ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 410 เสี้ยวจิตแห่งเทพ
อวิ๋นเจี่ยวมองงูดำบนข้อมืออย่างระอา เธอจำได้ว่าตอนนั้นอาจารย์ปู่บอกว่าอาศัยเสี้ยวจิตแห่งเทพในตัวของงูดำ ดังนั้นเขาจึงปรากฏตัวในภาพลวง เรียกความทรงจำของเธอกลับมาได้ ดังนั้นรู้สึกว่าเขาอาจมีความเชื่อมโยงบางอย่างกับงูดำนั้นเท่านั้น ไม่คิดว่าเขาจะกลายเป็นงูดำมาหาเธอ
“อาจารย์ปู่ เหตุใดท่านจึงกลายเป็นเช่นนี้ ร่างก่อนหน้านี้ของท่านล่ะ ฟื้นคืนได้หรือไม่”
“…”
“ร่างกายในเวลานี้ของท่านคืองูดำตัวนั้นหรือ เพราะว่าบนตัวของมันมีพลังแห่งความศรัทธา ดังนั้นจึงมีเสี้ยวจิตแห่งเทพ ท่านถึงข้ามมา?”
“…”
อวิ๋นเจี่ยวถามคำถามมากมาย แต่ไม่ได้รับการตอบรับแม้แต่น้อย งูดำยังคงพันอยู่บนข้อมือเธอ มองเธอด้วยความน้อยใจ เพียงแต่ปลายหางที่เกี่ยวอยู่บน นิ้วก้อยของเธอถูไปมาอย่างคิดถึงและร้อนใจ
“ท่านพูดไม่ได้?!”
อวิ๋นเจี่ยวนึกถึงปัญหานี้ขึ้นมา ก่อนจะเห็นว่างูดำบนมือผงกหัวอย่างช้าๆ ก่อนจะบิดร่างกายไปมาอย่างหงุดหงิด
“ท่านหาข้าเจอได้อย่างไร หมู่บ้านบนภูเขานั้นอยู่ห่างไกล หลายวันนี้ท่านเลื้อยมาเองหรือ” มองดูร่างกายที่มีขนาดเท่านิ้วโป้ง เมื่อกี้ไม่ทันสัง งเกต เวลานี้ถึงพบว่าเกล็ดบนท้องของมันหลุดไปหลายชิ้น อีกทั้งมีบางจุดที่มีรอยข่วน เหมือนถูกของมีคมบางอย่างทำร้าย
เธอรู้สึกสงสารอย่างประหลาด รีบเดินไปทางโซฟา พลางรื้อค้นกล่องยาใต้โต๊ะน้ำชา พลางวางมือลงบนโต๊ะน้ำชา “ข้าทายาให้ท่านก่อน มิเช่นนั้นอาจจะ อักเสบได้ ท่านลงมาก่อน!”
เยี่ยยวนถูข้อมือของเธออย่างอาลัย ก่อนจะเลื้อยลงมา เพียงแต่หางแหลมนั้นยังคงเกี่ยวอยู่บนนิ้วก้อยของเธอไม่ปล่อยออก ราวกับกำลังเกี่ยวก้อย
อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้สนใจ อย่างไรลำตัวของงูก็ยาวพอ อีกทั้งไม่ส่งผลต่อการกระทำของเธอ เธอหยิบแอลกอฮอล์ทางการแพทย์ออกมา จากนั้นใช้สำลีจุ่ม ก่อนจะ ะพูดกำชับด้วยความเคยชิน “อาจจะแสบบ้าง ท่านอดทนเอาไว้”
เยี่ยยวนผงกหัวงูอย่างเชื่อฟัง อีกทั้งยังพลิกลำตัวยาวเล็ก เผยให้เห็นท้องสีขาวที่แตกต่างจากเกล็ดสีดำด้านบน อวิ๋นเจี่ยวเช็ดแผลไปตามเกล็ดข ของมันทีละจุด
บาดแผลบนตัวของมันมีจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณที่เกล็ดหลุด เปื้อนไปด้วยดินโคลน เธอทำความสะอาดอย่างละเอียด จึงไม่ได้สังเกตว่าตามตำแหน่งที่เธอท ทำความสะอาดที่ต่ำลงไปเรื่อยๆ นั้น ภายใต้เกล็ดสีขาวแดงก่ำขึ้นมา อีกทั้งหางแหลมบนนิ้วก้อยของเธอก็สั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อย
อวิ๋นเจี่ยวทำความสะอาดอย่างตั้งใจ จนกระทั่งบาดแผลทั้งหมดถูกเช็ดจนสะอาด เธอจึงวางแอลกอฮอล์ลง ในขณะที่กำลังจะหยิบยาทาภายนอก เธอนึกบางอย่างขึ้ น ทันใดนั้นชะงัก มองอาจารย์ปู่ที่พลิกตัวกลับมา ก่อนจะมองยาที่อยู่ในกล่อง
เกือบจะลืมไป อาจารย์ปู่ในเวลานี้เป็นงู ไม่ใช่คน ยาเหล่านี้สำหรับทาภายนอกของคน เขาอาจจะใช้ไม่ได้ เขาควรจะไปหาสัตวแพทย์ถึงจะถูก
เธอมองงูที่ขดตัวเป็นยากันยุง อีกทั้งยังมุดหัวลงไปตรงกลางอยู่บนโต๊ะน้ำชา เขา…เจ็บมากหรือ
“อาจารย์ปู่ หรือไม่…พวกเราไปโรงพยาบาลสัตว์กันเถิด?”
เยี่ยยวน “…”
…
อวิ๋นเจี่ยวไม่คิดว่าอาจารย์ปู่จะข้ามมา อีกทั้งยังใช้วิธีที่พิเศษขนาดนี้
เพียงแต่ว่า ถึงแม้จะข้ามมาแล้ว แต่การสื่อสารกลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ เวลานี้อาจารย์ปู่ดูเหมือนงูดำธรรมดาตัวหนึ่ง อย่างมากก็แค่งูดำที่มีควา ามฉลาดเท่านั้น บนตัวนอกจากไม่มีพลังเทพแม้แต่น้อย แม้แต่เปิดปากพูดยังทำไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพาเธอและชายแก่กลับไป
ตอนแรกอวิ๋นเจี่ยวคิดจะหยิบกระดาษและปากกาให้เขาเขียนเพื่อสื่อสาร แต่หาอยู่ครึ่งวันก็พบว่าในบ้านมีเพียงพู่กันและหมึกแดง ตัวของอาจารย์ ปู่ในเวลานี้ยังเล็กกว่าพู่กันเสียอีก เขียนหนังสือยากเกินไป จึงทำได้เพียงหยิบไอแพดมาให้เขาใช้หางเขียน
แต่ว่าอาจารย์ปู่เพียงแค่ฟังเธอแนะนำฟังก์ชันของไอแพดและแอพการพิมพ์ต่างๆ รอบหนึ่ง จากนั้นเขาจึงขดตัวอยู่ด้านข้างไอแพด ยกเลิกวิธีการเขียนมือ อที่เธอพูด เปลี่ยนเป็นการพิมพ์แบบพินอิน จากนั้นยกหางจิ้มอยู่ด้านบน ความเร็วในการเรียนรู้ทำให้คนตะลึงอย่างยิ่ง
นาทีถัดมา คำพูดหนึ่งปรากฏขึ้นด้านบน
…เจี่ยวเจี่ยว ข้าเอง!
อวิ๋นเจี่ยวรีบถามความสงสัยภายในในออกมา “อาจารย์ปู่ ทำไมท่านกลายเป็นเช่นนี้ ท่านข้ามมาได้อย่างไร”
เขาจิ้มคำตอบออกมา “ข้อจำกัด”
“ข้อจำกัด? ข้อจำกัดอะไร” อวิ๋นเจี่ยวผงะ “ข้อจำกัดของดินแดนทางนี้หรือ ท่านจะกลับสภาพเดิมได้อย่างไร”
เขาหยุดลงเล็กน้อย ราวกับคุ้นชินกับวิธีการใช้ไอแพดแล้ว หางของเขาจิ้มลงไปอย่างรวดเร็ว ในเวลานั้นเสียงกดแป้นพิมพ์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง “หนทาง งแห่งสวรรค์ทางนี้…ยุ่งยากเล็กน้อย ข้าทำได้เพียงส่งเสี้ยวจิตแห่งเทพเข้ามาในตัวของงูนี้”
จิตแห่งเทพ…
อวิ๋นเจี่ยวผงะ ก่อนจะถามคำถามต่อ ในที่สุดเธอก็กระจ่าง
อาจารย์ปู่เป็นเทพผู้สร้างโลกของดินแดนนั้น ย่อมไม่อาจข้ามมาได้ ดังนั้นจึงต้องอาศัยวิธีการพิเศษบางอย่าง อาทิส่งเสี้ยวจิตแห่งเทพข้ามมาด้วยวิ ธีการพิเศษ แต่ถึงจะเป็นเพียงเสี้ยวแห่งจิต ร่างกายคนธรรมดาก็อาจจะแบกรับไม่ไหว เธอพอจะเดาได้ว่า เพราะงูดำตัวนี้เกือบจะได้กลายเป็นเซียน ดั งนั้นจึงสอดคล้องกับเงื่อนไขนี้พอดี
ภายในวัดร้างเวลานั้น เธอยังเคยสงสัย ทั้งที่งูดำนั้นถูกชาวบ้านทรยศ อีกทั้งร่างกายถูกกินจนไม่เหลือซาก ทำให้มันมีความแค้นกลายร่างเป็นปีศา าจ นอกจากนี้ยังประสบกับรวบรวมพลังปีศาจมาห้าสิบปี หลังจากถูกแสงสีทองของอาจารย์ปู่จู่โจม มันควรจะสลายไป อย่างมากก็หลงเหลือไว้เพียงเสี้ยววิญญาณ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นงูดำ
ที่แท้อาจารย์ปู่ก็เตรียมการเพื่อข้ามมา จึงช่วยให้มันกลายร่าง เพียงแต่จิตแห่งเทพของเขาในเวลานั้นยังไม่หลอมรวมเข้าไปในร่างของงูนั้น ดังนั้น นเวลานั้นจึงไม่ตามเธอกลับมา
“อาจารย์ปู่จะเป็นเช่นนี้ตลอดหรือ” เธอถาม
“ไม่เป็น” เขาพิมพ์ออกมาอีกสองคำ ก่อนจะส่ายหัวงูไปมา
“ต้องทำอย่างไรจึงกลายร่างกลับไปได้” ถึงแม้รู้ว่ามันคืออาจารย์ปู่ แต่สิ่งมีชีวิตอย่างงู ทำให้คนยอมรับได้ยากจริงๆ
“เวลา” ครานี้เขาพิมพ์ตอบอีกสองคำ หางของเขาก็ตกลงไป
“เวลาอะ…” ในขณะที่เธอกำลังจะถามต่อ ก็เห็นว่าเขาเหมือนจะเหนื่อยแล้ว เขาเลื้อยกลับขึ้นมาบนข้อมือของเธอ
ร่างกายนี้ไม่ใช่ของอาจารย์ปู่เอง อีกทั้งยังต้องเลื้อยมาหาตนเองจากหมู่บ้านที่ห่างไกลขนาดนั้น เหนื่อยก็เป็นเรื่องปกติ
ดังนั้นอวิ๋นเจี่ยวจึงไม่ได้ถามต่อ มองเขาที่กำลังพันรอบข้อมือของตนเอง ปลายหางเคลื่อนผ่านนิ้วก้อยของเธอ ทันใดนั้นเหมือนนึกบางอย่างได้ จึงปล ล่อยออกเล็กน้อย ยื่นหางงูพิมพ์ลงบนไอแพด
“…เจี่ยวเจี่ยว มื้อดึก”
อวิ๋นเจี่ยว “…”