ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - บทที่ 844 ความคิดของปีศาจสวรรค์ (3)
บทที่ 844 ความคิดของปีศาจสวรรค์ (3)
นางลงมือจัดการเกือบจะในทันทีที่ปีศาจสวรรค์[1]ปรากฏตัว และก่อนที่แสงสีทองของถังทองฮุ่นหยวนจะปะทุออกมา นางก็ชี้นิ้วเรียวของนางออกไปข้างหน้า
ทันใดนั้นก็มีขอบน้ำแข็งเป็นวงกลมปรากฏขึ้นรอบๆ ปีศาจสวรรค์ แล้วทำให้ปีศาจตนนั้นถูกแช่แข็งในทันที
เมื่อลำแสงสีทองสาดส่องลงมา ปีศาจสวรรค์ก็ถูกแสงสีทองหลอมละลายฉับพลัน แล้วทั้งหญิงชราและมนุษย์ชายและหญิงอีกสองคนก็ถูกดูดเข้าไปรวมไว้ในถังทองฮุ่นหยวนทันที
ที่ข้างๆ นั้น หลี่ฉางโซ่วซึ่งเพิ่งคว้าไม้เฉียนคุนออกมา ก็คลี่ยิ้มเล็กน้อย
เขาไม่มีโอกาสได้ลงมือเลย
ปู่เจดีย์กำลังถอนหายใจอยู่ลึกๆ ในใจของเขา…
จากนั้นปู่เจดีย์ก็กล่าวว่า “เจ้าศิษย์น้อย เจ้าทำได้หรือ?
หากในอนาคต เจ้าเกิดทะเลาะกับอวิ๋นเซียวขึ้นมา ข้าก็จะไม่ช่วยเจ้าหยุดน้องสาวถังทองแน่ๆ
เหอะ เหอะ น้องสาวถังทองเติบโตขึ้นอีกแล้ว เจ้าช่วยพาท่านปู่ผู้นี้ไปพูดคุยกับนางได้หรือไม่!?!”
หลี่ฉางโซ่วทำตามที่เขาบอก และเขาก็ถือเจดีย์เสวียนหวงเอาไว้ในฝ่ามือของเขา และปล่อยให้มันได้ปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญในนาม ‘เทพวารีหลี่ผู้ถือเจดีย์[2]’
หลี่ฉางโซ่วและอวิ๋นเซียวได้ค้นหาสถานที่นี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็หันไปที่อื่น และยังคงแผ่กระจายสัมผัสเซียนรับรู้ออกไปในทิศทางนั้นอย่างต่อเนื่อง
โชคยังดีที่จุลสหัสโลกธาตุหรือโลกใบเล็กนี้ไม่ใหญ่มากนัก ดังนั้นบรรดาเซียนทั้งหลายจากทั้งสามสำนักบำเพ็ญเต๋าจึงใช้เวลาครึ่งวันกว่าที่พวกเขาจะสำรวจสถานที่แห่งนี้ได้ทั่วทั้งหมด
ด้วยการช่วยเหลือของตี้ทิง พวกเขาจึงประหยัดแรงได้มาก และในการค้นหาระลอกแรก พวกเขาก็พบปีศาจนอกอาณาเขตหกสิบเจ็ดตัว
ความแข็งแกร่งของปีศาจนอกอาณาเขตเหล่านี้นั้น ไม่อาจถูกวัดได้ตามมาตรฐานของโลกบรรพกาล
ทว่าสำหรับปรมาจารย์ในระดับนักพรตเต๋าตั๋วเป่า และจ้าวกงหมิงนั้น มันเป็นเพียงเมื่อสัมผัสเท่านั้น ก็ถึงระดับที่พวกมันจะแตกสลายได้
หลี่ฉางโซ่วและคนอื่นๆ ได้หารือกันผ่านการส่งข้อความเสียง และพวกเขาก็ทำการค้นหาอย่างละเอียดอีกครั้ง แล้วนำผู้ต้องสงสัยรวมทั้งหมดยี่สิบหกคนไปยังเกาะเล็กๆ กลางบึงใหญ่แห่งหนึ่ง
นักพรตเต๋าตั๋วเป่ากล่าวอย่างจริงจังว่า “ในเวลานี้ ม่านสายฟ้ายังไม่สลายไป นั่นย่อมแสดงว่ายังมีปีศาจนอกอาณาเขตที่ถูกเต๋าสวรรค์กักเอาไว้ ซึ่งเรายังไม่พบพวกมัน”
ไท่อี่เจินเหรินถามอย่างสงสัยว่า “ปีศาจนอกอาณาเขตเหล่านี้คืออันใดกัน?
ไฉนข้าถึงรู้สึกเหมือนว่า พวกมันเป็นปราณวิญญาณและยังดูเหมือนว่าจะมีร่างหลักด้วย? ”
จ้าวกงหมิงยิ้มและกล่าวว่า “สิ่งที่เรียกว่าปีศาจนอกอาณาเขตนั้น ความจริงแล้ว พวกมันก็เป็นสิ่งมีชีวิตจริงๆ เช่นกัน
สิ่งมีชีวิตเกิดจากการสั่นพ้องของวิญญาณแท้ และเต๋าใหญ่ด้วยกัน และเต๋าก็มีต้นกำเนิดมาจากโกลาหล
แต่เต๋าในทะเลโกลาหลนั้นพัวพันกันและไร้ระเบียบ ดังนั้น สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นจึงกลายร่างเป็นรูปร่างที่แปลกประหลาด ”
หากมองจากมุมนั้น…
หลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้วและมองดูผู้ต้องสงสัยทั้งยี่สิบหกคนที่นี่ ปีศาจนอกอาณาเขตเหล่านี้ก็เป็นสิ่งมีชีวิตโกลาหลเช่นกัน
โดยเนื้อแท้แล้ว พวกมันจะคล้ายกับสิ่งมีชีวิตแห่งโลกบรรพกาลใช่หรือไม่?
เขา ผู้ที่ได้อพยพย้ายมาจากมิติและเวลาใดก็สุดรู้ ซึ่งเขาก็สอดคล้องกับคำจำกัดความของปีศาจนอกอาณาเขตมากกว่า
เขาเป็นศิษย์ของสำนักบำเพ็ญเต๋าแห่งรากเมล็ดพันธุ์แดง[3] ซึ่งราชินีหนี่วายังกล่าวอีกว่าจอมปราชญ์ไม่สนใจเรื่องนั้น
ล้อเล่น ล้อเล่นน่า
นอกจากนี้ ปรมาจารย์เต๋าสวรรค์ยังรับรู้ถึงตัวตนของเขาได้ และการลงทัณฑ์จากสวรรค์เหล่านั้นก็หมายถึง ถิ่นที่พำนักประจำของเขาในโลกบรรพกาลที่มอบให้เขา
อวิ๋นเซียวกล่าวเบาๆ ว่า “มีปีศาจนอกอาณาเขตสองตนในถังทองฮุ่นหยวนที่ยังไม่ถูกหลอมละลายไปจนสิ้นซาก”
หลี่ฉางโซ่วใจเค้นไม่เป็นจังหวะ จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “ศิษย์พี่ตั๋วเป่า ท่านมีสมบัติที่สามารถกักปีศาจนอกอาณาเขตเช่นนี้ได้หรือไม่ขอรับ? เหตุใดไม่ทรมานพวกมันเล่า?”
ทรมาน…
จากตี้จั้ง ตี้ทิง ไปสู่ไท่อี่ อวี่ติ้ง และไปจนถึงตั๋วเป่า กงหมิง และแม้แต่เทพธิดาอวิ๋นเซียว ในขณะนี้ ทุกคนล้วนมองไปที่หลี่ฉางโซ่วด้วยความประหลาดใจ
เขาจึงกล่าวตอบบทสนทนาจากที่อยู่ข้างๆ ว่า “แม้ความคิดนี้จะไม่น่าเชื่อ และไม่มีใครเคยลองมาก่อน แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
ไท่อี่เจินเหรินอดจะพึมพำออกมาไม่ได้ว่า “ปีศาจนอกอาณาเขตยังสามารถถูกทรมานได้ด้วยหรือ? ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนจริงๆ”
หลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเขาได้กล่าวบางอย่างผิดพลาดไป คราวนี้ เขาต้องได้รับความเสียหายจากการขาดข้อมูลแล้ว
พอกลับไปถึงบ้าน เขาก็จะลงโทษตัวเองด้วยการคัดลอกพระสูตรมั่นคงสักพันจบ
อืม ไว้ข้ารอจนกว่าหลิงเอ๋อร์จะกลับมาที่ภูเขาก่อนจึงค่อยเริ่มเขียน
แต่ในเวลานี้ หลี่ฉางโซ่วก็ทำได้เพียงคลี่ยิ้ม และตอบกลับเท่านั้น “ลองดูก็ไม่เสียหายอะไร”
“จริงๆ แล้ว เราก็ลองดูได้” อวิ๋นเซียวพยักหน้าเบาๆ
จากนั้นนางก็เปิดใช้งานถังทองฮุ่นหยวนขึ้น และลำแสงสีทองสองสายก็เข้าปกคลุมหมอกสีดำทั้งสองกลุ่มเอาไว้อย่างสมบูรณ์ แล้ววางพวกมันไว้ต่อหน้าเหล่าผู้เป็นเซียนทั้งหลาย
ไท่อี่เจินเหรินเปิดใช้งานโล่เพลิงเทพเก้ามังกร แล้วเข้าครอบคลุมปีศาจสวรรค์ทั้งสอง
หลี่ฉางโซ่วก็เปิดใช้งานเจดีย์เสวียนหวงขึ้นอีกครั้งอย่างกังวล และเจดีย์ก็เปล่งรัศมีเสวียนหวงออกมาเพื่อปกป้องเหล่าผู้เป็นเซียนและผู้คนอีกยี่สิบหกคน
ภายใต้โล่เพลิงเทพเก้ามังกร เงาดำทั้งสองนั้นก็สั่นเทาอยู่ตลอดเวลา ในเวลานี้พวกมันอ่อนแอมาก และค่อยๆ เผยรูปร่างเดิมของมันออกมา
มันเหมือนกับลูกมวลน้ำสองลูกที่เต็มไปด้วย ‘น้ำมันดำ’ มีหนวดยื่นออกมาจากพวกมันอย่างต่อเนื่อง และมีอักขระเต๋าที่คลุมเครืออยู่บนหนวดนั้น
หลี่ฉางโซ่วพึมพำว่า “มันคล้ายกับปลาหมึกยักษ์เล็กน้อย ให้ใช้ไฟจริงลองเผาก่อนสักหน่อย”
“ได้” ไท่อี่เจินเหรินค่อยๆ ปล่อยเพลิงแท้ออกไปเล็กน้อย
ทันใดนั้นปีศาจนอกอาณาเขตที่ดูอ่อนแอทั้งสองก็ปล่อยเสียงกรีดร้องคำรามออกมาดังลั่น และพลังงานสีดำบนร่างของพวกมันก็ถูกหลอมละลาย แล้วร่างของพวกมันก็ถูกแผดเผาจนร่างของพวกมันมีรูพรุนไปทั่ว
………………………………………………………………..
[1] ปีศาจนอกอาณาเขต
[2] เป็นการเลียนสมญานามของหลี่เทียนหวังผู้ถือเจดีย์ หรือ เทพหลี่จิ้ง บิดาของเทพนาจา
[3] ใช้เพื่อกล่าวถึงเด็กๆ จากครอบครัวคนงาน ชาวนาที่ยากจนและคนระดับกลางถึงล่าง เชื่อกันว่าเด็กๆ ดังกล่าวจะต้องเป็นคนดีและในปัจจุบัน ยังใช้หมายถึงผู้ที่มีภูมิหลังดี