ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 398 ดินแดนลวงกลางเขา
ทุกคนเดินมุ่งหน้าขึ้นเขาไป อาจเป็นเพราะฤดูร้อน ต้นไม้ใบหญ้าบนภูเขาเติบโตอย่างหนาแน่น วัชพืชสูงกว่าคนเสียอีก พวกเธอปีนขึ้นมาอย่างยากลำบาก อีกทั้งเป็นเวลากลางคืนยากต่อก การแยกแยะทิศทาง ถึงแม้ผนึกนั้นจะเป็นฝีมือของนายท่านเผย แต่ผ่านไปเป็นเวลานานเพียงนี้ พวกเธอสามารถตามหาหมู่บ้านนี้เจอก็ไม่เลวแล้ว ใครจะยังจำทางขึ้นเขานี้ได้อีก
อวิ๋นเจี่ยวทำได้เพียงปีนขึ้นไปตามทิศทางของพลังสีแดง เธอมีลางสังหรณ์ว่าปีศาจงูถูกผนึกอยู่บริเวณนั้น คนทั้งคณะเดินทางอยู่บนภูเขากว่าครึ่งชั่วโมงภายใต้แสงของไฟฉายและพระจ จันทร์ วัชพืชบริเวณรอบด้านลดน้อยลง ทิวทัศน์ด้านหน้ากว้างมากขึ้น อีกทั้งยังเผยให้เห็นเส้นทางขนาดเล็ก
“เอ๊ะ? มีหมอกขึ้น!” มีคนพูดขึ้นมา
อวิ๋นเจี่ยวผงะ เธอหันไปมองรอบด้าน ก่อนจะพบว่ามีหมอกขาวจางๆ ปรากฏขึ้น เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ตามหลักแล้วมีหมอกขึ้นในภูเขาเป็นเรื่องปกติอย่างมาก แต่เธอรู้สึกมีบางอย่างผิดปก กติ
“ทุกคนระวัง อย่าเดินหลง” เธอพูดเตือน ก่อนจะเดินไปด้านหน้าต่อ
หมอกบริเวณรอบด้านหนาแน่นมากขึ้น ทำให้มองไม่เห็นระยะที่ห่างออกไปเพียงสามสี่เมตรด้านหน้า แต่บริเวณรอบด้านสว่างขึ้นอย่างมาก แม้แต่เส้นทางด้านหน้าก็ราบรื่นขึ้น วัชพืชรอบด้าน เหมือนถูกเก็บกวาด สะอาดขึ้นไม่น้อย
“เจ้าหนู ด้านหน้าเหมือนมีบางอย่าง” ยายอวี้ที่เดินตามอยู่ด้านข้างดึงมุมเสื้อของอวิ๋นเจี่ยว ชี้ไปด้านหน้าระยะสี่ห้าเมตร
“ถือยันต์ป้องกันไว้ให้ดี” อวิ๋นเจี่ยวเตือน
“วางใจ พกอยู่ตลอด!” ยายอวี้ตบอก
“อืม” อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า ก่อนจะเดินไปด้านหน้าต่อ ในขณะที่เดินออกมาได้สี่ห้าเมตร ทิวทัศน์ตรงหน้าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน หมอกขาวนั้นราวกับถูกดูดไปจนหมดสิ้น หายไปอย่างไร้ร่ องรอย ป่าไม้ที่หนาแน่นก็หายไป ด้านหน้าเผยให้เห็นพื้นราบขนาดกว้าง ด้านบนมีบ้านดินหลายหลัง ด้านข้างมีแปลงนาสีเขียว
“ทำไมบนภูเขานี้ยังมีอีกหมู่บ้าน!” คนที่เข้ามาล้วนผงะ มองดูทิวทัศน์ด้านหน้าด้วยความฉงน บริเวณแห่งนี้หลายสิบลี้ไม่ควรจะมีคน
“เอ๊ะ ทำไมหมู่บ้านนี้คุ้นตาจริง” มีคนพึมพำออกมา
“รีบดูแม่น้ำนั้นเร็วเข้า! สายเดียวกับตอนที่เราเข้าหมู่บ้านเซียนหยวนไม่ใช่เหรอ” อีกคนชี้ไปยังเส้นทางเล็กที่ห่างออกไปไม่ไกลด้านหน้า
“ใช่! แม่น้ำสายนั้น ฉันจำได้!” มีคนตอบรับ “พวกเราเดินกลับหมู่บ้านอีกแล้วเหรอ”
“…”
สีหน้าของทุกคนซีดเซียวลง เพราะว่าไม่ต้องตอบก็พอจะเดาได้ว่าหมู่บ้านตรงหน้าไม่ใช่หมู่บ้านที่ผ่านมาเมื่อครู่ หมู่บ้านแห่งนั้นพังทลายลงไปตั้งแต่หลายสิบปีก่อนแล้ว แต่หมู่บ้า านตรงหน้านี้แตกต่างกัน บ้านเรือนด้านในครบสมบูรณ์ ไม่ได้ถูกทิ้งร้าง ริมทางไม่มีแม้แต่วัชพืช แสดงให้เห็นว่ามีคนผ่านไปมาบ่อยครั้ง
“ฟ้าสว่างแล้ว!” มีคนชี้ไปยังมุมขวาบน เห็นเพียงแต่ทางนั้นสว่างขึ้นอย่างช้าๆ หมู่บ้านด้านหน้าก็สว่างขึ้น “ดวงอาทิตย์ออกมาเร็วเกินไปหน่อยไหม” พวกเขาเพิ่งกินข้าวเย็นเมื่อสอง งชั่วโมงก่อน
อวิ๋นเจี่ยวกระจ่างขึ้นมาทันที เธอพูดเตือนทุกคนเสียงดัง “ดินแดนลวง! พวกเราเข้ามาในดินแดนลวง”
“อะไรนะ” ทุกคนฟังไม่เข้าใจ ดินแดนลวงอะไรกัน
“ทุกสิ่งในสถานที่แห่งนี้ล้วนไม่ใช่ของจริง เป็นเพียงภาพลวงตา ทุกคนอย่าหลงกล รักษาจิตใจที่ใสสะอาดเอาไว้” อวิ๋นเจี่ยวพลางเตือนพลางท่องคาถาสงบจิต
แต่ว่าอาจจะสายไปแล้ว สายตาของทุกคนเหม่อลอยราวกับถูกบางอย่างบังตาเอาไว้
“ยายอวี้!” อวิ๋นเจี่ยวตกตะลึง เธอผลักคนข้างตัว แต่อีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยา เพียงแค่ยืนอยู่ที่เดิมราวกับหุ่นไม้ คนอื่นเองก็เช่นเดียวกัน
เฮ้ย!
อวิ๋นเจี่ยวอยากจะก่นด่าออกมา ดินแดนลวงแห่งนี้คงจะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่พวกเธอเดินขึ้นเขามา พวกเขาอยู่ในดินแดนนี้เป็นเวลานานเกินไป ดังนั้นจึงถลำลึกเข้าไปอย่างง่ายดาย อีกท ทั้งเมื่อกี้เธอระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ระหว่างนี้มีการใช้พลังลมปราณอย่างไม่ขาดสาย ถึงแม้จะเข้ามาแล้ว แต่ยังสามารถรักษาสติเอาไว้ได้
ดินแดนลวงหลอกจิต ยกเว้นตัวเองมีสติขึ้นมาเอง มิฉะนั้นไม่อาจตื่นขึ้นมาได้ ในขณะที่อวิ๋นเจี่ยวกำลังลังเลว่าจะใช้เข็มกระตุ้นให้พวกเขาตื่นมาดีหรือไม่นั้น ภายในหมู่บ้านด้านหน้า ามีคนผลักประตูเดินออกมา
“ยายแก่ เจ้าวิ่งไปที่ใดมาแต่เช้า” ชายชราที่อายุเกินห้าสิบวิ่งออกมาจากบ้านดิน เขาสวมเสื้อกั๊กแบบเก่าเดินมาทางนี้ จากนั้นขมวดคิ้วถลึงตาใส่ยายอวี้ที่อยู่ด้านข้าง “เจ้ายื นทื่ออยู่ทำไม ยังไม่รีบทำอาหาร! วันนี้มีงานในแปลงนาให้ทำมาก!”
พูดจบก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยื่นมือไปจับยายอวี้
“หยุด!” อวิ๋นเจี่ยวคิดจะรั้งเอาไว้ แต่มือของเธอกลับคว้าได้เพียงความว่างเปล่า มือของเธอทะลุผ่านข้อมือของยายอวี้ไป
เอ๊ะ?
เธอคิดจะดึงคนเอาไว้อีกครั้ง แต่พบว่าสัมผัสไม่โดนตัวของยายอวี้แม้แต่น้อย พวกเขาก็เป็นเหมือนเงาที่ไม่อาจจับต้องได้ เกิดอะไรขึ้น เธอเงยหน้าขึ้นมอง พบว่ายายอวี้ที่ส สวมชุดสวยงามอยู่เมื่อครู่เปลี่ยนไป เธอสวมเสื้อเมื่อหลายสิบปีก่อน ด้านบนเต็มไปด้วยรอยปะ กำลังถูกชายชราคนเมื่อครู่ลากกลับบ้านดิน
เธอตกใจ ก่อนจะหันกลับไปมอง พบว่าคนอื่นที่เดินตามหลังเธอนั้นล้วนเปลี่ยนชุดไปอีกรูปแบบ จากนั้นเริ่มเดินไปยังบ้านเรือนต่างๆ ในหมู่บ้าน อีกทั้งทักทายคนในบ้านขึ้นมาราวกับ เป็นชาวบ้านในพื้นที่
เธอผงะไป หรือว่าดินแดนลวงแห่งนี้…มีการมอบหมายตัวละคนให้พวกเขาด้วยเหรอ อวิ๋นเจี่ยวรีบเดินตามยายอวี้ไป พบว่าเมื่อเธอเข้าบ้านก็เดินตรงไปยังห้องครัว พร้อมทั้งจุดไฟทำอ อาหารขึ้นมา ทำตัวเหมือนเป็นภรรยาของชายชรานั้นจริงๆ
เธอยืนเรียกอยู่ด้านข้างหลายครั้ง อีกฝ่ายไม่มีการตอบรับ ราวกับมองไม่เห็นเธอ ไม่เพียงเท่านี้ คนอื่นในหมู่บ้าน รวมไปถึงนายท่านตระกูลเผยก็เช่นเดียวกัน เขาเดินเข้าบ้านหลังอื่ น แสดงเป็นคนของอีกครอบครัวหนึ่ง
อวิ๋นเจี่ยวยืนรออยู่ในสวน พบว่าไม่มีคนสนใจเธอ ดูท่าทางดินแดนลับแห่งนี้จะมอบหมายตัวละครให้แก่คนที่ถลำเข้าไป แต่ไม่อาจควบคุมคนที่มีสติอย่างเธอได้ ดังนั้นจึงทำให้คนอื นมองไม่เห็นเธอ
เธอวนเวียนอยู่ข้างตัวยายอวี้สักพัก จนกระทั่งเธอทำอาหารเสร็จ ให้อาหารไก่ก็แล้วทำความสะอาดบ้านก็แล้ว แต่ไร้ท่าทีที่จะสนใจเธอแม้แต่น้อย
อันที่จริงดินแดนลวงมีความคล้ายคลึงกับค่ายกล หากอยู่ด้านนอก เธอสามารถมองเห็นวิธีแก้ได้ตั้งแต่แวบแรก แต่เมื่อเดินเข้ามาด้านในจะยากลำบากเล็กน้อย เพราะเธอต้องหาเสาหลักใจกลา างของดินแดนลับแห่งนี้ พังทลายมันถึงจะพังทลายค่ายกลนี้ได้
มิฉะนั้นยายอวี้และคนอื่นๆ จะถลำลึกมากขึ้น หากพวกเขาคิดว่าตนเองเป็นคนของหมู่บ้านอย่างเต็มตัว พวกเขาจะฟื้นขึ้นมาได้ยากแล้ว