ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 406 กลับบ้านชั่วคราว
สิ้นเสียงของเหลยไห่เฉา ชายแก่ที่จมอยู่ในกองเองสารหูตั้งขึ้นมาทันที ดวงตาของเขาเป็นประกาย ลุกพรวดขึ้นยืน แย่งตอบอย่างตื่นเต้น “กลับๆ ฉันกลับ! ฉันกลับ!” ขอแค่ไม่เรี ยน กลับที่ไหนก็ได้!
อวิ๋นเจี่ยวหันมามองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ชายแก่ตัวสั่นเทา ก่อนจะหดตัวกลับไป “ไม่กลับดีกว่า ฉันจะเรียน การเรียนทำให้ฉันมีความสุข” เจ็บปวดพร้อมความสุข!
เหลยไห่เฉา “…”
เหลยอวี่ “…”
“แม่!” เหลยไห่เฉาคิดว่าเธอไม่ยอมไปเหมือนหลายครั้งก่อน ถอนหายใจเดินเข้ามา “แม่รบกวนคุณอวิ๋นหลายวันแล้ว แม่กับเธอไม่ได้เป็นญาติกัน มาอยู่ในบ้านของเธอบ่อยๆ ไม่ได้!”
“ใช่ครับ คุณย่า!” เหลยอวี่ก็โน้มน้าว “หากคุณย่าชอบคุณอวิ๋นมาก คุณย่าเชิญเธอไปบ้านเราได้ บ้านเราใหญ่พอ อยู่นานแค่ไหนก็ไม่เป็นไร”
ทั้งสองคนพูดกันคนละประโยคเกลี้ยกล่อมหญิงชราที่ดื้อรั้น แต่พวกเขาไม่ทันสังเกต ในเวลาที่ทั้งสองคนเรียกเธอนั้น ชายแก่อดที่จะตัวสั่นเทาไม่ได้ สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก ราวกับอ อยากจะไปตายอย่างนั้น
อวิ๋นเจี่ยวเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย แต่ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี ทำได้เพียงกุมขมับ ดูท่าทางความวุ่นวายนี้จะแก้ไขได้ยากแล้ว
ในขณะที่ทั้งสองคนยังคงพูดเกลี้ยกล่อมจนปากเปื่อยนั้น ชายแก่ไม่ตอบรับแม้แต่น้อย คนทั้งคนแทบจะจมลงไปในกองเอกสาร
“คุณแม่…”
“คุณย่า…”
ชายแก่ “…” ขอร้อง หยุดเรียกเสียที เขาใกล้จะตายแล้ว
“หรือไม่ วันนี้คุณกลับไปกับพวกเขาก่อนเถอะ!” อวิ๋นเจี่ยวพูดปล่อยคน
“ฮะ?” ชายแก่ผงะ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองไปยังเธอด้วยความเหลือเชื่อ “ไม่ใช่ เจ้าหนู เธอ…” เขามองไปยังคนที่อยู่ซ้ายขวาของตนเอง ไม่อาจถามออกมาโดยตรงได้ ก่อนจะลุกขึ้นยืนลาก กเธอเข้าห้อง ปิดประตูลง “เจ้าหนู เจ้าพูดจริง!”
“อืม” อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า “พวกเขาเป็นคนในครอบครัวของท่าน ไม่ใช่เหรอ” ตามคนในครอบครัวกลับไปมีปัญหาอะไร
“ไม่ใช่!” ชายแก่พูดอย่างร้อนใจและตระหนก “แต่อาจารย์ปู่ให้ข้ามาดินแดนนี้เพื่อตามหาเจ้า!” เขาจะไปกับคนอื่นได้อย่างไร
“ไม่ขัดแย้งกัน!” อวิ๋นเจี่ยวอธิบาย “ภารกิจของท่านคือพาข้ากลับไป แต่ชีวิตทางนี้ของท่านไม่ใช่เรื่องเท็จ เหลยไห่เฉาและเหลยอวี่มีตัวตนอยู่จริง ขอโทษด้วย ก่อนหน้านี้ข้าไม่ ได้นึกถึงสถานการณ์ของท่าน ดังนั้นจึงไม่เคยถามความเห็นของท่าน จึงคิดเสมอมาว่าท่านจะกลับไปกับข้า” เธอขอโทษอย่างจริงใจ “อันที่จริงสำหรับท่าน ข้าเป็นคนของชาติก่อน ท่านไม่ได ด้มีหน้าที่ช่วยเหลือข้า!”
“เจ้าพูดอะไร เจ้าหนู! ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น!” ชายแก่ทึ้งหัวอย่างหงุดหงิดเหล็กน้อย “ถึงแม้อาจารย์ปู่จะส่งข้ามา แต่ข้าก็ยินยอมที่จะมา! ข้าย่อมต้องกลับไป”
“ตระกูลเหลยล่ะ?” อวิ๋นเจี่ยวถาม “ท่านคิดจะทำอย่างไร”
“…” ชายแก่เงียบลง อวิ๋นเจี่ยวพูดไม่ผิด ก่อนที่จะฟื้นคืนความทรงจำ เธอใช้ตัวตนของยายอวี้อยู่บนดินแดนนี้จริง อีกทั้งเห็นเหลยไห่เฉาเป็นลูกชายของตนเอง เห็นเหลยอวี่เป็ นหลานชายของตนเองจริงๆ ถึงแม้จะฟื้นความทรงจำได้ เขาก็ไม่อยากจะปฏิเสธข้อนี้
“หรือไม่…ท่านกลับไปก่อน คิดให้ดีๆ!” อวิ๋นเจี่ยวตบไหล่ของเขา “ไม่ต้องกดดัน ไม่ว่าท่านตัดสินใจอย่างไร ข้าสนับสนุนท่านเสมอ”
ชายแก่ผงะ กลับไปย่อมต้องกลับไป เพียงแต่ตระกูลเหลย…เขาปล่อยวางไม่ได้ในเวลานี้ เพราะอย่างไรก็ใช้ชีวิตอยู่มาเป็นเวลานาน
“ไปเถอะ หากพวกเรายังไม่ออกไป พวกเขาจะเป็นห่วง!” อวิ๋นเจี่ยวชี้ไปที่นอกประตู “วันนี้ท่านกลับไปก่อน”
ชายแก่เงยหน้าขึ้นมองเขา ก่อนจะพยักหน้าอย่างช้าๆ เขาควรที่จะคิดให้ดีจริงๆ
อวิ๋นเจี่ยวหันหลังกำลังจะเปิดประตูออก ทันใดนั้นเธอนึกบางอย่างขึ้นได้ หันกลับมาถามด้วยความสงสัย “จริงสิ ชายแก่ ข้าถามท่านหนึ่งคำถามได้หรือไม่”
“อืม ถามเถิด!” ชายแก่ตอบอย่างห่อเหี่ยว
“ข้ารู้ว่าเหลยไห่เฉาเป็นลูกชายท่าน เช่นนั้น…พ่อเขาเป็นใคร”
“…”
สามวิต่อมา เสียงตะโกนดังขึ้นภายในห้อง!
“เจ้า!หนู!!!”
เจ้าเป็นปีศาจเหรอ
…
ชายแก่จากไปด้วยความขุ่นเคือง แม้แต่เดินยังแสดงถึงความไม่พอใจ ทุกย่างก้าวราวกับจะกระทืบจนเกิดหลุมบนพื้น ตอนที่ขึ้นรถยังไม่ลืมที่จะกระแทกประตูเสียงดัง
พ่อลูกตระกูลเหลยมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความอึ้งทึ่ง หลายปีมานี้ นอกจากครั้งก่อนที่ถูกอวิ๋นเจี่ยวชนจนเข้าโรงพยาบาล พวกเขาเพิ่งเคยเห็นหญิงชราโกรธหนักขนาดนี้เป็นครั้งแรก ตัวที่อ้วนอยู่แล้วกลมจนกลายเป็นลูกโป่งไปแล้ว
สองพ่อลูกอดทนเอาไว้ จนกระทั่งใกล้ถึงบ้าน เมื่อพวกเขาเห็นความโกรธของหญิงชราลดลง เหลยไห่เฉาจึงถามขึ้น “คุณแม่ เมื่อกี้ทะเลาะกับคุณอวิ๋นเหรอ”
“ใครทะเลาะ!” ชายแก่หันมาถลึงตาใส่ลูกชายที่โง่เขลา พร้อมส่งสายตาไม่ต้องยุ่งให้อีกฝ่าย “ฉันกับเจ้าหนูดีจะตาย! จะทะเลาะกันได้ยังไง!” สิ่งสำคัญคือเขากล้าที่ไหนกัน ข้อสอบท ทำน้อยไปหรือไง “อีกอย่าง…แกอย่าเรียกฉันว่าแม่!”
เหลยไห่เฉา “…” ถึงขั้นไม่ให้เรียกแม่แล้ว ยังบอกว่าไม่ได้ทะเลาะ?
เขาคาดการณ์ภายในใจ จากนิสัยของแม่เขา คุณอวิ๋นคงจะช่วยเกลี้ยกล่อมให้เธอกลับมา เธอขุ่นเคืองที่อีกฝ่ายไล่เธอจึงเป็นแบบนี้
เหลยไห่เฉาสบตากับเหลยอวี่ที่ขับรถอยู่ด้านข้าง เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนล้วนมีความคิดเดียวกัน ในเวลานั้นทั้งคู่ถอนหายใจออกมา เหลยไห่เฉาครุ่นคิดการใช้คำ ก่อนจะเกลี้ยกล่อมต่ อ “ท่านอย่าได้โกรธเลย พวกเรากลับไปพักที่บ้านสักสองสามวันก่อน หากท่านคิดถึงเธอจริง พวกเราค่อยกลับมา!” อย่างไรบ้านด้านข้างพวกเขาก็ซื้อเอาไว้แล้ว ตกแต่งอีกเล็กน้อยก็เ เข้าพักได้
“…” ชายแก่กรอกตา ไม่ตอบ พวกแกจะไปรู้อะไร!
“หากท่านชอบคุณอวิ๋นจริง อยากให้เธออยู่ต่อหน้าทุกวัน หรือไม่…ท่านว่าอย่างนี้ได้ไหม” เหลยไห่เฉาเกลี้ยกล่อมต่อ “รออีกสองสามวัน พวกเราเรียนเชิญเพื่อทางธุรกิจมาจัดงานเ เลี้ยงที่บ้าน ท่านรับเธอเป็นลูกสาวบุญธรรม!อย่างน้อยพวกเราต่างเชื่อมั่นในนิสัยของเธอ ผมและเสี่ยวอวี่ไม่มีความเห็นอย่างแน่นอน!”
เหลยอวี่ที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้า แต่ทันทีที่ชายแก่ได้ยิน เขาก็ระเบิดทันที! คนทั้งคนกระเด้งตัวขึ้นมา!
“พวกแกอยากตายเหรอ! ใครจะรับเจ้าหนูเป็นลูกสาวบุญธรรม! ฉันเปล่า ฉันไม่ ไม่มีทางอย่างแน่นอน พวกแกอย่าพูดเหลวไหล!” หาที่ตายก็ไม่ต้องลากไปทั้งบ้าน! ความสัมพันธ์ของเจ้าหนูก กับอาจารย์ปู่…ตอนนั้น เขาแม้แต่อาจารย์ยังไม่กล้าเป็น พวกแกคิดจะให้เขาเป็นพ่อ ทันใดนั้นเขาตัวสั่นเทา มีชีวิตอยู่ไม่ดีเหรอ
“เอ๊ะ?” สองพ่อลูกผงะ เหลยไห่เฉาหันหลังมามองจากที่นั่งด้านคนขับ “คุณแม่ไม่ได้ชอบคุณอวิ๋นมากเหรอ” อีกทั้งยังอยู่บ้านคนอื่นทุกวัน ทำไมถึงมีปฏิกิริยาแบบนี้