ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - บทที่ 829 คนเล็กผีใหญ่ (1)
บทที่ 829 คนเล็กผีใหญ่ (1)
“มีการเปลี่ยนแปลงในเมืองเสวียนตู แล้วข้าจะกลับมาในอีกร้อยปี” ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้ไปที่เมืองเสวียนตูแล้วหรือ?
เขาสามารถกลับมาได้หลังจากผ่านไปหนึ่งร้อยปีเท่านั้นหรือ?
หลังจากได้รับยันต์หยกที่เสี่ยวหยินได้ส่งไปยังตำหนักที่พำนักของเทพวารีแล้ว หัวใจเต๋าของหลี่ฉางโซ่วก็ตึงเครียดเพิ่มขึ้นสามส่วนเกือบจะในทันที และเผยร่องรอยแห่งความวิตกกังวลให้เห็น
ในขณะนั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้ไปที่เมืองเสวียนตู หากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก “พลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดตามแบบฉบับปกติ” แรงกดดันบนบ่าของหลี่ฉางโซ่วก็เพิ่มขึ้น
เสี่ยวหยินมาส่งข้อความยังตำหนักที่พำนักของเทพวารี เขาน่าจะได้รับคำสั่งมาจากเหล่าจื้อ
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ในช่วงเวลาที่ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้อยู่ในดินแดนเทวะทั้งห้า เขาซึ่งเป็นปรมาจารย์เต๋าน้อย ก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน
เมื่อหลี่ฉางโซ่วโจมตีลู่หยา หรือเผชิญกับสถานการณ์อันตรายใดๆ เขาไม่สามารถระบุว่า ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เป็นพลังการต่อสู้ได้
หลี่ฉางโซ่วลุกขึ้นยืนและเดินไปมาข้างสระน้ำบนยอดเขาเฮยฉือ
เขาต้องการหยุดการฝึกฝนของหลิงเอ๋อร์ แต่เมื่อเขาดูภาพในสระน้ำ เขาก็เห็นว่าใบหน้าของหลิงเอ๋อร์เต็มไปด้วยความคาดหวังและจริงจัง เขาจึงลังเลเล็กน้อย
“มีเรื่องอะไรผิดไปหรือ เทพวารี?” ไป๋เจ๋อถือถ้วยชาแล้วถามว่า “ท่านกังวลเรื่องอันใดหรือไม่?”
“ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ไปที่เมืองเสวียนตู ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาบางอย่างที่นั่น” หลี่ฉางโซ่วกลับมายังที่นั่งของเขาและหยิบกาน้ำชาสีขาวที่เขาหลอมมันขึ้นมาในยามเบื่อหน่าย
เขาได้กลิ่นหอมของเก๋ากี้[2]และคร่ำครวญถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตในชาติก่อน
เขาได้ดูแลไตของเขาอย่างดีในชาติที่แล้ว
ในเวลาเดียวกันนั้น หลี่ฉางโซ่วก็แอบสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในสีหน้าท่าทางและสายตาจ้องมองของไป๋เจ๋อ
หากไป๋เจ๋อใส่ใจกับภัยคุกคามของเรื่องปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ที่มีต่อเขา นั่นก็หมายความว่าเขายังคงคิดอยู่และยังไม่ได้ตัดสินใจชัดเจน
ในขณะนั้น ไป๋เจ๋อน่าจะวิเคราะห์ว่าฝ่ายของเขาจะต้องทนแรงกดดันเพิ่มเติมมากน้อยเพียงใดหลังจากที่ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่จากไป หากไป๋เจ๋อตัดสินใจภักดีต่อสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินแล้ว บางที เขาอาจจะถาม…
“ปีศาจจากนอกโลกในเมืองเสวียนตูแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยหรือ? จริงๆ แล้วพวกเขาต้องการปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ช่วยปกป้องพวกเขาด้วยตัวเอง”
ไป๋เจ๋อบีบนิ้วทำมุทราหยั่งรู้ จากนั้นเขาก็ส่ายศีรษะ “สถานที่นั้นอยู่ที่ขอบเต๋าสวรรค์แล้ว พลังเต๋าสวรรค์อ่อนแอเกินไป ข้าไม่สามารถหยั่งรู้อะไรได้เลย”
หลี่ฉางโซ่วยิ้มและวางกาน้ำชาลง “ข้าก็ไม่เคยไปที่นั่นเช่นกัน ข้าไม่รู้ว่าสถานการณ์ในเมืองเสวียนตูเป็นอย่างไร แต่น่าจะมีปรมาจารย์ที่สามารถคุกคามโลกบรรพกาลได้
เมื่อเทพผานกู่สร้างโลก เขาได้สังหารเทพอสูรเซียนเทียนไปสามพันตน ปลาที่ลอดหว่างแห[3]ไปได้ก็น่าจะลำบากทีเดียว”
“ไม่ต้องกังวลหรอก ในที่สุด เทพอสูรเซียนเทียนก็ไม่สามารถกลายเป็นจอมปราชญ์ได้” ไป๋เจ๋อกล่าวยิ้มๆ
“ในทะเลโกลาหล มีเต๋าและวิญญาณปะปนกัน เต๋าใหญ่ไม่สมบูรณ์ มันยากมากที่จะฝึกฝนเพื่อความสมบูรณ์แบบ” หลี่ฉางโซ่วพยักหน้าช้าๆและถอนหายใจ
“จากนี้ไป ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่จะไม่ได้อยู่แถวนี้แล้ว ตอนนี้ มันเป็นการทดสอบที่แท้จริงสำหรับหลิงเอ๋อร์”
หน้าผากของไป๋เจ๋อเต็มไปด้วยเส้นสายสีดำทันที เขาขมวดคิ้วและพึมพำว่า “เทพวารี ท่านมีความเข้าใจผิดในคำว่าการทดสอบหรือไม่?”
“หือ?” ในขณะนั้นหลี่ฉางโซ่วก็สำรวจตรวจจับสภาพแวดล้อมของเขา
ไป๋เจ๋อกระตุกมุมปากของเขาสองสามครั้ง “อา หลิงเอ๋อร์ อยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายจริงๆ หลังจากสูญเสียการคุ้มครองจากผู้ยิ่งใหญ่ชั้นยอดไปอย่างกะทันหัน”
หลี่ฉางโซ่วตอบตกลงทันที “ท่านไป๋ ท่านคิดว่าข้าควรปล่อยให้หลิงเอ๋อร์ กลับไปที่สำนักชั่วคราวหรือไม่?”
“ไม่จำเป็น” ไป๋เจ๋อยิ้มและกล่าวว่า “การทดลองที่เรียกว่ามีจุดมุ่งหมายเพื่อรับประสบการณ์และการฝึกฝนเพื่อทำให้หัวใจเต๋าของคนๆ หนึ่งเข้าถึงความสมบูรณ์แบบ
เทพวารี ท่านปกป้องหลิงเอ๋อร์ มากเกินไป ด้วยความฉลาดของหลิงเอ๋อร์ และมาตรการด้านความปลอดภัยที่ท่านวางเอาไว้ ย่อมสามารถช่วยให้นางไม่เป็นอันตรายได้
เทพวารี ท่านอย่าลืมว่า หลิงเอ๋อร์ยังมีทัณฑ์สวรรค์เซียนจินอยู่
หากท่านรับความเสี่ยงที่เหมาะสมในตอนนี้ ท่านก็จะสามารถลดความเสี่ยงของทัณฑ์สวรรค์เซียนจินได้ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ท่านก็ควรจะใช้ประโยชน์จากมัน”
“ตกลง”
หลี่ฉางโซ่วพยักหน้า จริงๆ แล้วเขาก็รู้หลักการเหล่านั้น ในขณะนั้น เขาเพียงแค่อาศัยให้ไป๋เจ๋อโน้มน้าวตัวเอง
ในขณะนั้น เขาก็แอบใช้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์อย่างลับๆ บนพื้นฐานของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ต้นกำเนิด และกองทัพถั่วเซียน เขาได้ส่งตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เซียนจินไปสองตัว และค่ายกลระเบิดวิญญาณปฐพีเทียนกังสองชุด
เขาเตือนว่า “ท่านไป๋ หากหลิงเอ๋อร์มีสัญญาณที่เป็นลางไม่ดีใดๆ โปรดบอกให้ข้ารู้ให้ทันการณ์ด้วย”
“เทพวารีไม่ต้องห่วง เทพวารีไม่ต้องห่วง” ทันใดนั้นไป๋เจ๋อก็รับคำซ้ำแล้วซ้ำอีก
เขาย่อมรู้ว่าเทพวารีไม่ได้ล้อเล่นอย่างแน่นอน
ในขณะนั้น หลิงเอ๋อร์ได้เข้าสู่เมืองที่เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นในดินแดนเทวะบูรพาแล้ว
นางไม่กล้าถามว่า อารามอู่จวงอยู่ที่ใด ในตอนแรกนางก็พักอยู่ในเมืองก่อน แล้วค่อยเริ่มรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอารามอู่จวงนั้น…
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ผู้ฝึกบำเพ็ญธรรมดาจากสำนักบำเพ็ญหยินจะค้นหาอารามอู่จวง และพบกับเซียนใหญ่เจิ้นหยวน[4]
แม้ว่าจะมีปัจจัยอันตรายน้อย แต่ความจริงแล้ว มันก็ยากทีเดียว
หลี่ฉางโซ่วรู้สึกไม่สบายใจเมื่อปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่จากไปอย่างกะทันหัน
เวลานี้เขาได้หยุดแผนการเขียน “บันทึกการต่อสู้ของเสวียนหย่า” ซึ่งใกล้จะเสร็จสมบูรณ์เอาไว้ชั่วคราวแล้ว
เขาปล่อยให้โหย่วฉินเสวียนหย่าไปพักผ่อนที่สำนักในช่วงระหว่างนี้ และเขาจะเลือกสถานที่ถ่ายทำ “หนังสั้น” เรื่องที่เก้าในภายหลัง
เมื่อพูดถึงโหย่วฉินเสวียนหย่าแล้ว ในช่วงสองปีที่ผ่านมา หลี่ฉางโซ่วก็รู้สึกชื่นชมนางมากขึ้น
จาก “ภูเขาน้ำแข็ง[5]เทียม” ที่มีนิสัยใบหน้าเย็นชามาโดยตลอดและแสดงออกไม่เก่งเลย มาตอนนี้ ฝีมอการแสดงของนางก็ได้รับการขัดเกลาจนยอดเยี่ยมมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
ในวันนี้ นางหลอกหลิงเอ๋อร์ได้สำเร็จ…
ช่างมีอนาคตสดใสและสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างดีเยี่ยมและเป็นประโยชน์จริงๆ
………………………………………………………………..
[1] แก่แดด แก่นแก้ว ซุกซน
[2] เป็นสมุนไพรบำรุงเลือด ตับ ไต สายตา
[3] พวกที่หลบหนีไปได้ นักโทษหรือผู้กระทำผิดกฎหมายหนีรอดไปได้
[4] ตามนิยายไซอิ๋ว เซียนใหญ่เจิ้นหยวนต้าหรือ เจิ้นหยวนต้าเซียนก็คือ เจ้าอารามอู่จวงที่ซุนหงอคงไปขโมยโสมจนเกิดเรื่อง
[5] วางท่าเย่อหยิ่ง สูงส่งเหนือผู้คน