ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - บทที่ 843 ความคิดของปีศาจสวรรค์ (2)
บทที่ 843 ความคิดของปีศาจสวรรค์ (2)
“ให้ข้าลงมือวันนี้เลย เพราะข้าได้ต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตนอกโลกเหล่านี้มามากกว่าสิบครั้งแล้ว และข้าก็พอเข้าใจพวกมันเหล่านั้นอยู่บ้าง
ในสมัยโบราณ ก่อนที่เต๋าสวรรค์จะปรากฏขึ้น สิ่งมีชีวิตนอกโลกเหล่านี้มักจะมาก่อปัญหาที่ชายขอบของโลกบรรพกาล”
หลี่ฉางโซ่วเงียบงันไป…
ความรู้ ประสบการณ์ทุกอย่างล้วนสูญหายไปจนหมดสิ้น
ในขณะนี้ อวิ๋นเซียวกำลังเตรียมต่อสู้กับผู้อื่น สีหน้าของนางดูเคร่งขรึมจริงจัง และมีลักษณะท่าทางที่แทบจะไม่มีใครได้เห็นมาก่อน
มันไม่ใช่เพียงแค่ความสูงส่งสง่างามอย่างบริสุทธิ์เท่านั้น และไม่ใช่การกดขี่ที่เกิดจากแรงกดดันของเหล่าปรมาจารย์เช่นกัน
ทว่ากลับทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความมั่นคง สติปัญญา ความสามารถและความเชี่ยวชาญ
โดยปกติแล้ว เทพธิดาอวิ๋นเซียวมักจะสวมชุดสีเรียบๆ และในวันนี้ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน
ชุดกระโปรงสีขาวเรียบๆ ธรรมดา โอบกระชับรับเรือนร่าง ขอบเอวสีฟ้าอ่อนประดับด้วยอัญมณีสีน้ำแข็งสองสามเม็ด และภายใต้แขนเสื้อเมฆบางๆ ทั้งสองข้าง ก็มีกำไลหยกเรียบๆ อยู่บนข้อมือของนาง
ใต้ม่านสายฟ้าในระยะไกลนั้น ผิวของเทพธิดาอวิ๋นเซียวก็ยิ่งดูขาวมากขึ้น และแม้ในเวลานี้ ใบหน้างดงามของนางจะดูเคร่งขรึม แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความอ่อนโยนของนางลดลงเลยแม้แต่น้อย
อวิ๋นเซียวเสมองออกไปทางอื่นและกล่าวเบาๆ ว่า “ไฉนเจ้าถึงคอยมองข้าอยู่เสมอ …”
“เราไปทำงานกันก่อนเถิด”
สถานการณ์ไม่เหมาะสม และหลี่ฉางโซ่วก็ไม่ได้ใช้โอกาสนั้นเอ่ยวาจาเกี้ยวพาอันใด จากนั้นเขาและอวิ๋นเซียวก็ขี่เมฆบินมาถึงท้องฟ้าเหนือชนเผ่านี้
ในขณะนี้ ทั้งบุรุษ สตรี คนชราและเด็กหนุ่มสาวในเผ่าได้มารวมตัวกันแล้ว และพวกเขาต่างก็มองไปที่หลี่ฉางโซ่วอย่างกังวลใจ
พวกเขาแต่ละคนล้วนมีระดับฐานพลังของตนเอง ตั้งแต่ผู้ฝึกบำเพ็ญที่เพิ่งเริ่มต้นจนไปถึงขอบเขคเซียนเทียน
บัดนั้นหลี่ฉางโซ่วก็กล่าวเสียงดังลั่น
“ทุกคน โปรดอย่ากังวล พวกเรา ศิษย์แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋า จะไม่เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ มาที่นี่เพียงเพื่อสังหารพวกปีศาจชั่วร้ายเท่านั้น!”
กล่าวจบ หลี่ฉางโซ่วก็ลอบชี้ไปที่รัศมีทั้งห้า และแอบแนบตัวเอง ติดอยู่กับร่างของชายและหญิงทั้งห้าอย่างเงียบๆ
มันเป็นการต่อสู้ครั้งแรกของเขากับปีศาจนอกอาณาเขต หลี่ฉางโซ่วจึงไม่กล้าผลีผลาม
เมื่อบรรดาปรมาจารย์แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าทั้งหลายมายังโลกใบเล็กนี้ พวกปีศาจนอกอาณาเขตทั้งหมดที่อยู่ภายนอกบริเวณพื้นที่นี้ก็ได้เข้าสู่สภาวะอำพรางตนแล้ว
ในตอนนี้ พวกปีศาจที่ถูกสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์กักขังเอาไว้จนไม่สามารถออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ กำลังซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งมวล
หลี่ฉางโซ่วก็ยังใช้สัมผัสเซียนรับรู้ของเขาอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อระบุตัวตนของพวกมันออกมาตามคำอธิบายของไป๋เจ๋อ และนักพรตเต๋าตั๋วเป่า
จากนั้นเขาก็พบและยืนยันได้ว่า ทั้งบุรุษ และสตรีทั้งห้าคนนี้ พวกเขาได้ถูกปีศาจเข้ายึดครองร่างอยู่
เมื่อถูกหลี่ฉางโซ่วชี้ให้เห็นรัศมีรอบๆ ทั้งบุรุษ และสตรีทั้งห้าคนนั้นก็สับสน
พวกเขาก็รู้สึกวิตกกังวลและตื่นตระหนกเช่นกัน ซึ่งไม่ต่างไปจากพฤติกรรมที่แสดงออกมาของบรรดามนุษย์ที่อยู่รอบตัวพวกเขา
อวิ๋นเซียวยกถังทองฮุ่นหยวนในมือของนาง และถังทองคำนั้นก็แผ่พุ่งลำแสงสีทองออกมาห้าสาย แล้วกวาดบุรุษ และสตรีทั้งห้าคนนี้เข้าสู่ถังทองฮุ่นหยวนทันที
จากนั้นถังทองฮุ่นหยวนขนาดเท่าฝ่ามือก็หมุนตัวไปอย่างรวดเร็วต่อหน้าอวิ๋นเซียว แล้วเทพธิดาอวิ๋นเซียวก็สร้างตราประทับด้วยมือของนาง และถังทองฮุ่นหยวนก็เปล่งแสงสว่างเจิดจ้า ให้ความรู้สึกว่านางดูศักดิ์สิทธิ์
หลังจากมีเก้าตราประทับออกมาติดต่อกันเป็นแถวแล้ว อวิ๋นเซียวก็ใช้มือทั้งสองข้าง ผลักพวกมันออกไปเบาๆ
จากนั้นก็มีลำแสงสีทองอีกห้าสายสาดประกายออกมาจากถังทองคำ และส่งบุรุษ และสตรีทั้งห้าคนนั้นกลับไปยังที่เดิม
ทั้งห้าคนนี้กระตุกไปทั้งร่าง และมีน้ำลายฟูมปาก ใบหน้าของพวกเขาซีดอย่างยิ่ง แม้ลมหายใจของพวกเขาจะอ่อนแรงรวยริน แต่ก็ไม่ได้หยุดขาดหายไป พวกเขาสูญเสียพลังชีวิตไปมากกว่าครึ่ง
หลี่ฉางโซ่วใช้พลังเซียนของเขาห่อหุ้มโอสถวิญญาณห้าเม็ดเอาไว้ และผลักดันพวกมัน ยัดเข้าไปในปากของคนทั้งห้า แล้วคนทั้งห้าคนนั้นก็เงียบลงอย่างรวดเร็ว
หญิงชราโค้งคำนับให้หลี่ฉางโซ่วและอวิ๋นเซียว แล้วร้องตะโกนว่า “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสเซียน”
จากนั้นพวกมนุษย์เหล่านี้ต่างก็โค้งคำนับให้หลี่ฉางโซ่วและอวิ๋นเซียวอย่างพร้อมเพรียงกัน ราวกับว่า พวกเขารับรู้และแสดงความขอบคุณหลี่ฉางโซ่วและอวิ๋นเซียว
นอกจากนั้น สัมผัสเซียนรับรู้ของหลี่ฉางโซ่วก็ยังคงตรึงอยู่ที่สถานที่แห่งนี้
เขาจ้องมองไปที่ผู้คนหลายสิบที่มีรอยคล้ำใต้ตาหรือมีอักขระเต๋าที่ผิดปกติไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หลับตาลงตั้งสมาธิ และสัมผัสพวกเขาอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ถังทองฮุ่นหยวนในมือของอวิ๋นเซียวส่องแสงสีทอง แล้วกลายเป็นกำแพงแห่งแสงสว่างที่ปกคลุมสถานที่แห่งนี้จนหมด
อวิ๋นเซียวเอ่ยปากกล่าวว่า “ยังมีพวกปีศาจชั่วร้ายแฝงตัวอยู่ที่นี่ ทุกท่านโปรดอดทนรอและให้เราระบุพวกมันออกมาอย่างระมัดระวัง”
หญิงชราที่อยู่ในขอบเขตเซียนเทียนร้องตะโกนว่า “ทุกคน อย่าส่งเสียงดัง นั่งทำสมาธิอยู่เงียบๆ รอให้ท่านผู้เป็นเซียนตรวจสอบก่อน”
บัดนั้นเหล่าบุรุษ สตรี คนชราและเด็กหนุ่มสาวกลุ่มนี้ต่างก็นั่งขัดสมาธิ ยกเว้นแต่เด็กๆ ที่อยู่ในอ้อมแขนของบิดามารดา
และในเวลานี้ พวกเขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยในขณะที่คนอื่นๆ ส่วนใหญ่ล้วนสงบมาก
เมื่อเทียบกับพวกปีศาจนอกอาณาเขต เวลานี้พวกมันกลัวที่จะถูกฆ่าล้างผลาญอย่างโดยไม่ปล่อยให้หลุดหนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียวมากกว่า
ในขณะนี้ ข้อความเสียงจากตี้จั้งก็เข้ามาถึงหูของเขา และหลี่ฉางโซ่วก็ลงมือจัดการอีกครั้ง และรัศมีทั้งสามก็ตกลงไปที่คนทั้งสามคนที่นี่
หญิงชราที่เพิ่งพูดผู้นั้นก็อยู่ในหมู่พวกเขาด้วยเช่นกัน!
หญิงชราตกใจในตอนแรกและนางยังกล่าวอีกว่า “พวกท่านทั้งสองคนเข้าใจผิดอันใดบ้างหรือไม่…”
ทันใดนั้นก็มีเงาดำอันน่าสะพรึงกลัวปรากฏขึ้นเบื้องหลังนาง!
เงาดำนั้นพุ่งเข้าปะทะหลี่ฉางโซ่วและอวิ๋นเซียว ดูราวกับว่า มันกำลังสยายปีกและพุ่งออกไปข้างหน้า!
ปีศาจตนนี้มีโครงร่างคล้ายมนุษย์เพียงคร่าวๆ เท่านั้น ร่างกายของมันก็เหมือนกับทำด้วยของเหลวมากกว่า และดวงตาสีแดงทั้งสี่ดวงนั้นก็พุ่งพล่านออกมาเป็นระลอก!
ทว่าอวิ๋นเซียวเป็นเทพเซียนเยี่ยงไรกัน?
………………………………………………………………..