหัวเราะออกมาดังๆ จนเขาก็รู้สึกกระดากเล็กน้อย…
พลังแห่งอารมณ์ทั้งเจ็ดนั้น ไม่อาจต้านทานได้จริงๆ “ศิษย์พี่ ท่านแข็งแกร่งยิ่ง ต่อให้ท่านถูกซัดจนปลิวขึ้นไปในอากาศ ท่านก็ยังไม่ตื่นด้วยซ้ำ…”
จากนั้นหลี่ฉางโซ่วก็ถอนหายใจและอธิบายสั้นๆ ถึงเรื่อง “การต่อสู้” ระหว่างเขาและร่างจำแลงแห่ง “ความปรารถนา” หลังจากที่ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ผล็อยหลับไป
“ข้าฉวยโอกาสจากช่วงเวลาที่นางถูกการสะท้อนกลับอย่างรุนแรง แล้วในขณะที่จิตใจของนางว่างเปล่า มีช่องเปิดปรากฏขึ้นในความคิดของนาง พลังปราณวิญญาณของข้าก็รีบพุ่งเข้าไป และแน่นอนว่า ข้าก็ได้พบกับราชินีโฮ่วถู่แล้ว
องค์ราชินีติดอยู่ในอารมณ์ทั้งเจ็ด และร่างจำแลงเหล่านั้นก็เป็นทั้งเครื่องพันธนาการ และกรงขัง”
“โอ้?”