ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - บทที่ 745 การทำงาน (2)
บทที่ 745 การทำงาน (2)
ลู่หยาก่นด่าสาปแช่งในใจอยู่สักพัก และจากนั้นก็ขจัดความคับข้องขุ่นแค้นใจเหล่านี้ออกไป
แน่นอนว่า เขาย่อมรู้ดีว่า ยามนี้เขาต้องพึ่งพาเสนาบดีเฒ่าเหล่านี้เพื่อให้โอกาสฟื้นฟูศาลปีศาจให้กลับมาผงาดขึ้นได้อีกครั้ง…
เขาถือมีดบินสังหารเซียน และหยิบถุงผ้าในอ้อมแขนของเขาออกมาแล้วมองดูมันอยู่พักหนึ่ง จากนั้น เขาก็เก็บมันอย่างระมัดระวัง
ลู่หยาสูดลมหายใจเข้าลึก และร่างของเขาก็กลายเป็นเสี้ยวควันสีเขียวอ่อนก่อนที่จะจางหายไปในหุบเขาดอกท้อ
ในที่สุด เขาก็ออกจากสถานที่ที่เจ็บปวดนี้ไปได้ชั่วคราว
ก่อนหน้านี้ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการระเบิดวิญญาณครั้งใหญ่ของเทพวารีในภูเขาเหยาเซิง และพักฟื้นอยู่ที่นั่น
นอกจากนี้ ยังต้องขอบคุณเมล็ดบัวที่สำนักบำเพ็ญประจิมสอนเอาไว้อีกด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วยให้เขาสามารถเติมพลังปราณวิญญาณที่หายไป ทั้งยังช่วยให้เขาทะลวงฝ่าด่านไปสู่อีกขอบเขตได้…
เทพวารี อย่าบังคับข้า
……
ในขณะเดียวกัน บนเกาะเต่าทอง
เวลานี้ อ่าวอี่ ซึ่งไม่ได้กลับมาฝึกบำเพ็ญที่เกาะเป็นเวลานาน กำลังแช่ตัวอยู่ในสระสมบัติในถ้ำของเขาบนเกาะเต่าทอง
อ๋าวอี่กลายร่างเป็นมังกรยาวกว่าสิบจั้ง และเหยียดยืดร่างกายของเขาอย่างสบายๆ อยู่ในสระนั้น
ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็ทำตามคำแนะนำของศิษย์พี่เจ้าสำนักของเขา เขาคอยเฝ้าสังเกตการชุมนุมที่คึกคักของบรรดาเทพเซียนในระยะไกล และได้บันทึกสถานการณ์ที่นั่น แล้วรายงานกลับไปให้ศิษย์พี่เจ้าสำนักในภายหลัง
วันนี้ เกาะเต่าทองค่อนข้างคึกคักเพียงเพราะปีศาจเสือดำที่มีระดับฐานพลังต่ำได้มาถึงแล้ว
ขณะที่เสือดำกำลังจะไปถึงเกาะในคราแรก แต่ก็ถูกบรรดาเซียนที่ลาดตระเวนเกาะหยุดเอาไว้ และเกือบจะถูกกระบี่ฟาดฟันใส่
ทว่าทันทีที่เสือดำอ้าปาก เขาก็ร้องตะโกนเรียกนามเต๋าของเหล่าเซียนเทียนและเซียนจินหลายสิบคนบนเกาะนั้นออกมา
นอกจากนี้ เขายังรายงานนามที่เขาเคยใช้ในชีวิตชาติก่อนของเขา นามว่า ‘หยวนเจ๋อ’ ออกมาอย่างตื่นเต้น ซึ่งทำให้บรรดาผู้เป็นเซียนทั้งหมดบนเกาะต่างก็ตื่นตกใจและมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่สำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยได้พัฒนามาจนถึงตอนนี้ ก็เนื่องมาจากชื่อเสียงระบือลือเลื่องของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์ทงเทียน และชื่อเสียงของกระบี่สังหารเซียนทั้งสี่เล่ม
ทว่ามีผู้ฝึกบำเพ็ญน้อยนักที่สามารถเข้ามาฝึกบำเพ็ญในเกาะเต่าทอง และเกาะเผิงไหล จะถูกคนภายนอกสังหารได้
แม้พวกเขาส่วนใหญ่จะไม่อาจเติบโตเป็นเซียนจินได้ แต่พวกเขาก็สามารถตายในวัยชราและใช้ชีวิตอย่างสุขใจไร้กังวลได้ตลอดชีวิต
นักพรตเต๋าชราหยวนเจ๋อนั้น ถือได้ว่าเป็นอุบัติเหตุที่หาได้ยากในยุคหมื่นเซียนสู่ราชสำนัก[1]ของสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย…
ย้อนกลับไปในตอนนั้น นักพรตเต๋าชราหยวนเจ๋อได้ถูกปีศาจซึ่งไม่รู้ที่มา เข้าควบคุมจิตใจเอาไว้
เขาได้นำเหล่าปีศาจจำนวนมากมาปิดล้อม และโจมตีสำนักตู้เซียนแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน และมีเจตนาที่จะพยายามทำลายการประชุมแหล่งกำเนิดสามสำนักบำเพ็ญเต๋า
แต่ในท้ายที่สุด เขาก็ถูกตู้เอ้อร์เจินเหรินสังหารทันที ซึ่งได้ถูกเก็บไว้เป็นความลับ
หลังจากนั้น ปราณวิญญาณของหยวนเจ๋อก็ถูกเซียนแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยส่งไปยังแดนยมโลก
และด้วยการใช้พลังอำนาจของสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย เขาจึงได้ใช้เครือข่ายติดต่อเชื่อมโยงเพื่อจัดเตรียมการ นำไปสู่ชะตาชีวิตที่ดีเมื่อเขาได้กลับชาติมาเกิด…
ทว่าน่าเสียดายที่นักพรตเต๋าชราหยวนเจ๋อเคยกล่าวไว้ก่อนที่เขาจะกลับชาติมาเกิดว่า “ไม่ต้องกังวล จะมีปัญหาผิดพลาดอะไรอีกหากข้าจะเดินจากสะพานไน่เหอ[2]ไปยังแผ่นจานสังสารวัฏ”
เขาต้องสูญเสียชีวิตที่ดีของตัวเขาเองไปอย่างน่าเสียดาย และในท้ายที่สุดเขาก็บังเอิญเดินตกลงไปในวิถีของสัตว์และกลายเป็นเสือดำ และจนถึงตอนนี้ การฝึกบำเพ็ญของเขาก็ยังไม่มีอะไรพิเศษ
วันนี้เสือดำไปเยี่ยมเยียนสหายเก่าของเขาที่เกาะเต่าทอง บรรดาเซียนส่วนใหญ่แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยที่อยู่บนเกาะ ต่างก็ตื่นตระหนก และรีบไปเฝ้ามุงดูกัน แค่กๆ แสดงความกังวล
หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่เป็นเวลาครึ่งชั่วยาม อ๋าวอี่ก็ค่อยๆ ดึงเศียรมังกรของเขาที่วางอยู่บนขอบสระน้ำกลับมาอย่างช้าๆ แล้วร่างมังกรของเขาก็ดำดิ่งลงสู่ก้นสระ
จากนั้น เขาก็ใช้รูปเคารพเพื่อปล่อยเจตจำนงวิญญาณของเขาออกไป และส่งคำเชิญไปยังรูปปั้นหลักของหลี่ฉางโซ่ว
ในไม่ช้า หนึ่งคนและหนึ่งมังกรก็ได้มาพบกันในความฝัน
ในเวลานี้ อ๋าวอี่เล่าถึงสถานการณ์ที่คึกคักน่าตื่นเต้นบนเกาะเต่าทองอย่างละเอียด หลี่ฉางโซ่วตั้งใจฟังอย่างระมัดระวัง และในไม่ช้า เขาก็เกิดความรู้สึกสะเทือนอารมณ์เล็กน้อย…
ทั่วทั้งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยล้วนเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ!
แม้ว่าเซียนแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยจะใช้เวทเต๋าปิดผนึกปากของเสือดำเมื่อมาถึงเกาะเป็นครั้งแรก แต่พวกเขาก็ได้รวบรวมสมบัติต่างๆ เม็ดโอสถ ศิลาวิญญาณ และวิชาเวททุกประเภทวางกองไว้อยู่ในอ้อมแขนของเสือดำ…
เหล่าผู้ฝึกบำเพ็ญที่มีความสัมพันธ์ที่ดีและใกล้ชิดกับเสือดำในอดีต ถึงกับลากเอาเสือดำที่ไม่อาจพูดได้ไปกินเลี้ยงในงานเลี้ยงต่างๆ
พวกเขาเฝ้าดูปากของเสือดำที่ถูกปิดผนึกเอาไว้ และเฝ้าดูเขาได้รับผลประโยชน์ต่างๆ ในขณะที่เห็นว่าเขาถึงกับน้ำตาไหล ร้องไห้ออกมา
“ศิษย์พี่เจ้าสำนัก” อ๋าวอี่ฉงนงงงวย “เหตุใดเราถึงมาจับจ้องเสือดำตัวนี้ด้วยขอรับ?”
“อย่าได้ดูเบาเขา” หลี่ฉางโซ่วยืนเอามือไพล่หลัง
เขายิ้มและกล่าวว่า “ยามนี้ สหายผู้นี้เป็นเผ่าปีศาจแล้ว และเขาก็เกี่ยวข้องกับสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย ดังนั้นเขาอาจจะกลายเป็นผู้ทรงพลังอำนาจได้ในอนาคต
เจ้าเพียงแค่เฝ้าจับตาดูเกาะเต่าทองต่อไป เมื่อเขาออกจากเกาะแล้ว เจ้าก็จัดเตรียมให้มีผู้อาวุโสมังกรสักคนหนึ่ง…”
แล้วหลี่ฉางโซ่วก็อธิบายไปเรื่อยๆ…
หลี่ฉางโซ่วกล่าวย้ำซ้ำๆ และกำชับเขาอยู่พักหนึ่งในขณะที่อ๋าวอี่ก็เอาแต่พยักหน้า
ในไม่ช้า องค์ชายแห่งเผ่ามังกรที่เมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่งก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า ก็ได้ออกจากความฝันไป
จากนั้น เขาก็แอบเรียกเหล่าปรมาจารย์เผ่ามังกรให้ไปรอใกล้ๆ เกาะเต่าทองอย่างลับๆ และต่อจากนี้ ก็จะมีการแสดงเล็กๆ น้อยๆ
จากนั้นเกาะเต่าทองที่ครึกครื้นอยู่ไม่กี่ชั่วยาม ก็มีเมฆขาวลอยมาจากทางเหนือ เป็นหานจื่อที่ได้รับข่าวและรีบมาจากเกาะซานเซียน
เมื่อได้เห็นวิญญาณเสือดำ ดวงตาของหานจื่อก็กลายเป็นสีแดงก่ำ และนางก็รีบร้องเรียกเขาว่าท่านอาจารย์
ทว่าเสือดำก็หลบทันที เขาหันหน้ามองไปที่เซียนหานจื่อ แล้วถอนหายใจ
จากนั้น เขาก็กล่าวว่า “ข้ากลับชาติมาเกิดแล้ว ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป ข้าไม่กล้าตอบมากเกินไป ได้เห็นว่า ตอนนี้เทพธิดาสบายดี ข้าก็โล่งใจแล้ว ข้าจะกลับไปฝึกบำเพ็ญต่อ”
หานจื่ออดจะเม้มปากและถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่ได้ แล้วเหล่าผู้เป็นเซียนแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยก็ขอให้เสือดำอยู่ต่อทันทีเพื่อให้เขาได้ฝึกบำเพ็ญอยู่บนเกาะก่อนจะกลับเข้าสู่สำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยอีกครั้ง
ทว่าเสือดำก็คิดถึงและเป็นห่วงฮูหยินของเขา เขารู้สึกว่าระดับฐานพลังของเขาอ่อนแอเกินไปและเขาก็ไม่มีหน้าจะอยู่ฝึกบำเพ็ญบนเกาะ
ดังนั้นเขาจึงกล่าวคำอำลาแล้วจากไปอย่างดื้อรั้น ทั้งยังปฏิเสธความปรารถนาดีมีน้ำใจของเหล่าเซียนที่จะส่งเขากลับไปยังเคหาสน์ถ้ำของเขาอย่างเด็ดเดี่ยว
หลี่ฉางโซ่วได้คาดเดาปฏิกิริยาเหล่านี้ของเสือดำเอาไว้แล้วเช่นกัน
หานจื่อรู้สึกไม่ยินยอมอย่างยิ่ง นางยังได้ติดตามเสือดำออกจากเกาะเต่าทอง และส่งเขาไปไกลหลายสิบลี้ นางเพียงหยุดเมื่อเสือดำหยุดสามครั้งเพื่อให้ตามได้ทันเท่านั้น
“ท่านอาจารย์… สหายเต๋า หากท่านพบปัญหาใดๆ ก็มาตามหาข้าได้ที่เกาะหรือไปที่เกาะซานเซียน…”
“กลับไปเสีย กลับไป! ตอนนี้ข้าได้รับความช่วยเหลือจากท่านผู้มีคุณแล้ว ดังนั้นข้าจึงฝึกบำเพ็ญได้อย่างไม่มีอุปสรรค!”
เสือดำโบกมือครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วก้มหัวเพื่อลงไปในน้ำทะเล เขาใช้เวทหลบหนีที่ดีพอควรและมุ่งหน้าตรงไปทางเหนือ
สัมผัสเซียนรับรู้ของบรรดาผู้เป็นเซียนแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยได้ติดตามเสือดำไประยะหนึ่ง และเฝ้ามองดูเขาจากไป จากนั้นเหล่าเซียนทั้งหลายต่างก็ถอนหายใจ
ทว่าสำหรับเกาะเต่าทองแล้ว นั่นก็เป็นเพียงเรื่องไม่ปกติเล็กน้อย
………………………………………………………………..
[1] ยุครุ่งเรืองเฟื่องฟู อุดมสมบูรณ์มากๆ
[2] สะพานข้ามภพที่เชื่อมแดนสวรรค์ มนุษย์ และยมโลก มนุษย์ที่ตายแล้วทุกคนจะต้องเดินข้ามสะพานนี้