ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 342 หนึ่งวันพบสามครา
ปีศาจตนนั้นลงมือรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มบนพื้นไม่มีทางหลบหนีได้ ทำได้เพียงนอนโอดครวญอยู่บนพื้น พลังปีศาจที่มีไม่มากบนตัวเริ่มสลายไป ในขณะที่กำลังจะถูกตีจนตายนั้น ปีศาจหนุ่มร่างใหญ่ก็ยังคงไม่หยุดมือ
ชายแก่ขมวดคิ้ว ช่างโหดเหี้ยมเสียจริง เขาคิดจะเดินขึ้นหน้าไป แต่กลับถูกอวิ๋นเจี่ยวรั้งเอาไว้ เสียงหนึ่งดังเข้ามาในหูอย่างชัดเจน “ที่นี่คือดินแดนปีศาจ”
ชายแก่ผงะ ก่อนจะตั้งสติกลับมาได้ เขาหันไปมองรอบด้าน พบว่าไม่มีปีศาจตนใดคิดจะเข้าไปห้ามแม้แต่น้อย ราวกับคุ้นชินกับเหตุการณ์ตรงหน้านี้ อีกทั้งไม่มีแม้แต่ความสนใจที่จะหยุดดู พวกเขาต่างเดินผ่านไป หากเวลานี้เขาเข้าไปคงจะถูกจับได้
ปีศาจนั้นเหมือนจะเหน็ดเหนื่อยเสียแล้ว เขาเรียกพลังปีศาจจำนวนมากออกมาเพื่อจัดการอีกฝ่าย ทันใดนั้นแสงสีแดงปรากฏขึ้น กระทบเข้ากับท่อนไม้ในมือของปีศาจ
ได้ยินเพียงเสียงดังปัง ท่อนไม้ถูกระเบิดจนเหลือแต่เศษซาก ร่างสีแดงปรากฏขึ้นอยู่ด้านข้างคนทั้งสอง อีกฝ่ายเพียงแค่สะบัดมือ พลังปีศาจก็ปลดปล่อยออกมาจู่โจมปีศาจชายร่างใหญ่จนกระเด็นออกไป ก่อนที่ร่างนั้นจะกระทบเข้ากับพื้นเสียงดัง
“ผู้…ผู้พิทักษ์เย่!” ปีศาจที่ทำร้ายคนนั้นจำผู้ที่มาใหม่ได้ ภายในดวงตาฉายแววหวาดกลัว ร่างของเขาสั่นเทาขึ้นมา ก่อนจะรีบอธิบายเสียดัง “ข้า…ข้าเพียงแค่สั่งสอนคนเนรคุณแทนท่านผู้พิทักษ์…”
“เมื่อใดเกิดเรื่องของข้า เจ้าก็แทรกแซงได้” หญิงสาวสีหน้าดำทะมึน พลังอันมหาศาลพุ่งตรงไปยังอีกฝ่าย ในขณะที่ปีศาจตนนั้นกำลังจะยืดตัวตรงขึ้นก็ถูกกดจนหมอบลงไปอีกครั้ง ก่อนที่พลังปีศาจบนตัวสลายไปพร้อมอ้าปากอาเจียนเป็นเลือด
ในขณะที่กำลังจะถูกกดตาย หญิงสาวเก็บพลังกลับมา ก่อนจะพูดเสียงเย็น “ไปให้พ้น!”
สีหน้าของปีศาจตนนั้นเต็มไปด้วยความดีใจจากการรอดชีวิต “ขอรับๆๆ!” พูดจบก็ตะเกียกตะกายจากไปอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งอีกฝ่ายจากไปไกล หญิงสาวถึงได้หันหลังกลับมา สองคนถึงได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ทันใดนั้นภายในใจกระตุกไปหนึ่งที อีกฝ่ายคือหญิงสาวที่ชื่อเย่เจียนเถียนที่ไล่ล่าศัตรูหัวใจที่นอกเมืองคนนั้น ช่างเป็นพรหมลิขิตเสียจริง วันนี้พวกเขาพบกันถึงสามครั้งแล้ว
อวิ๋นเจี่ยวและชายแก่สบตาก่อน ก่อนจะหันหลังเดินจากไปอย่างไม่รีรอ
“หยุด!” หญิงสาวคนนั้นสังเกตเห็นคนทั้งสอง นางพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา
ทั้งสองคนตัวแข็งทื่อ อยากจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเรียกตนเอง แต่พลังปีศาจที่หลั่งไหลเข้ามากลับมีนัยยะการข่มขู่เต็มประดา พวกเขาก็ทำได้เพียงหยุดฝีเท้าลงอย่างจำยอม
ในขณะที่หันหลังกลับไป หญิงสาวชุดสีแดงสดคนนั้นก็เดินเข้ามาอยู่ตรงหน้าแล้ว นางขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะมองคนทั้งสองขึ้นลง จากนั้นพูดขึ้นด้วยความฉงน “ก่อนหน้านี้ข้าเคยเจอพวกเจ้าใช่หรือไม่”
ทั้งสองคนใจเต้นระรัว ราวกับได้ยินเสียงบางอย่างตกลงไป ชายแก่อยากจะส่ายหัวปฏิเสธอย่างมาก แต่อวิ๋นเจี่ยวรั้งเขาเอาไว้ได้ทันเวลา พร้อมชิงพูดขึ้นก่อน “พวกข้าเคยพบท่านตอนเข้าเมือง” หากปฏิเสธตอนนี้จะดูเป็นการแปลก
หญิงสาวราวกับนึกบางอย่างขึ้นได้ คิ้วของนางขมวดแน่นขึ้น ก่อนจะส่งเสียงเย็นในลำคอ พร้อมกร่นด่า “หญิงทรามนั้น…” แต่ความสงสัยบนใบหน้าลดลงไปไม่น้อย ในขณะที่กำลังจะพูดบางอย่างต่อ ชายหนุ่มที่ถูกทำร้ายปางตายนั้นคลานเข้ามาใกล้ ก่อนจะกอดขาของหญิงสาวอ้อนวอนขึ้นมา
“เถียนเอ๋อร์ ข้าผิดไปแล้ว! ข้าตาบอดถูกจี๋ซือหย่าหลอกลวง นางทำให้ข้ากลายเป็นเช่นนี้ ข้าไม่ได้ตั้งใจทรยศเจ้า ตอนนี้ข้ารู้แล้วคนที่ข้าชอบคือเจ้ามาโดยตลอด เถียนเอ๋อร์! ข้าผิดไปแล้วจริงๆ เจ้าให้อภัยข้าเถิด”
ชายหนุ่มผู้นั้นร้องไห้อ้อนวอน คำพูดเต็มไปด้วยความจริงใจ เพียงแต่ใบหน้าที่น่ากลัวของเขากลับทำให้คนดูขนลุก เย่เจียนเถียนก้มหน้ามองชายหนุ่มที่กอดขาของตนอยู่ ก่อนจะยกยิ้มเศร้าโศกที่เจตนาปั้นออกมา
“ศิษย์พี่หวัง ท่านรู้สึกผิดจริงหรือ”
“ใช่ๆ” เมื่อเห็นนางเริ่มโอนอ่อน ดวงตาของชายหนุ่มลุกเป็นประกาย พร้อมกับสำนึกผิดอย่างรวดเร็ว
“เถียนเอ๋อร์เจ้าเชื่อข้า! ข้ารู้สึกผิดจริงๆ ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว จี๋ซือหย่าเป็นหญิงทราม นางเข้าใกล้ข้าเพราะแก่นพลังปีศาจของข้า บนโลกนี้มีเพียงเจ้าที่ดีกับข้าที่สุด”
“เช่นนั้นหรือ” รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่เจียนเถียนยิ่งลึกขึ้น “รู้ผิดก็ดีแล้ว” นางก้มลงมองคนบนพื้น ราวกับไม่รังเกียจใบหน้าที่น่ากลัวของอีกฝ่าย อีกทั้งยังยื่นมือออกไปหาอีกฝ่ายด้วยท่าทีที่รักใคร่
ชายหนุ่มคิดจะเอื้อมมือออกไปจับ ในขณะที่ฉากละครชายเลวขอคืนดีกำลังจะเกิดขึ้นนั้น เย่เจียนเถียนกลับหมุนมือออก ไม่ได้จับมือของอีกฝ่ายเอาไว้ หากแต่บีบเข้าที่ลำคอของอีกฝ่าย ทันใดนั้นพลังรอบตัวหลั่งไหลออกมา พร้อมกับพูดออกมาด้วยเสียงเย็น “ผิดแล้ว ก็ต้องรับโทษ!”
พูดจบมือของนางบีบแน่น ได้ยินเพียงเสียงดังแครกเหมือนเสียงบางอย่างแตกหักไป ความตื่นเต้นภายในดวงตาของชายหนุ่มยังไม่ทันสลายก็หมดลมหายใจไปเสียก่อน
ไม่เพียงแต่อวิ๋นเจี่ยวและชายแก่ แม้แต่ปีศาจอื่นที่มุงดูอยู่รอบด้านก็ตกตะลึงในการพลิกผันของนาง สายตาที่มองไปยังอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความเกรงขาม
เย่เจียนเถียนสีหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง บนใบหน้าไร้ซึ่งความลังเลหรือเสียดาย อีกทั้งยังเอื้อมมือออกไปควักแก่นพลังบนร่างกายของอีกฝ่ายออกมา จากนั้นบีบอย่างรังเกียจ “จี๋ซือหย่าโหดเหี้ยมเสียงจริง เหลือแก่นพลังไว้ให้เจ้าเพียงเท่านี้” พูดจบก็ดูดกลืนเข้าไปในร่างกาย
เผ่าปีศาจแตกต่างจากเผ่าพันธุ์อื่น แก่นพลังปีศาจเป็นแหล่งพลังของพวกเขา แก่นพลังยิ่งใหญ่พลังปีศาจยิ่งมากและยิ่งแข็งแกร่ง ร่างบนพื้นสลายไปเป็นเถ้าธุลีตามการสลายไปของแก่นพลัง
หลังจากจัดการชายหนุ่มนั้นเสร็จสิ้น เย่เจียนเถียนถึงได้หันหน้ามา “พวกเจ้าทั้งสอง!”
“…” อวิ๋นเจี่ยวและชายแก่ใจหล่นวูบ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยังจำพวกเขาได้
นางกลับพูดด้วยน้ำเสียงสบาย “ผู้ติดตามของข้าถูกหญิงทรามฆ่าตายเมื่อวาน ข้าหาคนมาแทนยังไม่ได้ ข้าถูกชะตาพวกเจ้า เช่นนั้นพวกเจ้าติดตามข้าแทนแล้วกัน!” พูดจบก็หันหลังเดินมุ่งไปด้านหน้า ไม่สนใจว่าพวกเขาจะตามทันหรือไม่
อวิ๋นเจี่ยวและชายแก่: ”…” ไม่คิดว่าการเดินเล่นเมืองปีศาจจะเจอเข้ากับการรับสมัครบ่าวรับใช้อย่างบังคับ พวกเขาปฏิเสธได้หรือไม่
ทั้งสองคนสบตากัน รอบด้านมีปีศาจมากมายจับตาดูอยู่ พวกเขาไม่อาจปฏิเสธได้ จึงทำได้เพียงเดินตามขึ้นไป คิดจะหาจังหวะค่อยหนีไป แต่สิ่งที่น่าประหลาดคือ หลังจากสิ้นเสียงของเย่เจียนเถียน เหล่าปีศาจรอบด้านต่างหันมามองพวกเขาทั้งสอง ราวกับพวกเขาได้เปรียบอะไรบางอย่าง
ทั้งสองคนฉงน ปีศาจที่ชื่อเย่เจียนเถียนคงจะมีฐานะไม่ธรรมดาในเมือง อีกฝ่ายคำพูดของทั้งสองที่นอกเมือง พวกเขาก็พอจะเดาเหตุการณ์ละครน้ำเน่าออกบ้างแล้ว ชายหนุ่มที่ถูกนางฆ่าตายคือศิษย์พี่หวังที่พวกนางพูดถึงตอนต่อสู้
ชายหนุ่มคงจะเป็นคู่รักกับเย่เจียนเถียนในตอนต้น แต่เปลี่ยนใจไปรักใคร่กับหญิงสาวที่ชื่อจี๋ซือหย่า สุดท้ายอีกฝ่ายกลับตั้งใจมาขโมยแก่นพลังปีศาจของเขา ทำให้เขากลายเป็นสภาพก่อนหน้านี้
ช่างเป็นบทละครน้ำเน่าเสียจริง!