ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 402 ฟื้นคืนความทรงจำ
“งูดำในดินแดนลับเป็นร่างจริง!” อวิ๋นเจี่ยวพูดเตือนเสียงดัง เดิมทีเธอคิดจะใช้เวลาก่อนที่งูดำจะสังเกต ทำลายดินแดนลวงช่วยเหลือคนที่ขึ้นเขามาเหล่านั้น แต่งูดำพบพวกเธอก่อน น อีกทั้งเข้าดินแดนลวงเพื่อขัดขวางพวกเธอทำลายดินแดนลับ แต่มันก็ต้องถูกจำกัดด้วยดินแดนลวง ดังนั้นมันจึงแสดงความสามารถได้เพียงตอนเริ่มเป็นปีศาจเท่านั้น ดังนั้นหากเวลานี พวกเขาทำลายดินแดนลวง งูดำย่อมต้องออกมาจากด้านใน อีกทั้งพวกเธอต้องเผชิญกับปีศาจที่เติบโตเต็มที่ อีกทั้งฝึกฝนอยู่ในภูเขาลึกแห่งนี้หลายสิบปี
ยายอวี้ผงะ เข้าใจความหมายของเธอ คนทั้งคนตกอยู่ในความตะลึง
แต่ปีศาจงูใช้โอกาสเรียก พลังปีศาจออกมาอีกครั้ง มันดิ้นหลุดจากการสะกดของอวิ๋นเจี่ยว ก่อนจะหันตัวพุ่งไปทางยายอวี้ที่อยู่ด้านหลัง
ระวัง!” อวิ๋นเจี่ยวไม่แม้แต่จะคิด เธอเปิดค่ายกลที่วางไปครึ่งหนึ่งจึ้นมา แท่งแสงกึ่งโปร่งใสปรากฏขึ้น ขัดขวางงูดำไปชั่วขณะ ในเวลาเดียวกัน เธอวิ่งเข้าไปดึงยายอวี้ที่นิ่งอึ้ งไปออกมา
ในเวลาเดียวกันปีศาจงูพังทลายกำแพงแสงนั้นพุ่งตรงมายังคนทั้งสอง
“เร็ว ยันต์ป้องกัน!” อวิ๋นเจี่ยวหันมาเตือน
ยายอวี้ยื่นมือล้วงยันต์ แต่ก็ต้องชะงักไป “ใช้…ใช้หมดแล้ว!”
“อะไรนะ”
เฮ้ย! บ้าเอ้ย!
อวิ๋นเจี่ยวก่นด่าภายในใจ เธอมองไปยังงูดำที่กำลังพุ่งตัวเข้ามา มันอ้าปากกว้าง ในขณะที่กำลังจะกลืนทั้งสองคนเข้าไป อวิ๋นเจี่ยวหมุนมือส่งคาถาสุดท้ายออกมา
ทันใดนั้น…
รูปปั้นที่ถูกระเบิดไปครึ่งหนึ่งประกายแสงสีทองออกมา พุ่งตรงไปยังงูดำ
โฮ่ง…
งูดำส่งเสียงร้องโหยหวน พลังปีศาจรอบตัวสลายไปทันที ถูกแสงสีทองกลืนกิน แสงสีทองนั้นสว่างขึ้นเรื่อยๆ นาทีถัดมาก็ทำให้วัดร้างกลายเป็นโลกสีทอง
อวิ๋นเจี่ยวและยายอวี้ถูกแสงสีทองสาดส่อง พวกเธอหลับตาลงตามสัญชาตญาณ แต่พบว่าแสงนั้นอ่อนโยนอย่างมาก ไร้ซึ่งการโจมตีแต่อย่างใด อีกทั้งยังทำให้รู้สึกอบอุ่น ราวกับชำระล้าง งความเหนื่อยล้าบนตัวก่อนหน้านี้ไป ให้ความรู้สึกสดชื่นและ…คุ้นเคย?
เธอลองลืมตาดู พบว่าแสงสีทองหายไปแล้ว แม้แต่วัดร้างก็หายไป บริเวณรอบด้านกลายเป็นโลกสีขาวที่เต็มไปด้วยหมอก เหมือนกับ…ฝันที่เธอเห็นมาหลายวันนี้?
อวิ๋นเจี่ยวผงะ รีบเงยหน้ามองด้านหน้า พบว่าท่ามกลางเมฆหมอกด้านหน้ามีร่างหนึ่งเดินเข้ามาหาเธออย่างช้า ๆ ภายในใจรู้สึกคุ้นเคยอย่างมาก แม้แต่ดวงตาก็เบิกโตขึ้น เธอจับจ้องไป ปยังร่างที่กำลังเข้าใกล้ ทันใดนั้นเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังจะปรากฏขึ้นมา เธออดที่จะเดินขึ้นหน้าไม่ได้
ครานี้ร่างฝั่งตรงข้ามไม่ได้หายไป หากแต่ชัดเจนขึ้น จนกระทั่งเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น “เจี่ยวเจี่ยว…”
เธอมองเห็นลักษณะของร่างนั้นในที่สุด ใบหน้าที่งดงามจนไม่อาจใช้ภาษาบรรยายได้ เป็นความงดงามสมบูรณ์แบบที่แม้แต่สวรรค์ก็ไม่อาจสรรสร้างได้ ดวงตาที่ทำให้คนมองไม่อาจละสายตาไป ปได้กำลังจ้องมองเธอด้วยความแดงก่ำ
เธอรู้สึกปวดใจเล็กน้อย ยื่นมือสัมผัสกับใบหน้าของอีกฝ่าย จนกระทั่งอีกฝ่ายเอียงหน้าทาบใบหน้าเย็นลงบนฝ่ามือของเธอ
ทันใดนั้นเมฆหมอกชั้นหนาในหัวถูกกวาดออก แผ่นกั้นภายในใจของเธอแหลกออก คนทั้งคนตื่นขึ้นมา
“อาจารย์ปู่!” เธอจำได้แล้ว! เกิดอะไรขึ้น เธอถูกซื่อไป๋จับไปไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกลับมาได้ อีกทั้งยังสูญเสียความทรงจำ!
“เจี่ยวเจี่ยว…” เยี่ยยวนยื่นมือกอดคนตรงหน้า กลายเป็นหมีโคอาลาที่คุ้นเคย อีกทั้งยิ่งกอดยิ่งแน่น ราวกับกำลังกอดสมบัติล้ำค่าที่ได้คืนมา “เหตุใดจึงยังไม่กลับมา”
“อาจารย์ปู่?” อวิ๋นเจี่ยวทำหน้าฉงน อาจเป็นเพราะความทรงจำเพิ่งฟื้นคืน ดังนั้นเธอจึงยังงุนงง “เดี๋ยว! ท่านปล่อยก่อน เรื่องอะไรกัน ที่นี่คือที่ใด ตอนนี้ข้าอยู่ที่ใด ท่านต ตื่นตั้งแต่เมื่อใด”
เยี่ยยวนถูไถข้างคอของเธอ น้ำเสียงเต็มด้วยความน้อยใจ “เจ้าทิ้งข้ากลับไปแล้ว ข้าให้คนไปหาเจ้า แต่เจ้า…ไม่กลับมาเสียที” เขารอนานมาก นานจนหมดความอดทน จึงอดไม่ได้ที่มาหา นาง
“หมายความว่า ท่านข้ามมาโลกนี้แล้ว?” อวิ๋นเจี่ยวเงยหน้ามองคนตรงหน้า
“ไม่” สายตาของเขามืดมนลง ร่างของเขาหลั่งไหลพลังไอเย็น ราวกับกำลังข่มความโกรธเอาไว้
“ตอนนี้ท่านคือ?” หรือว่าเธอกลับไปแล้ว?
“ข้าใช้จิตเทพที่หลงเหลือบนตัวของงูดำทางนี้ถึงได้พบเจ้า” เขาก้มหน้าจูบแก้มของเธอ พูดอย่างร้อนใจ “ทางพวกเจ้าไม่มีเทพที่แท้จริง ดังนั้นข้าอยู่ได้ไม่นาน”
พูดจบเขาราวกับต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง จูบลงมาทีละครั้ง เสียงต่ำลงเรื่อย ๆ ปนไปด้วยน้ำเสียงขอร้อง “เจี่ยวเจี่ยว เจ้ารีบกลับมาได้หรือไม่ ข้าจะทำขนมให้เจ้า ให้เจ้าทั้งหม มด…”
“อาจารย์ปู่…” อวิ๋นเจี่ยวถอนหายใจ ทั้งโกรธทั้งขำ เธอกลับไปเพื่อขนมหรืออย่างไร อวิ๋นเจี่ยวยื่นมือจับหน้าของเขาเอาไว้ ถามอย่างจริงจัง “ยังไม่พูดถึงขนม ท่านบอกข้า ข้าจะกล ลับไปได้อย่างไร”
เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะอธิบาย “หนทางแห่งสวรรค์ทางเจ้ายุ่งยากเล็กน้อย ข้าให้คนนำตราสลักของหนทางแห่งสวรรค์ทางนี้ส่งเข้าโลกของเจ้ามาอยู่ตรงหน้าเจ้า เพียงแค่เขาใช้ตราสลักนั้น หนทางแห่งสวรรค์ทางนี้ย่อมพาเจ้ากลับมาได้”
“ตราสลัก?” อวิ๋นเจี่ยวผงะ “ตราสลักอันใด”
เยี่ยยวนก้มหน้าลง ดวงตาของเขามองไปยังด้านหลังของเธออย่างเย็นชา
อวิ๋นเจี่ยวหันหน้ากลับไปถึงพบว่า ยายอวี้นั่งอยู่ด้านหลังเธอสองก้าว มองดูพวกเธออย่างสงสัย มองสลับทั้งสองคนไปมา ก่อนจะปิดตาลง “เอ่อ…ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น!”
“…”
สีหน้าของเยี่ยยวนเย็นชาลงกว่าเดิม ดวงตาเต็มไปด้วยไฟโกรธ “ฮึ! แม้แต่จิตเดิมยังเฝ้าไม่อยู่ ถูกหนทางแห่งสวรรค์ผนึกความทรงจำเอาไว้ได้!” เขาสะบัดมือ แสงสีขาวกวาดผ่านร่างของ อีกฝ่าย
นาทีถัดมายายอวี้รู้สึกเพียงมีบางอย่างในหัวถูกปลดออก ดวงตาของเธอเหม่อลอยไปสักพัก ก่อนจะกระจ่างขึ้นมา เธอหันมามองทิศทางของคนทั้งสอง เรียกขานขึ้น “อา… อาจารย์ปู่?”
“ชายแก่!” เฮ้ย ไม่จริง! อวิ๋นเจี่ยวจำคนตรงหน้าได้ทันที
“เจ้าหนู?” ชายแก่ยังคงทำท่าไม่ตื่น
“ตราสลักอยู่บนตัวเขา” เยี่ยยวนอธิบาย สายตาที่มองไปยังชายแก่เต็มไปด้วยความรังเกียจ อีกทั้งยังชัดเจนกว่าที่เขามองเหล่าศิษย์โง่แต่ก่อนเสียอีก ใบหน้าของเขาเขียนไว้ว่า โง่เขลา ซื่อบื้อ ดุจดั่งหมู!