ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 403 จบงาน
“เจี่ยวเจี่ยว…พวกเจ้าต้องรีบแล้ว ตอนนี้เขา…รีบ…หาก...” เยี่ยยวนยังคิดจะอธิบายอะไรบางอย่าง แต่ร่างของเขาเลือนรางขึ้น ราวกับจะสลายไปตามหมอกรอบด้าน
“อาจารย์ปู่!” อวิ๋นเจี่ยวคิดจะจับคนตรงหน้าเอาไว้ แต่ไร้ประโยชน์ ร่างของเยี่ยยวนเลือนรางลง แม้แต่เสียงก็ไม่ได้ยินแล้ว สุดท้ายทำได้เพียงประทับจูบลงบนริมฝีปากเธอครั้งหนึ่ง ก่อนจะหายไปต่อหน้า
หมอกขาวรอบด้านสลายไปจนหมด พวกเธอกลับมาอยู่ภายในวัดร้างหลังเดิม ราวกับเขาไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน
ชายแก่ที่ยังคงนั่งอยู่บนพื้นลุกขึ้นยืนอย่างเหม่อลอย เขากะพริบตาถาม “เจ้าหนู เมื่อกี้ข้า…เจออาจารย์ปู่?”
“อืม” อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า ก้มหน้ามองฝ่ามือที่ว่างเปล่า รู้สึกภายในใจโหวงอย่างประหลาด
“อาจารย์ปู่ข้ามมาได้อย่างไร” ชายแก่ถามด้วยความฉงน “คนสวนบอกว่าพวกเขาไม่อาจออกจากดินแดนทางนั้นไม่ใช่หรือ”
“สถานที่แห่งนั้นอาจเป็นแค่ภาพลวงเท่านั้น เขาไม่ได้ข้ามมา แต่ว่า…อาจารย์ปู่ออกจากดินแดนทางนั้นไม่ได้หรือ” เรื่องนี้เธอไม่เคยรู้มาก่อน
“ใช่!” เขาพยักหน้า “ชาวสวนอิ้งบอกว่า ดินแดนทางนั้นสร้างจากพวกเขาทั้งสามคน หากจากมาหนึ่งคน ดินแดนจะพังทลาย”
“อย่างนี้เอง!” อวิ๋นเจี่ยวกระจ่างขึ้นมา ตอนนั้นซื่อไป๋โวยวายว่าจะฆ่าเยี่ยยวน อันที่จริงก็แค่ว่างจนใม่มีอะไรทำ?
“อาจารย์ปู่ให้ท่านข้ามมาพาข้ากลับไป?”
“ใช่!” ชายแก่ราวกับนึกบางอย่างขึ้นได้ ตัวสั่นเทา “เจ้าไม่รู้วันที่เจ้าหายตัวไป อาจารย์ปู่น่ากลัวแค่ไหน หากไม่ใช่ชาวสวนอิ้งบอกว่าส่งข้ามาทางนี้ช่วยเจ้าฟื้นความทรงจำ ข้าไม่ รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…” เขาพูดไปได้แค่ครึ่งเดียวก็หยุดลง ราวกับนึกบางอย่างขึ้นได้ ยกมือจับเข้าที่หน้าอกของตนเอง สีหน้าซีดเผือดราวหิมะ คนทั้งคนกระโดดขึ้นกรีดร้องออก กมา
“เฮ้ย! ข้ากลายเป็นผู้หญิงได้อย่างไร!”
“…” ท่านเพิ่งนึกขึ้นได้หรือ!
…
เรื่องการส่งวิญญาณปีศาจงูสู่สุคติในครานี้ ถึงแม้ขั้นตอนจะน่ากลัว แต่ผลลัพธ์ถือว่าสมบูรณ์แบบ เนื่องจากตกอยู่ในดินแดนลวง หลายสิบคนที่เดินทางมาด้วยกันล้วนได้รับบาดเจ็บไม่มาก ก็น้อย คนที่สาหัสที่สุดถูกพลังปีศาจกัดกร่อนเนื้อหนังไปครึ่งตัว
อีกทั้งเดิมทีอวิ๋นเจี่ยวเป็นหมอรักษาพลังลมปราณ หลังจากฟื้นคืนความทรงจำแล้ว การรักษาจึงยิ่งคล่องมือมากยิ่งขึ้น โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต เธอและชายแก่สองคนร่วมแรง แบกคนท ที่สลบอยู่ทุกทิศของหมู่บ้านกลับเข้าไปในวัดร้าง จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนถึงฟื้นขึ้นมา
ส่วนวิญญาณหลายร้อยที่กำราบก่อนหน้านี้ เธอเปิดประตูผีส่งพวกมันกลับเข้ายมโลกไป ส่วนงูดำที่กลายเป็นปีศาจตัวนั้น อาจเป็นเพราะผลกระทบจากอาจารย์ปู่ พลังปีศาจบนตัวของมันสลาย ยไปแล้ว แต่มันไม่ได้กลายเป็นวิญญาณ หากแต่กลายเป็นงูดำขนาดเท่านิ้วมือ อวิ๋นเจี่ยวสัมผัสพบว่าบนตัวของมันไม่มีพลังปีศาจแล้ว อีกทั้งไม่มีพลังแห่งความศรัทธา ราวกับกลายเป็นลั กษณะเดิมของมัน
ดังนั้นจึงไม่ได้ลงมือต่อ ปล่อยให้มันเลื้อยลงไปในพุ่มหญ้า
เมื่อไม่มีพลังปีศาจและพลังหยิน สถานที่แห่งนี้จึงไม่ใช่พื้นที่รวมพลังหยินแล้ว มันกลายเป็นพื้นที่ภูเขาธรรมดาที่ไร้ผู้คน เพื่อเป็นการป้องกัน อวิ๋นเจี่ยวยังวางค่ายกลเอาไว้ใน นภูเขา ทำให้สถานที่แห่งนี้ไม่อาจรวบรวมวิญญาณและพลังปีศาจได้อีก
อาจเป็นเพราะทุกคนยังคงจำเรื่องที่เกิดขึ้นในดินแดนลวงได้อย่างชัดเจน ทำให้ทุกคนมีลักษณะท้อแท้อย่างมาก โดยเฉพาะนายท่านเผยและนายท่านจาง ก่อนจากไปยังหันกลับไปมองหมู่บ้านบ บ่อยครั้ง พลางถอนหายใจติดต่อกัน
พวกเขาล้วนประสบกับการปะทะปีศาจงูเมื่อห้าสิบปีก่อน ตอนนั้นลัทธิเต๋าแทบจะออกมากันทั้งหมด สูญเสียพลังไปมากจึงผนึกอีกฝ่ายเอาไว้ชั่วคราว พวกเขาคิดว่าตนเองผนึกมารร้ายที่ฆ่าล ล้างหมู่บ้าน แต่ไม่คิดว่าอันที่จริงคือปีศาจ อีกทั้งเป็นปีศาจที่ชาวบ้านชักนำเข้ามาเอง
ตอนนั้นพวกเขาสูญเสียไปมากขนาดนั้น แต่ก็บังเอิญพบกับตอนที่มันเพิ่งก่อเป็นรูปเป็นร่าง สลายพลังปีศาจของมันเท่านั้น ไม่ได้กำจัดมัน
ระหว่างทางกลับไป ทุกคนไม่ได้พูดคุยกัน เดินออกจากพื้นที่ภูเขาด้วยความเงียบ จนกระทั่งส่งคนที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดไปโรงพยาบาล นายท่านเผยถึงได้มองไปยังอวิ๋นเจี่ยวด้วยสีหน้าเค คร่งขรึม ยื่นมือออกมาอย่างเกรงใจ
“ครั้งนี้ ต้องขอบคุณอาจารย์อวิ๋น หากไม่ใช่คุณ พวกเราคงต้องตายกันหมด” พวกเขามีชีวิตรอดมาได้ก็โชคดีมากยิ่งนัก ถึงแม้ดินแดนลวงเป็นของปลอม แต่ความรู้สึกที่ถูกพลังปีศาจกัดกิ นเลือดเนื้อเป็นของจริง
“ไม่ต้องเกรงใจ เป็นเรื่องที่สมควรทำ” อวิ๋นเจี่ยวยิ้ม พร้อมยื่นมือออกไปจับ จากนั้นเสริมขึ้นอีกหนึ่งประโยค “อย่าลืมโอนค่าจ้างเข้าบัญชีฉัน”
เผยซื่อจงที่กำลังจะชื่นชมเธอ “…” อาจารย์ผู้มากฝีมือล้วนเป็นแบบนี้เหรอ
“คนที่ถูกทำร้ายจากพลังปีศาจเหล่านั้น พวกคุณต้องคอยระวังเอาไว้” อวิ๋นเจี่ยวครุ่นคิดก่อนจะกำชับอีกครั้ง “ถึงแม้ก่อนหน้านี้ฉันจะขับไล่พลังปีศาจในร่างกายของพวกเขาแล้ว แต่ก็ไม ม่อาจรับรองได้ว่าไม่มีหลงเหลือ หากมีอะไร อย่าลืมมาหาฉันเอายันต์กำจัดปีศาจไป แน่นอนว่าเก็บเงิน!”
เผยซื่อจงปากกระตุก สักพักถึงพยักหน้า “ได้ ผมจะแจ้งพวกเขา ขอบคุณครับ”
“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ พวกเราขอตัวก่อน” อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้อยู่ต่อ เธอลากชายแก่ขึ้นเครื่องบินกลับเมืองซีไป
จนกระทั่งเธอกลับไปยังบ้านหลังเล็กที่คุ้นเคย ถึงได้หันไปมองชายแก่ที่ฟื้นคืนความทรงจำแล้วอึดอัดไปทั้งตัว “บอกมา เกิดอะไรขึ้นกับท่าน ทำไมกลายเป็นแบบนี้ พลังของท่านล่ะ น นอกจากนี้ตราสลักที่อาจารย์ปู่บอกคืออะไร”
“ข้าเองก็อยากรู้ว่าทำไมกลายเป็นแบบนี้!” ชายแก่ทำหน้าอยากร้องไห้ พยายามข่มความวู่วามที่อยากจะหยิบสองก้อนด้านหน้าของตนเองออกมา “ชาวสวนอิ้งแค่บอกว่าให้ข้าข้ามมาด้วยว วิธีที่หนทางแห่งสวรรค์ทางนี้ยอมรับ เช่นนี้ถึงไม่ถูกกีดกันส่งกลับไป ข้าจำได้เพียง…ข้าข้ามมาทางนี้ สมองของข้าก็ไร้สติ ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในดินแดนทางนั้นจนหมด” จนกระ ะทั่งถูกอาจารย์ปู่ปลุกให้ตื่นในหมอกนั้น
“ตราสลักที่อาจารย์ปู่บอกล่ะ?” ดวงตาของอวิ๋นเจี่ยวหรี่ลง ถามต่อ “เขาบอกว่าบนตัวท่าน มันคืออะไร”
“อ่อ มันคือวิชาเวท” ชายแก่อธิบาย “อาจารย์ปู่ให้ซื่อไป๋ลงไว้ในจิตของข้า เขายังสอนยันต์ข้ามดินแดนให้ข้า บอกว่าเพียงแค่นำยันต์นี้ให้เจ้า ก็สามารถพาเจ้ากลับไปได้ เพี ยงแต่ยันต์นั้นวาดยากยิ่งนัก ข้าไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จ”
“ยันต์ข้ามดินแดน…” ในหัวของอวิ๋นเจี่ยวมีบางอย่างปรากฏขึ้น คิ้วของเธอขมวด มีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง เธอกวาดตามองเขาขึ้นลง “ท่านมาดินแดนทางนี้นานแค่ไหนแล้ว”
“เรื่องนี้…” เขาครุ่นคิด ใบหน้าชายแก่ย่นเล็กน้อย “ข้าเพิ่งฟื้นความทรงจำ ยังจำไม่ได้มากนัก”