ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 367 อุบัติเหตุลิฟต์
อวิ๋นเจี่ยวพูดพลางเดินเข้าไปในลิฟต์ แต่หญิงชราไม่ยอม เธอเดินตามเข้ามาทันที “ไม่ได้! เธอจะไปไม่ได้ พูดอย่างกับยายแก่อย่างฉันไปใส่ร้ายเธออย่างนั้น! ฉันเป็นคนอย่างนั้นเหรอ เธออย่า…”
“เคสด่วน คนด้านหน้าหลบทางหน่อย!” เธอยังพูดไม่ทันจบ ผู้คนในลิฟต์ต่างขยับตัว ทันใดนั้นคนที่เข้าลิฟต์มาเมื่อสักครู่เดินออกไปกว่าครึ่ง เห็นเพียงพยาบาลสองคนกำลังเข็นผู้ป่วยที่ทั้งตัวอาบไปด้วยเลือดวิ่งเข้ามา อาการของผู้ป่วยสาหัสอย่างมาก ราวกับกำลังจะเข็นไปยังห้องผ่าตัด
อวิ๋นเจี่ยวและหญิงชราก็คิดจะเดินออกจากลิฟต์เช่นเดียวกัน แต่พยาบาลเข็นผู้ป่วยเข้ามาด้านในแล้ว ตำแหน่งของพวกเธออยู่ด้านในสุดพอดี หากเบียดออกไปตอนนี้กลับเป็นการทำให้เสียเวลา ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่ได้เคลื่อนไหวตัวอย่างพร้อมเพรียง หญิงชราที่ไม่ยอมความเมื่อครู่ก็เงียบสงบลงทันใด ราวกับเกรงว่าจะรบกวนการช่วยเหลือคน
พยาบาลสองคนนั้น คนหนึ่งหยิบกุญแจออกมากดไปที่ชั้นห้า ส่วนอีกคนกำลังปั๊มหัวใจให้ผู้ป่วย แต่อาการของผู้ป่วยดูเหมือนจะย่ำแย่มาก ไม่มีทีท่าจะมีลมหายใจกลับคืนมา บนร่างกายเต็มไปด้วยเลือด อีกทั้งยังสามารถเห็นเศษแก้วที่ติดอยู่บริเวณบาดแผล แขนขาคดงออย่างไม่เป็นธรรมชาติ คาดว่ามาจากอุบัติเหตุรถยนต์
อวิ๋นเจี่ยวยังไม่ทันได้ดูอย่างละเอียด ลิฟต์ก็เดินทางใกล้ถึงแล้ว แต่บริเวณรอบด้านเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นมา ด้านนอกส่งเสียงแหลมแสบหูขึ้น ลิฟต์ที่กำลังขึ้นไปด้านบนหยุดชะงัก ค้างไว้บริเวณชั้นสี่นิ่ง
“เกิดอะไรขึ้น มาเสียตอนนี้!” พยาบาลทั้งสองคนตกตะลึง ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในช่วงเวลาคับขัน
“พี่หลิง ทำอย่างไรดี” พยาบาลที่กดลิฟต์หันมามองพยาบาลอายุมากกว่าที่กำลังปั๊มหัวใจไม่หยุด
“แจ้งข้างนอกว่าลิฟต์เสีย ให้รีบส่งคนมาช่วย บอกว่าด้านในมีผู้ป่วยฉุกเฉิน!” พยาบาลอายุมากกว่าพูด
“ค่ะ!” พยาบาลอายุน้อยรีบกดปุ่มฉุกเฉินภายในลิฟต์ แต่ได้ยินเพียงเสียงสัญญาณ “กดไม่ติดค่ะพี่หลิง เหมือนว่าปุ่มก็เสียด้วย”
“ทำไมบังเอิญขนาดนี้!” สีหน้าของพยาบาลอายุมากกว่าซีดเผือดลง “มือถือล่ะ ใช้มือถือโทร!”
พยาบาลรีบควักโทรศัพท์มือถือออกมาดู สีหน้าแย่ลงกว่าเดิม “ไม่มีสัญญาณ!” พูดจบก็หันไปมองอวิ๋นเจี่ยวและหญิงชราที่อยู่ในลิฟต์
ทั้งสองคนต่างควักโทรศัพท์มือถือออกมา แต่ก็พบว่าไม่มีสัญญาณ
“ของฉันก็ไม่มีสัญญาณ!”
“ฉันก็ด้วย!”
พยาบาลรู้สึกสิ้นหวัง ทำได้เพียงตะโกนออกไปด้านนอกเสียงดัง “ด้านนอกมีใครอยู่ไหม ลิฟต์เกิดเหตุขัดข้อง รบกวนช่วยแจ้งที”
แต่แล้ว…ไม่มีสัญญาณตอบรับ!
ตามหลักแล้วตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน โรงพยาบาลยังมีคนอยู่จำนวนมาก อีกทั้งพวกเธอใช้ลิฟต์แขกเป็นการชั่วคราว คนควรจะมีจำนวนมากยิ่งกว่า แต่เวลานี้ด้านนอกเงียบสงัด ราวกับไม่มีใครได้ยินเสียงพวกเธอแม้แต่น้อย
“พี่หลิง ทำอย่างไรดีคะ” พยาบาลอายุน้อยแทบจะร้องไห้ออกมา พวกเธอรอได้ แต่ผู้ป่วยรอไม่ได้!
“เธอมาแทนพี่ก่อน!” พยาบาลอายุมากเหน็ดเหนื่อยจนเหงื่อท่วมตัว ภายในดวงตาฉายแววร้อนใจ ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้
พยาบาลอายุน้อยรีบรับงานปั๊มหัวใจแทนทันที พยาบาลอายุมากสะบัดแขนที่เมื่อยล้าพร้อมเข้าไปตรวจเช็คปุ่มฉุกเฉินภายในลิฟต์ ก่อนจะพบว่าปุ่มนั้นใช้การไม่ได้จริง จึงไม่รู้จะทำอย่างไรในเวลาหนึ่ง
“หรือไม่งัดออกเลยเถอะ เวลาไม่คอยใคร” หญิงชราที่อยู่ด้านในสุดเสนอ
พยาบาลอายุมากผงะไป ลังเลเล็กน้อย การกระทำนี้อันตรายเกินไป
“โอย กลัวอะไร! ยังไงก็ต้องลอง!” หญิงชราพูดอย่างร้อนใจ “ฉันเคยเห็นพวกที่ช่วยคนติดลิฟต์ในหมู่บ้าน ล้วนงัดประตูออกโดยตรง พวกเธอไม่ได้รีบช่วยคนหรือ เร็วเข้า!”
พูดจบ เธอเดินเบียดจากข้างเตียงออกไป ก่อนจะงัดประตูลิฟต์ขึ้นมาทันที พยาบาลอายุมากเห็นที กัดฟันช่วยกันงัดอยู่อีกด้าน
แต่ไม่ว่าทั้งสองจะออกแรงอย่างไร ประตูลิฟต์นั้นไม่ขยับแม้แต่น้อย ราวกับถูกเชื่อมตายเอาไว้ งัดไปสักพักทั้งสองคนก็หอบหายใจเหนื่อย หญิงชราหันกลับมามองอวิ๋นเจี่ยว “นี่ นังหนูทางนั้น เธอจะยืนบื้อทำไม รีบเข้ามาช่วยสิ?!”
อวิ๋นเจี่ยวขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาจับจ้องไปยังประตูลิฟต์ เธอตาฝาดเหรอ ทำไมเธอเห็นสิ่งที่คล้ายควันสีเทากลุ่มหนึ่งกำลังลอยอบอวลอยู่บริเวณประตูลิฟต์
เธอขยี้ตา ไม่ได้คิดอะไรมาก ในขณะที่กำลังจะเบียดตัวออกไป พยาบาลอายุน้อยที่กำลังช่วยคนอยู่นั้นตะโกนออกมา “พี่หลิง หัวใจและชีพจรของเขาหยุดเต้นแล้ว”
ทั้งสองคนที่กำลังงัดประตูผงะ หันหน้ากลับมามองผู้ป่วยที่เต็มไปด้วยเลือดบนเตียงพร้อมกัน พยาบาลอายุมากรีบเดินเข้าไปฟังการเต้นของหัวใจ ก่อนจะตรวจเช็คร่างกายอีกครั้ง สีหน้าของเธอห่อเหี่ยวลง มองไปยังนาฬิกาด้านหน้าอย่างโศกเศร้า “บันทึกเวลาการเสียชีวิต วันที่ เดือน ปี เวลา สิบหกนาฬิกาสี่สิบห้านาที”
พยาบาลอายุน้อยกำลังจะจดบันทึกด้วยสีหน้าเศร้าโศก แต่อวิ๋นเจี่ยวที่อยู่ด้านข้างยื่นมือจับชีพจรของคนบนเตียง ถึงแม้ภายนอกจะไม่มีการขยับขึ้นลง แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าภายในร่างกายของอีกฝ่ายมีพลังเย็นยะเยือกแปลกประหลาดกลุ่มหนึ่งกำลังไหลเวียนราวกับปิดบังข้อมูลจริงบางอย่างไป
มองไปยังหน้าอกของอีกฝ่าย เห็นเพียงพลังสีขาวเลือนรางราวกับหมอกควันกำลังสลายไป นี่คือ…พลังชีวิต?!
แทบจะเป็นการตอบสนองในเสี้ยววินาที เธอเอื้อมมือจับที่กระเป๋ากางเกงของตนเอง ทั้งที่จำได้ว่าในกระเป๋าของตนเองไม่มีสิ่งของ แต่กลับหยิบห่อเข็มสีทองที่คุ้นตาออกมา ภายในสมองเต็มไปด้วยความรู้แปลกประหลาดต่างๆ ดังนั้นเธอจึงสะกิดให้พยาบาลอายุมากหลบออกไป “หลบออกไปให้ฉันดูหน่อยได้ไหมคะ”
ไม่เพียงแต่พยาบาลอายุมาก แม้แต่พยาบาลอายุน้อยและหญิงชราต่างผงะไป พวกเธอหันหน้ามามองอวิ๋นเจี่ยวอย่างพร้อมเพรียง หญิงชราพูดออกมาทันที “นังหนู อย่าทำเป็นเล่น…”
“ฉันเป็นหมอของโรงพยาบาลอันดับหนึ่ง!” ไม่รออีกฝ่ายพูดจบ อวิ๋นเจี่ยวก็พูดขัดขึ้น
พยาบาลทั้งสองดวงตาลุกวาวเป็นประกาย พวกเธอรีบถอยออกไป อวิ๋นเจี่ยวหยิบเข็มเงินในมือขึ้นมา ทั้งที่จำได้อย่างชัดเจนว่าตนเองไม่รู้วิธีการฝังเข็ม แต่ร่างกายราวกับมีความคิดของตนเอง หยิบเข็มขึ้นมาฝังลงไปในจุดต่างๆ บนร่างกายของอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเล
เพียงแค่ไม่กี่เข็ม พลังชีวิตที่ใกล้จะสลายไปจนหมดสิ้นบนหน้าอกของอีกฝ่ายถูกกักเอาไว้ทันที อีกทั้งตามการฝังเข็มของเธอ พลังเย็นในร่างกายของคนนั้นกำลังถูกขับออกจากร่างกาย ไม่ถึงชั่วครู่ก็ถูกกำจัดจนหมดสิ้น
“มี…มีชีพจรแล้ว!” พยาบาลอายุน้อยที่จับมือของอีกฝ่ายเอาไว้พูดออกมาอย่างตกตะลึง เธอมองดูร่างกายของผู้ป่วย “หน้า…หน้าอกขยับแล้ว หัวใจและลมหายใจกลับมาปกติแล้ว!”
น่าเหลือเชื่อเสียจริง! สายตาของพยาบาลอายุน้อยที่มองมายังอวิ๋นเจี่ยวราวกับกำลังประกายแสง
“คุณ…คุณเป็นแพทย์แผนจีนเหรอคะ” โทรทัศน์ไม่ได้หลอกเธอจริงด้วย แพทย์แผนจีนช่างลึกล้ำ!