ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 427 เรียกคืนคุณงามความดี
อวิ๋นเจี่ยวรับชามจากมือของเยี่ยยวนมาด้วยความเคยชิน ก่อนจะเดินนำไปวางไว้ในห้องครัว จากนั้นหยิบขนมบางส่วนติดมือออกมายกกลับไปให้เขา
ปู่หลานตระกูลเผยเพิ่งตั้งสติได้จากเหตุการณ์เมื่อสักครู่ มองอวิ๋นเจี่ยวที่ทำหน้าเคยชิน ก่อนจะสลับไปมองคนที่กำลังกินขนม
“อาจารย์…อวิ๋น ท่านนี้คือ” ดวงตาของเผยซื่อจงเบิกกว้าง มองไปยังชายหนุ่มตรงข้ามด้วยสีหน้าตกตะลึง
อวิ๋นเจี่ยวลังเลเล็กน้อย มองอาจารย์ปู่ที่ไม่อยากจะสนใจคนทั้งสอง สักพักถึงหาคำแนะนำที่เหมาะสมได้ “นี่คือ…ผู้อาวุโสในบ้าน”
“…อ่อ” ตอนที่ทั้งสองคนเดินเข้ามา ถึงแม้จะสังเกตเห็นคนตรงหน้า แค่พวกเขาต่างคิดว่าอีกฝ่ายเป็นชายหนุ่มอายุน้อยผู้มาอาศัยอาจารย์อวิ๋น เพราะอย่างไรผู้ที่มีใบหน้าลักษณะนี้ ยากต ต่อที่จะทำให้คนไม่คิดมากได้
แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายเพียงแค่สะบัดมือก็สามารถเรียกคืนคุณงามความดีบนตัวของพวกเขาได้ รวดเร็วเสียจนตั้งตัวไม่ทัน ที่แท้ก็เป็นผู้อาวุโสของอาจารย์อวิ๋น ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นคนของ งตระกูลหรือสำนักไหน แต่ละคนล้วนมีความสามารถที่แข็งแกร่ง
ท่าทางของทั้งสองคนยิ่งถ่อมตนมากขึ้น ดวงตาแอบมองอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา ความสามารถของชายหนุ่มนี้อาจอยู่เหนืออาจารย์อวิ๋น “สวัสดีครับ สวัสดีครับ รบกวนสอบถามรุ่นของท่านกับอาจารย ย์อวิ๋นได้หรือไม่…พวกเราควรจะเรียกท่านอย่างไร”
ในขณะที่อวิ๋นเจี่ยวกำลังคิดว่าจะอ้างความสัมพันธ์อะไรดีนั้น “เขาเป็น…”
“อาจารย์ปู่!” พูดยังไม่ทันจบ ลูกบอลแสงขนาดใหญ่พุ่งตัวเข้ามาอย่างกะทันหัน น้ำเสียงตื่นเต้นดังขึ้นภายในห้อง “เจ้าหนู อาจารย์ปู่! คุณงามความดีของข้ากลับมาแล้ว! ฮ่าๆๆ …”
ปู่หลานตระกูลเผย “…”
อา…อาจารย์ปู่! พวกเขาได้ยินไม่ผิดใช่หรือไม่ พวกคุณกำลังล้อผมเล่น! อาจารย์ปู่หน้าตาแบบนี้เหรอ
ลูกบอลแสงลักษณะเป็นคนคืออะไรกัน
“พวกเจ้ารีบดู! รีบดู!” ลูกบอลแสงยังคงกระโดดอย่างตื่นเต้นอยู่ที่เดิมหลายที ส่องแสงสีทองไปทั่วห้อง หลังจากที่กระโดดอยู่ในห้องสองสามรอบ เขาถึงได้พบคนที่นั่งอยู่บนโซฟาทั้งสอ อง “เอ๊ะ พวกเจ้ามีแขกหรือ”
“…” อวิ๋นเจี่ยวมุมปากกระตุก ชายแก่ยังคงเป็นชายแก่ เธอถอนหายใจออกมา ก่อนจะปิดม่านในห้องรับแขกลง ต้านแสงสีทองที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในห้อง ก่อนจะมองไปยังคนที่กำลังดีใ ใจจนเสียสติ “หยุดกระโดดได้แล้ว รีบเก็บแสงทองแห่งคุณงามความดีลง” สว่างขนาดนี้ คนอื่นคงคิดว่าพวกเธอปาร์ตี้ตอนเช้ากัน!
จากนั้นมองไปยังคนของตระกูลเผยทั้งสอง และออกปากไล่คน “ในเมื่อคุณงามความดีบนตัวของพวกคุณคืนมาแล้ว เรื่องนี้ถือว่าจบกัน เชิญ!”
ปู่หลานตระกูลเผยถึงได้มองเห็นว่าลูกบอลแสงร่างคนนั้นคือหญิงชราตระกูลอวี้ คุณงามความดีบนตัวของพวกเขาคงจะคืนไปบนตัวของเธอแล้ว ทั้งสองคนจึงเกรงใจไม่อยู่ต่อ พวกเขาลุกยืนขึ้ นเดินออกไปทางประตู
ในขณะที่กำลังจะออกจากประตู เผยซื่อจงนึกบางอย่างขึ้นได้ จึงเสริมขึ้น “อาจารย์อวิ๋น ผมรู้ว่าคุณต้องการไปหาตระกูลจาง แต่…คนที่มาจากดินแดนเทียนเหยินเหล่านั้นไม่ธรรมดา พวกเขา ายังมีกลอุบายอะไรอีกไม่มีใครรู้ได้ แม้แต่เรื่องคุณงามความดีบนตัวของยายอวี้ ผมและตระกูลจางทำเสร็จก็เพราะการชี้แนะของพวกเขา คุณ…ต้องระวัง”
อวิ๋นเจี่ยวมองทั้งสองคนครั้งหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า “ขอบคุณ” จากนั้นปิดประตูลง
หากบอกว่าตระกูลจางเป็นมนุษย์จำพวกที่หมดทางกอบกู้ในลัทธิเต๋าแล้ว ตระกูลเผยคงถือว่าเป็นจำพวกที่ยังกอบกู้ได้ ไม่เสียแรงที่เธอช่วยเผยเฟิงไปสองครั้ง
“เจ้าหนู เจ้าหนู เกิดอะไรขึ้นกับข้า” ทันทีที่เธอปิดประตู ชายแก่จึงรีบเดินเข้ามาถามด้วยความตื่นเต้น เขาเพียงแค่ไปทำการบ้าน คุณงามความดีก็หลั่งไหลกลับมา
อวิ๋นเจี่ยวแสบตากับแสงสีทองบนตัวของเขา “ท่านออกห่างไปหน่อย!” แทบจะตาบอดอยู่แล้ว ในที่สุดเธอก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของอิ้งหลุนแล้ว
“อ่อ” ชายแก่เดินถอยหลังไปหลายก้าว แต่ก็ยังคงข่มความตื่นเต้นภายในใจไม่ได้ “คุณงามความดีบนตัวของข้ายังคงเพิ่มมากขึ้น ใช้เวลาไม่นาน คุณงามความดีทั้งหมดอาจกลับมา เจ้าหนู เจ้าทำได ด้อย่างไร”
“ไม่ใช่ข้า” อวิ๋นเจี่ยวชี้ไปยังคนที่นั่งอยู่กลางห้องรับแขกไม่ขยับเขยื้อน “อาจารย์ปู่”
“ฮะ?” ชายแก่ตะลึง เบิกตาโตด้วยความเหลือเชื่อ อาจารย์ปู่ช่วยเขาตามคืนคุณงามความดีด้วยตนเอง เรื่องราวช่างสวยงาม เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด! ดังนั้นจึงดึงชายเสื้อของอวิ๋นเจี่ยวแล้ว พูดขึ้น “เจ้าหนู เจ้าพูดมาตามตรง ข้าตาบอด หรือว่าอาจารย์ปู่ตาบอด” พูดความจริงมา เขารับได้!
อวิ๋นเจี่ยว “…”
เยี่ยยวน “…”
ปัง!
คนบางคนหาที่ตายสำเร็จอีกครั้ง เขาถูกตบเข้าไปกระทบกับกำแพง
ชายแก่ อืม ยังคงเจ็บแสบเหมือนเดิม สมกับที่เป็นอาจารย์ปู่ ไม่ใช่ตัวปลอม
อวิ๋นเจี่ยวขี้เกียจจะไปแงะคนที่อยู่บนกำแพงลงมา อย่างไรก็ตามจากคุณงามความดีบนตัวของชายแก่ในเวลานี้ ถูกตบจนฝังเข้าไปอีกสิบกำแพงก็ไม่เป็นอะไร ดังนั้นเธอจึงหันหลังเดินกลับไปนั่ ง ถามไปยังเยี่ยยวน “อาจารย์ปู่ เกิดอะไรขึ้นกับคุณงามความดีบนตัวของชายแก่กันแน่” หากเธอดูไม่ผิด คุณงามความดีที่ชายแก่ได้คืนมาในเวลานี้ ถึงแม้จะเทียบเท่ากับปริมาณในเวลานั้นไม ม่ได้ แต่มีมากกว่าบนตัวของปู่หลานตระกูลเผยอย่างแน่นอน อีกทั้งฟังจากที่ชายแก่พูด คุณงามความดีบนตัวของเขายังคงกลับเข้าร่างกายอย่างต่อเนื่อง
“ในเมื่อต้องการเอาคืน ย่อมทวงคืนครั้งเดียวจะดีกว่า” เยี่ยยวนอธิบาย
“อาจารย์ปู่ทวงคืนคุณงามความดีที่คนอื่นแย่งจากบนตัวของชายแก่ไปกลับมาด้วยหรือ” อวิ๋นเจี่ยวกระจ่างทันที ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็สามารถทวงคืนได้หรือ
“ไม่ใช่ทวง” เยี่ยยวนแก้ไข “แต่คือการเรียก!”
“เรียก?” หมายความว่าอย่างไร
เยี่ยยวนยัดขนมในมือเข้าปาก ขบเคี้ยวสองทีจนหมด ก่อนจะอธิบาย “คุณงามความดีบนตัวของชายแก่ไม่ได้มาจากดินแดนทางนี้ ย่อมไม่ถูกจำกัดด้วยกฎเกณฑ์ของดินแดนทางนี้” ดังนั้นจึงถูก กแย่งชิงไปได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังถูกกระจายออกเป็นหลายส่วน “หนทางแห่งสวรรค์ทางนี้ดูแลไม่ได้ ข้าทำได้!”
“…” อวิ๋นเจี่ยวผงะ สักพักถึงกระจ่างขึ้นมา
เข้าใจแล้ว! หมายความว่าเดิมทีชายแก่เป็นขนมเค้กที่ถูกโยนเข้าไปในพื้นที่ของคนอื่น เนื่องจากไม่มีเจ้าของ ดังนั้นใครก็สามารถกัดกินได้ ถึงแม้จะเป็นเจ้าของพื้นที่ก็ไม่อาจบอกว่าค คนอื่นขโมยของ แต่เวลานี้เจ้าของเค้กกลับมาแล้ว ดังนั้นทุกคนล้วนต้องคายออกมา
เยี่ยยวนเดิมทีเป็นเทพผู้สร้างของดินแดนทางนั้น ถึงแม้ผู้ที่ดูแลหนทางแห่งสวรรค์จะเป็นซื่อไป๋ แต่ซื่อไป๋ก็เคยบอกไว้ ความจริงแล้วพวกเขาทั้งสามคนล้วนเหมือนกัน เนื้อแท้ไม่มีอะไ ไรแตกต่าง ใครดูแลหนทางแห่งสวรรค์เป็นแค่หน้าที่ที่แตกต่างกันเท่านั้น หมายความว่า แค่เพียงอาจารย์ปู่อยาก เขาก็สามารถเป็นตัวแทนของหนทางแห่งสวรรค์ทางนั้น เพียงแต่หนทางแห่งสวรรค ค์ซับซ้อน มีกฎเกณฑ์จำนวนมาก พวกเขาไม่อาจแตะต้องอย่างง่ายดาย เหมือนดั่งหนทางแห่งสวรรค์ของทางนี้เกิดปัญหา แต่เขาไม่อาจซ่อมเองได้
เดี๋ยว!
พูดถึงตรงนี้…อาจารย์ปู่กับอิ้งหลุน คนหนึ่งดูแลการเวียนว่ายตายเกิด แต่ว่างจนนั่งปลูกผักไปวันๆ ส่วนอีกคนดูแลดินแดนปีศาจมืด แต่พื้นฐานแล้วคือเลี้ยงปล่อย มีเพียงซื่อไป๋ที่ ดูแลหนทางแห่งสวรรค์ต้องคอยจับตาดูอยู่ทุกนาที เพื่อทำให้ดินแดนหมุนเวียนไปได้ตามปกติ
หากคิดเช่นนี้ อาจารย์ปู่และอิ้งหลุนคงไม่ได้ร่วมมือกันแกล้งซื่อไป๋หรอกนะ จงใจให้เขาดูแลหนทางแห่งสวรรค์ที่ยุ่งยากที่สุด?!
อวิ๋นเจี่ยว “…”
เหมือนรับรู้ความจริงที่ไม่อาจพูดได้!
“การเรียกคืนคุณงามความดีเหล่านี้ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่กระจายออกไป ไม่ถึงหนึ่งส่วน” เยี่ยยวนเหลือบมองคนบนกำแพง คิ้วของเขาขมวดมุ่น “อีกเก้าส่วนเพิ่งเริ่ม”
“…” ฮะ?