ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 415 สูญเสียพลังแห่งคุณงามความดี
ด้านหน้าของอวิ๋นเจี่ยวปรากฎแสงขนาดเล็กกระจัดกระจาย แต่แสงเหล่านั้นเคลื่อนไหวไปรอบด้าน มีสีสันหลากหลาย แต่จำนวนน้อยอย่างยิ่ง ทั้งหมดก็มีเพียงสิบกว่าดวงเท่านั้น
ทันใดนั้นเธอเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้คือพลังลมปราณ แต่ก็มีความแตกต่างไปจากพลังลมปราณที่เธอคุ้นเคย พลังลมปราณเหล่านี้พุ่งชนไปมาอยู่กลางอากาศ ไร้ซึ่งระเบียบแม้แต่น้อย อีกทั้งเธอยังสัมผัสได้ถึงพลังโหดเหี้ยมแม้จะอยู่ห่างไกล แตกต่างจากพลังลมปราณที่เธอเคยสัมผัสในอีกดินแดนหนึ่งอย่างสิ้นเชิง
อีกทั้งไม่เพียงหนึ่งหรือสองดวงเท่านั้น พลังลมปราณทั้งหมดล้วนให้ความรู้สึกเช่นนี้ต่อเธอ ไม่แปลกใจที่ชายแก่จะถูกพลังลมปราณสะท้อนกลับ พลังลมปราณที่เต็มไปด้วยพลังโหดเหี้ยมนี้ ถึงแม้จะชักนำเข้าร่างกาย ก็ไม่มีทางหลอมรวมเข้าตันเถียน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการนำมาใช้
“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้” อวิ๋นเจี่ยวเบิกตาโตด้วยความเหลือเชื่อ ถึงแม้พลังลมปราณจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แต่ไม่อาจมีสัมปชัญญะของตนเองได้ ตามหลักแล้วไม่ควรให้ความรู้สึกโหดเหี้ยมแบบนี้ได้
เยี่ยยวนวางมือลง โอบเข้าที่เอวของเธออีกครั้ง พูดขึ้น “ฟ้าดินก่อเกิดพลังลมปราณ พลังลมปราณก่อเกิดลิขิตสวรรค์ พลังลมปราณคือปฏิกิริยาโดยตรงของดินแดนแห่งนี้”
อวิ๋นเจี่ยวผงะไป หนทางแห่งสวรรค์! ชายแก่ถามขึ้น “หมายความว่าอย่างไร” เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เข้าใจ
ทันทีที่สิ้นเสียง เขาก็ได้รับสายตาดูถูกอันเย็นชาของใครบางคน พร้อมเจือปนไปด้วยความรังเกียจที่คุ้นเคย
“ความหมายของอาจารย์ปู่คือ…” อวิ๋นเจี่ยวกลับเข้าใจ “ความรู้สึกที่ข้าสัมผัสได้จากพลังลมปราณเหล่านี้ได้ในเวลานี้ ก็คืออารมณ์ของหนทางแห่งสวรรค์ของดินแดนแห่งนี้?”
“อืม” เยี่ยยวนพยักหน้า กอดอวิ๋นเจี่ยวเข้าไปอย่างพึงพอใจ
“ไม่ใช่!” อวิ๋นเจี่ยวกดมือของเขาลง ถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “สิ่งที่พลังลมปราณเหล่านั้นส่งมาไม่ใช่ความโกรธเท่านั้น หากแต่…โหดเหี้ยมอย่างไร้ที่ติ ตามหลักแล้วหากหนทางแห่งสวรรค์โกรธเพียงนี้ ควรจะส่งบทลงโทษลงมาแล้ว” เหตุใดจึงอดทนเอาไว้ เหมือนดั่งที่ตอนนั้นเธอหลอกลวงหนทางแห่งสวรรค์ นำพาเผ่าชิงหลินออกมาจากรอยร้าวนั้น หนทางแห่งสวรรค์ก็ส่งสายฟ้าลงมาทันที ไม่เห็นอดทนไว้สักนิด! ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอดทนจนกระทั่งแม้แต่พลังลมปราณก็ติดอารมณ์เหล่านี้มาด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นหนทางแห่งสวรรค์รักษากฎเกณฑ์ของดินแดน เปรียบดั่งอุปกรณ์ที่เที่ยงธรรมและแข็งแกร่งที่สุด ไม่มีอารมณ์แต่อย่างใด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอารมณ์ที่มากไปกว่านั้น เกิดอันใดขึ้นกันแน่ถึงได้บีบบังคับให้หนทางแห่งสวรรค์เป็นถึงเพียงนี้
“ดังนั้นถึงได้บอกว่า…หนทางแห่งสวรรค์ของดินแดนนี้ยุ่งยาก” เยี่ยยวนเห็นว่ากอดอีกฝ่ายไม่ได้ จึงจับมือของเธอเอาไว้
อวิ๋นเจี่ยวผงะ เธอได้ยินอาจารย์ปู่บอกว่าหนทางแห่งสวรรค์ของดินแดนนี้ยุ่งยากเป็นครั้งที่สองแล้ว ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าอาจารย์ปู่พูดถึงหนทางแห่งสวรรค์ขัดขวางการดึงเธอกับชายแก่กลับไปในดินแดนนั้น แต่ตอนนี้ อาจารย์ปู่หมายถึงในสิ่งที่พูดหรือ ไม่ใช่หนทางแห่งสวรรค์ทางนี้ยุ่งยาก หากแต่หนทางแห่งสวรรค์ทางนี้เจอความยุ่งยาก?!
“อาจารย์ปู่รู้ว่าปัญหานั้นคืออะไรหรือไม่” อวิ๋นเจี่ยวถาม
“รายละเอียดคืออันใด ข้าไม่อาจรับรู้ได้” เยี่ยยวนขมวดคิ้ว พูดต่อ “ข้าไม่ได้เกิดจากดินแดนนี้ ย่อมไม่อาจสื่อสารกับหนทางแห่งสวรรค์ ทำได้เพียงคาดเดา หนทางแห่งสวรรค์ในดินแดนนี้อาจถูกบางอย่างควบคุมเอาไว้ ดังนั้นพลังลมปราณในดินแดนแห่งนี้จึงมีความเปลี่ยนแปลง”
อวิ๋นเจี่ยวกำมือแน่น “หากพูดเช่นนี้ ต่อจากนี้ชายแก่ไม่อาจซึมซับพลังลมปราณ ฟื้นคืนพลังอีกต่อไป?” อย่างนั้นจะทำอย่างไร!
เยี่ยยวนเหลือบมองชายแก่ด้วยสายตาที่เย็นชากว่าเดิม สักพักถึงได้พูดออกมา “เดิมทีทำได้”
“เดิมที?” อวิ๋นเจี่ยวผงะ ราวกับนึกบางอย่างขึ้นได้ จริงสิ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ชายแก่สามารถซึมซับพลังลมปราณได้ เพียงแค่ครั้งนี้เกิดปัญหาเท่านั้น อีกทั้งไม่มีทางบังเอิญเพียงนี้ พลังลมปราณครั้งก่อนก็ไม่มีปัญหา
เธอครุ่นคิด ก่อนจะรีบหลับตาสัมผัสพลังลมปราณรอบด้านอีกครั้ง ครานี้ไม่เพียงแค่สำรวจ หากชักนำพลังลมปราณเข้าร่างกาย เห็นเพียงแต่ดวงแสงรอบด้านเริ่มเข้ามาใกล้เธอ จากตอนแรกที่ยังคงโหดเหี้ยม ลอยเข้ามาอย่างดุดัน สิ่งที่น่าแปลกประหลาดคือ ตอนที่พวกมันเข้าใกล้เธอในรัศมีหนึ่งเมตรกลับสงบลง ราวกับถูกปลอบประโลม ก่อนจะหลั่งไหลเข้าเส้นชีพจรของเธออย่างเชื่อฟัง
เธอรีบสัมผัสพลังเหล่านั้นภายในเส้นชีพจร พบว่าพลังลมปราณเหล่านั้นหลอมรวมเข้ากับพลังลมปราณในร่างกายของเธอแล้ว ไม่มีการขัดขืนแม้แต่น้อย
“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้” ทั้งที่เมื่อกี้ชายแก่ได้รับการสะท้อนกลับ เหตุใดมาถึงเธอจึงเชื่อฟังขนาดนี้ เธอไม่ได้ทำสิ่งอื่นใด แม้แต่คาถาในการชักนำก็เหมือนกัน ร่างกายไม่มีอะไรเพิ่มเติม เหตุใดพลังลมปราณเข้าใกล้เธอในรัศมีหนึ่งเมตรจึง…
เดี๋ยว!
เธอลืมตาขึ้น ก่อนจะกระจ่างในทันที “คุณงามความดี!” หากจะบอกว่าบนตัวของเธอมีส่วนเชื่อมโยงอะไรกับหนทางแห่งสวรรค์ สิ่งนั้นก็คือคุณงามความดี พลังลมปราณเหล่านั้นถูกคุณงามความดีบนตัวเธอปลอบประโลม
“อืม” เยี่ยยวนพยักหน้า
“หากบอกว่าคุณงามความดีสามารถปลอบประโลมพลังลมปราณ เช่นนั้นชายแก่ก็คง…” เธอหันไปมองคนด้านข้าง ทันใดนั้นนิ่งงัน “คุณงามความดีบนตัวท่านล่ะ!” เธอถึงได้พบว่าบนตัวของชายแก่ผิดปกติ
ตามหลักแล้ว สิ่งที่เธอทำในดินแดนนั้น ส่วนใหญ่ชายแก่ล้วนมีส่วนร่วม อีกทั้งคุณงามความดีในการขัดขวางการรุกรานของดินแดนปีศาจ นอกจากเธอแล้ว คุณงามความดีบนตัวของชายแก่มีมากที่สุด แต่ตอนนี้…
เธอกวาดตามองชายแก่ขึ้นลง รอบตัวของเขามีเพียงแสงสีทองชั้นบางราวกับจะสลายไปทุกเมื่อ ถึงแม้จะเป็นแสงสีทองแห่งคุณงามความดี แต่ยังไม่ต้องพูดถึงน้อยกว่าชิงหยางมากน้อยเพียงใด แม้แต่ตอนที่อยู่ตระกูลเหลยยังหนาแน่นกว่านี้
“เอ๊ะ?” ชายแก่เองก็ผงะ เขาไม่ได้เปิดตาทิพย์ ดังนั้นไม่อาจเห็นปัญหาที่เกิดบนตัวของตนเอง “คุณงามความดีข้าเป็นอะไรหรือ”
“อิ้งหลุนลงผนึกวนเวียนภายในวิญญาณของเขา” เยี่ยยวนพูดเสริม ก่อนจะยื่นมือกวาดผ่านหน้าผากของชายแก่ นาทีถัดมาเห็นเพียงผนึกสีขาวประกายขึ้น ลอยออกมาจากบนหน้าผากของเขา “ผู้ที่มีผนึกนี้ ไม่ได้รับผลกระทบจากการเวียนว่ายตายเกิด รักษาทุกสิ่งก่อนตาย รวมไปถึงพลัง”
อวิ๋นเจี่ยวมองผนึกนั้นด้วยความตกตะลึง ก่อนมันจะหายลับเข้าไปในหน้าผากของชายแก่อีกครั้ง “อาจารย์ปู่หมายความว่า พลังของเขายังอยู่!”
“อืม” เยี่ยยวนพยักหน้า “มีเพียงพลังเท่านั้น” หากไม่มีพลังลมปราณ อะไรก็ไม่มีประโยชน์ เขามองชายแก่อย่างเรียบเฉย ก่อนจะพูดเสริม “ดังนั้นโง่!” เมื่อถึงดินแดนนี้ก็สูญสิ้นความทรงจำ พลังลมปราณและคุณงามความดีบนตัวยังหายไปได้ โง่เขลาเสียจนขับไล่ออกจากสำนักได้แล้ว!
ชายแก่ “…” เจ็บใจ! คิดถึงเหล่าอาจารย์อาที่โง่เขลากว่าขึ้นมาทันที!
อวิ๋นเจี่ยวกระจ่างขึ้นว่าเหตุใดครั้งก่อนชายแก่ถึงสามารถซึมซับพลังลมปราณจำนวนมากเพียงนั้นได้ เพราะว่าพลังของเขามีอยู่เสมอมา เพียงแต่พลังลมปราณภายในเส้นชีพจรหมดสิ้น พลังลมปราณเจือจางครั้งก่อนเหล่านั้นย่อมไม่อาจเติมเต็มเส้นชีพจรที่แห้งแล้งได้
ถึงแม้อิ้งหลุนจะส่งเขาเข้ามาในดินแดนนี้ แต่จุดเริ่มต้นของเขาล้วนแล้วแต่สมบูรณ์ พลังลมปราณล้วนอยู่ในร่างกาย ส่วนตอนนั้นเหตุใดพลังลมปราณของเขาจึงสูญสิ้น ทำให้กลายเป็นภาพลวงว่าไม่มีพลัง
เธอนึกถึงยันต์ข้ามดินแดนที่ทำให้เธอข้ามมิติใบนั้น ชายแก่ใช้พลังลมปราณทั้งหมดบนตัวเพื่อวาดยันต์ใบนั้นออกมา
ส่วนการทำให้เกิดการสะท้อนกลับในครั้งนี้ เป็นเพราะคุณงามความดีบนตัวของเขาเกิดปัญหา ไม่อาจปลอบประโลมพลังลมปราณจำนวนมากให้เขาซึมซับ จึงกลายเป็นเช่นนี้
“ชายแก่ ก่อนที่ข้ากลับมาทางนี้ เกิดอะไรขึ้นกับท่าน” อวิ๋นเจี่ยวรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเรื่องนี้ พลังลมปราณอาจเป็นเพราะเขาใช้เอง แต่ตามหลักแล้วคุณงามความดี นอกจากตนเองหาเรื่อง ไม่มีทางลดลง อีกทั้งชายแก่เคยช่วยเหลือโลก นอกเสียจากเขาทำเรื่องทำลายล้างโลก แก้แค้นสังคม มิเช่นนั้นพลังคุณงามความดีจะอยู่บนตัวของเขาเสมอ