ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - บทที่ 825 ออกจากดินแดนเทวะทั้งห้าชั่วคราว (1)
นี่เป็นภารกิจที่ศิษย์พี่มอบให้ใช่หรือไม่?
“ช่างเหนื่อยยากอะไรขนาดนี้”
ในขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังอัสดงลงทางทิศตะวันตก ที่ด้านหน้าร้านขายโอสถที่มีป้าย ‘โอสถ’ แขวนอยู่
หลิงเอ๋อร์ซึ่งสวมชุดเสื้อคลุมผ้าสีฟ้าอ่อนและมีใบหน้าปลอมกำลังเหยียดยืดตัวออกไปท่ามกลางแสงสายัณห์ตะวันรอน
เงาร่างอันงดงามของนางสะท้อนให้เห็นอยู่บนถนนหินที่ปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำ
ผู้คนสัญจรผ่านไปมาต่างก็มองดูนางอย่างมีมิตรไมตรีทันที
ในขณะนั้น สตรีวัยกลางคนถือตะกร้าไม้ไผ่และร้องตะโกนว่า “คุณหนูหลัน ไปกินข้าวเย็นที่บ้านป้าคืนนี้สิ!”
หลิงเอ๋อร์ยิ้มและปฏิเสธนางไปว่า “ไม่ได้หรอกจ้ะ ข้ายังต้องเตรียมวัสดุยาที่ข้าต้องการในวันพรุ่งนี้ ข้าจะยุ่งมากจนออกไปไม่ได้หรอกจ้ะ”
สตรีผู้นั้นรับคำอย่างรวดเร็ว และเตือนให้นางดูแลสุขภาพของตัวเองด้วย อย่าได้ทำงานหนักมากจนเกินไป แล้วนางก็ค่อยๆ จากไปอย่างช้าๆ
จากนั้น หลิงเอ๋อร์ก็กลับไปที่บ้านหินและปิดประตูไม้ นางวางกฎห้ามบางอย่างเอาไว้ง่ายๆ และอดจะหาวออกมาไม่ได้
ในขณะนั้น โต๊ะและตู้ไม้ตรงมุมห้องล้วนเต็มไปด้วยถุงกระดาษ พวกมันล้วนถูกติดป้ายกำกับการจำแนกประเภทและการใช้งานเอาไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
นางปลอมตัวโดยใช้ชื่อปลอมเป็นหลันซิงเอ๋อร์ และอาศัยอยู่ในเมืองมาเป็นเวลาครึ่งปีในฐานะ ‘อาจารย์ปรุงยา’
ภายในครึ่งปี นางไล่ล่าปีศาจขอบเขตเซียนเสิ่นไปได้เก้าสิบเก้าตน รวมถึงปีศาจขอบเขตเซียนเทียนอีกสองสามตนด้วย
ทุกครั้งที่หลิงเอ๋อร์ลงมือโจมตี นางจะฉวยประโยชน์จากความมืดมิดในยามราตรี
ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์จะพ่นยาพิษออกไปจากระยะไกล และเผาศพเพื่อทำลายร่องรอย
จากนั้นนางก็จะกลับมาอย่างเงียบๆ ทำให้เหล่าปีศาจล้วนตกอยู่ในความตื่นตระหนกอย่างรวดเร็ว
แม้นางจะเข่นฆ่าปีศาจไปได้เพียงเก้าสิบเก้าตนด้วยมือของนางเอง แต่นางก็สามารถทำให้พวกปีศาจหวาดกลัวและหนีไปได้กว่าครึ่งหนึ่ง และช่วยบรรเทาแรงกดดันส่วนใหญ่ในเมืองเฉินถังได้
คืนนี้ หลิงเอ๋อร์จะกำจัดเป้าหมายสุดท้ายที่นางเล็งเอาไว้ แล้วออกจากเมืองเฉินถังไปอย่างเงียบๆ
เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ “น่าอึดอัดใจ” ที่ถูกส่งตัวออกไปเมื่อนางจากไป หลิงเอ๋อร์จึงเลือกที่จะจากไปโดยไม่พูดอะไร
นางทำสิ่งที่นางทำได้แล้ว และนางก็ถูกหลี่ฉางโซ่วส่งไปที่นั่น ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องขอบคุณนางในเรื่องนี้
ก่อนที่นางจะมาที่เมืองเฉินถัง หลิงเอ๋อร์คาดเอาไว้แล้วว่า ในสถานที่นั้น น่าจะมีการขาดแคลนโอสถบางอย่างที่ใช้รักษาอาการบาดเจ็บ
ดังนั้น นางจึงซื้อโอสถจำนวนมากที่มนุษย์สามารถใช้ได้ในเมืองใกล้เคียง และในเวลาไม่ถึงเดือน นางก็ใช้พวกมันหมดแล้ว
หลิงเอ๋อร์ไปที่เมืองใกล้เคียงทันทีเพื่อ “เติมเต็ม” สินค้า แต่นางก็คิดว่านางจะไม่อยู่ในเมืองเฉินถังเป็นเวลานาน
นางสามารถช่วยได้ระยะหนึ่ง แต่นางก็ไม่อาจช่วยได้ตลอดชีวิต
หลังจากครุ่นคิดอยู่สองสามวัน ในที่สุด หลิงเอ๋อร์ก็พบวิธีจัดการที่ชัดเจน!
นางได้ใช้วิธีของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เพื่อรวบรวมวัสดุยาและใบสั่งยามากมายในโลกมนุษย์และในเมืองใกล้เคียง แล้วทิ้งพวกมันเอาไว้ที่เมืองเฉินถัง
ในช่วงบ่าย หลิงเอ๋อร์ก็นำศิลาวิญญาณบางส่วนที่อ๋าวอี่มอบให้นางออกมา แล้วมอบเอาไว้ให้กับเหล่าผู้อาวุโสที่น่าเชื่อถือได้ในเมืองเฉินถัง
เหตุผลที่นางไม่ทิ้งศิลาวิญญาณเอาไว้ทั้งหมดที่นั่นก็เพราะนางกลัวว่า ศิลาวิญญาณเหล่านั้นจะนำหายนะมาสู่เมืองเฉินถัง
ดังนั้นเมื่อหลิงเอ๋อร์พิจารณาเรื่องนี้ นางก็ทำอย่างดีละเอียดถี่ถ้วนที่สุดแล้ว
“ข้าจะไปแล้ว” นิ้วเรียวของหลิงเอ๋อร์แตะขอบโต๊ะไม้เบาๆ และดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยอารมณ์ต่างๆ หลากหลาย
มันราวกับว่านางมองเห็นเด็กๆ กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานที่โต๊ะอีกครั้ง
นางเห็นผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บและดวงตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความมึนงงไร้ความรู้สึก และนางก็ยิ้มอย่างอบอุ่นออกมาอีกครั้ง…
นางยังเห็นพวกทหารยามมนุษย์กำลังต่อสู้กับเหล่าสัตว์ปีศาจอีกด้วย และนางก็เห็นสตรีอ่อนแอที่วางจอบและหยิบทวนขึ้นมาแทน
การฝึกบำเพ็ญเซียนนั้นเกี่ยวกับคุณสมบัติ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้
ดังนั้น หลิงเอ๋อร์จึงมองเห็นสายตากระหายอำนาจของบุรุษและสตรีที่เฝ้าสถานที่นี้
นางแผ่สัมผัสเซียนรับรู้ของนางออกไปตรวจจับในระยะหลายร้อยลี้ในทิศทางตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งมีเมืองใหญ่อยู่ที่นั่น
พวกมนุษย์ที่นั่นใช้ชีวิตและทำงานอย่างอยู่เย็นเป็นสุขในขณะที่บรรดาคนร่ำรวยและมีอำนาจใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยหรูหรา ไร้ค่าไปวันๆ ดุจคนเมาหรือคนที่อยู่แต่ในโลกแห่งความฝัน ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเมืองเฉินถัง
หลิงเอ๋อร์ยังถามผู้อาวุโสของสถานที่แห่งนั้นด้วยว่า เหตุใดมนุษย์ในเมืองเฉินถังจึงไม่ละทิ้งสถานที่นั้น แล้วล่าถอย อพยพเข้าไปภายในดินแดนใหญ่
ผู้อาวุโสตอบว่า “นั่นเป็นคำสั่งสอนของบรรพบุรุษ
หากพวกเราล่าถอย พวกปีศาจก็จะไล่ตามเรา ด้วยวิธีนี้ ผู้คนจำนวนมากก็จะล้มตาย และพวกปีศาจก็จะตามมามากขึ้นหลังจากที่รู้ข่าว
แล้วมนุษย์จะสามารถเอาชนะปีศาจเหล่านั้นได้หรือไม่?
พวกเขาทำไม่ได้อย่างแน่นอน
นั่นคงจะแย่มาก” หลิงเอ๋อร์ไม่ได้ถามต่อไป
หลังจากกลับมาถึงบ้านแล้ว นางก็คิดอยู่นานและหัวใจเต๋าของนางก็สมบูรณ์แบบ
“บางที นี่อาจเป็นเหตุผลที่ศิษย์พี่ขอให้ข้ามาที่นี่”
หลิงเอ๋อร์หยิบปากกาขึ้นมาแล้วเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง จากนั้นนางก็อ่านมันอย่างละเอียดแล้วไปที่ลานเล็กๆ หลังบ้าน
ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากการได้เห็นว่าเหล่ามนุษย์ที่นั่นต่อสู้กับพวกปีศาจอย่างไรแล้ว นางก็ยังได้พบกับสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย
สิ่งที่ทำให้หลิงเอ๋อร์รุ้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกก็คือ ตอนที่นางเดินไปรอบๆ ในเมือง และนางก็ได้ใช้หน้ากากปิดหน้าของนางเอาไว้
นอกจากนี้นางยังได้เผยระดับพลังของนางโดยให้อยู่ในขอบเขตเซียนหยวน ซึ่งเป็นขอบเขตที่อ่อนแอกว่า ทำให้ตัวนางเองดูธรรมดาสามัญมาก
ทว่าในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา นางก็ยังคงได้รับคำสารภาพรักจากบุรุษหกคน
………………………………………………………………..