ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 295 การฝึกฝนของท่านมหาเทพ
อาจเป็นเพราะว่าตอนออกมาอยู่ห่างกันไม่ไกล ตำแหน่งที่สิงชางออกมาอยู่ข้างพวกเขาพอดี อีกฝ่ายจู่โจมพวกเขาอย่างไม่ลังเล ฝ่ามือถูกส่งออกมาทางไป๋อวี้
“ชายแก่!” อวิ๋นเจี่ยวร้องเสียงหลง ก่อนจะหยิบยันต์ใบหนึ่งออกมา ในขณะที่กำลังจะกระตุ้นยันต์ สิงชาง ราวกับคาดเดาการกระทำของนางได้ เขาเอี้ยวตัวหลบยันต์บนมือของนาง การโจมตีบนมือเปลี่ยนเป้าหมายไปทางขวาชายแก่ อีกฝ่ายไม่ประสงค์ที่จะทำร้ายเขา แต่เอื้อมมือออกไปหยิบสิ่งที่อยู่บนมือของเขาพร้อมถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
“หินเขตแดน!” ชายแก่คิดจะรั้งเอาไว้ แต่ไม่ทันการ สิงชางนำหินเขตแดนบินขึ้นไปกลางฟ้าแล้ว ส่วนเทพเซียนคนอื่นที่ถูกดีดออกมาล้วนมารวมตัวอยู่ข้างเขา ทันใดนั้นเหนือฟ้าของเมืองอี้เต็มไปด้วยเทพเซียนของแดนสวรรค์
อวิ๋นเจี่ยวขมวดคิ้วเล็กน้อย เดิมทีนางไม่คิดว่าจะออกจากดินแดนลับรวดเร็วเช่นนี้ ลูกศิษย์เสวียนเหมินด้านนอกยังอพยพไปไม่หมด เพียงแต่ไม่คิดว่า สีฝานจะมีประโยชน์เช่นนี้ เข้าไปไม่ถึงครึ่งนาทีก็หาหินเขตแดนเจอ อีกทั้งยังดีดคนด้านในออกมาจนหมด
“ฮ่าๆๆๆ …” สิงชางมองดูหินเขตแดนในมือ ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมา เพียงแต่ร่างที่เขามาเกิดในตอนนี้เป็นร่างของเด็กอายุสิบขวบ ดังนั้นจึงมีความขัดแย้งกัน เสียงหัวเราะที่ออกมาขาดพลังอำนาจ เขายิ่งหัวเราะยิ่งได้ใจ “พลังของดินแดนลับแห่งนี้เป็นของข้าแล้ว”
เขาพูดพลางทำสีหน้าตื่นเต้นราวกับมองเห็นเวลาที่ตนเองรวบรวมสามโลกเป็นหนึ่งเดียวแล้ว เขาเปิดผ้าที่ห่อหุ้มหินเขตแดนออก ก่อนจะผงะไป สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ “พวกเจ้าผูกมัดดินแดนลับแล้ว!”
ทั้งสามคนผงะ ก่อนจะพบว่าหินเขตแดนที่โปร่งใสดุจคริสตัลในเดิมทีกลายเป็นสีแดง ด้านบนประกายผนึกสัญญาอันหนึ่ง
อวิ๋นเจี่ยวและชายแก่หันกลับไปมองสีฝาน ก่อนจะนึกถึงเรื่องที่เขาล้มลงไป หรือว่าเลือดเมื่อครู่ทำให้ดินแดนลับเลือกเจ้าของ ดังนั้นพวกเขาจึงถูกดีดออกมา
“ฮึ! พวกเจ้าคิดว่าเช่นนี้จะสามารถหยุดยั้งข้าได้หรือ” สิงชาง มองผู้คนบนพื้นทั้งสามด้วยสายตาเย็นชา ความอาฆาตในดวงตายิ่งเพิ่มมากขึ้น สายตาที่มองพวกเขาทั้งสามราวกับกำลังมองคนตาย “ถึงจะมีสัญญาผูกมัดแล้วอย่างไร เพียงแค่ข้าดูดซับหินเขตแดนได้ จากนั้นกำจัดพวกเจ้าเสีย ข้าสามารถได้รับพลังจากภายในดินแดนลับได้เช่นเดียวกัน”
พูดจบ เขามองหินเขตแดนสีแดงในมือ ก่อนจะหยิบขึ้นมา จากนั้นอ้าปากกว้างแล้ว…กินลงไป…กิน..ลง…ไป!
อวิ๋นเจี่ยว “…”
ชายแก่ “…”
สีฝาน “…”
( ̄△ ̄;)
นาทีถัดมา
ทั้งสามคนหันหลังกลับ ก่อนจะส่งเสียงออกมาอย่างพร้อมเพรียง
อ้วก!
ท่านมหาเทพต้องทำถึงขั้นนี้หรือ มิน่ามหาเทพทั้งสี่ทิศแย่งชิงกันมานานหลายปีล้วนไม่มีใครสามารถขึ้นครองบัลลังก์นั้นได้ แค่คิดว่าสัญญาดินแดนลับนั้นใช้เลือดส่วนไหน ทั้งสามคนก็…
อ้วก!
“พวกเจ้ากำลังท้าทายข้าหรือ” เมื่ออีกฝ่ายเห็น ทั้งสามคนมองดูตนเองดูดกลืนหินเขตแดน ไม่เพียงแต่ไม่โกรธอีกทั้งยังอาเจียนออกมาพร้อมเพรียงกัน เขาจึงคิดสงสัยขึ้นมา ก่อนจะตรวจดูหินเขตแดนภายในร่างกาย หลังจากพบว่าไม่มีปัญหาแล้ว จึงวางใจ คิดว่าพวกเขาตั้งใจแสดงเช่นนี้
“ไม่ พวกข้าแค่เคารพท่าน!” ชายแก่พูด
“ฮึ! ไม่ต้องใช้กลอุบาย ไม่ว่าอย่างไรวันนี้พวกเจ้าก็ต้องตายที่นี่” สายตาของสิงชางเย็นชาลง เขาไม่ได้พูดพร่ำทำเพลง เพียงแต่นั่งขัดสมาธิกลางอากาศ พลางดูดซับพลังของหินเขตแดนในร่างกายพลางออกคำสั่ง “ฆ่าพวกเขาเสีย”
ทันใดนั้นเหล่าเทพเซียนบริเวณรอบตัวของเขาพุ่งลงมา ทั้งสามคนจึงต้องข่มความขยะแขยงภายในใจเอาไว้ ชายแก่หยิบยันต์สีทองออกมา ก่อนจะโยนไปข้างหน้า ทันใดนั้นเหล่าเทพเซียนหลายคนถูกระเบิดเข้า
“เจ้าหนู พลังเจ้าฟื้นแล้วหรือไม่” ชายแก่ถามเสียงต่ำ พลางยัดยันต์ให้อวิ๋นเจี่ยว
อวิ๋นเจี่ยวส่ายหัว นางพยายามลองดูดพลังเข้าร่างกาย เพียงแต่พลังลมปราณเข้ามาช้ามาก “คงจะไม่ทันการ”
“เจ้าแปะยันต์ป้องกันเอาไว้ให้ดี” ชายแก่กัดฟัน แสงสีทองบนตัวสว่างขึ้น พลางท่องคาถาพลางพูด “ข้าไปรั้งพวกเขาเอาไว้ ช่วยยื้อเวลาให้เจ้าวางค่ายกล ส่วนสีฝาน…”
เขายังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นเทพเซียนสองคนพุ่งอาวุธในมือไปยังสีฝานที่อ่อนแอที่สุด จากนั้น…พวกเขาก็ร่วงลงมา การจู่โจมของทั้งสองถูกตัวกันและกัน ก่อนจะล้มลงกับพื้น
“…ช่างเถิด ไม่ต้องสนใจเขา!” ชายแก่หันกลับไปทันที
“เอ๊ะ! เอ๊ะ?” สีฝานที่เพิ่งฝึกวิชาเวทอย่างง่ายไปไม่กี่วัน มือของเขาถือยันต์ป้องกันเอาไว้ สีหน้าเต็มไปด้วยความฉงน “อาจารย์…ข้า…ข้าต้องทำอย่างไร”
อวิ๋นเจี่ยวเหลือบตามองเขา ไม่ได้ตอบ เพียงแค่ถอยไปอยู่ด้านหลังเขา ทันใดนั้นนางก็พบว่าตำแหน่งนี้เหมาะกับการวางค่ายกลมากกว่า!
ต่อมาเรื่องราวต่างๆ ล้วนพัฒนาไปในทิศทางที่แปลกประหลาด สีฝานแสดงออกถึงผู้มีโชคอย่างสมบูรณ์แบบ การจู่โจมต่างๆ ที่พุ่งมาทางพวกเขา ไม่ถูกยันต์ป้องกันต้านเอาไว้ ก็ถูกโจมตีเบี่ยงเบนไปอีกทิศทาง หรือไม่ก็โดนพวกเดียวกันเอง ไม่มีกระทบตัวของพวกเขาแม้แต่น้อย แต่ชายแก่ที่อยู่หน้าสุดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ถึงแม้ชายแก่จะอายุมาก หน้าตาอัปลักษณ์ แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นศิษย์ชิงหยาง อีกทั้งยังเป็นยมราช กำลังจึงไม่ต่ำ แต่เขาก็ไม่อาจรับมือเทพเซียนที่จู่โจมพร้อมกันเป็นจำนวนมาก
ใช่ ต่อสู้จริงถึงได้รู้ เทพเซียนที่สิงชางพามาถึงจะมีหลายสิบคน แต่ละคนล้วนมีกำลังมาก พลังการจู่โจมเช่นนี้อย่าว่าแต่แย่งชิงดินแดนลับ แม้กระทั่งโจมตีสวรรค์ทิศใดทิศหนึ่งยังสามารถทำได้ เห็นได้ชัดว่าสิงชางมีความมั่นใจอย่างมาก มีความเป็นไปได้ว่าเขารู้เรื่องการปรากฏของดินแดนลับก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
เมื่อเห็นชายแก่เริ่มรับมือไม่ไหวอีกทั้ง เมื่อครู่เขาตั้งใจต้านทานการจู่โจมร่วมกันของเทพเซียนทั้งสามคน ทำให้เขาไม่ได้สังเกตเห็นคนด้านข้างที่จู่โจมออกมา ทำให้เขาถูกโจมตีร่วงลงมาจากกลางอากาศ
“ชายแก่!” อวิ๋นเจี่ยวตกใจ เทพเซียนจำนวนมากเหล่านั้นกลับใช้จังหวะนี้พุ่งตัวลงมา วิชาเวททั่วฟ้าส่องสว่างขึ้น ครานี้ถึงแม้สีฝานจะมีโชคมากแค่ไหนก็ไม่อาจต้านการโจมตีเหล่านี้ได้
ทันใดนั้น กำแพงแสงนับสิบสว่างขึ้นตรงหน้าต้านคนทั้งหลายเอาไว้ วิชาเวททั่วทั้งท้องฟ้ากระทบเข้ากับกำแพงแสง
“อาจารย์อวิ๋น!” เจ้าสำนักสวีติดยันต์ชั่วขณะวิ่งเข้ามา ด้านหลังตามมาด้วยเจ้าสำนักและท่านอาวุโสหลายสิบคน ทุกคนต่างมองนางด้วยความเป็นห่วง
“พวกท่าน…” อวิ๋นเจี่ยวผงะ เหตุใดพวกเขาวิ่งเข้ามา ไหนบอกว่าให้อพยพ