ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - บทที่ 757 ของขวัญของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ (2)
บทที่ 757 ของขวัญของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ (2)
“หือ?” หลี่ฉางโซ่วยิ้ม
“หากเป็นตามปกติ เทพจันทราจะต้องถูกพลังแห่งเต๋าสวรรค์สะท้อนกลับอย่างรุนแรงฉับพลันหากเขาดึงด้ายแดงส่งเดช
ทว่านี่ก็เป็นช่วงเวลาพิเศษ
ในนามขององค์ราชินี นางได้มอบบัญชาให้มุ่งเป้าจัดการเผ่าปีศาจที่ออกประกาศต่อต้านศาลสวรรค์เท่านั้น
ไม่เพียงแต่เทพจันทราจะไม่ถูกเต๋าสวรรค์ลงโทษจากเต๋าสวรรค์เท่านั้น แต่ยิ่งเขาทำและก่อกวนพวกเผ่าปีศาจมากขึ้นเท่าใด เขาก็จะยิ่งได้รับบุญมากขึ้นเท่านั้น
และนั่นคือ ความหมายของสัจธรรมอันยิ่งใหญ่และกฎเกณฑ์ต่างๆ
เมื่อเผ่าปีศาจออกคำประกาศนี้ พวกมันก็ได้เข้าสู่วงจรวิปริตแห่งการต่อสู้กับเต๋าสวรรค์แล้ว และพวกมันก็ถูกลิขิตให้พ่ายแพ้เท่านั้น แต่พวกเราก็เป็นฝ่ายเลือกวิธีการนั้น”
อ๋าวอี่ดูกระจ่างแจ้งฉับพลัน เขาครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนและหลังจากนั้นสักพัก ก็เอ่ยถามว่า “พวกเผ่าปีศาจไม่ได้รนหาที่ตายเองหรอกหรือ?”
หลี่ฉางโซ่วยืนเอามือไพล่หลังและกล่าวช้าๆ ว่า “ไม่ใช่ว่าปีศาจรนหาที่ตาย เป็นเพียงว่า ราชาปีศาจที่มีตำแหน่งสูงกว่าในเผ่าพันธุ์ปีศาจ หรือนักพรตเต๋าลู่หยาต้องการฉวยโอกาสนี้เพื่อกวาดล้างพลังอำนาจของเผ่าปีศาจที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่ออกไป และช่วยลดภัยคุกคามที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่
บัดนี้ศาลสวรรค์กำลังเจริญรุ่งเรืองแล้ว และความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นก็ได้กระจัดกระจายไปตามสำนักเซียนต่างๆ นอกจากนี้ยังมีสำนักบำเพ็ญเต๋าคอยควบคุมพวกเขา
ส่วนพวกเผ่าปีศาจที่เหลืออยู่ในศาลปีศาจโบราณนั้นก็คือ ปัญหาร้ายแรงขององค์เง็กเซียน
ในขณะนี้ ปีศาจจะไม่ได้ไปตามวิถีนั้น สักหนึ่งร้อยปีต่อมาหรือสามร้อยปีต่อมา ศาลสวรรค์ก็จะเริ่มเต็มไปด้วยบรรดาทหารสวรรค์และเหล่าปรมาจารย์สวรรค์ ส่วนเผ่าปีศาจก็จะถูกกวาดล้างไปด้วยเช่นกัน
เพื่อให้สามารถตัดสินใจออกประกาศประณามสวรรค์ได้ในขณะนี้ มันเป็นการพิสูจน์ว่ามีปรมาจารย์ในบรรดาเผ่าปีศาจที่มองเห็นแนวโน้มสถานการณ์ทั่วไปของโลกได้ และจะดูเบาพวกมันไม่ได้”
อ๋าวอี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและค่อยๆ ทำความเข้าใจถ้อยคำเหล่านั้น และในขณะที่เขากำลังจะถามต่อไป…
“แค่กๆ!”
เปี้ยนจวงประสานมือคารวะขณะที่ดวงตาของเขาก็เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจเมื่อกล่าวว่า “เทพจันทรา โปรดถามมาได้เลย ข้าผู้เป็นแม่ทัพพร้อมแล้วขอรับ”
“ถ้าเช่นนั้น รองผู้บัญชาการเปี้ยน โปรดบอกข้าด้วยเถิด หากเจ้าเป็นราชาปีศาจและเกิดไปชมชอบภรรยาของราชาปีศาจอื่น แล้วเจ้าจะทำความรู้จักกับนางได้อย่างไร?”
“แน่นอนว่า ข้าต้องไปเยี่ยมเยียนที่เคหาสน์ถ้ำของเขาสักสองสามครั้งก่อนเพื่อผูกมิตรกับราชาปีศาจตนนี้ และข้าก็ต้องวางท่าทางสงบเยือกเย็น
ครั้นเมื่อถึงเวลาสุกงอมแล้ว ข้าก็จะคิดหาทางเอาราชาปีศาจออกไปก่อน และไปพบกับภรรยาของเขาตามลำพัง
ข้าจะเสริมสร้างบรรยากาศให้เกินจริงและกล่าวถ้อยคำที่อ่อนโยน แล้วข้าก็จะค่อยๆ วางแผน สังเกตดูปฏิกิริยาของนาง”
เทพจันทรากระตุกมุมปาก เขาบันทึกทุกอย่างเอาไว้
จากนั้นเทพจันทราก็ถามอีกครั้งว่า “แล้วเจ้ามีถ้อยคำที่อ่อนโยนเหล่านั้นหรือไม่? รองผู้บัญชาการเปี้ยน เจ้าช่วยสอนข้าพูดสักสองสามคำได้หรือไม่?”
เปี้ยนจวงหน้าแดงเล็กน้อย แต่เขาก็สงบลงอย่างรวดเร็วและฟื้นสำนึกถึงภารกิจและความรับผิดชอบของเขาขึ้นมา
“ความจริงแล้ว เรื่องนี้ก็ออกจะไร้ยางอายอยู่บ้าง สุดท้ายแล้ว มันก็เป็นเรื่องผิดที่ไปแย่งชิงผู้อื่น
ข้าเพียงแค่… มีสหายอาวุโสในเต๋านี้อยู่ผู้หนึ่ง ข้าได้ยินเขาอธิบายอย่างละเอียด โดยทั่วไปแล้ว เขาจะใช้วาจาปานบุปผา ยิ่งเป็นผู้ที่ทรงพลังกว่า ก็จะมีกระบวนการที่ก้าวหน้ากว่า ตัวอย่างเช่น…”
“เอ่อ แค่กๆ!
ฮูหยิน ข้ารู้ว่านี่เป็นเรื่องที่ผิดและขัดกับสามัญสำนึก ทว่าข้าก็ไม่อาจซ่อนเร้นความชื่นชมที่มีต่อเจ้าได้
คืนนี้ แสงจันทรางามตายิ่ง เมื่อมองเจ้าแล้ว ก็ทำให้ข้ารู้สึกเหมือนอยู่ในวังจันทรา
ให้ข้าได้พบเจ้าอีกสักครั้งได้หรือไม่? แม้เป็นเพียงแค่พูดคุยเท่านั้นก็ตาม
ฮูหยิน ข้าเพียงจะขอยืมชีวิตเจ้าคืนเดียวเท่านั้น”
“เป็นเช่นนั้น…”
ที่ด้านข้าง หน้าผากของอ๋าวอี่ และหลี่ฉางโซ่วล้วนถูกปกคลุมไปด้วยเส้นสายสีดำ พวกเขาล้วนพูดไม่ออกในขณะที่เทพจันทราได้บันทึกคำพูดเหล่านั้นเอาไว้อย่างจริงจัง
เปี้ยนจวงยังคงเอ่ยวาจาคารมคมคาย และเตรียมจัดให้มีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันต่อไป
ทันใดนั้นหนึ่งบุรุษและหนึ่งมังกรที่อยู่ข้างๆ ต่างก็หันกลับมาพร้อมกัน
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วก็หยิบขวดกระเบื้องออกมา แล้วส่งให้อ๋าวอี่ และเขาก็ทำท่าทางเอามือปาดคอไปที่อ๋าวอี่
อ๋าวอี่พยักหน้าเพื่อแสดงว่าเข้าใจ แล้วเก็บขวดกระเบื้องอย่างสงบ แต่เขาก็ทนจะทำเช่นนั้นไม่ได้
“ศิษย์พี่เจ้าสำนัก พวกเราเป็นคนขอให้เขากล่าวเช่นนั้นเอง แล้วไปทำร้ายเขาเช่นนั้น ย่อมไม่เหมาะไม่ใช่หรือขอรับ?”
ขณะที่เขากล่าวจบ เขาก็ได้ยินเปี้ยนจวงกล่าวที่ข้างหลังเขาว่า “หากการกระทำของท่านถูกเปิดโปง ท่านก็ยังทำหนังให้หนาขึ้นและโต้เถียงอย่างไร้ยางอายเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมได้
ท่านสามารถตะโกนใส่ราชาปีศาจที่จับท่านได้คาหนังคาเขา และท่านก็สามารถกล่าวได้ว่า ‘สิ่งที่เจ้าสูญเสียไปคือ ศักดิ์ศรีและและหน้าตาของเจ้าในฐานะเป็นปีศาจบุรุษ
ทว่าสิ่งที่ฮูหยินของเจ้าสูญเสียไปก็คือ โชคชะตาที่แท้จริงของการแต่งงาน!’
และด้วยวิธีนี้ เราก็สามารถต่อสู้ได้ทุกวิถีทาง”
บัดนั้นอ๋าวอี่ก็หยิบกระบี่ของเขาออกมาเงียบๆ ดวงตามังกรเรียวยาวของเขาเปล่งแสงดุร้าย ในขณะที่หลี่ฉางโซ่วรีบหยุดเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว
ผู้มีพรสวรรค์เฉกเช่นศิษย์พี่รอง อาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในภายภาคหน้า ดังนั้นเขาไม่อาจถูกตัดตอนเช่นนั้นได้
จู่ๆ เปี้ยนจวง ซึ่งกำลังพัฒนาแนวคิดใหม่อยู่ข้างๆ ก็ตัวสั่นเทาอย่างด้วยไม่อาจอธิบายได้ ทว่าในขณะนั้น ความรู้สึกของภารกิจและเกียรติยศของเขาก็ยังสูงอยู่เล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก และยังคงพูดคุยกับเทพจันทราต่อไป
……
เขาไม่รู้ว่าพวกเผ่าปีศาจแห่งดินแดนเทวะอุดรจะอยู่ได้นานเพียงใด
ในช่วงครึ่งปีหลังจากที่ลู่หยาส่งคำประกาศออกไปยังศาลสวรรค์ หลี่ฉางโซ่วก็ยุ่งอยู่กับศาลสวรรค์
เมื่อหน่วยงานต่างๆ ของศาลสวรรค์ได้ดำเนินการต่างๆ ไปถูกทางแล้ว การคัดสรรเหล่าทหารสวรรค์และคัดเลือกแม่ทัพสวรรค์ก็กลับมาเป็นปกติ จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ถอนตัวออกไป
เขาจัดเตรียมตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์สองสามตัวเพื่อติดตามสถานการณ์ต่างๆ ในชั้นใต้ดินของดินแดนเทวะอุดร
ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็อยากจะตรวจสอบและยอมรับ “ความสำเร็จในการรบ” ของบรรดาเทพเซียนแห่งศาลสวรรค์
ในช่วงครึ่งปีแรก ตำหนักครองคู่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
เขาต้องการช่วยราชาปีศาจคนเดียวดึงด้ายแดงไปเพื่อบั่นทอนกำลังใจฮึกเหิมในการต่อสู้ของเขาและทำให้เขากังวลใจ
เขาได้ผูกด้ายแดงให้กับราชาปีศาจ และภรรยาของเขา เขา ส่งผลให้คู่รักหลายสิบคู่ต่อสู้กัน และมีราชาปีศาจรุ่นเยาว์มากกว่าสิบตนถูกสังหารจนดับชีพไป หรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้
นอกเหนือจากตำหนักครองคู่แล้ว หอทัณฑ์สายฟ้าก็ยังเป็นสถานที่ที่ประสบความสำเร็จโดยได้รับชัยชนะเป็นลำดับที่สอง
จากนั้นก็เป็นหอเสิ่นเว่ย และตามมาด้วยหอสุขาศักดิ์สิทธิ์
ที่ชายแดนของดินแดนเทวะอุดร ฤดูกาลทั้งสี่ผิดปกติไป สถานที่ที่เหล่าปีศาจมารวมตัวกันนั้นเต็มไปด้วยความแห้งแล้ง และพลังวิญญาณก็ค่อยๆ ขุ่นมัวมากขึ้น
สายฟ้าสวรรค์ฟาดลงมาโดยไม่รู้ตัว เพลิงสวรรค์ก็ลุกโชนขึ้น และในยามอาทิตย์อัสดงทางทิศตะวันตก ก็มักจะมีคำว่า “เผ่าปีศาจกำลังจะพินาศ” “เผ่าปีศาจไร้คุณธรรม” “การกระทำใดที่ไร้คุณธรรมย่อมจะนำไปสู่การทำลายตนเอง” และ “พวกมันจะตายหากท้าทายศาลสวรรค์” ปรากฏขึ้นมาบ่อยครั้ง ซึ่งทำให้ผู้คนขบขัน และเผ่าปีศาจก็อยู่ภายใต้แรงกดดันมากมายมหาศาล