ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 421 อยู่ในเหตุการณ์
“เจ้าหนู เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าตระกูลจางมีวิธีการแย่งชิงคุณงามความดีของคนอื่น” จนกระทั่งออกมาจากตระกูลเผย ชายแก่ก็ยังคิดไม่ตก อวิ๋นเจี่ยวคาดเดาเรื่องทั้งหมดได้อย่างไรกัน อย่าง งน้อยเขาไม่เคยได้ยินเรื่องการแย่งชิงคุณงามความดีของคนอื่นมาก่อนแม้แต่น้อย
อวิ๋นเจี่ยวเหลือบมองเขาทีหนึ่ง ก่อนจะตอบ “จางฝานแห่งตระกูลจางใช้คำสาปเปลี่ยนดวงชะตาแลกเปลี่ยนดวงชะตากับคนอื่นในเวลานั้น ข้าก็เคยสงสัย คนที่ถูกตัดชื่อออกจากตระกูลจางยังสามาร รถแลกเปลี่ยนโชคชะตาได้ตามใจ เช่นนั้นการแย่งชิงคุณงามความดีของคนอื่นก็ไม่น่าแปลก”
“แต่ว่าโชคชะตากับคุณงามความดีไม่เหมือนกัน” เรื่องการแลกเปลี่ยนดวงชะตา ถึงแม้จะไม่ถูกยอมรับจากหนทางแห่งสวรรค์ แต่ใช่ว่าไม่มีคนเคยทำสำเร็จมาก่อน “แต่เรื่องอย่างคุณงามความดีนี้ ข้ าไม่เคยคิดว่าจะแย่งชิงได้มาก่อน”
คุณงามความดีเป็นสิ่งที่หนทางแห่งสวรรค์มอบให้ อีกทั้งหนทางแห่งสวรรค์ไม่ได้แจกจ่ายให้ทุกคน ไม่มีทางมอบคุณงามความดีจำนวนมากให้คนใดคนหนึ่ง ดูจากเสวียนเหมินในเวลานั้น การช่วยเหลื อโลกอันเป็นคุณงามความดีที่ยิ่งใหญ่ ทันทีที่หนทางแห่งสวรรค์มอบคุณงามความดีลงมา ก็ถูกเรียกเก็บกลับไปทันทีหลังบรรลุเป็นเซียน จะปล่อยให้คนแย่งชิงไปมาอย่างง่ายดายได้อย่างไร
“โลกอื่นเป็นไปไม่ได้” อวิ๋นเจี่ยวหันไปมองท้องฟ้าด้านนอก ขมวดคิ้วเล็กน้อย “แต่โลกใบนี้เป็นไปได้อย่างแน่นอน!”
ชายแก่ผงะ ก่อนจะกระจ่าง นึกถึงพลังลมปราณที่โหดเหี้ยมจนต้องใช้คุณงามความดีในการปลอบประโลมก็แสดงให้เห็นแล้วว่าหนทางแห่งสวรรค์บนโลกใบนี้อาจเกิดปัญหาบางอย่างที่พวกเขาไม่เข้า าใจขึ้นจริง เหมือนดั่งที่อาจารย์ปู่บอก หนทางแห่งสวรรค์ในโลกนี้มีปัญหา
ดังนั้น เจ้าหนูนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เพราะการชี้แนะของอาจารย์ปู่หรือ
ดังนั้น ทั้งสองคนจึงหันหน้าไปมองใครบางคนที่มือหนึ่งกำลังถือขนม อีกมือกำลังถือหนังสือทำอาหารศึกษาอย่างตั้งใจ
“อืม?” ราวกับรับรู้ถึงสายตาของคนทั้งสอง เยี่ยยวนหันหน้ากลับมามองไปยังอวิ๋นเจี่ยว สักพัก ราวกับนึกบางอย่างได้ ดวงตาของเขาลุกวาว ขนมในมือยื่นมาข้างปากเธอ “กิน?”
อวิ๋นเจี่ยวผงะ ก่อนจะมองคนที่สงบนิ่ง จดจ่ออยู่กับการทำขนมให้เธอกินเพียงอย่างเดียว ไม่รู้จะพูดอะไรในเวลาหนึ่ง
เยี่ยยวนคิดว่าเธอไม่ชอบ ดังนั้นจึงวางหนังสือทำอาหารในมือลง ก่อนจะหยิบชิ้นสีส้มขึ้นมา มองเธอด้วยดวงตาลุกวาว
“รสส้ม?”
“…ไม่ต้อง”
“รสกล้วย?” เขารีบเปลี่ยนอีกชิ้น
“…ตอนนี้ยังไม่อยากกิน”
“ไข่ไก่?”
“ไม่ใช่ อาจารย์ปู่…” เธอไม่ได้อยากเปลี่ยนรสชาติ!
“อันนี้แล้วกัน!” เขาหยิบขึ้นมาอีกชิ้น ส่งมาตรงปากของเธอ ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองเธอโดยตรง ราวกับรอคอยอะไรบางอย่าง
อวิ๋นเจี่ยวมองใบหน้าที่แดงอย่างเห็นได้ชัดของเขา ก่อนจะมองขนมที่เคลือบเต็มไปด้วยแปะก๊วย เมื่อกัดเข้าไปคงจะติดเต็มปาก
“…”
“ลองกินแค่คำเดียว?” เยี่ยยวนหยิบขนมเข้าใกล้ สายตาที่จดจ่อนั้น เผยให้เห็นความคิดอย่างชัดเจน
อวิ๋นเจี่ยวมองเขาสักพัก ก่อนจะถอนหายใจยาวออกมาในที่สุด “เฮ้อ อาจารย์ปู่…” พูดจบก็กดมือที่ถือขนมของอีกฝ่ายลง ในขณะที่สายตาของอีกฝ่ายหลุบต่ำลง เธอกระชากคอเสื้อ ดึงตัว ของอีกฝ่ายเข้ามาใกล้อย่างแรง ก่อนจะก้มหน้าประทับริมฝีปากลงไปอย่างแม่นยำ
“เอาล่ะ ข้ากินแล้ว! หวานหรือไม่” เธอก็ว่าหลายวันนี้ทำไมอีกฝ่ายถึงได้หาทางป้อนขนมเธอทุกวิถีทาง อยากจูบก็บอกมาตรงๆ อ้อมออกไปไกลขนาดนี้ เขาคิดว่ามีแค่กินขนมถึงจะจูบได้ เหรอ!
เยี่ยยวนผงะไป คนทั้งคนนิ่งงัน ก่อนจะตอบกลับ “หวาน” จากนั้นจึงรีบเข้าใกล้มากขึ้น ประกายภายในดวงตาลุกวาว มือของเขาโอบรอบเอวของเธอ “กินอีกชิ้น!”
“…” อวิ๋นเจี่ยวทำได้เพียงโอบใบหน้าของเขาขึ้น ก่อนจะจูบลงไปอีกครั้ง
“ยังมีอีกชิ้น”
จูบอีก...
“ชิ้นต่อไปหวานกว่า”
จูบอีก...
“ยังหวานกว่านี้ได้อีก”
ต่อ…
“มื้อดึกก็ต้องกิน”
“…”
ชายแก่ที่ยืนอยู่ด้านข้างแต่ถูกเพิกเฉย “…”
o(>﹏<)o
เขาควรจะอยู่ใต้รถ ไม่ควรจะอยู่ในรถ!
…
อวิ๋นเจี่ยวมั่นใจแล้วว่าคุณงามความดีบนตัวของนายท่านตระกูลเผยเป็นของชายแก่ จากท่าทางของนายท่านตระกูลเผยก็พอจะดูออก อีกทั้งครั้งก่อนที่ชายแก่ไปบ้านตระกูลเผยกับเธอ การ เป็นลมล้มลงไปอย่างไร้วี่แววกับลมหายใจที่ไม่เสถียร อีกทั้งเขาไม่ชื่นชอบตระกูลเผยอย่างไร้เหตุผล เมื่อสิ่งต่างๆ เหล่านี้เชื่อมโยงกัน ยิ่งทำให้เธอมั่นใจ
หลังจากกลับไป อวิ๋นเจี่ยวก็พิสูจน์กับอาจารย์ปู่ คุณงามความดีบนตัวของนายท่านตระกูลเผยไม่ใช่ได้รับจากโลกใบนี้ หากแต่เป็นโลกใบนั้น ส่วนตระกูลเผยใช้วิธีใดในการโอนย้ายคุณงาม มความดีบนตัวของชายแก่ แม้แต่ตัวของชายแก่หรือพ่อลูกตระกูลเหลยก็ไม่สังเกต สิ่งเหล่านี้มีเพียงพวกเขาที่รู้
แต่สิ่งที่น่าแปลกคือ ถึงแม้คุณงามความดีบนตัวของเผยซื่อจงจะมีมาก แต่เมื่อเทียบกับคุณงามความดีบนตัวของชายแก่ในเวลานั้นก็น้อยลงไปมาก ไม่ได้สมบูรณ์ ตามรูปแบบของโลกนี้ที่ต้อง งใช้คุณงามความดีในการปลอบประโลมพลังลมปราณ ถึงแม้นำคุณงามความดีบนตัวของนายท่านตระกูลเผยคืน ชายแก่ก็ไม่อาจฟื้นฟูพลังเทียบเท่าแต่ก่อนได้
ซึ่งหมายความว่า คุณงามความดีนี้มีความเป็นไปได้ว่าถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วน อยู่บนตัวของคนที่แตกต่างกัน ส่วนคนเหล่านี้ มีเพียงอาศัยตระกูลเผยในการดึงตัวออกมา ซึ่งเป็นเหตุผลที อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้ให้ชายแก่ดึงคุณงามความดีกลับคืนมาในทันที หากพวกเขามอบออกมาเองย่อมดีกว่า หากไม่ พวกเขาก็ไม่เกรงกลัวที่จะเผชิญหน้า!
แน่นอนว่าเธอยังมีความกังวลอีกชั้น วิธีการโอนย้ายคุณงามความดีมีเพียงตระกูลเผยและตระกูลจางที่รู้ เธอไม่เคยศึกษาวิชาเวทเช่นนี้มาก่อน หากลงมือขึ้นมา ถึงเวลาอาจเอาคืนมาไม่ได้
จากปัญหาทางด้านเทคนิคนี้ อวิ๋นเจี่ยวก็เคยถามอาจารย์ปู่ว่าต้องทำอย่างไรจึงสามารถนำคุณงามความดีกลับมาได้อย่างปลอดภัย
ท่าทางนวดแป้งของเยี่ยยวนไม่หยุดชะงักแม้แต่น้อย เขาพูดออกมาโดยตรง “อ่อ นำหนทางแห่งสวรรค์ออกมาเฆี่ยนตีสักรอบก็พอ!”
อวิ๋นเจี่ยว “…”
ชายแก่ “…”
( ̄△ ̄;)
ช่างง่ายดายและตรงไปตรงมา
เฆี่ยนตีหนทางแห่งสวรรค์คืออะไรกัน
“อาจารย์ปู่เคยทำก่อนหน้านี้หรือ” ชายแก่อดถามไม่ได้
เยี่ยยวนชะงักมือลง เหลือบมองชายแก่อย่างหาได้ยาก ทำท่าครุ่นคิดก่อนจะตอบ “ไม่!”
เฆี่ยนตีหนทางแห่งสวรรค์อะไรกันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ! ชายแก่โล่งใจ ก่อนจะได้ยินอาจารย์ปู่พูดเสริมขึ้น “ข้าเฆี่ยนตีคนที่ดูแลหนทางแห่งสวรรค์”
ชายแก่ “…”
อะไรกัน!
อวิ๋นเจี่ยวที่อยู่ด้านข้างถามขึ้น “ท่านหมายถึงซื่อไป๋?” เธอรู้ว่าซื่อไป๋ดูแลกฎเกณฑ์และระเบียบของโลกทางนั้น ไม่คิดว่าจะดูแลหนทางแห่งสวรรค์ด้วย
“อืม” เยี่ยยวนพยักหน้า ราวกับนึกบางอย่างขึ้นได้ คิ้วของเขาขมวดมุ่น ต้องเป็นเพราะว่าเขาเฆี่ยนตีอีกฝ่ายน้อยไป ดังนั้นอีกฝ่ายจึงกล้าลักพาตัวศิษย์หลานตัวน้อยของเขา เมื่อกลั บไปต้องชดใช้!
ชายแก่ทำหน้าฉงน “…”
เดี๋ยว สองคนนี้พูดอะไรอยู่ ทำไมเขาฟังไม่เข้าใจ ซื่อไป๋เขารู้ ตอนนั้นอีกฝ่ายกับอิ้งหลุนเป็นคนส่งเขาข้ามมา แต่ทำไมถึงเกี่ยวข้องกับหนทางแห่งสวรรค์
ทั้งๆ ที่เขาอยู่ในเหตุการณ์ตลอด ทำไมมีความรู้สึกเหมือนหลุดไปหลายร้อยตอน!