ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 226 ต่างคนต่างอยู่
“เป็นไปได้อย่างไร!” มีเทพชั้นผู้น้อยอุทานออกมา มองไปยังประตูยักษ์สีดำที่กำลังเปิดออกอย่างช้าๆ กลางอากาศอย่างเหลือเชื่อ
ประตูผีอยู่ยมโลกไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงปรากฏบนโลกมนุษย์ได้ อีกทั้งจากพลังวิญญาณที่แทบจะกลืนกินรัศมีหลายร้อยลี้นี้ คนที่มาคงไม่ใช่…
ทุกคนยังไม่ทันได้คิดลึกลงไป ประตูผีกลางอากาศอ้าออกกว้าง เห็นเพียงแต่ภายในประตูมีเงาดำปรากฏขึ้น นาทีถัดมาร่างยักษ์หกร่างปรากฏอยู่รอบด้านของสำนักเทียนซือ ร่างนั้นสูงใหญ่ราวภูผา ยืนตรงอยู่ระหว่างฟ้าดิน ทำให้เหล่าท่านเทพที่สูงส่งนั้นกลายเป็นเพียงแค่มดที่ต่ำต้อย พลังวิญญาณรอบตัวหลั่งไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ขับไล่พลังเทพบริเวณรอบด้านจนหมดสิ้น
“ยมราชแห่งเมืองยมโลก!” ฉู่เหยียนตกตะลึง มองร่างหกร่างตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ ยมราชแห่งเมืองยมโลกจะมาปรากฏตัว อีกทั้งมาหกคน!
ลูกศิษย์ของสำนักเทียนซือก็ตกตะลึงเช่นกัน ถึงแม้หลายปีมานี้ พวกเขาเคยพบเห็นยมทูตบ้างตอนจับผี แต่นี่คือท่านยมราช ผู้ดูแลความเป็นความตาย
ร่างยักษ์ทั้งหกยืนตรงอยู่ด้านหน้าของสำนักเทียนซือราวกับกำแพงวิญญาณ ยมราชทั้งหกไม่ได้พูดกับเหล่าฉู่เหยียนแม้แต่น้อย คนที่อยู่ตรงกลางหันหน้ามายังสำนักเทียนซือ ก่อนที่ร่างใหญ่นั้นจะพูดขึ้น “ราชาโยวหลิง สหายอวิ๋น ไม่เจอกันนาน! ซิวหลิงเรียกยมราชจากทุกเมืองมายังที่นี่ตามที่พวกท่านไหว้วานแล้ว”
เหล่าลูกศิษย์ต่างทำหน้าฉงน สหายอวิ๋นคืออาจารย์อวิ๋น ราชาโยวหลิง? ใคร?
(⊙_⊙)
“ลำบากราชาซิวหลิง” อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า ก่อนจะหันไปมองชายแก่ที่ยืนอยู่ด้านข้าง ส่งสัญญาณให้เขาออกไป ถึงตาของท่านแล้ว! โยวหลิง!
ชายแก่รีบส่ายหัว: ไม่ได้ เขาไม่มีร่างเสก หากออกไปเช่นนี้ ขายหน้าแย่!
อวิ๋นเจี่ยวปากกระตุกเล็กน้อย เป็นยมราชมานานขนาดนี้ยังเปลี่ยนร่างเสกไม่เป็น ข้อสอบคงจะทำน้อยไป เธอจึงทำได้เพียงหยิบยันต์ใบหนึ่งออกมา ก่อนจะแปะเข้าไปบนตัวของอีกฝ่าย กระตุ้นป้ายยมราชในตัวเขา
ชายแก่รู้สึกเพียงร่างกายเบาลง จากนั้นเหมือนมีอะไรบางอย่างพุ่งออกมาจากร่างกาย ร่างเสกของชายแก่ก็ปรากฏอยู่กลางอากาศ
เหล่าคนของสำนักเทียนซือ: “…” หืม?
อาจารย์ไป๋คือท่านยมราชโยวหลิง?! หมายความว่าหลายปีมานี้ ท่านยมราชเป็นคนสอนวิชาไล่ผีให้พวกเขาด้วยตัวเอง?!
Σ(°△°|||)︴
“ศิษย์น้องไป๋” จี้ฉี ยมราชเมืองตี้หยินทักทายไป๋อวี้
“ศิษย์พี่จี้” ชายแก่ผงะ ก่อนจะพบว่าตนเองแสดงร่างเสกขนาดยักษ์เหมือนกับยมราชท่านอื่น
เขาหันไปมองคนอื่น ยมราชอีกสี่คนเขาไม่เคยพบหน้ามาก่อน แต่อีกฝ่ายต่างก็พยักหน้าให้เขา ถือว่าได้ทักทายแล้ว ชายแก่สวมบทบาทของตนเองขึ้นมาทันที เขายืดหลังตรง แสดงสีหน้าเคร่งขรึมจ้องมองไปยังฉู่เหยียน
ยมราชทั้งเจ็ดมากันครบแล้ว
ทันใดนั้นภายในใจของฉู่เหยียนลนลานขึ้นมา ยมราชทั้งเจ็ดปรากฏตัว ดูท่าทางเรื่องของวันนี้ไม่สามารถจบอย่างง่ายดายเสียแล้ว อีกทั้งมียมราชท่านหนึ่งหลบซ่อนอยู่ภายในเสวียนเหมิน เช่นนั้นเรื่องก่อนหน้านี้ก็ถูกอีกฝ่ายรู้หมดแล้ว ทันใดนั้นเขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว
เหล่าหยวนเจียงกลับโล่งใจ ก่อนจะพูดขึ้น “ไม่ทราบว่าท่านยมราชปรากฏตัวเช่นนี้ มีเรื่องอะไร”
“แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของวิญญาณแห่งเมืองยมโลก!” ราชาซิวหลิงเดินขึ้นหน้า เขากวาดตามองฉู่เหยียนอย่างเย็นชา ก่อนจะพูดขึ้น “ยมโลกทั้งเจ็ดเมืองล้วนมียมทูตรายงานว่า มีวิญญาณนับหมื่นที่ต้องมารายงานตัวในเมืองยมโลก แต่กลับไม่ปรากฏตัว อีกทั้งไม่อาจหาร่องรอบในโลกมนุษย์ได้ จนกระทั่งสหายอวิ๋นบอกข้าว่าพบสิ่งนี้!”
พูดจบ เขาก็หยิบลูกแก้วสีขาวราวหิมะออกมา ฉู่เหยียนเบิกตาโพลงในทันที สิ่งนั้นคือลูกแก้วกำเนิดวิญญาณที่พวกเขากำลังตามหา
“สิ่งนี้กลืนกินวิญญาณนับพันหมื่น” ราชาซิวหลิงมองตรงไปยังฉู่เหยียน “ทั้งสามโลกล้วนรู้ดีว่า สิ่งมีชีวิตหากร่างกายตายไป วิญญาณเป็นของยมโลก ไม่รู้ว่าท่านเทพแอบดึงวิญญาณของยมโลกไปทำอะไร โลกสวรรค์ไม่เห็นโลกมนุษย์อยู่ในสายตา จะไม่เห็นยมโลกด้วยงั้นหรือ”
สีหน้าของฉู่เหยียนซีดเผือด ไม่อาจหาคำพูดอื่นใดมาแก้ตัว
“สัญญาระหว่างทั้งสองโลกยังอยู่ หากท่านเทพกระทำเช่นนี้ หรือว่าสวรรค์ไม่พอใจอะไรในยมโลก หรือว่าทักษิณสวรรค์ไม่พอใจยมโลก”
ฉู่เหยียนถูกเขาถามจนไร้คำพูด คำพูดเหล่านี้เป็นเพียงคำพูดที่เขาเอามาดักคอหยวนเจียง เขามั่นใจว่าหยวนเจียงจะไม่ทำลายความสมดุลระหว่างสองสวรรค์อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงใช้ทักษิณสวรรค์เป็นข้ออ้าง แต่ไม่คิดว่าจะมีนมโลกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย วิญญาณมนุษย์ไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของสวรรค์ แต่อยู่ในความดูแลของยมโลก!
“ฮึ ทำลายวิญญาณยมโลกของข้านับหมื่น หรือว่าพวกท่านคิดว่ายมโลกไม่กล้าก่อสงครามกับสวรรค์!”
เริ่มจากยุยงให้เผ่ามารปล่อยอสูรกลืนกินนภาทำลายเมืองหลวงของเขา ครานี้มาดักเอาวิญญาณของยมโลก คนของสวรรค์ช่างรังแกวิญญาณมากเกินไปแล้ว! ราชาซิวหลิงยิ่งพูดยิ่งขุ่นเคือง ยมราชคนอื่นก็เช่นกัน
“วันนี้หากไม่จับตัวบงการอย่างเจ้า สวรรค์คงคิดว่าท่านมหาราชของพวกข้าหลับใหลนานเกินไป ยมโลกไม่มีที่พึ่งพิงเสียแล้ว!” พูดจบ ราชาซิวหลิงไม่รอให้อีกฝ่ายตอบกลับ เขาจู่โจมข้าไปทันที พลังวิญญาณมหาศาลพุ่งไปทางฉู่เหยียนโดยตรง
ฉู่เหยียนตกตะลึง หยิบกรงล้อสีทองในมือขึ้น เรียกกำแพงเปลวเพลิงออกมาต้านการโจมตีของอีกฝ่าย เพียงแต่พลังของเขาไม่อาจรับมือกับยมราชได้
ในขณะที่เปลวเพลิงบนกรงล้อของเขากำลังจะถูกดับด้วยพลังวิญญาณของราชาซิวหลิง สีหน้าของฉู่เหยียนยิ่งตื่นตระหนกมากกว่าเดิม เขาเบิกตาโพลงพร้อมพูดเสียงดัง “หยุด! พวกท่านฆ่าข้าไม่ได้ ข้าเป็นเทพของทักษิณสวรรค์ หากท่านกล้าทำอะไรข้า ท่านมหาเทพไม่ปล่อยพวกท่านเป็นแน่”
ราชาซิวหลิงไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย พลังวิญญาณที่จู่โจมออกไปยิ่งเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่พลังวิญญาณกำลังจะพุ่งโดนตัวฉู่เหยียนนั้น เห็นเพียงแต่เขาลากเทพชั้นผู้น้อยด้านข้างมาบังไว้ตรงหน้า
ในเวลานั้นพลังวิญญาณกระทบเข้าที่ตัวของเทพชั้นผู้นั้นนั้น ดึงเอาวิญญาณเทพของอีกฝ่ายออกมา ฉู่เหยียนหกลับใช้เวลานี้วิ่งหนีไปทางด้านหลัง อีกทั้งยังยกเทพชั้นผู้น้อยที่ตามเขามาโยนไปยังทิศทางของราชาซิวหลิง
เหล่าเทพชั้นผู้น้อยไม่อาจหลบหลีกได้ทัน ล้วนถูกพลังวิญญาณของยมราชดึงวิญญาณเทพออกจากร่าง ในขณะที่ฉู่เหยียนกำลังจะหนีรอดไปได้
“คิดจะหนี!” ยมราชด้านขวาของราชาซิวหลิงส่งเสียงเย็นในคำคอทีหนึ่ง ในขณะเดียวกันยมราชท่านอื่นก็ออกมือทันที พลังวิญญาณจู่โจมไปทาง ฉู่เหยียนพร้อมกัน กลายเป็นตาข่ายพลังวิญญาณขนาดใหญ่
ฉู่เหยียนไร้ที่หนี บนใบหน้าล้วนเต็มไปด้วยสีหน้าหวาดกลัว ทำได้เพียงพูดเสียงดัง “พวกท่านบังอาจ…ท่านมหาเทพ ท่านมหาเทพช่วยข้าด้วย!”
เหล่ายมราชกำมือแน่น ในขณะที่ตาข่ายพลังวิญญาณกำลังจะดึงวิญญาณเทพของฉู่เหยียนออกมา
ทันใดนั้น!
สายฟ้าสวรรค์สีม่วงผ่าลงมาจากด้านบน กระทบเข้ากับตาข่ายพลังวิญญาณ ทันใดนั้นตาข่ายแหลกสลาย ก่อนที่ได้ยินเสียงประตูผีแตกละเอียด
แสงสีทองนับหมื่นทะลุพลังวิญญาณลงมา ราวกับฉีกท้องฟ้าออกเป็นหลุมกว้าง แสงสว่างแสบตาสาดส่องลงมา พลังอันน่ากลัวกดลงมาอย่างกะทันหัน แม้แต่ร่างของยมราชทั้งเจ็ดก็ยืนไม่ค่อยอยู่
เสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจส่งมาจากขอบฟ้า
“ฮึ! ผีในยมโลกบังอาจมาท้าทายทักษิณสวรรค์!”