ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 228 ดับยกทีม
ทุกคนต่างตกตะลึง แม้แต่ท่านมหาเทพทักษิณสวรรค์ก็ผงะไปเช่นกัน ใบหน้าของเผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมา เขามองตามเสียงไป
ก่อนจะพบว่าเสียงนั้นส่งมาจากภายในข่ายพลังคุ้มครองครองภูผาด้านล่าง เห็นเพียงชายคนหนึ่งกำลังเดินออกมาจากตำหนักหลังของสำนักเทียนซืออย่างช้าๆ เขาสวมชุดสีแดงเข้ม หน้าตาหล่อเหลา เหมือนกับเป็นนักปราชญ์ แต่รังสีที่โผล่ออกมาจากตัวเขานั้นกลับทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว เพียงแค่มองผ่าน แม้แต่วิญญาณภายในร่างก็สั่นสะท้านขึ้นมา
เขาเดินย่างเข้ามาทีย่างก้าว ทุกย่างก้าวของอีกฝ่ายราวกับมีพลังวิญญาณก่อตัว พร้อมจะกลืนกินสรรพสิ่งโดยรอบ ทั้งแผ่นดินถูกเขาปกคลุมด้วยผ้าม่าน พื้นที่ทุกตารางนิ้วค่อยๆ ถูกปกคลุมด้วยความมืด จนกรอบเขาเดินมาถึงด้านหน้าของตำหนักหลัก ท้องฟ้าก็แปรเปลี่ยนเป็นสีดำในทันที
ไม่เหมือนกับความมืดมนตอนที่ยมราชปรากฏตัว แค่เปรียบเสมือนกับว่าทุกคนถูกลากเข้าโลกสีดำอีกใบ แม้แต่ต้นไม้ใบหญ้ารอบข้างตำหนักล้วนหายไป
ทั้งที่มุมปากของเขาเต็มไปด้วยรอบยิ้ม แต่ทุกคนกลับรับรู้ได้ถึงความหวาดกลัวที่ส่งออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ มีความอยากจะคุกเข่าลงไปอย่างห้ามไม่ได้ ในเวลานั้นเหมือนกับว่าความเป็นความตายของทุกคนล้วนขึ้นอยู่กับกับอีกฝ่าย
“ท่านมหาราช!” ยมราชทั้งหลายรับรู้ได้ในทันทีว่าคนตรงหน้าคือใคร ร่างยักษ์ของพวกเขาแปรเปลี่ยนกลับมาเป็นขนาดเท่าวิญญาณธรรมดา ก่อนจะคุกเข่าทำความเคารพไปยังอีกฝ่าย พร้อมกับพูดขึ้นอย่างพร้อมเพียง “ยมราชเมืองผีคารวะท่านราชายมโลก!”
นอกจาก…ไป๋อวี้!
เขากลายร่างกลับมาเป็นแบบเดิมเช่นกัน เขามองไปยังสหายที่คุกเข่าอย่างฉงน ก่อนจะมองไปยังชายหนุ่มหน้าตาคุ้นเคยตรงหน้า “อิ้งหลุน?”
ไก่อ่อนที่ปลูกผัก
ราชายมโลก?!
(⊙_⊙)
“สหายไป๋!” ราชาซิวหลิงที่คุกเข่าอยู่ด้านข้างตัวสั่นเทา ก่อนจะดึงแขนของชายแก่เบาๆ พร้อมกับส่งสายตาให้เขา “ท่ายคือราชายมโลก มิอาจเรียกชื่อจริงของท่านได้ รีบคุกเข่าลง!” ถึงแม้พวกเขาจะไม่เคยเจอหน้าราชายมโลก แต่พวกเขาสัมผัสได้!
“ฮะ?” ชายแก่ยังไม่รู้ตัว อาจเป็นเพราะว่าเขาเป็นคน ไม่ใช่วิญญาณ ทำให้ความรู้สึกที่มีต่อราชายมโลกมีส่วนขาดหายไป ดังนั้นจึงทำให้เขายังอยู่ไหนอาการงงงวย คนปลูกผักกลายเป็นราชายมโลกไปตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเขาไม่รู้
อิ้งหลุนไม่ได้ใส่ใจอะไร เพียงแต่พยักหน้าให้พวกเขา ก่อนจะเงยหน้ามองท่านมหาเทพทักษิณสวรรค์ด้านบน ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “ได้ยินว่าเจ้าอยากพบข้า?”
ท่านมหาเทพทักษิณสวรรค์ตกนะลึง ทั้งที่อีกฝ่ายพูดประโยคธรรมดา แต่กลับทำให้เขาเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา สีบนใบหน้าเปลี่ยนไปหลายต่อหลายครั้ง ทำไมถึงเป็นราชายมโลก! ราชายมโลกเป็นเพียงเรื่องเล่าไม่ใช่หรือ อีกทั้งยังไงหลับไหลเป็นเวลานาน ไม่ตื่นขึ้นมาง่ายๆ ทำไมถึงปรากฏตัวที่นี่
“ท่าน…”
“ขอโทษที ข้าไม่ค่อยชอบพูดกับคนเป็น” เขายังพูดไม่ทันจบ อิ้งหลุนก็พูดขัดขึ้น จากนั้นเขายกมือขี้น กวาดนิ้วไปมาบนอากาศจากซ้ายไปขวา
เห็นเพียงแต่บริเวณที่นิ้วของเขากวาดผ่าน พลังของเหล่าเทพที่อยู่บริเวณนั้นก็จะสลายไป วิญญาณภายในร่างกายไร้การควบคุม รางกับถูกอะไรบางอย่างดึงออกมา ก่อนที่จะปรากฏอยู่บนลานจัตุรัสด้านหน้าตำหนักของสำนักเทียนซือ เพียงแต่มาปรากฏเป็นร่างวิญญาณกึ่งโปร่งใสเท่านั้น
ในเวลานี้บนท้องฟ้าจึงเกิดปรากฏการณ์ประหลาด เห็นเพียงแต่เหล่าเทพที่ลอยอยู่กลางอากาศนั้นล่วงลงมาราวกับเกี๊ยวจนเต็มพื้นไปหมด อีกทั้งแต่ละคนยังไร้ซึ่งพลังชีวิต รวมไปถึงท่านมหาเทพทักษิณสวรรค์ด้วยเช่นกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปในชั่วพริบตาเดียว มือที่ยกขึ้นของอิ้งหลุนยังไม่ทันจะได้วางลงเสียด้วยซ้ำ ในขณะที่มือของเขายิ่งกวาดยิ่งเร็ว โชคดีที่อวิ๋นเจี่ยวตาไว ยกมือขึ้นรั้งแขนเขาเอาไว้
อย่ากวาดมั่วสิ! กวาดอีกก็ถึงตาสำนักเทียนซือแล้ว
อิ้งหลุนหันมามองอวิ๋นเจี่ยวทีหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะแก้เก้อ “อัยยะ ไม่ระวังกวาดมากไปหน่อย” เขาเห็นว่าศิษย์ตัวน้อยขอความช่วยเหลือคงจะตื่นเต้นมากไปหน่อย
หยวนเจียง: ”…”
เหวินชิง: ”…”
ศิษย์พี่น้องคนอื่น: “…”
เดี๋ยว! พวกเขาเป็นพันธมิตรกันไม่ใช่หรือ ทำไมวิญญาณของพวกเขาก็ถูกดึงออกมาด้วย?!
w(゚Д゚)w
พวกเขาหันกลับไปมองร่างของตนเองที่ตกลงมา อืม ยังดี เทียบกับสภาพของเทพคนอื่นที่ล่วงลงมา อย่างน้อยร่างของพวกเขาก็ยังมีลูกศิษย์เสวียนเหมินคอยรับเอาไว้
อิ้งหลุนเดินขึ้นหน้า กวาดตามองวิญญาณจำนวนมากมายตรงหน้า ก่อนจะหยุดอยู่ที่ท่านมหาเทพทักษิณสวรรค์ เขายังคงยิ้มอย่างอารมณ์ดี “เช่นนี้ค่อยพูดง่ายหน่อย ข้าเป็นเจ้าของยมโลก เจ้าหาทำไม”
“รา…ราชายมโลก!” ท่านมหาเทพทักษิณสวรรค์ทำหน้าเหลือเชื่อ อาจเป็นเพราะตนเองกลายเป็นวิญญาณ ทำให้รับรู้ถึงพลังของอีกฝ่ายได้มากยิ่งขึ้น ถึงจะเป็นมหาเทพแต่ก็ไม่อาจต้านพลังนั้นไว้ได้ เขารู้สึกเพียงวิญญาณหนักอึ้ง ก่อนจะคุกเข่าลงไปอย่างควบคุมไม่ได้ บนใบหน้าปรากฏความหวาดกลัวอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ช่างเป็นพลังที่น่ากลัวอะไรเยี่ยงนี้ เขาแทบจะไม่มีแรงขัดขืนได้เลยแม้แต่น้อย นี่…นี่คือราชายมโลกหรอกหรือ
ท่านมหาเทพทักษิณสวรรค์กัดฟันแน่น ก่อนจะก้มหน้าด้วยความจำใจ
“ล้วน…ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด? ไม่ทราบว่าราชายมโลกอยู่ที่นี่ เป็นความผิดของ…ของข้าเอง หวังท่านให้อภัย!”
“อ่อ?” อิ้งหลุนหัวเราะเสียงเบา “เข้าใจผิด?”
“เรียนท่านมหาราช!” ราชาซืวหลิงด้านข้างอดทนไม่ไห้ เดินขึ้นหน้าแล้วพูด “ไม่ใช่ความเข้าใจผิดอะไร! ท่านมหาเทพทักษิณสวรรค์กักขังวิญญาณนับหมื่นของยมโลกเพื่อเพาะเลี้ยงเส้นชีพจรเทพ อีกทั้งยังเคยปล่อยอสูรกลืนกินนภาเข้าเมืองซิวหลิง กลืนกินวิญญาณไปจำนวนไม่น้อยเช่นกัน เขายังวางแผนทำร้ายยมโลก ทำให้วิญญาณจำนวนมากสลายไป ตอนนี้การกระทำถูกเปิดโปง ยังไม่สำนึกผิด คิดจะทำร้ายยมราชทั้งเจ็ด วิญญาณหายไปจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดการเสียสมดุลแห่งหนทางสวรรค์ ขอให้ท่านมหาราชอย่าปล่อยคนเช่นนี้ไป”
“ท่านยมราชพูดเกินไปแล้ว!” ท่านมหาเทพทักษิณสวรรค์สีหน้าแปรเปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเขามีบางอย่างแวบผ่านไป ก่อนจะรีบพูดแย้งขึ้น “พวกข้าไม่ได้อยากจะเป็นศัตรูต่อยมโลก อีกทั้งไม่เคยวางแผนทำร้ายยมโลก ในนี้ต้องมีเรื่องเข้าใจผิด เส้นชีพจรเทพ อสูรกลืนกินนภาอะไรหัน ข้าเคยได้ยินเป็นครั้งแรก”
“ฉู่เหยียนสั่งให้มังกรกินเลี้ยงเส้นชีพจรเทพ แม้แต่วิญญาณยังยอมรับ ท่านมหาเทพยังคิดจะแก้ตัวอีกหรือ”
“ฉู่เหยียนเป็นเทพภายใต้ข้าก็จริง แต่เรื่องที่เขาทำข้าไม่รู้มาก่อน ทักทายสวรรค์มีความผิดละเลยหน้าที่ แต่พวกท่านไม่อาจใส่ร้ายว่าข้าเป็นคนสั่งใช่หรือไม่” พูดจบ เขาก็หันไปมองฉู่เหยียนที่อยู่ด้านหลัง พร้อมกับส่งสายตามีนัยยะให้อีก
ฉู่เหยียนตัวสั่นเทา ดวงตาที่เบิกโพลงมีหลากหลายความรู้สึก สุดท้ายเขาหลับตาลง ก่อนจะพยักหน้า “ข้าเอง…เป็นความคิดของข้า ท่านมหาเทพไม่รู้เรื่องนี้!”
“เจ้า…” ราชาซิงหลิงเดือดดาล อีกฝ่ายตั้งใจให้ฉู่เหยียนออกมาแบกรับความผิด หากไม่เกี่ยวกับเขา เหตุใดเขามาถึงก็จะฆ่าพวกเขาปิดปาก
“ฉู่เหยียนมีความผิดร้ายแรง ข้ามอบเขาให้ยมโลกเป็นผู้ลงโทษ ส่วนเรื่องความเสียหายของยมโลก ข้าเองก็เจ็บปวดยิ่งนัก ทางทักษิณสวรรค์ก็จะหาทางช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ”
ท่านมหาเทพทักษิณสวรรค์เผยสีหน้ารู้สึกผิดออกมา ทำให้ผู้คนที่เห็นนั่นต่างรู้สึกโมโหมากบิ่งขึ้น ข่างไร้ยางอาย!
“ช่วยเหลือ?” อิ้งหลุนพยักหน้า ก่อนจะยิ้มลึกมากยิ่งขึ้น “ต้องช่วยเหลือจริงๆ”
“ท่าน…” ราขาซิงหลิงพูด
“ขอบคุณราชายมโลกเห็นใจ!” ท่านมหาเทพทักษิณสวรรค์เผยรอยยิ้มได้ใจออกมา
อิ้งหลุนกวาดมองวิญญาณเหล่าเทพทีหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้น “เช่นนั้นก็ทำตามที่เจ้าพูดแล้วกัน ยมโลกของข้าขาดวิญญาณนับหมื่นไป ทักษิณสวรรค์ก็ต้องคืนวิญญาณนับหมื่นมาให้ข้า เรื่องนี้ก็ถือว่าน้อยไป ข้าเห็นว่าวิญญาณพวกเจ้าก็ไม่เลว ถือว่าเป็นกลุ่มแรก วันนี้ตามข้ากลับยมโลกเลยแล้วกัน!”
“อะไรนะ!” ท่านมหาเทพทักษิณสวรรค์ตกตะลึง
“พวกข้าขาดอะไรไป พวกเจ้าก็คืนอย่างนั้นมา ยุติธรรมดีแล้ว!”
“ไม่ ราชายมโลก…” เขาไม่ได้หมายความว่าเช่นนี้
อิ้งหลุนกลับหันไปมองไปไป๋อวี้
“ชายแก่ เปิดประตูผี!”
“ได้!”
ชายแก่เปิดประตูผีสีดำขนาดใหญ่อย่างคล่องแคล่ว ทันใดนั้นประตูบานยักษ์ก็ปรากฏขึ้นบริเวณหน้าตำหนักใหญ่
ท่านมหาเทพทักษิณสวรรค์ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง ก็ถูกราชายมโลกผลักเข้าเมืองผีไปแล้ว
ทักษิณสวรรค์…ดับยกทีม!