ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - บทที่ 792 การมาถึง (4)
บทที่ 792 การมาถึง (4)
เป็นเวลาสักพักหนึ่งที่ได้ยินเสียงร้องตะโกนของพวกเผ่าเวทดังมาจากในตัวภูเขาของภูเขาหิน และเมื่อพวกเผ่าเวทจำนวนมากจาก ‘ช่อง’ อื่นๆ ได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็ค่อยๆ คึกคักมากขึ้น
หลี่ฉางโซ่วแอบรู้สึกเหนื่อย
จากนั้นร่างหลักของเขาก็ปิดตำรา “วิธีสื่อสารให้ได้ผลกับพวกฮันฮัน” ลงอย่างเงียบๆ
“เหล่าพี่น้องจากแดนยมโลกที่มาเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือพี่น้องของเรา ได้จัดวางการซุ่มโจมตีทางฝั่งตะวันออกเอาไว้แล้ว
พวกเราต้องทำตามแผนการที่วางเอาไว้ ไม่เช่นนั้น ก็เท่ากับพวกเราหลอกลวงหักหลังพี่น้องของพวกเราเอง!”
บัดนั้นพวกเผ่าเวททั้งหมดต่างส่งเสียงฮึกเหิมให้กำลังใจพร้อมกัน และรีบตกลงรับคำอย่างรวดเร็ว
ที่มุมห้อง มีเผ่าเวทสองสามคนพึมพำเบาๆ ว่า “แผนการอันใดกัน?”
“ข้าไม่รู้ แล้วเหตุใดเราถึงต้องไปใส่ใจมากเพียงนั้น?
หากใต้เท้าบอกให้พวกเราให้ทำ ก็รีบทำให้เร็วๆ เถิด หากพวกเราเผชิญหน้ากับพวกเผ่าปีศาจ พวกเราก็จะฉีกพวกมันออกเป็นชิ้นๆ!”
เมื่อหลี่ฉางโซ่วได้ยินเช่นนี้ เขาก็หรี่ตาลงและหัวเราะออกมาเบาๆ
ในขณะนั้น จอมเวทใหญ่ก็ร้องตะโกนว่า “ควัน!”
จากนั้นก็มีการตอบสนองมากกว่าสิบออกมาจากตัวภูเขา และทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าหนาแน่นดังไปทั่วทุกที่
ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีควันดำพุ่งออกมาจากส่วนต่างๆ ทั่วภูเขาทมิฬ และมันก็แผ่ขยายครอบคลุมออกไปหลายร้อยลี้ในชั่วพริบตา
หลี่ฉางโซ่วพยายามแผ่กระจายสัมผัสเซียนรับรู้ของเขาออกไป แต่พบว่าสัมผัสเซียนรับรู้ของเขาถูกควันสีดำ ตัดแยกและปิดกั้นออกไปโดยตรง ราวกับว่ากำลังแผ่กระจายและจมลงไปในเหว
เผ่าเวทมีอะไรบางอย่างจริงๆ
เพราะในท้ายที่สุด เขาก็ได้ต่อสู้กับพวกเผ่าปีศาจมาหลายปีแล้ว และเขาก็ไม่ได้เก่งกาจในเรื่องการตรวจจับปราณวิญญาณเท่าใดนัก ซึ่งมันก็มีเหตุผลสมควรแล้วที่จะมีวิธีการเช่นนี้
หลังจากนั้นไม่นาน ควันดำก็ได้ลอยเพิ่มขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง แล้วจำนวน ‘หน่วยสอดแนม’ ที่พวกเผ่าปีศาจส่งมาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
มีเหล่าวิหคปรากฏตัวขึ้นทีละตัวภายในขอบเขตควันดำนั้น และยังคงเข้ามาใกล้ภูเขาทมิฬอย่างต่อเนื่องมากขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้น ก็มีหอกพุ่งออกมาจากภูเขาทมิฬอย่างไม่คาดคิด หอกเหล่านี้ ถูกขว้างออกมาด้วยความแข็งแกร่งของแขนล้วนๆ พร้อมด้วยเสียงแหวกฝ่าอากาศ ดังหวีดหวิวแหลมคมขัดเจน
แต่พวกมันเร็วกว่าเสียงมาก จู่ๆ พวกมันก็ปรากฏขึ้นราวกับสายฟ้าสีเลือด!
เจ็ดถึงแปดในสิบส่วนของหน่วยสอดแนมพวกเผ่าปีศาจต่างได้รับบาดเจ็บ
แต่พวกมันก็ยังได้ให้ข้อมูลและรายงานสถานการณ์ใกล้ภูเขาทมิฬ ไปยังเหล่าผู้นำระดับสูงของเผ่าปีศาจอย่างต่อเนื่อง
กองทัพปีศาจอยู่ห่างจากที่นี่ออกไปหลายพันลี้ และพวกเผ่าเวทก็ยังคงนิ่ง ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ
ในภูเขาทมิฬ ซึ่งห่างจากที่นี่ไปห้าร้อยลี้ ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
จนกระทั่งกองทัพปีศาจอยู่ห่างออกไปสามร้อยลี้ และที่หนึ่งร้อยห้าสิบลี้ กองทัพปีศาจก็หยุดนิ่ง
จากนั้นบรรดาราชาปีศาจต่างๆ ก็จัดกองทัพของพวกมันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงคราม และในตอนนั้นเองที่พวกปีศาจก็แน่ใจ…
เวลานี้ พวกเผ่าเวทกำลังซ่อนตัวอยู่จริงๆ!
ในขณะนั้น ทัพหน้าของเผ่าปีศาจไม่กล้าเคลื่อนไหว เพราะกลัวว่า พวกมันจะถูกเหล่าทหารสวรรค์ซุ่มโจมตี
บัดนั้น มีเมฆดำที่พาเหล่าปรมาจารย์เผ่าปีศาจกว่าร้อยตน บินข้ามมาจากทะเลอุดร
จนเมื่อเมฆดำนั้นบินมาถึงและลอยอยู่เหนือทัพหน้า พวกเหล่าปรมาจารย์เผ่าปีศาจแต่ละตนก็มองดูภูเขาหินที่ถูกปกคลุมไปด้วยควันสีดำ
พวกมันได้กลิ่นแรงกล้าของพวกเผ่าเวทแล้ว
บนท้องฟ้าด้านทิศตะวันออก อร่ามเรืองรองไปด้วยแสงแห่งรุ่งอรุณ แล้วโลกก็สว่างไสวขึ้นอย่างรวดเร็ว และดวงสุริยาก็นำพาพลังวิญญาณอันร้อนแรงมาให้
นี่เป็นเวลาที่พวกเผ่าปีศาจได้คำนวณไว้อย่างรอบคอบแล้ว
ทันใดนั้นเหล่าปีศาจโบราณหลายตนจากเผ่าปีศาจก็ลุกขึ้นยืน และเสียงของแม่ทัพลู่ก็ดังก้อง แผ่กระจายออกไปรอบๆ หลายพันลี้
“พวกเผ่าเวทที่โหดร้ายเหล่านี้เหลือพลังชีวิตเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยแล้ว เวลานี้ พวกมันกำลังซ่อนตัวอยู่ และกำลังพยายามหลีกเลี่ยงไม่ออกมา
พวกเราไม่อาจปล่อยให้พวกมันเติบโตขึ้นอีกครั้ง และตามล่าพวกเราได้!
ความรุ่งโรจน์ของเผ่าเทพอีกาทองคำได้ส่องแสงสว่างขึ้นอีกครั้งแล้ว!
ลูกๆ ของข้า เผ่าพันธุ์แห่งวิญญาณทั้งหมดจะไม่มีวันยอมจำนนต่อเผ่าเวทi!”
ที่ข้างๆ แม่ทัพลู่ มีร่างทรงอำนาจสง่างามร่างหนึ่งที่สวมชุดเกราะ กระโดดขึ้นสูง และเขาก็กลายร่างเป็นเสือดำที่มีลวดลายสีทองยาวหลายสิบฉื่อในอากาศ
จากนั้น มันก็ร้องคำรามตรงไปที่ภูเขาทมิฬด้วยเสียงร้องคำรามของเสือที่ดังสนั่นสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสวรรค์ยันปฐพี!
ในขณะนั้น พวกเผ่าปีศาจบนหมู่เมฆมืดดำก็ร้องคำรามโหยหวนออกไปในท้องฟ้าพร้อมๆ กัน
ครึ่งหนึ่งของพวกเผ่าปีศาจที่ทรงพลังได้แปลงร่างเป็นร่างที่แท้จริงของพวกมันโดยตรง
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสัตว์ร้ายและวิหคดุร้ายที่มีกลิ่นอายปีศาจพลุ่งพล่านอยู่บนก้อนเมฆอีกด้วย!
หมี หมาป่า เสือ เสือดาว จิ้งจอก กวาง เผิง เหยี่ยว อินทรี วิหค ปลา และยังมีเผ่าพันธุ์มากมายจนนับไม่ถ้วนในคราวเดียว
ประมาณคร่าวๆ ว่า มีหลายร้อยสายพันธุ์!
บรรดาทหารปีศาจและแม่ทัพปีศาจส่วนใหญ่ ยังคงรักษาร่างมนุษย์ของพวกมันเอาไว้
พวกมันต่างก็ถืออาวุธ และเปิดใช้งานสมบัติเวทและเครื่องมือเวท ตามหลังเหล่าราชาปีศาจผู้ทรงพลัง แล้วพุ่งเข้าหาภูเขาทมิฬ!
ทันใดนั้น!
มีแสงกะพริบวูบวาบบนท้องฟ้า และจู่ๆ ก็มีม่านสายฟ้าสีม่วงขาวสาดสว่างขึ้น และปิดกั้นเหล่าทหารปีศาจ!
พลังแห่งสวรรค์อันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับม่านสายฟ้า ตัดการรุกคืบของทัพหน้าของเผ่าปีศาจออกไปอย่างกะทันหัน และทำให้พวกเผ่าปีศาจที่มีระดับฐานพลังต่ำกว่า ต่างพากันตื่นกลัว
บัดนั้นคลื่นแสงสีเขียวก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในระหว่างสวรรค์และปฐพี และเกิดลมกระโชกแรงพัดมาจากทะเลอุดร
หลังจากนั้นไม่นาน พวกมันก็กลายเป็นลมกระโชกแรงที่พัดไปยังจุดเฉพาะบริเวณที่ทัพหน้าของเผ่าปีศาจอยู่เท่านั้น
วิหารศักดิสิทธิ์แห่งศาลสวรรค์ได้ปล่อยพลังของมันออกมา!
ทันใดนั้น งูหลามเขียวขนาดยักษ์ตัวหนึ่งก็พุ่งออกมาจากกลุ่มเผ่าปีศาจ และในชั่วพริบตา มันก็กลายเป็นงูหลามยาวพันจั้ง
มันปักหลักอยู่ในอากาศ อ้าปากกว้าง แล้วดูดเข้าไปอย่างแรงในทันที!
ลมกระโชกแรงที่พัดปกคลุมท้องฟ้าได้กลายเป็นลำแสงสีเขียวและถูกงูหลามกลืนกินเข้าไปทันที…
จากนั้นงูหลามยักษ์ก็อ้าปากแล้วร้องคำรามสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า และเสียงที่หยาบกร้านของมันก็ระงับโทสะของมันที่กำลังโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง
“ศาลสวรรค์ อย่ายุ่งเรื่องของผู้อื่น!”
………………………………………………………………..