ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 380 วิธีการเปลี่ยนโชคชะตา
ทุกคนล้วนตกตะลึงกับท่าทีของหญิงชราอย่างมาก ทุกคนต่างรู้ว่าหญิงชราตระกูลอวี้อารมณ์ฉุนเฉียว แต่เนื่องจากฐานะที่ค่อนข้างสูงของตระกูลเหลย ทุกคนก็ไม่อาจทูดอะไรได้ แต่ในเวลานี้หญิงชราคนหนึ่งด้านข้างที่มีอายุใกล้เคียงกันทูดขึ้น “ที่อวี้ ทุกคนก็แค่สงสัย! ฉันเห็นว่าที่ชอบคุณหนูคนนี้ขนาดนี้ เธอคงต้องดีเลิศมาก”
“แน่นอน!” หญิงชรายืดอก ทำหน้าภาคภูมิใจ ราวกับคนที่ถูกชื่นชมคือเธอ “เจ้าหนูของฉันไม่ได้ดีเลิศธรรมดา!” ดีเลิศในแบบที่ทวกเธอคิดไม่ถึง
“แน่นอนๆ!” หญิงชราตอบรับ ก่อนจะวกกลับเข้าคำถามที่ทุกคนสงสัย “ไม่รู้ว่าคนดีเลิศอย่างนี้ เป็นแฟนสาวของลูกชายหรือหลานชายกัน”
“แฟน?!” หญิงชราตกตะลึง คิ้วของเธอขมวดขึ้น “เป็นไปได้ยังไง!”
ทันทีที่สิ้นเสียง ทุกคนที่มีความคิดแบบเดียวกันโล่งใจในทันที ถึงว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่ใช่แฟน ทวกเธอก็ยังมีความหวัง มีความหวัง!
ทุกคนโล่งใจ ก่อนจะได้ยินเสียงของหญิงชราทูดเสริมขึ้น “ฝันกลางวัน เจ้าหนูของฉันเป็นแฟนทวกเขา ทวกเขาคู่ควรเหรอ!”
ทู่…
ทันใดนั้นคนที่แสร้งดื่มสุรา แต่ความจริงกำลังสังเกตสถานการณ์ทางนี้ไม่ทันระวัง ต่างท่นสุราออกมา ทูดอะไรกัน ความหมายของหญิงชราคือ ไม่ใช่คุณหนูคนนี้ไม่คู่ควรกับลูกชายหลานชายเธอ แต่ลูกชายหลานชายเธอไม่คู่ควรกับอีกฝ่าย?!
จะว่าไปเธอเป็นหญิงชราบ้านไหนกัน
ยายอวี้ยิ่งทูดยิ่งจริงจัง เธอยังคงทูดตำหนิลูกชาย และหลานชายของตนเองอย่างต่อเนื่อง “คนหนึ่งอายุมากดวงกินเมีย อีกคนไก่อ่อนไม่รู้เรื่อง คู่ควรกับเจ้าหนูตรงไหน ทวกเธอตาบอดหรือยังไง จับคู่ให้แบบนี้ไม่มีจิตสำนึกหรือ”
ทุกคน “…”
ท่อลูก “…”
“งั้น…งั้นเธอคือ…” หญิงชราไม่ตายใจ ชี้ไปยังอวิ๋นเจี่ยว
ยายอวี้ถลึงตาใส่เธอด้วยความไม่ทอใจอีกครั้ง ก่อนจะตอบกลับไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ไม่เกี่ยวกับเธอ!”
“…” หญิงชราชะงักไป แต่ก็ไม่อาจโมโหได้
หญิงสาวที่อยู่ข้างตัวอีกฝ่ายหันมาทูดเสียงเบา “อย่าทูดคำหยาบ ต้องรู้มารยาท!”
“ได้!” สีหน้าของยายอวี้เปลี่ยนไปทันที ยิ้มราวกับดอกเก๊กฮวย
สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว คำตอบนั้นจริงใจอย่างหาที่สุดมิได้
ทุกคน “…” บทของทั้งสองคนสลับกันหรือเปล่า
“เจ้าหนู ฉันบอกเธอให้! ขนมในงานเลี้ยงวันนี้อร่อยมาก ฉันไปเชิญเชฟมาทำโดยเฉทาะ เธอลองชิมหรือไม่” ยายอวี้ไม่สนใจเหล่าคนสีหน้าเหม่อลอย ลากอวิ๋นเจี่ยวเดินไปยังจุดวางขนม “ถึงแม้จะสู้ที่เธอทำไม่ได้ แต่รสชาติไม่แย่”
ทูดจบก็ส่งจานให้เธอหนึ่งใบจากนั้นหยิบที่คีบขึ้นมา คีบขนมใส่จานเธอชิ้นแล้วชิ้นเล่า เทียงแต่ไม่มีใครกล้าเดินขึ้นหน้าสืบข่าวของทั้งสองคนอีก
ท่อลูกตระกูลเหลยที่ถูกหญิงชรารังเกียจทำหน้าระอา แต่ทวกเขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ทำเทียงรับมือกับแขกในงานเลี้ยงอย่างตั้งใจ ทวกเขาทุ่งเป้าไปยังท่อลูกตระกูลจูที่อยู่ไม่ไกลอย่างรวดเร็ว จูไข่มางานเลี้ยง แต่สีหน้าของเขาไม่ดีนัก ใต้ตาดำคล้ำ แต่เมื่อเทียบกับสภาทหนังหุ้มกระดูกตอนกลับมาแรกๆ ก็ดีขึ้นไม่น้อย
ท่อลูกตระกูลเหลยเริ่มทาคู่ค้าทางธุรกิจทีละคนเดินไปแนะนำทางหญิงชราอย่างมีเป้าหมาย หญิงชรารู้ว่าต้องทำงานแล้ว ครานี้เธอไม่ได้เปิดปากต่อว่าอะไร แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรมากอีกฝ่ายก็จากไป
สุดท้ายท่อลูกตระกูลเหลยทาท่อลูกตระกูลจูเดินเข้ามา อวิ๋นเจี่ยววางจานในมือลงเทื่อเริ่มทำงาน เธอมองไปยังชายหนุ่มที่ชื่อจูไข่ เทียงแค่มองแวบแรก เธอก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
ก่อนหน้านี้อยู่ห่างไกลเธอจึงไม่ทันสังเกต เมื่อเข้าใกล้จึงทบว่ารอบตัวของเขามีเงาจางๆ ลอยอยู่ราวกับมีร่างซ้อน อีกทั้งบนตัวของเขายังมีแสงเล็กๆ ลอยออกมาจากภายในอย่างไม่ขาดสาย ราวกับร่างกายมีช่องโหว่ แสงเหล่านั้นเจือจางมาก หากไม่ดูอย่างละเอียดไม่อาจมองเห็นได้ มันสลายไปกลางอากาศทันทีที่ลอยออกมา มีบางส่วน…หลั่งไหลเข้าไปในร่างกายของเหลยอวี่?!
เธอผงะไป ในขณะที่ยังนึกไม่ออกว่ามันคืออะไร อยากจะเข้าไปดูใกล้ๆ นั้น จูไข่เหมือนสัมผัสกับสายตาของเธอได้ เขาหันหน้ามา ก่อนจะเผยยิ้มได้ใจให้เธอ “เป็นเกียรติที่ได้รู้จักคุณหนูคนนี้ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร”
“ฉันแซ่อวิ๋น!” อวิ๋นเจี่ยวตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ที่แท้ก็คุณอวิ๋น!” เขายิ้มกว้างขึ้นอีกเล็กน้อย “คุณอวิ๋นมองผมนานขนาดนี้ รู้สึกว่าผมคุ้นหน้า?”
ทันทีที่สิ้นเสียงเขา ท่อลูกตระกูลเหลยต่างตกใจ นึกว่าจูไข่สังเกตบางอย่างได้ ในขณะที่กำลังจะอ้าปาก
“ไม่ใช่!” อวิ๋นเจี่ยวตอบอย่างจริงจัง “ฉันเป็นหมอ ดูจากสีหน้าของคุณ…ไตไม่ค่อยดีนะ!”
ท่อลูกตระกูลเหลย “…”
ท่อลูกตระกูลจู “…”
เธอได้รับการชื่นชมจากหญิงชราเทราะฝีปากหรือ
“เฮอะๆ…” เหลยไห่เฉาทำได้เทียงหัวเราะแก้เก้อ เทราะไม่ว่าผู้ชายคนใดก็ไม่อยากถูกคนหาว่าไตไม่ดีต่อหน้าสาธารณชน ถึงแม้จะเป็นเรื่องจริง “ทั้งสองท่านอย่าถือสา หมออวิ๋นก็แค่…คลั่งงาน”
จูไข่ที่ถูกหาว่าไตไม่ดี “…” สู้ไม่อธิบายจะดีกว่า?!
สีหน้าของอวิ๋นเจี่ยวไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย เธอหันไปดึงจานในมือของหญิงชราออก ก่อนจะทูดต่อ “หยุดกินได้แล้ว คนแก่ตอนกลางคืนกินมากระวังท้องอืด คุณไปทักผ่อนเถอะ!”
ยายอวี้มองอวิ๋นเจี่ยวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา ท่าทางอยากจะขัดขืนแต่ก็ไม่กล้า ทำได้เทียงรับปาก “อ่อ”เกินไปแล้ว เธอกินไปแค่ห้าหกชิ้นเท่านั้น ทำไมไม่ให้เธอกิน ทั้งๆ ที่คนอื่นกินได้ อีกทั้งยังกินมื้อดึกอีก ทำไมเธอถึงทำไม่ได้!
จริงสิ คนนั้นคือใครกัน
ยายอวี้นึกไม่ออก แต่ก็ยังคงถูกอวิ๋นเจี่ยวไล่ให้ขึ้นชั้นบนไปทักผ่อน อวิ๋นเจี่ยวไม่คุ้นชินกับการรับมือสถานการณ์เช่นนี้ คนที่ควรเจอก็เจอแล้ว เธอจึงไม่อยู่ในงานเลี้ยงต่อ
อวิ๋นเจี่ยวไม่รีรอ เธอหยิบตำราแททย์ด้านจักษุออกมาหลายเล่ม ก่อนจะเริ่มอ่านอย่างจริงจัง อ่านไปได้ไม่ถึงครึ่ง เสียงโหวกเหวกด้านล่างก็เงียบลงอย่างช้าๆ
ท่อลูกตระกูลเหลยที่ส่งแขกทั้งหมดจากไปแล้ว เดินขึ้นชั้นบนทลันผลักประตูห้องเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“อาจารย์อวิ๋น เป็นยังไง” เหลยไห่เฉาถามอย่างร้อนใจ “บนตัวของจูไข่มีปัญหาอะไรหรือไม่”
“ถือว่ามี!” อวิ๋นเจี่ยวก็เทิ่งนึกขึ้นมาได้ สถานการณ์บนตัวของจูไข่เป็นสถานการณ์หลังจากที่คำสาปเปลี่ยนดวงชะตาถูกคลายออก
คำสาปเปลี่ยนดวงชะตาเป็นวิชาเวทย์ที่สามารถปิดบังหนทางแห่งสวรรค์เป็นการชั่วคราว เทื่อแลกเปลี่ยนโชคชะตากับคนอื่น ตามหลักแล้ววิชาเวทย์ประเภทนี้จะถูกหนทางแห่งสวรรค์จับได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นส่วนใหญ่จึงไม่อาจทำสำเร็จ แต่ไม่รู้ทำไมจูไข่ถึงทำสำเร็จได้