ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - บทที่ 824 ชื่นชมให้รางวัล ตำหนิให้ลงโทษอย่างยุติธรรมกระจ่างแจ้ง (3)
- Home
- ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว
- บทที่ 824 ชื่นชมให้รางวัล ตำหนิให้ลงโทษอย่างยุติธรรมกระจ่างแจ้ง (3)
บทที่ 824 ชื่นชมให้รางวัล ตำหนิให้ลงโทษอย่างยุติธรรมกระจ่างแจ้ง (3)
แม้ความมั่งคั่งของพวกมนุษย์จะเป็นเพียงดั่งน้ำตาลบนขนมหวาน[1]สำหรับสำนักเซียน แต่สำนักเซียน ขนาดกลางจำนวนมากก็ให้ความสำคัญกับความมั่งคั่งนี้
เป็นผลให้กลุ่มต่างๆ ในโลกมนุษย์ เช่น อาณาจักรฟาง และพวกชนเผ่า ต่างก็มีเงาของบรรดาสำนักเซียนอยู่เบื้องหลังพวกเขา
เมื่อฝ่ายต่างๆ เกิดความขัดแย้งกัน ก็มักจะมีการต่อสู้กันระหว่างสำนักเซียนเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
สิ่งที่เรียกว่าการแบ่งแยกระหว่างเซียนและมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วนั้น คือ การตัดการเชื่อมต่อนี้ออก และเขาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว
“ซาง” ชนเผ่าที่พี่สาวข่งเชวี่ยนกำลังปกป้องในดินแดนเทวะทักษิณอยู่ในเวลานี้ ก็เป็นหมากสำคัญในการเปลี่ยนแปลงความสับสนวุ่นวายนี้
เนื่องจากการดำรงอยู่ของ “สัญญาเซียนสามประการ” หลังจากที่กษัตริย์แห่งซางได้รวบรวมพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองของโลกมนุษย์ในดินแดนเทวะทักษิณเข้ารวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว การแบ่งแยกระหว่างเซียนและมนุษย์ก็สามารถเสร็จสิ้นไปได้มากกว่าครึ่ง!
อย่างไรก็ตาม ทุกสรรพสิ่งย่อมมีสองด้าน
บรรดาสำนักเซียนแอบสมรู้ร่วมคิดกับบรรดาอาณาจักรมนุษย์เพื่อแสวงหาประโยชน์จากเหล่ามนุษย์
แต่ในเวลาเดียวกันนั้น สำนักเซียนก็ปกป้องมนุษย์เช่นกัน พวกเขาป้องกันไม่ให้มนุษย์ส่วนใหญ่ถูกปีศาจคุกคาม
หลี่ฉางโซ่วไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพิจารณาปัญหานั้น หลังจากที่ผู้เป็นเซียนและมนุษย์ถูกแยกออกจากกัน อิทธิพลของสำนักเซียนในโลกมนุษย์ก็จะลดลง
แล้วผู้ฝึกบำเพ็ญเผ่ามนุษย์จะสามารถปกป้องโลกมนุษย์ให้ดีขึ้นได้อย่างไร?
เช่นเดียวกับที่ไป๋เจ๋อได้กล่าวไว้ เผ่าปีศาจไม่สามารถถูกกำจัดได้อย่างสิ้นซาก มีวิญญาณนับหมื่นสามารถดูดซับแก่นแท้ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เพื่อฝึกฝน และพวกมันก็จะกลายร่างเป็นปีศาจ
และจะมีพวกปีศาจชั่วร้ายที่คอยทำร้ายมนุษย์อยู่เสมอ
นั่นเน้นย้ำถึงความสำคัญของเมืองโบราณเฉินถัง
เมืองโบราณเฉินถังตั้งอยู่ในสถานที่ห่างไกล และกองกำลังเผ่าพันธุ์ปีศาจที่พวกเขาเผชิญหน้านั้นก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก พวกเขาไม่สามารถดึงดูดความสนใจของพวกปรมาจารย์เผ่ามนุษย์ได้…
ปัจจัยต่างๆ มากมายทำให้มันต้องถูกแบ่งแยกออกไปนอกชนเผ่าอาณาจักรฟาง และแทบจะไม่สามารถรับความช่วยเหลือใดๆ จากโลกมนุษย์ได้เลย
ทว่าด้วยการพึ่งพาตนเอง และการสนับสนุนจากผู้ฝึกบำเพ็ญมนุษย์จำนวนเล็กน้อย พวกเขาก็ยังคงต่อต้านการรุกรานของพวกเผ่าปีศาจมาได้นานนับพันปี
หลี่จิ้งมาเป็นศิษย์ที่สำนักตู้เซียน ความจริงแล้ว มันเป็นเส้นทางที่ศิษย์รุ่นเยาว์ทุกคนในเมืองโบราณเฉินถังซึ่งมีคุณสมบัติและศักยภาพสามารถฝึกบำเพ็ญได้จะต้องเดินไป
พวกเขาออกจากบ้านเกิดโดยหวังว่าจะได้เรียนรู้วิถีทางแห่งการทะยานขึ้นสู่เซียนโดยเร็วที่สุดและกลับไปสังหารพวกปีศาจในเมือง
ในขณะที่หลี่ฉางโซ่วกำลังตรวจสอบภูมิหลังของหลี่จิ้ง เขาก็ได้ค้นพบสถานการณ์ในเมืองโบราณเฉินถัง
เขาต้องการค้นหาคำตอบหรือแรงบันดาลใจในการปกป้องโลกมนุษย์หลังจากที่ผู้เป็นเซียนและมนุษย์แยกจากกัน…
และนั่นคือเหตุผลที่ให้หลิงเอ๋อร์ออกไปฝึกฝนหาประสบการณ์ในครั้งนี้
ที่ริมสระน้ำ หลี่ฉางโซ่วรู้สึกตะลึงไปเล็กน้อยในขณะที่มองหลิงเอ๋อร์กำลังขี่เมฆบินไป
ไป๋เจ๋อซึ่งอยู่ข้างๆ เขา กำลังบีบนิ้วทำมุทราหยั่งรู้ เขาใคร่ครวญอย่างละเอียดรอบคอบ และในที่สุดก็ตัดสินใจพูดว่า “เทพวารี ท่านกำลังยกระดับสถานะของเผ่าพันธุ์มนุษย์เล็กน้อยด้วยการทำเช่นนั้น”
หลี่ฉางโซ่วเงยหน้าขึ้นมองและกำลังจะโต้เถียงออกไป ทว่าจู่ๆ ก็มีเมฆสีเทาก้อนเล็กๆ ลอยมาอยู่เหนือยอดเขาเฮยฉือ
เมฆสีเทานั้นเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน มันควบแน่นอยู่ภายในค่ายกลของยอดเขาเฮยฉือโดยตรงโดยไม่มีการเตือนใดๆ มาก่อน และลอยอยู่เหนือสระน้ำในทันที
เพียงขณะที่หลี่ฉางโซ่วนึกถึงความกลัวที่จะถูกการลงทัณฑ์จากสวรรค์กำราบในใจของเขา ‘ความทรงจำของกล้ามเนื้อ’ ของร่างเต๋าของเขาก็ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง แล้วปราณวิญญาณของเขาก็สาดแสงสว่างเจิดจ้าทันที!
บัดนั้นเมฆสีเทาได้ก่อให้เกิดสายฟ้าที่หนาเท่ากับนิ้วหัวแม่มือ แล้วฟาดลงไปที่หัวของไป่เจ๋อ!
หลังจากสายฟ้าฟาดแล้ว เสี้ยวแสงสีทองอีกสายหนึ่งก็กระจายออกจากเมฆสีเทานั้น และเข้าสู่ร่างเต๋าของหลี่ฉางโซ่ว
บุญ!
บุญที่ควบแน่นเป็นนิ้วเท้าเล็กๆ ของร่างทองแห่งบุญ!
หลี่ฉางโซ่วตกตะลึง
เขามองดูตัวเองภายใน แล้วเงยหน้าขึ้นมองไป๋เจ๋อที่อยู่ด้านข้าง แล้วเขาก็หัวเราะออกมาดังลั่นทันที
ในขณะนั้น เส้นผมยาวของไป๋เจ๋อยุ่งเหยิง และหน้าผากของเขาก็ไหม้เกรียม ควันดำจำนวนหนึ่งโผล่ออกมาจากหัวของเขา และเขาก็มองดูท้องฟ้าด้วยความโศกเศร้าและขุ่นใจ…
“มันไม่สมเหตุสมผลเกินไป! ข้าแค่กำลังพูดเท่านั้น!”
“ท่านไป๋ ระวังคำพูดด้วย ระวังคำพูดของท่านด้วย”
หลี่ฉางโซ่วรีบหยุดไม่ให้ไป๋เจ๋อบ่นต่อไปอีก จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นและโค้งคำนับให้เมฆสีเทาที่กำลังจะสลายไป
“ศิษย์ผู้นี้เข้าใจความหมายของเต๋าสวรรค์กระจ่างชัดแล้ว และตัดสินใจแล้วว่าจะเสนอแนะต่อองค์เง็กเซียนโดยเร็วที่สุดอย่างแน่นอนเพื่อยังประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไปและรักษาความเสถียรมั่นคงของโลก!”
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เมฆสีเทาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
หลี่ฉางโซ่วอดจะยิ้มและหรี่ตาลงไม่ได้ เขายืนเอามือไพล่หลังและมองดูไป่เจ๋อซึ่งเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความขุ่นเคืองอย่างไม่อาจอธิบายได้
“ท่านไป๋ ข้าชนะการโต้คารมในครั้งนี้หรือไม่?”
ไป๋เจ๋อหันกลับมาและถอนหายใจที่สระน้ำ “ข้าได้รับฉายาสัตว์มงคลมาอย่างเปล่าประโยชน์ คนรุ่นใหม่เข้ามาเปลี่ยนแทนที่คนรุ่นเก่า”
หลี่ฉางโซ่วยิ้มเฉยไม่เอ่ยอะไร ความสงสัยในหัวใจเต๋าของเขาที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นได้หายไป
หากเขาสามารถมอบบุญบางส่วนให้หลิงเอ๋อร์ได้ก็คงจะดี…
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก หลี่ฉางโซ่วก็หยุดยิ้มและจมลงสู่ภวังค์แห่งความคิดลึกซึ้งที่ริมทะเลสาบ
สามชั่วยามต่อมา หลิงเอ๋อร์ก็มาถึงใกล้กับเมืองโบราณ นางบังเอิญได้เห็น “การประจัญบานด้วยอาวุธ” ขนาดเล็กระหว่างยามมนุษย์และปีศาจ ดังนั้นนางจึงแอบปล่อยพิษบางอย่างออกไป
จากนั้นหลิงเอ๋อร์ก็ค้นพบอย่างรวดเร็วว่า มีเหล่า “ปรมาจารย์” ปีศาจขอบเขตเซียนเสิ่นหลายตนกำลังซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง
ในสถานที่แห่งนี้ ถือได้ว่า บรรดาเซียนเสิ่นเป็นปรมาจารย์
หลิงเอ๋อร์คิดอย่างถี่ถ้วนรอบคอบและไม่รีบร้อนที่จะออกโจมตี แต่นางกลับส่งตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ออกไปและเริ่มสืบสวนเหล่าปีศาจอย่างลับๆ
เมื่อนางเห็นว่า ในเมือง มีทหารที่ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก นางจึงเข้าไปในเมืองโบราณในฐานะผู้ฝึกนักรบที่เดินทางท่องไปทั่วโลก และนางก็เริ่มรักษาทหารที่ได้รับบาดเจ็บเอง
ความจริงแล้ว การทดสอบในเมืองโบราณเฉินถังนั้นมีระดับความยากต่ำมาก และมันก็ค่อนข้างง่ายสำหรับหลิงเอ๋อร์ที่จะจัดการกับมันได้
เมื่อมองไปในสระน้ำ และเห็นหลิงเอ๋อร์กำลังยุ่งวุ่นวาย หลี่ฉางโซ่วก็อดจะยิ้มอย่างโล่งใจไม่ได้ จากนั้นเขาก็นึกถึงสองภารกิจหลังจากนี้ที่เขาซ่อนเอาไว้ในยันต์หยก
“ภารกิจที่สอง มุ่งหน้าไปยังเกาะในทะเลบูรพาและ ‘ช่วย’ สหายศิษย์ร่วมสำนักของเจ้า โหย่วฉินเสวียนหย่า”
“ภารกิจที่สาม ไปตามแผนที่ ไปที่อารามอู่จวงและมอบยันต์หยกนี้ให้กับเจ้าอารามอู่จวง”
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับหลิงเอ๋อร์ที่จะลงจากภูเขา แน่นอนว่า นางจะต้องทำให้ดีเต็มที่สุดๆ… แค่กๆ
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับหลิงเอ๋อร์ที่จะลงจากภูเขา แน่นอนว่า เขาต้องปล่อยให้นางได้รับประสบการณ์เพียงพอและเติบโตได้ดีขึ้น
………………………………………………………………..
[1] เป็นของดีหรือ สิ่งดีๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามาให้กับของที่ดีหรือ สิ่งที่ดี หรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่มันดีอยู่แต่แรกแล้ว และทำให้ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก