ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 404 ยันต์ข้ามดินแดน
“ท่านจำเรื่องโลกทางนี้ได้มากเท่าใด” เธอรีบเปลี่ยนวิธีการพูดอีกแบบ “อาทิเรื่องของเหลยไห่เฉากับเหลยอวี่”
“พวกเขาสองคน…” เขาพูดโพล่งออกมา “เจ้าเด็กสองคนนั้นข้าย่อมจำได้อย่างแน่นอน ถึงแม้เวลานั้นจะยังไม่ฟื้นความทรงจำ แต่เรื่องตั้งแต่พวกเขายังเด็กจนกระทั่งเติบโต…”
เขาพูดเพียงครึ่งเดียวก่อนจะชะงักไป สูดลมหายใจเข้าด้วยความตะลึง เบิกตาโตด้วยความเหลือเชื่อ
“เจ้า…เจ้าหนู ชาวสวนอิ้งคงไม่…”
อวิ๋นเจี่ยวถอนหายใจยาว พยักหน้าอย่างไร้เสียง “ข้าคิดว่าวิธีที่ทำให้หนทางแห่งสวรรค์ทางนี้ยอมรับเจ้าตามที่ชาวสวนอิ้งพูดก็คือการส่งเจ้าเข้าสู่ภายในวัฏจักรของทางนี้ การก กลับมาเกิดเป็นมนุษย์!” อิ้งหลุนเป็นราชายมโลกที่ควบคุมการเวียนว่ายตายเกิด หากเขาจะส่งวิญญาณของชายแก่มาเกิดในโลกทางนี้ก็มีความเป็นไปได้
“เฮ้ย!” ชายแก่รู้สึกไม่สบายขึ้นมาทันที “ข้าก็ว่า…เหตุใดข้าจึงกลายเป็นหญิง ที่แท้ก็…ชาวสวนอิ้งไร้คุณธรรมเสียจริง ข้าจะเลิกคบเขา! ไม่ให้เมล็ดพันธุ์กับเขาอีกแล้ว! ทำเก กินไปแล้ว…ทำเกินไปแล้ว!”
ไม่เล่นแล้ว อยากอยู่คนเดียว!
อวิ๋นเจี่ยวก็ทำหน้าระอา เธอคิดไม่ถึงว่าชายแก่จะมาเกิดใหม่ในโลกนี้ อีกทั้งมาเป็นเวลานานเพียงนี้ เมื่อครุ่นคิดอย่างละเอียด เส้นเวลาของทั้งสองโลกอาจไม่ตรงกัน
ถึงแม้ชายแก่จะเดินทางมาหาเธอเพราะว่าเธอกลับมายังโลกนี้ด้วยความบังเอิญ แต่เขาเกิดก่อนเธอ เธอนึกถึงสาเหตุที่ข้ามมิติไปยังโลกนั้นขึ้นมาได้ มันคือช่วงที่เธอไปหาหมอตา ชายแก่ยัดยันต์ใบหนึ่งให้เธอ ยันต์ใบนั้นคือยันต์ข้ามมิติที่ว่าเหรอ
“ชายแก่ ยันต์ใบนั้นที่ท่านยัดใส่กระเป๋าข้า บอกว่าเป็นยันต์สาปแช่งข้านั้น! ใช่ยันต์ข้ามมิติหรือไม่” อวิ๋นเจี่ยวถาม
“ยันต์?” ชายแก่ผงะไป ครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะนึกขึ้นได้ว่านางพูดถึงอะไร “เจ้าหมายถึงวันที่ข้าไปติดตามอาการที่โรงพยาบาลวันนั้น?”
“ใช่!” เธอเดินทางข้ามมิติไปยังโลกทางนั้นเพราะยันต์ใบนั้น ก่อนจะพบกับเขาและอาจารย์ปู่
“ข้าก็ลืมไปแล้ว…” ชายแก่ส่ายหัวอย่างไม่มั่นใจ “ก่อนหน้านี้ข้าสูญเสียความทรงจำ เพียงแต่ตามหาเจ้าตามสัญชาตญาณ ยันต์ที่วาดเหล่านั้นก็เป็นเพียงสัญชาติญาณในการฝึกฝนทางยันต์ เท่านั้น แต่ก่อนข้ามีเวลาก็มักจะวาดไปเรื่อย ดังนั้นวาดอะไรบ้าง ข้าเองก็ไม่แน่ใจ”
ดังนั้นเขาจึงจับอวิ๋นเจี่ยวเอาไว้ไม่ให้จากไปตั้งแต่แรก อีกทั้งยังใส่ร้ายเธอว่าชนเขา อันที่จริงเขาเองก็รู้สึกได้ว่าตนเองเข้าใจผิด เพียงแต่ไม่อยากให้อวิ๋นเจี่ยวจากไปเท่าน นั้นเอง
แต่อวิ๋นเจี่ยวมั่นใจว่ายันต์ใบนั้นเป็นยันต์ข้ามมิติ มิเช่นนั้นคงไม่บังเอิญส่งเธอข้ามไปยังโลกใบนั้น ส่วนเธอข้ามมิติไปก่อน ส่งผลให้ชายแก่ถูกส่งมาตามหาคน หรือว่าเขาถูก กส่งข้ามมาก่อน ส่งผลให้เธอข้ามมิติ ปัญหานี้เหมือนมีไข่ก่อนหรือมีไก่ก่อน ไม่อาจรู้ได้
“เจ้ายังจำได้ว่ายันต์ข้ามมิติวาดอย่างไรใช่หรือไม่” อวิ๋นเจี่ยวถาม
“จำได้แน่นอน!” เขารีบพยักหน้า เวลานั้นอาจารย์ปู่ ชาวสวนอิ้งและคนที่ชื่อซื่อไป๋จับตาดูเขาฝึกวาดยันต์นี้ หากวาดได้ไม่ดี เขาคงต้องถูกชายสามคนรุมทึ้งอย่างแน่นอน เขาจะจำ ำไม่ได้ได้อย่างไร เพียงแต่ ยันต์นั้นอยู่นอกการควบคุมของสรรพสิ่งทั้งหกโลก ถึงเขาจะวาดดีอย่างไรก็อาจใช้ไม่ได้ จนกระทั่งบนตัวมีตราสลักของหนทางแห่งสวรรค์
“ยังรออะไรอีก รีบวาด!” อวิ๋นเจี่ยวรื้อค้นกระดาษเหลืองและหมึกแดงออกมาทันที
“อ่อๆ…” ชายแก่รีบพยักหน้า หยิบพู่กันเริ่มวาดขึ้นมา ผ่านไปสักพักยันต์วิเศษที่ไม่เคยเห็นมาก่อนปรากฏบนกระดาษเหลือง ในขณะที่ชายแก่กำลังจะจรดขีดสุดท้าย เขาก็ชะงักไปทันที
“เป็นอะไรไป” เมื่อเห็นเขาหยุดลง อวิ๋นเจี่ยวถามขึ้น
“เจ้า… เจ้าหนู…” ชายแก่สีหน้าดำทะมึน ใบหน้าคว่ำลง “ข้าลืมไป หลังจากที่ข้ามายังดินแดนทางนี้ ข้าก็…ไม่มีพลังลมปราณแล้ว”
อวิ๋นเจี่ยว “…” เอ็มเอ็มพี!
เธอเองก็เพิ่งนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ ชายแก่แม้แต่เพศสภาพยังเปลี่ยนไป บนตัวของเขาก็ไม่มีพลังลมปราณแม้แต่น้อยยันต์เหล่านั้นที่เขาวาดออกมาก็เพราะมีพลังลมปราณของเธอถึงจ จะกลายเป็นยันต์ที่สมบูรณ์ อวิ๋นเจี่ยวรู้สึกหงุดหงิดอย่างไร้สาเหตุ เดิมทีเธอคิดว่าจะกลับไปทางนั้นได้โดยเร็ว แต่ไม่คิดว่าเรื่องจะค้างคาเช่นนี้
ดังนั้นเธอจึงหยิบยันต์บนโต๊ะขึ้นมาถ่ายทอดพลังลมปราณเข้าไป แต่พบว่ายันต์ไม่มีปฏิกิริยาแม้แต่น้อย
“ไม่มีประโยชน์ เจ้าหนู” ชายแก่ทำสีหน้าอยากร้องไห้ “ชาวสวนเคยบอกไว้ ยันต์นี้มีเพียงคนที่มีตราสลักหนทางแห่งสวรรค์บนตัวเท่านั้นถึงจะวาดได้ การยืมพลังลมปราณของคนอื่นไร้ปร ระโยชน์”
อวิ๋นเจี่ยวจึงวางยันต์ในมือลง ก่อนจะครุ่นคิด “ไม่ใช่! หากพลังของท่านหายไปหลังจากที่มาเกิด เหตุใดยันต์ข้ามมิติที่ท่านยัดให้ข้าที่โรงพยาบาลในวันนั้นถึงใช้ได้”
“เอ๊ะ?” ชายแก่ตะลึง “เป็นไปได้อย่างไร เจ้าเคยใช้ยันต์ใบนั้นแล้ว!”
อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า ก่อนจะเล่าต้นสายปลายเหตุที่ตนเองข้ามมิติไป “เจ้ายังจำตอนที่หมอตาที่พวกเราไปตรวจสุขภาพครั้งก่อนได้หรือไม่ คนที่เห็นข้าเหมือนเห็นผีคนนั้น เวลานั้นข้า าหายไปต่อหน้าต่อตาของเขาเพราะถือยันต์ของท่านเอาไว้” ก่อนหน้านี้เธอยังรู้สึกประหลาดใจ หลังจากฟื้นความทรงจำถึงได้รู้สาเหตุ
“หากตามที่เจ้าพูด…เหมือนว่ายันต์บางส่วนที่ข้าเคยวาดก็มีคนบอกว่าใช้ได้” ชายแก่นึกย้อนไปอย่างละเอียด ถึงแม้เขาจะสูญเสียความทรงจำก่อนหน้านี้ แต่การวาดยันต์เป็นสัญชาตญาณ ก่อนหน้านี้คิดมาเสมอว่าเป็นเพราะความชอบส่วนตัวของเขา ดังนั้นจึงเคยมอบให้คนอื่น อีกทั้งยังมีคนเคยบอกว่ายันต์ของเขาใช้ได้ผลจริง แต่ไม่ได้มีจำนวนมาก “หรือว่า…พลังลมปราณ ณของข้าจะมีในบางเวลา?”
“มีความเป็นไปได้!” อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า “ถึงแม้ชาวสวนอิ้งจะไม่ได้บอกว่าจะส่งท่านมาเกิดในดินแดนนี้ แต่เขาคงจะรู้เป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้ของท่านคือการวาดยันต์ข้ามมิติพ พาข้ากลับไป ดังนั้นจึงไม่มีทางให้ท่านไม่มีพลังแม้แต่น้อย เพราะพวกเขาไม่รู้สถานการณ์ในดินแดนนี้ สามารถฝึกฝนพลังได้ใหม่หรือไม่ก็ไม่อาจรู้ได้” ถึงแม้อิ้งหลุนจะเพิ่งพาไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นหนึ่งในเทพแห่งการสร้างโลก มีชีวิตอยู่มานานเพียงนี้ ไม่มีทางไม่คำนึงถึงเรื่องนี้
“เช่นนั้น…ตอนนี้ทำอย่างไร” ชายแก่ทึ้งหัวอย่างร้อนใจ “คงไม่อาจรอยันต์ที่ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้างใช้ได้ขึ้นมาในสักวันกระมัง”
“ย่อมไม่อาจลองเช่นนี้ต่อไป” อวิ๋นเจี่ยวหันมากวาดตามองเขา “นั่งรออยู่เฉยๆ จะสู้การเป็นฝ่ายจู่โจมได้อย่างไร”
ชายแก่ถูกเธอมองจนตัวสั่น “เจ้าหมายความว่า…”
“ย่อมต้องฝึกฝน!” อวิ๋นเจี่ยวส่งสายตาให้เขาประมาณว่ายังต้องพูดอีกเหรอ “ไม่มีพลังก็ฝึกฝนมันขึ้นมา ก่อนหน้านี้ที่ท่านอยู่ที่ชิงหยาง ก็เป็นแค่หมอดูหลอกลวงไม่ใช่เหรอ”
“…” ฉึบ รู้สึกเหมือนมีมีดปัก