ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - บทที่ 822 ชื่นชมให้รางวัล ตำหนิให้ลงโทษอย่างยุติธรรมกระจ่างแจ้ง (1)
- Home
- ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว
- บทที่ 822 ชื่นชมให้รางวัล ตำหนิให้ลงโทษอย่างยุติธรรมกระจ่างแจ้ง (1)
บทที่ 822 ชื่นชมให้รางวัล ตำหนิให้ลงโทษอย่างยุติธรรมกระจ่างแจ้ง (1)
สงบใจไว้!
กลลวง ต้องมีกลลวงอยู่แน่ๆ!
คำว่า ‘มั่นคง’ เพียงคำเดียวนี้ หมายถึงอะไร?
ตราบใดที่ในเวลานี้ ข้ามีหนังหนาพอ ข้าก็สามารถเพิกเฉยต่อประโยคที่ว่า ‘สามีของข้าคือศิษย์พี่ของข้า’ ได้ในตอนนี้!
ขั้นตอนแรกก็คือ ให้ตรวจสอบดูก่อนว่า คลังสมบัติเวทจัดเก็บนั้นมีการเสริมกฎห้ามซ้ำซ้อนหรือไม่
สงบใจไว้ อย่าปล่อยให้อารมณ์พลุ่งพล่าน ข้าต้องอยู่ในความสงบและไม่กระทำการวู่วามใดๆ
ขั้นตอนที่สองคือ การใช้พลังเซียนห่อหุ้มคลังสมบัติเวทจัดเก็บและผลักมันออกไปสองสามจั้ง แล้วใช้สัมผัสเซียนรับรู้พยายามปลดกฎห้ามเหล่านั้นออก
ขั้นตอนที่สาม…
อ๋าวอี่กล่าวว่า “ในเมื่อหลิงเอ๋อร์มองเห็นข้าแล้ว เช่นนั้น ข้าก็จะไม่ปกปิดอีกต่อไป
เป็นเรื่องยากที่ท่านจะได้ออกไปฝึกฝน ท่านอยากไปวังมังกรหรือไม่?”
“ไม่ ข้าจะออกไปฝึกฝน” ข้ายังต้องทำภารกิจที่ศิษย์พี่มอบหมายให้ข้าให้สำเร็จเสร็จสิ้นอีกด้วย”
หลิงเอ๋อร์ส่ายศีรษะเบาๆ นางดูเป็นธรรมชาติ สงบ สุขุมและมั่นใจ
“หลังจากนี้ ท่านช่วยพาข้าออกไปจากเมืองนี้ได้หรือไม่? หลังจากที่องค์ชายทรงสร้างเรื่องยุ่งยากเกิดขึ้นเช่นนี้ ตอนนี้ ข้าคงตกเป็นเป้าหมายจริงๆ แล้ว”
อ๋าวอี่ยิ้มและพยักหน้า เมื่อมีมังกรเฒ่าสองสามตัวมาช่วยเหลือ มันย่อมเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
ที่ข้างสระเฮยฉือ หลี่ฉางโซ่วและไป๋เจ๋อต่างมองหน้ากัน
ไป๋เจ๋อยิ้มและกล่าวว่า “หลิงเอ๋อร์ยอดเยี่ยมยิ่ง นางสามารถสรุปตัวตนของฝ่าบาทอ๋าวอี่ได้ด้วยคำใบ้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
หลี่ฉางโซ่วลูบคางของเขาและพึมพำว่า “ข้ามักจะรู้สึกเสมอว่า อ๋าวอี่ผู้นี้กำลังปล่อยเรื่องต่างๆ ออกไป”
“เหตุใดเทพวารีถึงชอบคาดเดาผู้อื่นในทางชั่วร้ายเช่นนี้?”
“นี่ไม่ใช่การคาดเดาชั่วร้าย มันเป็นเพียงการสรุปที่สมเหตุสมผลตามความเข้าใจในตัวหลิงเอ๋อร์ของข้า”
หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “ช่างเถิด นางผ่านทดสอบ เพราะในท้ายที่สุดแล้ว ข้าก็ทำผิดพลาดไปก่อนหน้านี้ ข้าลืมจัดเตรียมศิลาวิญญาณเพิ่มเติมให้นาง”
ไป๋เจ๋อหัวเราะเล็กน้อยและมองไปที่ภาพเหตุการณ์ในสระน้ำกับหลี่ฉางโซ่ว
ภาพในสระน้ำได้ปรากฏให้เห็นว่า
หลิงเอ๋อร์ อ๋าวอี่และปรมาจารย์เผ่ามังกรทั้งหลายได้หนีไปพร้อมกัน และพวกเขาก็แยกทางกันที่ชายฝั่งทะเลบูรพา
หลิงเอ๋อร์เปลี่ยนการแต่งหน้าและสวมหน้ากากบางๆ จากนั้นนางก็ใช้หลีกลี้ปฐพีซ่อนกายเพื่อลอบหลบหนีออกไปหลายพันลี้และไปปรากฏตัวในหุบเขาแม่น้ำรกร้างที่ไร้ผู้คนอาศัยอยู่
นางสำรวจตรวจสอบสภาพแวดล้อมของนางไปทั่วทุกที่อย่างระมัดระวัง และพักผ่อนริมแม่น้ำอยู่สักพักหนึ่ง นางแช่เท้าและหยิบสร้อยข้อมือหยกที่อ๋าวอี่มอบให้นางออกมา
เข่อเล่อเอ๋อร์ผายมือทำท่าทางเชื้อเชิญและส่งข้อความเสียงว่า “ข้ามาที่นี่ตามคำสั่งของพี่ฉางโซ่ว และไม่น่าจะมีคนที่รู้จัก ‘ศิษย์พี่เจ้าสำนัก’ มากนัก
ศิษย์พี่เจ้าสำนักลืมนำศิลาวิญญาณมาให้ท่าน ดังนั้นเขาจึงขอให้ข้าตามหาและมอบศิลาวิญญาณบางส่วนให้ท่านเป็นพิเศษด้วย พร้อมกันนั้น เขาก็ต้องการทดสอบความระมัดระวังตัวของท่านด้วยเช่นกัน
พี่สะใภ้หลิงเอ๋อร์ ตอนนี้ท่านทำได้ดีแล้ว ท่านได้แสดงสีหน้าที่เผยให้เห็นว่า ท่านสามารถมองเห็นการปลอมตัวของข้าได้
ทว่าโปรดอย่าพูดถึงเรื่องที่อ๋าวอี่ได้เปิดเผยความลับนี้ให้ศิษย์พี่เจ้าสำนักรู้นะขอรับ”
อ๋าว!
หลิงเอ๋อร์หรี่ม่านตาลง แต่สีหน้าของนางยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และไม่มีข้อบกพร่องใดๆ จากนั้นนางก็แค่นเสียงเบาๆ แล้วสะบัดแขนเสื้อออกไปจากที่นั่น
ในขณะนั้นเข่อเล่อเอ๋อร์ก็ถือถาดแล้วเดินตามไป แล้วผู้อาวุโสแห่งเผ่าพันธุ์มังกรสองคนซึ่งแปลงร่างเป็นคนชราร่างแข็งแกร่งกำยำก็ได้แผ่พลังสะกดข่มของพวกเขาเองออกมา
เป็นเหตุให้ทั้งภายในและภายนอกโรงน้ำชาเงียบกริบทันที
ตอนนี้เหล่าปรมาจารย์ขอบเขตเซียนจิน ทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกัน!
ในทันใดนั้น สัมผัสเซียนรับรู้ที่กำลังตรวจจับสอบหลิงเอ๋อร์และเข่อเล่อเอ๋อร์ก็ลดลงไปมากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ในห้องส่วนตัวของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ผู้อาวุโสเผ่ามังกรสองสามคนก็ได้ลงมือจัดวางข่ายอาคมพลังเซียน
เข่อเล่อเอ๋อร์วางถาดลงและหลิงเอ๋อร์ก็เปลี่ยนสีหน้าท่าทางที่แสดงออกมาก่อนหน้านี้ของนางพลางแย้มยิ้มและกล่าวว่า “ขอบคุณองค์ชายรอง”
“โอ้?” ดวงตาของเข่อเล่อเอ๋อร์สว่างวาบขึ้นและนางก็ถอนหายใจพลางกล่าวว่า “ความจริงแล้วพี่สะใภ้จำข้าได้”
ใบหน้าของหลิงเอ๋อร์ขึ้นสีก่ำเล็กน้อย และนางก็รีบกล่าวว่า “ข้าแค่พูดพล่ามไปเรื่อย ข้ากับศิษย์พี่ยังไม่ได้แต่งงานกัน อย่าบอกเรื่องนี้ให้ศิษย์พี่รู้นะ มันน่าอายนัก”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ในขณะนั้นเข่อเล่อเอ๋อร์ก็แปลงร่างมาเป็นรูปลักษณ์อ่อนเยาว์ของอ๋าวอี่ แล้วโค้งคำนับให้หลิงเอ๋อร์
หากอีกฝ่ายไม่ยอมรับความผิดพลาดของเขาเช่นนั้น
นั่นก็เป็นเพราะศิษย์พี่จงใจจัดเตรียมการฝึกฝนเอาไว้เพื่อให้ข้าเก่งกาจแหลมคมขึ้น
หลิงเอ๋อร์เก็บเครื่องมือเวทมีพิษทั้งสองชิ้นที่ถูกซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของนางอย่างสงบ ซึ่งเดิมทีพวกมันได้เล็งเป้าไว้ที่อ๋าวอี่
“ว้าว!”
นางลุกขึ้นยืนท่ามกลางสายตาจ้องมองที่อยู่รอบๆ และใช้พลังเซียนของนางดันสร้อยข้อมือหยกและถาดกลับไป แล้วจ้องมองไปยัง ‘เทพธิดา’ ที่ดูคุ้นเคยผู้อยู่ตรงหน้านาง
หลิงเอ๋อร์ร้องอุทานออกมาเบาๆ จากนั้นก็ปิดปากของนางอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมโตของนางเปล่งประกายวิบวับแล้วน้ำตาก็ไหลรินลงมา
“สหายเต๋า ทั้งเจ้าและข้า เราไม่รู้จักกันจริงๆ”
ศิลาวิญญาณเหล่านั้นสามารถเติมเต็มคลังสมบัติเวทจัดเก็บได้!
หลิงเอ๋อร์แผ่พุ่งคลื่นพลังลมปราณเซียนเทียนที่นางปลอมตัวออกมาและก้าวถอยหลังไปครึ่งก้าว
ดวงตาของหลิงเอ๋อร์เต็มไปด้วยความเศร้าโศกและความขุ่นใจ นางกัดฟันเบาๆ และเอาแต่นับนิ้วของนาง “ศิษย์พี่ตัวเหม็น เห็นได้ชัดว่า ท่านมั่งคั่งมากมาย แต่ท่านกลับให้ข้าใช้ศิลาวิญญาณอย่างระมัดระวังทุกวัน!”
“หากบุปผาสองดอกไม่ผลิบาน และสวรรค์ไม่ได้ให้เกิดมาเหมือนกัน แล้วสหายเต๋ามีเจตนาอันใด ไฉนจึงมาเข้าใกล้ข้าขนาดนี้?”
เข่อเล่อเอ๋อร์ถอนหายใจเบาๆ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเสียใจและความกังวล “พี่สะใภ้ ขอเวลาคุยกันส่วนตัวสักพักได้หรือไม่? พี่ชายหาได้จงใจคีบบุปผาสะกิดใบหญ้าและหลอกลวงท่านไม่ พี่สะใภ้ ไว้เราค่อยคุยกันส่วนตัวถึงความโกรธเกรี้ยวของพี่สะใภ้ในที่อื่นดีกว่าหรือไม่ ท่านเห็นเป็นอย่างไร?”
………………………………………………………………..